ตอนที่ 1700 เทพเพลิง (2) (ฟรี)
ตอนที่ 1700 เทพเพลิง (2)
ผู้ฝึกยุทธนั้นค่อนข้างอ่อนไหว
เหยียนกุ้ยเฉินหยุด
“เชิญ” ซูฮ่องกงที่เห็นแบบนั้นกล่าว
“เจ้าจงใจให้ข้าจับเจ้างั้นเหรอ?” เหยียนกุ้ยเฉินที่เพิ่งจะรู้ตัวหันไปหาซูฮ่องกงและถาม
“จะเป็นไปได้ยังไงกัน? ผู้อาวุโส ท่านมีพลังฝึกฝนที่สูงส่ง การที่ท่านจะจับข้าได้นั้นง่ายมาก” ซูฮ่องกงที่โบกมือส่ายหัวกล่าว
เหยียนกุ้ยเฉินที่มองดูบ้านหลังเล็กๆ อีกครั้งกำลังคิดว่าควรจะเข้าไปรึเปล่า?
“ผู้นำเหยียน ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว ทำไมท่านไม่เข้ามากันล่ะ? ท่านกำลังกังวลอะไร?” เสียงหนึ่งดังมาจากข้างในบ้าน
“เจ้ารู้จักข้างั้นเหรอ?” เหยียนกุ้ยเฉินที่ขมวดคิ้วถาม
เหยียนกุ้ยเฉินที่ยืนเอามือไขว้หลังเดินไปข้างหน้า ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาติดตามไปอย่างใกล้ชิด ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในบ้าน พวกเขาก็ได้เห็นชายนักปราชญ์คนหนึ่งที่ตอนนี้สวมหน้ากากสีแดงนั่งอยู่หน้าโต๊ะ เขากำลังชงชาอย่างสบายๆ ทหารองครักษ์ที่ดูสง่างามคนหนึ่งที่ตอนนี้ใบหน้าถูกปกปิดยืนอยู่ข้างหลังเขา
“เชิญนั่ง” ชายนักปราชญ์ที่เงยหน้าขึ้นกล่าว
“เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของข้าเลยนะ” เหยียนกุ้ยเฉินที่หายตัวไปและปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งข้างๆ เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามชายนักปราชญ์กล่าว
“ข้าพาเขามาให้เจ้าแล้ว” ซูฮ่องกงที่ในที่สุดก็ได้เข้ามาในบ้านวิ่งเข้าไปหาชายนักปราชญ์และกล่าว
“ทำได้ดี” ชายนักปราชญ์ที่พูดจบผลักถ้วยน้ำชาที่เขาเพิ่งจะชงเสร็จให้กับเหยียนกุ้ยเฉิน “บอกตามตรง ข้าค่อนข้างรู้จักชุมนุมเงาแห่งการดับสูญเป็นอย่างดี”
“เจ้าเป็นใคร?” เหยียนกุ้ยเฉินถาม
“ข้าคือฉีเชิง แม่ทัพแห่งโถงถูเว่ย” ฉีเชิงกล่าวอย่างใจเย็น
“แม่ทัพแห่งโถงถูเว่ย? ผู้ที่ครอบครองเมล็ดพันธุ์แห่งความว่างเปล่า? อัจฉริยะ? ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับท่าน” เหยียนกุ้ยเฉินที่ยิ้มกล่าว
“ข้าตามหาท่านมานานแล้ว ข้าไม่มีทางเลือกอื่นจึงต้องทำแบบนี้ ข้าหวังว่าท่านจะไม่โกรธ ผู้นำเหยียน” ฉีเชิงกล่าว
เหยียนกุ้ยเฉินหันไปมองซูฮ่องกง เขานึกถึงตอนที่เขาจับซูฮ่องกง การที่เขาจะสามารถจับซูฮ่องกงได้นั้นง่ายเกินไป ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันคือแผนการ “เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะฆ่าเขางั้นเหรอ?” เขาชี้นิ้วไปที่ซูฮ่องกงก่อนจะหันไปถามฉีเชิง
“เจ้าฆ่าเขาไม่ได้หรอก” ฉีเชิงกล่าว
“ทำไมเจ้าถึงได้มั่นใจขนาดนั้น?” เหยียนกุ้ยเฉินถาม
“เขามีหยกสุริยันจันทราของจักรพรรดิซางจาง” ฉีเชิงกล่าวอย่างใจเย็น
“...”
“เจ้าสามารถเกลี้ยกล่อมจักรพรรดิซางจางให้ยืมหยกมานั่นมาได้ น่าทึ่งมาก” เหยียนกุ้ยเฉินที่สำรวจฉีเชิงอย่างระมัดระวังกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มหลังจากที่เวลาผ่านไป
“มันจะไปยากอะไร? บุตรสาวของจักรพรรดิซางจางเป็นศิษย์น้องของข้า” ฉีเชิงกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
“...”
“เจ้ากำลังล้อข้าเล่นอยู่งั้นเหรอ?” เหยียนกุ้ยเฉินที่ลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหันจ้องมองฉีเชิง
“เชิญนั่ง” ฉีเชิงที่ยังคงกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
เหยียนกุ้ยเฉินไม่ได้ขยับ
“เชิญนั่งเถอะ” ฉีเชิงกล่าวอีกครั้ง
“ตอนนี้ข้าสามารถฆ่าพวกเจ้าได้” เหยียนกุ้ยเฉินที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้โกรธเหมือนกับเมื่อก่อนกล่าว
“ข้าไม่คิดว่าท่านจะเป็นคนโง่เขลาขนาดนั้น ผู้นำเหยียน” ฉีเชิงที่ส่ายหัวกล่าว
“เจ้าไม่รู้อะไรหรอก”
“เอาล่ะ” ฉีเชิงที่พูดจบก็ดีดนิ้ว
ฟิ้ว!
ผู้ฝึกยุทธที่สวมชุดดำที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างหลังฉีเชิงหายตัวไป ร่องรอยถูกทิ้งเอาไว้
‘แย่แล้ว!’ เหยียนกุ้ยเฉินที่ตกใจใช้ความคิด
ผู้ฝึกยุทธที่สวมชุดดำกวาดผ่านลูกน้องของเหยียนกุ้ยเฉินก่อนจะหยุด
เหยียนกุ้ยเฉินหันหลังกลับไป
ฟิ้ว!
“สารเลวนี่!” ลูกน้องห้าคนของเหยียนกุ้ยเฉินที่ตอนนี้ถูกเพลิงเทพแผดเผากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“นี่พวกเจ้าคิดจะต้อนรับแขกแบบนี้งั้นเหรอ?” เหยียนกุ้ยเฉินที่สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยมองดูผู้ฝึกยุทธที่สวมชุดดำกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความระแวง
“ข่าวลือเกี่ยวกับดวงดาวศักดิ์สิบดวงเกือบจะทำให้ศิษย์น้องของข้าต้องเสียชีวิต นี่ถือว่าเป็นการลงโทษเล็กๆ น้อยๆ” ฉีเชิงกล่าว
เหยียนกุ้ยเฉินที่ทนไม่ไหวบินขึ้นไปบนฟ้า
สิ่งมีชีวิตสูงสุดนั้นน่ากลัวยิ่งนัก
“บัดซบเอ๊ย! รีบหลบเร็วเข้า!” ซูฮ่องกงที่เห็นแบบนั้นเบิกตากว้างและตะโกน
ฉีเชิงที่คว้าตัวซูฮ่องกงรีบถอยห่างออกไป
“กล้าดียังไงกัน!” ผู้ฝึกยุทธที่สวมชุดดำที่หายตัวไปปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเหนือหัวเหยียนกุ้ยเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าและแผ่วเบา
ผนึกฝ่ามือที่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีแดงพุ่งออกไป
เหยียนกุ้ยเฉินที่ปลดปล่อยผนึกพลังงานออกมารับการโจมตีโดยตรง
ตูม!
พลังงานจากการปะทะแผ่ขยายออกไปในทันที
เขตแดนพลังปกป้องบ้านหลังนั้นเอาไว้ แต่ต้นไม้โดยรอบนั้นถูกทำลาย
“เขาจะไหวรึเปล่า?” ซูฮ่องกงที่มองดูพวกเขาทั้งสองคนที่กำลังต่อสู้อยู่กล่าวอย่างกังวล
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก หากเขาทำไม่ได้ คงจะไม่มีใครทำได้”
“เขาเป็นใคร?”
“อีกสักพักเจ้าก็จะรู้เอง...”
บนท้องฟ้านอกบ้านหลังนั้น
เหยียนกุ้ยเฉินที่โยนเครื่องรางสีแดงและสีทองออกมา
“ผู้ฝึกยุทธนอกรีตสองสี สมกับเป็นชุมนุมเงาแห่งการดับสูญ ที่นั่นมียอดฝีมือนับไม่ถ้วนจริงๆ” ฉีเชิงที่เห็นแบบนั้นกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
“แข็งแกร่งมาก!” ซูฮ่องกงที่กลืนน้ำลายชี้นิ้วไปที่ฉีเชิง “ข้าต้องเสี่ยงอันตรายมากมายเพื่อที่จะตามหาชุมนุมเงาแห่งการดับสูญ หากเจ้าไม่บอกข้าว่าศิษย์พี่เจ็ดของข้าอยู่ที่ไหน ข้าจะฉีกท่านเป็นชิ้นๆ!”
“ทำไมเจ้าถึงได้ขี้ขลาดแบบนี้? หากข้าบอกว่าไม่ต้องกังวล ก็แปลว่าไม่ต้องกังวล เจ้าไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย” ฉีเชิงที่ผลักมือของซูฮ่องกงออกไปกล่าว
“แต่...เจ้ารู้ได้ยังไงว่าพวกเขากำลังตามหาข้า? มันเป็นเรื่องบังเอิญงั้นเหรอ?” ซูฮ่องกงถามอย่างไม่เข้าใจ
ฉีเชิงที่ยิ้มไม่ได้ตอบ
ผู้ฝึกยุทธที่สวมชุดดำกับเหยียนกุ้ยเฉินยังคงต่อสู้อย่างดุเดือดบนฟ้า พวกเขาบินขึ้นลงไปมา พื้นที่ในระยะ 100 ลี้ ของบ้านหลังเล็กๆ กลายเป็นสนามรบ การต่อสู้ของพวกเขานั้นดำเนินไปอย่างดุเดือด แต่ก็ยังคงไม่มีใครแพ้หรือชนะ
“ข้าไม่คิดเลยว่าดินแดนแห่งความว่างเปล่าจะมีสุดยอดฝีมือแบบนี้อยู่ด้วย เจ้าเป็นใคร?” เหยียนกุ้ยเฉินกล่าวอย่างตกใจ
“เจ้าไม่คู่ควรที่จะรู้จักชื่อของข้าหรอก” ผู้ฝึกยุทธที่สวมชุดดำกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
ฟิ้ว!
ผู้ฝึกยุทธที่สวมชุดดำยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งบ้าระห่ำ ตอนนี้เขามาอยู่เหนือหัวของเหยียนกุ้ยเฉินอีกครั้ง มือของเขาเปล่งประกายเปลวเพลิงสีแดงฉาน มันคือเพลิงเทพ
“เจ้ายังเด็กเกินไป” ผู้ฝึกยุทธที่สวมชุดดำที่กางแขนออกกล่าว เหยียนกุ้ยเฉินที่ตอนนี้ค่อนข้างรังเกียจเพลิงเทพคำราม ดอกบัวสีทองแดงผลิบาน
ปีกสีแดงเพลิงสองปีกปรากฏขึ้นบนหลังของเขา แสงสว่างส่องไปทั่วท้องฟ้า พวกมันเผาต้นไม้และพื้นดิน
“หลิงกวง เทพเพลิง?!” เหยียนกุ้ยเฉินอุทาน
‘แบบนี้นี่เอง ทำไมเขาถึงได้มีเพลิงเทพได้!’
เหยียนกุ้ยเฉินที่ตอนนี้หมดความมั่นใจเปลี่ยนกลยุทธ์
หนี!
ฟิ้ว!
“อ๊า!” เหยียนกุ้ยเฉินกำลังจะเก็บดอกบัวสีทองแดง แต่เขากลับพบว่ามิติหยุดนิ่ง เขาไม่สามารถเก็บดอกบัวของเขาได้
“ผู้มีมลทินกลับมาแล้ว! ข้าเป็นผู้ศรัทธาที่ภักดีที่สุดของท่าน! พวกเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้!” เหยียนกุ้ยเฉินที่รู้สึกถึงอันตรายตะโกน
เปลวเพลิงสีแดงฉานพวยพุ่ง อุณหภูมิสูงและกฎแห่งมิติผนึกเหยียนกุ้ยเฉินเอาไว้ เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ เขาทำได้แค่เพียงปล่อยให้เปลวเพลิงแผดเผา
“ผู้มีมลทินไม่มีผู้ศรัทธาอย่างเจ้า!” เสียงที่แหบพร่าดังมาจากเบื้องบน
จากนั้นปีกสีแดงเพลิงก็ยังคงกระพือ มันพุ่งลงมาเหมือนกับใบมีดที่คมกริบ
ปัง!
มันโจมตีดอกบัวของเหยียนกุ้ยเฉิน เขากระอักเลือดก่อนจะร่วงลงมาจากท้องฟ้า
ตูม!
เหยียนกุ้ยเฉินที่นอนอยู่บนพื้นไม่ได้ดิ้นรน เขาจ้องมองปีกที่ลุกไหม้ด้วยความตกใจ
ผู้ฝึกยุทธที่สวมชุดดำสลายเปลวเพลิงโดยรอบ เพียงพริบตาเดียวพลังลมปราณที่ปั่นป่วนก็สงบลง
บ้านหลังเล็กๆ และทุกสิ่งทุกอย่างโดยรอบกลับคืนสู่สภาพเดิมภายในเวลาไม่ถึง 15 นาที ด้วยเขตแดนพลัง
ฉีเชิงกับซูฮ่องกงเดินเข้ามาหา
“พวกเจ้ารู้รึเปล่าว่าหลังจากที่พวกเจ้าจับเจ้าอ้วนนี่ได้ ข้าสามารถฆ่าพวกเจ้าได้ทุกเมื่อ” ฉีเชิงที่โน้มตัวลงเล็กน้อยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม เขากำลังมองลงมา
“เพียงแค่เทพเพลิง? ข้า...เกรงว่าคงจะไม่พอ” เหยียนกุ้ยเฉินกล่าว
“ใครบอกเจ้าว่ามีแค่เทพเพลิงกัน?” ฉีเชิงถาม
“...”
เหยียนกุ้ยเฉินมีสีหน้าซีดเซียว
“ถูกต้องแล้ว! ข้าไม่เคยพบใครที่เจ้าเล่ห์เหมือนกับท่านมาก่อน! แม้แต่หวู่จู่ ท่านก็ยังสามารถฆ่าได้!” ซูฮ่องกงที่ฉวยโอกาสกล่าว
“พวกเจ้าฆ่าหวู่จู่?!” เหยียนกุ้ยเฉินอุทาน
“เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ? ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าเจ้าเกือบจะทำให้ศิษย์น้องของข้าต้องเสียชีวิต หากไม่ใช่เพราะข้ามีเมตตา เจ้าคงจะต้องตายไปแล้ว ใจดีเกินไปจริงๆ”
“...”
“จะถลกหนังหรือจะฆ่าจะแกงกันก็เชิญ” เหยียนกุ้ยเฉินหันไปด้านข้างกล่าว
“การฆ่าเจ้านั้นง่ายเกินไป แต่ข้าค่อนข้างสงสัย ในเมื่อเจ้าสามารถถอดรหัสตัวอักษรได้สามตัวแล้ว เจ้าสามารถถอดรหัสตัวอักษรตัวอื่นๆ ได้รึเปล่า?” ฉีเชิงกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
เหยียนกุ้ยเฉินไม่ได้พูดอะไร
“เจ้าหนุ่ม มอบภาพวาดผู้มีมลทินมาซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” ผู้ฝึกยุทธที่สวมชุดดำที่เดินมาข้างๆ ฉีเชิงยืนเอามือไขว้หลังมองลงมาที่เหยียนกุ้ยเฉินกล่าว
“และกระบองสยบสวรรค์” ฉีเชิงกล่าวเสริม
“ภาพวาดผู้มีมลทินกับกระบองสยบสวรรค์ไม่ได้อยู่กับข้า หากพวกเจ้ามีความกล้า ก็จงไปเอาจากผู้มีมลทินสิ!” เหยียนกุ้ยเฉินกล่าวอย่างสะใจ
“ผู้มีมลทิน?”
“ถูกต้องแล้ว! ท่านผู้มีมลทินของพวกเรากลับมายังดินแดนแห่งความว่างเปล่าแล้ว! อีกไม่นานเขาจะต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง! วันเวลาที่ดีของพวกเจ้ากำลังจะจบลงแล้ว!” เหยียนกุ้ยเฉินกล่าวอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย