บทที่ 438: เฉียวซางไม่ใช่คนจริงๆ!
เล่น?
เมื่อกี้สุนัขเพลิงพร่างพรายกำลังเล่นอยู่เหรอ?!
เติ้งเทียนเยว่ถึงกับสงสัยว่าหูตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่า
ส่วนหยาเป่าที่ได้ยินคำพูดของผู้ฝึกสัตว์อสูรของตัวเอง ก็พยายามอดใจไม่กระโจนเข้าไปกัดอีกฝ่าย
ในตอนนั้น ร่างแยกที่ลอยอยู่บนฟ้าหลังจากปะทะเมื่อครู่ก็สลายหายไป
หยาเป่าหมุนพลังภายในร่างเล็กน้อย แล้วทันใดนั้นร่างแยกที่เหมือนเดิมทุกประการก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง
นี่คิดจะทำอะไร? คงไม่ใช่จะใช้ฝนดาวตกหรอกนะ?
ถ้าคิดจะใช้ฝนดาวตกจริงก็คงไม่น่าจำเป็นต้องสร้างร่างแยกขึ้นมาหรอกมั้ง...
เติ้งเทียนเยว่รู้สึกเสียวสันหลัง รีบสลัดความคิดไร้สาระที่ผุดขึ้นในหัวแล้ววิเคราะห์สถานการณ์อย่างเคร่งเครียด
เมื่อสังเกตว่าโอกาสที่การโจมตีครั้งต่อไปจะเป็นฝนดาวตกมีไม่มาก เขาก็ถอนหายใจเบาๆอย่างโล่งอก
การต่อสู้ระหว่างสัตว์อสูรระดับสูงนั้น เขาไม่เคยกลัวอยู่แล้ว
แต่สุนัขเพลิงพร่างพรายของเฉียวซางนั้นแตกต่างออกไป
ฝนดาวตกในขั้นไร้ที่ติ ใครหน้าไหนก็ไม่รอดทั้งนั้น!
ขณะที่คิดอยู่นั้นเอง จู่ๆเขาก็เห็นสุนัขเพลิงพร่างพรายที่อยู่บนพื้นยกขาหน้าข้างขวาที่ยังไม่บาดเจ็บขึ้น แล้วเหยียบลงไป
ทันใดนั้นคลื่นความร้อนก็พุ่งขึ้นมา พื้นดินแตกออก และเปลวไฟที่ร้อนแรงน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งทะลุขึ้นมาจากพื้นดิน พร้อมกับเคลื่อนที่เข้าหาปีศาจยักษ์ดำที่กำลังกัดกินพื้นดินอย่างมูมมาม
"อาณาเขตคุ้มกัน!" เติ้งเทียนเยว่ตะโกนสั่ง
“โม่...”
ปีศาจยักษ์ดำเงยหน้าขึ้นมา กำลังจะอ้าปากร้องและปลดปล่อยพลังงาน
แต่ทันทีที่เปล่งเสียงคำว่า “โม่” ได้เพียงคำเดียว มันก็พบว่าปากของมันขยับไม่ได้อีกต่อไป คำว่า “เฮย” ที่จะตามมาก็ไม่สามารถพูดออกมาได้
พลังจิตที่ร่างแยกของหยาเป่าใช้ อาจไม่รุนแรงถึงขนาดบดขยี้ศัตรูได้ แต่ขอแค่ควบคุมได้เพียงเสี้ยววินาทีก็พอแล้ว... เฉียวซางคิดในใจ
ทันใดนั้นไฟลุกลามและพุ่งทะลักออกมาจากใต้ดิน
ตูม!!!
ในชั่วพริบตา เปลวเพลิงก็ระเบิดขึ้นบริเวณที่ปีศาจยักษ์ดำยืนอยู่
“โม่ๆๆๆๆๆ!!!”
เปลวเพลิงสีแดงเพลิงพลุ่งพล่าน และเสียงร้องโหยหวนของปีศาจยักษ์ดำก็ดังสนั่น
เมื่อเห็นภาพนี้ เสียงในอัฒจันทร์ก็ปะทุขึ้นทันที ราวกับน้ำเดือด!
"โว้ย! พลังจิตจากร่างแยกของสุนัขเพลิงพร่างพรายกลับควบคุมปีศาจยักษ์ดำได้!"
"ตัวจริงโจมตี ร่างแยกควบคุม โหดจริงๆ"
"ว่าแต่ทักษะแยกเงาของสุนัขเพลิงพร่างพรายนี่มีความเชี่ยวชาญขนาดไหนกัน? ถึงได้สามารถใช้พลังจิตควบคู่ไปกับการปลดปล่อยไฟนรกได้พร้อมกัน"
"หรือว่า...จะอยู่ในขั้นไร้ที่ติ?"
"...อย่าเดามั่วน่า!"
เติ้งเทียนเยว่ที่เพิ่งเข้าใจว่าร่างแยกนั้นมีไว้เพื่อใช้พลังจิตควบคุมการเคลื่อนไหวของปีศาจยักษ์ดำก็สูดลมหายใจลึก แล้วตะโกนออกมาดังลั่นว่า "กิน!"
แม้ปีศาจยักษ์ดำจะถูกโจมตีเต็มๆด้วยไฟนรกจากหยาเป่า แต่ด้วยความสามารถป้องกันตัวของมันและความที่มันเองก็เป็นสัตว์อสูรระดับสูงเหมือนกัน รวมทั้งความเชี่ยวชาญในไฟนรกของหยาเป่ายังไม่ถึงขั้นสูงสุด ทำให้แม้จะโดนโจมตีรุนแรง ก็ยังไม่ถึงกับหมดสภาพทันที
"โม่...เฮย..."
เสียงของผู้ฝึกสัตว์อสูรดังขึ้นในหัวของปีศาจยักษ์ดำ มันลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบาก แล้วใช้กรงเล็บคว้าก้อนหินแตกที่ยังคุกรุ่นด้วยเปลวไฟขึ้นมาป้อนเข้าปาก
สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติพวกนี้ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ กินของแบบนั้นแล้วจะช่วยฟื้นพลังงานได้งั้นเหรอ...
เฉียวซางอยากเห็นกับตาว่าหลังจากกินเข้าไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น จึงไม่ได้สั่งหยาเป่าให้โจมตีเพื่อขัดขวางในทันที
"ย่าห์!"
หยาเป่าที่เห็นอีกฝ่ายยังขยับตัวได้ก็รีบเร่งพลังงานในร่าง
มันจำคำของผู้ฝึกสัตว์อสูรของมันได้ว่า เลิกเล่น
หยาเป่าเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยิงลูกพลังสีแดงสดที่อัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้างอันน่ากลัวขึ้นไปบนฟ้า
"ฝนดาวตก!"
เติ้งเทียนเยว่ที่มองเห็นลูกพลังสีแดงสดลอยขึ้นสู่ฟ้าถึงกับตัวแข็งทื่อ
เขาคิดแผนรับมือมาทุกรูปแบบ แต่ไม่เคยนึกเลยว่าสุนัขเพลิงพร่างพรายจะใช้ฝนดาวตกในสถานการณ์แบบนี้!
ฝนดาวตกเป็นทักษะที่รุนแรงที่สุดของมันไม่ใช่รึไง!
ก่อนหน้านี้ไม่ใช้ พอปีศาจยักษ์ดำบาดเจ็บจนแทบหมดสภาพกลับเอาออกมาใช้!
นี่มันยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า!
เออลืมไป...สุนัขเพลิงพร่างพรายมันก็ไม่ใช่คนอยู่แล้ว...แต่เฉียวซางนี่สิยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า! ถึงได้สั่งให้สุนัขเพลิงพร่างพรายใช้ฝนดาวตกขั้นไร้ที่ติกับคู่ต่อสู้ที่บาดเจ็บสาหัสแบบนี้!
โหดร้ายเกินไปแล้ว!
เฉียวซางที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังถูกอีกฝ่ายมองว่า "ไม่ใช่คน" ได้แต่มึนงง
หยาเป่าก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าชอบบ่นว่าไม่สะใจ เพราะการต่อสู้จบเร็วเกินไปเหรอ? ทำไมคราวนี้ถึงใช้ฝนดาวตกได้ล่ะ?
"ย่าห์!"
หยาเป่าหันมามองผู้ฝึกสัตว์อสูรของมันด้วยสายตาที่มั่นใจ ก่อนจะเผยรอยยิ้มพร้อมโชว์เขี้ยวขาวพร่างพราย พลางส่งสัญญาณว่า ไม่ต้องห่วง มันไม่ได้เล่นแล้ว รอบนี้ชนะชัวร์!
เฉียวซาง: "…"
ลูกบอลพลังงานสีแดงสดพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้าก่อนจะระเบิดออกอย่างรุนแรง
เปลวไฟร่วงหล่นลงมาราวกับสายฝน พร้อมกับพลังอันยิ่งใหญ่ที่เหมือนโทสะของสวรรค์
ทั้งสนามถูกย้อมเป็นสีแดงฉานในพริบตา อุณหภูมิในอากาศพุ่งสูงขึ้นอย่างน่ากลัว จนผู้ชมแถวหน้าหลายคนรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แทบจะต้านทานไม่ไหว
ในช่วงเวลาที่สายฝนเพลิงหนาแน่นกำลังจะถล่มลงบนตัวปีศาจยักษ์ดำ เติ้งเทียนเยว่สูดหายใจลึก แล้วตะโกนออกมาสุดเสียงว่า
"ระบำคลั่ง!"
แม้ว่าปีศาจยักษ์ดำจะมีทักษะป้องกันระดับสูงอย่างอาณาเขตคุ้มกันแต่ด้วยระดับความเชี่ยวชาญที่อยู่แค่ขั้นกลาง การป้องกันนี้ไม่อาจต้านทานพลังของเขี้ยวเพลิงในระดับไร้ที่ติได้ด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฝนดาวตกที่เป็นทักษะในระดับเดียวกันเลย
ในเมื่อการป้องกันใช้ไม่ได้ผล ก็เหลือเพียงแค่การโจมตีสวนกลับเท่านั้น หวังว่าจะพอมีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้บ้าง!
ระบำคลั่งเป็นทักษะการโจมตีประเภทมืดระดับกลาง และเป็นหนึ่งในทักษะที่ปีศาจยักษ์ดำเชี่ยวชาญที่สุดในขณะนี้
พลังงานในตัวมันพลุ่งพล่านหลังจากกลืนกินก้อนหินจำนวนมาก แม้ร่างกายจะยังมีบาดแผลอยู่เต็มไปหมด แต่พลังภายในก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองสายฝนเพลิงที่ร่วงหล่นมาจากท้องฟ้า ดวงตาของมันสะท้อนความหมายชัดเจนว่า มาเลย! มันพร้อมแล้ว!
"โม่เฮย!"
มันคำรามออกมาด้วยเสียงกึกก้อง ยื่นแขนออกไปกำหมัดแน่น พลังงานสีขาวเข้มข้นปกคลุมทั่วแขน
มันยกแขนขึ้นเตรียมฟาดแต่กลับขยับไม่ได้
"???"
บ้าเอ๊ย! เฉียวซางนี่ไม่ใช่คนแล้ว! ทำไมถึงให้สุนัขเพลิงพร่างพรายใช้พลังจิตควบคุมการเคลื่อนไหวของปีศาจยักษ์ดำในสถานการณ์แบบนี้!
เติ้งเทียนเยว่ที่มองเห็นดวงตาของสุนัขเพลิงพร่างพรายเปล่งประกายแสงสีฟ้าก็ถึงกับหน้าซีด ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความตกใจจนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ฝนดาวตกขั้นไร้ที่ตินะเว้ย! แถมยังไม่ให้คู่ต่อสู้ขยับตัวได้อีก!
นี่มันไม่ใช่คนแล้ว! นี่มันปีศาจชัดๆ!
"ย่าห์!"
หยาเป่าจ้องมองไปยังปีศาจยักษ์ดำอย่างไม่วางตา แต่หางกลับกระดิกไปมาด้วยความตื่นเต้น
มันรู้สึกภูมิใจที่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ไว้ล่วงหน้าได้!
เฉียวซาง: "…"
ในใจของเฉียวซางแอบบ่นเงียบๆว่า จริงๆต่อให้ไม่ใช้พลังจิตควบคุม มันก็เอาตัวรอดจากฝนดาวตกไม่ได้อยู่แล้ว...
สายฝนเพลิงโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า ปกคลุมไปทั่วตัวของปีศาจยักษ์ดำแบบไร้ช่องว่างในการหลบหลีกแม้แต่น้อย
เปลวไฟกระจายตัวอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนสนามประลองทั้งหมดให้กลายเป็นสีแดงฉาน
ตูม! ตูม! ตูม!!!
พื้นสนามราวกับถูกทำลายจนพังยับเยิน เมื่อก้อนเพลิงขนาดใหญ่ตกกระทบ ทุกสิ่งในสนามถูกเผาจนไม่เหลือความสมบูรณ์ ยกเว้นเพียงตำแหน่งที่หยาเป้ายืนอยู่
เมื่อสายฝนเพลิงทั้งหมดสิ้นสุดลง สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของผู้ชมคือร่างของปีศาจยักษ์ดำที่ล้มลงกับพื้น ดวงตาปิดสนิท ร่างกายเหมือนจะดำสนิทขึ้นกว่าเดิม
ทั้งสนามประลองเงียบกริบ
จนกระทั่งเสียงนกหวีดที่บ่งบอกการจบการแข่งขันดังขึ้นจากสัตว์อสูรประเภทจักรกลที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการ เสียงหายใจลึกด้วยความตกตะลึงของผู้ชมจึงเริ่มดังขึ้นทีละคนสองคน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงโห่ร้องสนั่นทั้งสนาม
"สุดยอด! สุดยอดจริงๆ! พลังของฝนดาวตกขั้นไร้ที่ติ ทำให้ฉันได้เปิดหูเปิดตาเยอะเลย!"
"พระเจ้า! นี่เหรอพลังของทักษะขั้นไร้ที่ติ! น่ากลัวเกินไปแล้ว!"
"ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินแค่ชื่อ ยังไม่มีภาพในหัวเลยว่าทักษะแบบนี้มันร้ายแรงแค่ไหน ตอนนี้ได้เห็นกับตาแล้ว บอกเลยว่าโคตรจะน่ากลัว!"
"โว้ย! เฉียวซางโหดเกินไปแล้ว! ไม่ใช่แค่ใช้ฝนดาวตก แต่ยังให้สุนัขเพลิงพร่างพรายใช้พลังจิตกดคู่ต่อสู้อีก!"
"พูดตรงๆ นะ ดูแล้วสะใจสุดๆ! ฉันชอบการประลองที่เต็มไปด้วยพลังระเบิดแบบนี้มาก!"
"จะแข่งอะไรกันอีกล่ะ! ประกาศไปเลยว่าเฉียวซางเป็นที่หนึ่ง!"
ไม่มีใครสังเกตว่านี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เฉียวซางมาประลองในภูมิภาคกู่หวู่ ที่หลังการแข่งขันไม่มีใครพูดถึงพรายพิชิตเหมันต์ของเธอเลยสักนิด