ตอนที่แล้วบทที่ 431: อยากได้ก็ไปเก็บเถอะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 433: แอบชอบ

บทที่ 432: อสูรทะเลตาโปน


เจียงซิ่วจู่ๆก็รู้ตัวว่าคิดผิด

ถึงแม้เฉียวซางจะทำพันธสัญญากับพรายพิชิตเหมันต์ได้โดยบังเอิญ แต่การที่เธอมีสัตว์อสูรอย่างสุนัขเพลิงพร่างพรายและอสูรล่าสมบัติอยู่ด้วยนั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน

การทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์สูงขนาดนั้น และยังสามารถพัฒนาพวกมันได้ถึงระดับนี้ในเวลาอันสั้น บ้านเธอจะขาดแคลนเงินได้ยังไง!

คนที่มีภูมิหลังดีขนาดนี้ ย่อมมีสายตาสูงส่ง ไม่แปลกเลยที่เธอจะมองข้ามหินปรับอุณหภูมิไป

ว่าแต่... ในเป้ยังมีอะไรอีกนะ... เจียงซิ่วแอบล้วงมือไปในเป้ด้านหลังเพื่อค้นหาอย่างเงียบๆ

"ศาสตราจารย์ไม่เก็บมันเหรอคะ?" เฉียวซางถามขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเจียงซิ่วนิ่งไปนาน

เจียงซิ่วเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเรียกขึ้นว่า

"เจ้าเกลือ"

กิ้งก่าผลึกขาวแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายเล็กน้อย ก่อนจะเร่งว่ายไปยังจุดที่หินปรับอุณหภูมิร่วงลงไป แล้วอ้าปากกลืนมันเข้าไป

ไม่นานนัก บริเวณแผ่นหลังของกิ้งก่าผลึกขาว ตรงจุดที่มีลายวงกลมสีฟ้าก็เริ่มมีน้ำพุ่งออกมา

เมื่อสายน้ำนั้นจางลง หินปรับอุณหภูมิก็ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน

เห็นดังนั้น เฉียวซางถามขึ้นด้วยความสนใจว่า

"นี่เป็นทักษะหรือลักษณะเฉพาะตัว?"

เจียงซิ่วเก็บหินปรับอุณหภูมิเข้ากระเป๋า พร้อมอธิบายว่า

"นี่เป็นลักษณะเฉพาะตัวเรียกว่าเก็บรักษา ทำให้เจ้าเกลือสามารถเก็บของไว้ในตัวได้เล็กน้อย และสามารถถ่ายเทสิ่งที่เก็บไว้ผ่านทางปากหรือจุดลายวงกลมบนหลังของมัน แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา หากของที่เก็บไว้ในตัวเกินห้านาที มันจะถูกย่อยสลายไป"

ได้เปิดโลกเลยทีเดียว... เฉียวซางคิดในใจ

หลังจากนั้นในทุกๆนาทีจะมีวัสดุสำหรับสัตว์อสูรปรากฏขึ้นให้เห็น

เจียงซิ่วต้องคอยหยิบของออกจากเป้ ปล่อยออกไปข้างนอก วนซ้ำไปเรื่อยๆแต่กระเป๋าเป้ของเขากลับไม่แบนเลยลงเลยสักนิด

"นั่นดูเหมือนจะมีอะไรอยู่..." เจียงซิ่วพูดด้วยสีหน้าชินชาจนเหมือนคนไร้อารมณ์

เขารู้สึกว่าตัวเองกลายเป็น NPC ในเกม ที่ต้องทำอะไรซ้ำซากพร้อมพูดประโยคเดิมๆ

เฉียวซางมองตามที่เขาชี้ไป ก่อนดวงตาจะเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น

"นั่นมันผลึกอาถรรพ์ใช่ไหมคะ?"

เจียงซิ่วเห็นเฉียวซางสนใจ ก็รีบทำท่าเหมือนตรวจดูอย่างละเอียด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า

"ใช่แล้ว มันคือผลึกอาถรรพ์!"

"ศาสตราจารย์เจียงไม่ไปเก็บเหรอคะ?" เฉียวซางถาม

เจียงซิ่วโบกมือด้วยท่าทีไม่ใส่ใจและพูดด้วยน้ำเสียงราวกับไม่สนใจว่า

"ฉันไม่สนใจผลึกอาถรรพ์ ถ้าเธออยากได้ เดี๋ยวให้เจ้าเกลือไปเก็บให้"

ศาสตราจารย์เจียงนี่แปลกคนจริงๆ... เฉียวซางคิดในใจ

สนใจหินปรับอุณหภูมิที่มีค่าแค่พันเหรียญ แต่ดันไม่สนใจผลึกอาถรรพ์ที่ราคาสูงกว่าหลายหมื่นเหรียญ

"เดี๋ยวฉันให้ลู่เป่าไปเก็บเองก็ได้ค่ะ" เฉียวซางพูด

ทันทีที่เธอพูดจบ ลู่เป่าก็พุ่งตัวออกไปยังจุดที่ผลึกอาถรรพ์ตกอยู่

แต่ในขณะที่มันยื่นอุ้งมือเพื่อจะหยิบผลึกอาถรรพ์ ทันใดนั้นมันก็เห็นลูกกลมสีแดงเข้มที่มีขนาดใหญ่กว่าผลึกอาถรรพ์หลายเท่าอยู่ข้างๆ

"ปิงลู่"

ลู่เป่าวางอุ้งมือหนึ่งบนผลึกอาถรรพ์ และอีกอุ้งมือหนึ่งบนลูกกลมสีแดงเข้ม ตั้งใจจะหยิบทั้งสองอย่างกลับไป

แต่พอพยายามยก ลูกกลมสีแดงเข้มกลับไม่ขยับแม้แต่น้อย

"ปิงลู่!"

ลู่เป่าเพิ่มแรงมากขึ้น

"จู! จู!"

ทันใดนั้น เสียงคำรามดังขึ้นใกล้ๆพร้อมกับที่ลูกกลมสีแดงเข้มเริ่มสั่นไหว

จากนั้นใต้ลูกกลมสีแดงเข้ม ดวงตาสีแดงเข้มคู่หนึ่งก็ลืมขึ้นอย่างกะทันหัน

เมื่อเห็นหน้าลู่เป่า ดวงตาคู่นั้นที่เดิมมีแววกราดเกรี้ยวกลับดูชะงักไปชั่วขณะ

"แย่แล้ว! นั่นสัตว์อสูรระดับราชาอสูรทะเลตาโปนนี่!" เจียงซิ่วร้องลั่น

"รีบเรียกลู่เป่ากลับมาเร็ว!"

สัตว์อสูรระดับราชา?! เฉียวซางใจเต้นแรง เธอรีบสะบัดมือเรียกลู่เป่ากลับเข้าสู่ตำราอสูร

"จู! จู!!!"

เพียงเสี้ยววินาทีหลังจากลู่เป่าหายไป เสียงคำรามจากอสูรทะเลตาโปนก็ดังกึกก้องขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าด้วยความโกรธเกรี้ยว!

กระแสน้ำรอบตัวไหววูบ ก่อนที่สัตว์อสูรขนาดใหญ่สีฟ้าเข้มเกือบดำทั้งตัว จะปรากฏในสายตาของเฉียวซาง มันมีดวงตาที่ปูเโปนเด่นออกมา และมีลูกกลมสีแดงเข้มประดับอยู่ทั้งบนหน้าผากและปลายหาง

"ย่าห์! ย่าห์!"

หยาเป่าแสดงสีหน้าตื่นเต้นทันทีที่เห็นอสูรทะเลตาโปน มันดูเหมือนจะอยากเข้าไปท้าสู้ทันที

เห็นตัวเก่งหน่อยไม่ได้เลยนะ ต้องอยากสู้ตลอด... แต่ตัวนี้มันสัตว์อสูรระดับราชา สู้ไม่ไหวหรอก!

เฉียวซางถอนหายใจแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้มว่า

"นี่มันใต้น้ำนะ แกแน่ใจเหรอว่าจะออกไปสู้?"

"ย่าห์..."

หยาเป่าชะงักตัวแข็ง ก่อนจะยอมอยู่นิ่งๆในอ้อมแขนของเฉียวซางอย่างไม่ขัดขืน

น่าหงุดหงิดที่สุดเลย น้ำมันไม่ถูกกับมันจริงๆ! หยาเป่าคิดในใจอย่างหงุดหงิด

เจียงซิ่วที่ยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นมาและพูดว่า

"ในเขตทะเลบริเวณนี้ ตัวที่น่ากลัวที่สุดก็คืออสูรทะเลตาโปนนี่แหละ ไม่คิดเลยว่าจะเจอมันตั้งแต่แรกแบบนี้"

เฉียวซางลังเล ก่อนถามขึ้นว่า

"นี่มันกิจกรรมสื่อสารกับสัตว์อสูรใต้น้ำไม่ใช่เหรอคะ? เราควรลองไปสื่อสารกับมันดูไหมคะ?"

เจียงซิ่วตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

"ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการรับประกันความปลอดภัยของเธอก่อน การเข้าไปสื่อสารกับอสูรทะเลตาโปนอาจนำไปสู่การปะทะได้ง่ายมาก"

"มีคนที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมก่อนหน้านี้พยายามสื่อสารกับมัน แต่อสูรทะเลตาโปนตัวนี้มีสัญชาตญาณปกป้องอาณาเขตที่แรงมาก มันเป็นประเภทที่ไม่พูดอะไรแล้วก็ลงมือทันที"

ถ้าต้องปะทะใต้น้ำจริงๆล่ะก็ฟองของกิ้งก่าผลึกขาวแตกเมื่อไหร่ ก็คงจบกัน... เฉียวซางคิด ก่อนถามขึ้นว่า

"งั้นเราควรออกไปจากที่นี่ก่อนใช่ไหมคะ?"

เจียงซิ่วส่ายหน้าพลางพูดว่า

"ยังขยับไม่ได้ ถ้าเราขยับตอนนี้ อสูรทะเลตาโปนอาจจับตามองพวกเราได้ทันที"

เฉียวซางนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ยังคงลังเลว่า

"ถ้าไม่อยากให้อสูรทะเลตาโปนจับตามองเรา เราน่าจะเริ่มจากการปิดแสงของกิ้งก่าผลึกขาวก่อนรึเปล่าคะ?"

แสงสีเขียวที่ปล่อยออกมาจากตัวกิ้งก่าผลึกขาวนี่เหมือนหลอดไฟเรืองแสงขนาดยักษ์ ถ้าไม่อยากโดนมอง ก็ปิดซะเถอะ!

เจียงซิ่ว: "..."

กิ้งก่าผลึกขาวเหมือนจะรับรู้ถึงอะไรบางอย่าง แสงสีเขียวที่เปล่งออกมาจากตัวมันค่อยๆมืดลงอย่างช้าๆ

ในจังหวะนั้นเอง อสูรทะเลตาโปนหมุนดวงตา ก่อนพุ่งตัวจากระยะไกลหลายสิบเมตรมายืนอยู่ต่อหน้ากิ้งก่าผลึกขาวทันที

"จู! จู!"

อสูรทะเลตาโปนส่งเสียงร้องดัง

"แย่แล้ว รีบหนีเร็ว!" เจียงซิ่วหน้าถอดสี

ถ้าเขาอยู่คนเดียวคงไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะเขาได้รับพลังจากสัญญาย้อนกลับมาหลายครั้งแล้ว ทำให้ร่างกายแข็งแรงกว่าคนธรรมดามาก แม้ว่ากิ้งก่าผลึกขาวจะสูญเสียฟองอากาศไปในระหว่างการต่อสู้กับอสูรทะเลตาโปน เขาสามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้เป็นเวลานาน

แต่เฉียวซางไม่ใช่แบบนั้น

เขาจะให้เฉียวซางตกอยู่ในอันตรายไม่ได้เด็ดขาด!

กิ้งก่าผลึกขาวหมุนตัว ก่อนใช้พลังส่งแรงที่หาง ทำให้น้ำด้านหลังหมุนวนเป็นกระแสน้ำพุ่ง มันจึงสามารถว่ายหนีไปได้ไกลถึงร้อยเมตรในพริบตา

"จู! จู!"

อสูรทะเลตาโปนร้องพลางไล่ตามมา

"ซุน! ซุน!"

ซุนเป่าที่เกาะอยู่ข้างในฟองอากาศร้องเรียกด้วยความตื่นเต้น มันกำลังบอกให้รีบหนีเพราะอสูรทะเลตาโปนไล่ตามมาแล้ว!

นี่แกตื่นเต้นเกินไปไหมเนี่ย... เฉียวซางคิดในใจ พลางหันกลับไปมองอสูรทะเลตาโปนที่กำลังไล่ล่าอย่างดุดัน

หลังจากมองอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงลังเลว่า

"ศาสตราจารย์เจียง ฉันว่าอสูรทะเลตาโปนดูเหมือนจะไม่ได้จะโจมตีพวกเรานะคะ"

"เป็นไปไม่ได้" เจียงซิ่วตอบกลับทันที

"สีหน้ากับเสียงของมันเมื่อกี้แสดงถึงความโกรธอย่างชัดเจนเลย"

เฉียวซางครุ่นคิดก่อนพูดว่า

"แต่มันเป็นสัตว์อสูรระดับราชาไม่ใช่เหรอคะ? ถ้ามันต้องการโจมตีจริงๆ ตอนนี้ระยะก็ใกล้พอให้มันใช้ทักษะโจมตีได้แล้ว แต่จนถึงตอนนี้มันยังไม่ได้ใช้ทักษะอะไรเลย แค่ไล่ตามมาอย่างเดียว ถ้ามันโกรธจนต้องโจมตีจริงๆ แบบนี้มันก็ไม่สมเหตุสมผลนะคะ"

เจียงซิ่วนิ่งคิดอยู่สองสามวินาที ก่อนจะถามขึ้นว่า

"เธออยากจะบอกอะไรกันแน่?"

"บางที มันอาจจะมีอะไรอยากจะพูดกับเราก็ได้นะคะ" เฉียวซางเสนอ

"ลองสื่อสารกับมันหน่อยดีไหมคะ?"

"ไม่ได้!" เจียงซิ่วปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด

"มันอันตรายเกินไป"

เฉียวซางยิ้มเล็กน้อย

"เราสามารถสื่อสารจากระยะไกลได้นะคะ"

"สื่อสารระยะไกล?" เจียงซิ่วดูงงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร

เฉียวซางหันไปมองซุนเป่าน้อย แล้วพูดว่า

"ซุนเป่า ฉันจำได้ว่าของที่เราซื้อครั้งก่อนเหมือนจะมีอุปกรณ์ขยายเสียงอยู่ด้วย ช่วยหาดูหน่อยได้ไหม"

"ซุน~"

ซุนเป่าถอดห่วงวงแหวนออก แล้วค้นหาอยู่ข้างใน ไม่นานนักก็หยิบไมโครโฟนไร้สายที่มีรูปร่างเหมือนอมยิ้มออกมา

"แกถามมันหน่อยสิ ว่าทำไมถึงไล่ตามพวกเรา" เฉียวซางกล่าว

ซุนเป่าพยักหน้า แล้วเปิดสวิตช์ของไมโครโฟน จากนั้นก็ร้อง "ซุน ซุน" สองครั้งเพื่อทดสอบเสียง

เสียงดังมาก จนก้องสะท้อนในน้ำอยู่พักใหญ่

เจียงซิ่วถึงกับตกตะลึงอย่างแท้จริง

นี่มันวิธีการอะไรกัน!

"จู จู!"

อสูรทะเลตาโปนได้ยินเสียงก็สะดุ้งตกใจ

"ซุน ซุน!"

คราวนี้ ซุนเป่าน้อยนำไมโครโฟนมาใกล้ปาก แล้วร้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถามคำถามที่ผู้เป็นเจ้านายให้ถาม

"จู จู!"

อสูรทะเลตาโปนชะงักไปชั่วครู่ แต่ยังคงไล่ตามมา พร้อมกับแสดงสีหน้าเขินอาย และร้องออกมา

"มันว่าอะไรเหรอ?" เฉียวซางถาม

"ย่าห์ ย่าห์!"

ยังไม่ทันที่ซุนเป่าน้อยจะตอบ หยาเป่าก็เริ่มแปลทันที

มันถามว่าเมื่อกี้พวกเราเห็นสิ่งมีชีวิตที่สวยมากๆหรือเปล่า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด