ตอนที่แล้วบทที่ 290 แค่เงินถึง จะหั่นศิษย์พี่ของข้าก็ยังได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 292 ยันต์ที่ยอมรับเจ้านายโดยสมัครใจ

บทที่ 291 การปรากฏตัวของสัญลักษณ์ลึกลับ


เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วนั่งลงบนม้านั่งตัวเล็กๆ ท่าทางเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย แต่กลับดูน่ารักไร้เดียงสา

“ตอนนั้นน่ะ ในสำนักมีคนเยอะมาก! บนโลกเบื้องบนเองก็ขาดแคลนปรมาจารย์หลอมยา วาดยันต์ และช่างหลอมอาวุธอยู่แล้ว ดังนั้นสำนักของพวกเราจึงยิ่งเป็นที่ต้องการมาก!”

จินเป่าเอ๋อขัดคำพูดของเขา “ที่ถูกต้องคือ ‘เนื้อหอม’ ต่างหาก!”

หัวทุยเล็กทำหน้าเขินอาย เกาหัวพลาง หน้าแดงจนเหมือนผลไม้สุก “แหม ก็คนมันยังเด็กนี่นา! แค่กๆ!”

“ต่อมาคนบนโลกเบื้องบนล้วนแต่แสวงหาพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งและระดับการบำเพ็ญที่สูงขึ้น พวกเขาไม่ค่อยใส่ใจอุปกรณ์เวทเท่าไหร่ พออุปกรณ์เทพเสียหายมากเข้า แต่คนที่หลอมสร้างกลับมีน้อยลง พวกช่างหลอมจึงกลายเป็นที่ต้องการของทุกคน แต่แล้ววันหนึ่ง บางคนกลับเริ่มต่อต้านพวกช่างหลอมอย่างบ้าคลั่ง จนไม่มีใครกล้าเรียนการหลอมอีก สุดท้ายถึงเป็นแบบนี้…”

จินเป่าเอ๋อไม่พูดอะไร แต่ก็พอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น คล้ายกับหมอที่เก่งเรื่องรักษา แต่คนที่มีความสามารถเช่นนั้นกลับมีน้อย คนส่วนใหญ่จึงไม่ได้รับการรักษา ด้วยความโกรธแค้น พวกเขายอมแตกดับแต่ไม่ยอมให้ผู้อื่นได้ผลประโยชน์

คนประเภทนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง! และบนโลกเบื้องบน ผู้บำเพ็ญที่มีความสามารถหลอมอุปกรณ์หรือจารึกยันต์กลับขาดพลังอย่างเห็นได้ชัด…

การบำเพ็ญสายโอสถและสายยันต์ล้วนต้องอาศัยพรสวรรค์! เมื่อเวลาผ่านไป คนที่ฝึกฝนสายนี้ตายมากขึ้น คนอื่นก็ยิ่งไม่กล้าเรียน

หัวทุยเล็กๆดูจนปัญญา และเพราะเหตุนี้เอง อาจารย์ของเขาจึงไม่กล้าเปิดเผยพลังที่แท้จริง บางครั้งรับงานก็ต้องแอบทำอย่างลับๆแล้วก็ยังต้องแกล้งทำผิดพลาดเป็นครั้งคราว เพื่อให้คนอื่นคิดว่าพวกเขาเป็นเพียงพวกครึ่งๆกลางๆ!

ผลลัพธ์โดยตรงที่ตามมาก็คือ ยิ่งจนลงทุกที… น่าสงสารที่เขายังเด็ก แต่ต้องประหยัดอดออม!

จินเป่าเอ๋อมองดูท่าทางที่โตเกินวัยของเขา โดยไม่ได้พูดปลอบโยนอะไร ในโลกนี้ มีใครที่มีชีวิตอย่างสุขสบายกันบ้างล่ะ

“ช่างมันเถอะ ช่างมันเถอะ ไม่อยากคิดแล้ว! ไหนๆก็มีคนฟังข้าพล่าม บังเอิญเผลอพูดมากไปหน่อย แฮ่ๆ! เพื่อเป็นการไถ่โทษ ข้าจะพาท่านไปยังสถานที่แห่งหนึ่งเอง! ที่นั่นเป็นความลับเล็กๆของข้าเลยนะ”

จินเป่าเอ๋อได้ยินเสียงก็เตรียมจะปฏิเสธ แต่กลับมีมือเล็กๆยื่นมาจับนิ้วนางเบาๆ พร้อมกับดึงนางไปด้วยความตื่นเต้น เพื่อจะให้นางได้ดูสมบัติล้ำค่าของเขา!

ความไร้เดียงสาและความตั้งใจที่จะแบ่งปันนี้ทำให้จินเป่าเอ๋อรู้สึกแปลกใจ ในเมื่อเวลานี้ไม่มีอะไรให้ทำอยู่แล้ว ก็ลองดูสักหน่อยก็ได้! นางคิดในใจด้วยความจำยอม

จากนั้น เงาของคนสองคน หนึ่งใหญ่หนึ่งเล็ก ก็มุ่งหน้าลงไปยังใต้พื้นดินของเทือกเขาแห่งหนึ่ง...

หัวทุยเล็กเดินนำนางไปด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับบอกให้นางระวังผนังถ้ำเป็นระยะ เนื่องจากภายในนี้ไม่สามารถใช้พลังจิตสำรวจได้ จึงต้องพึ่งแสงไฟเป็นหลัก

จินเป่าเอ๋อไม่ได้คิดอะไรมาก หยิบไข่มุกเรืองแสงที่เคยพบในคฤหาสน์เซียนออกมา แสงสีขาวอ่อนโยนส่องสว่างไปทั่วบริเวณทันที ความมืดในทางเข้าถ้ำใต้ดินก็ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน...

หัวทุยเล็กมองมาที่ฝ่ามือของนาง ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ แต่ไม่มีความโลภแม้แต่น้อย...

จินเป่าเอ๋อเห็นดังนั้นก็ยิ้ม “ชอบไหม ถ้าออกไปแล้วจะให้เป็นของเจ้า!”

ยังไงซะ คราวก่อนหลงลี่ซิงก็ให้ไข่มุกเรืองแสงมาเยอะ ในหุบเขาแห่งดินแดนมังกรครั้งนั้น แสงของมันแทบจะทำให้นางตาพร่า!

หัวทุยเล็กกลับส่ายหัวอย่างไม่คาดคิด แม้จะมีแววตาที่ปรารถนาอยู่บ้าง แต่ก็เข้าใจดีถึงหลักการที่ว่า 'ทรัพย์สมบัติที่ดีต้องได้มาด้วยวิธีที่ถูกต้อง' จากนั้นเขาก็จูงมือนางต่อไปข้างในอย่างคล่องแคล่ว

ไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงจุดสิ้นสุดของถ้ำ พื้นที่เบื้องหน้ามีสิ่งที่คล้ายกับเตียงที่ปูด้วยหญ้าแห้ง ดูเหมือนจะเคยมีคนอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน

หัวทุยเล็กอธิบายว่า

“ได้ยินมาว่าที่นี่เคยมีคนประหลาดคนหนึ่งอาศัยอยู่ เขามีพลังฝีมือที่น่าเกรงขาม แต่ก็มีนิสัยเพี้ยนๆชอบอยู่ใต้ดิน ไม่ยอมออกไปข้างบน วันหนึ่งเขาก็หายตัวไปเฉยๆ ที่นี่จึงไม่มีใครมาอีก ท่านดูสิ ของพวกนี้คือสมบัติที่ข้าสะสมไว้!”

จินเป่าเอ๋อได้ยินดังนั้นก็ก้มมองลงไปที่พื้น สิ่งของที่นางเห็นมีทั้งเรือไม้ ของเล่นเล็กๆ และเครื่องลายครามบางอย่าง

แม้ว่างานฝีมือจะดูดีพอควร แต่วัสดุที่ใช้ล้วนเป็นของธรรมดา โดยรวมแล้วแทบไม่มีค่าอะไรเลย แต่สำหรับหัวทุยเล็กกลับเป็นสมบัติล้ำค่า...

“อืม ดีมาก!”

สมบัติของเขาได้รับคำชื่นชม หัวทุยเล็กก็ดีใจสุดๆ เพราะในภูเขาแห่งนี้ คนที่เขาได้เจอมีเพียงอาจารย์และศิษย์พี่ของเขาเท่านั้น จึงแทบไม่มีใครให้เขาได้แบ่งปันอะไรเลย

หลังจากจินเป่าเอ๋อพูดจบ นางก็ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ เพียงแต่กวาดสายตามองรอบๆอย่างไม่ใส่ใจ ไม่พบว่ามีร่องรอยของพลังวิญญาณอยู่เลย... ดูเหมือนจะเป็นถ้ำที่ปิดกั้นพลังและการสำรวจด้วยจิตได้โดยธรรมชาติ

“พวกเรา...”

ทันใดนั้นเอง ขณะที่นางกำลังจะบอกให้หัวทุยเล็กหันหลังกลับ นางก็สังเกตเห็นสีที่แตกต่างออกไปเล็กน้อยบนผนังถ้ำ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพียงภาพลวงตาหรือไม่ เมื่อจ้องมองดูชัดๆ กลับรู้สึกว่ามันมีความคล้ายคลึงกับยันต์ที่นางเคยวาดไว้บางส่วน...

แต่นางก็มั่นใจได้ว่า บนผนังนี้ไม่มีพลังวิญญาณใดๆ!

คิดดังนั้น นางจึงยกเท้าเข้าไปใกล้ผนังถ้ำ และเมื่อสังเกตเห็นร่องรอยบนผิวผนัง นางจึงยกมือขวาขึ้นแล้วสะบัดเบาๆ...

สายลมเย็นบางเบาพัดผ่านมา พัดพาฝุ่นหนาทึบบนผนังให้กระจายออก เผยให้เห็นร่องรอยลึกลับยาวเหยียดที่ซ่อนอยู่ด้านล่าง!

จินเป่าเอ๋อนิ่งไปครู่หนึ่ง... รอยสัญลักษณ์สีแดงและขาวงั้นหรือ

นางจ้องมองร่องรอยที่คดเคี้ยวไต่ขึ้นไปบนผนัง ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองไปยังความมืดที่ปลายทางซึ่งสายตานางมองไม่ถึง

ด้วยความสงสัย นางจึงก้าวถอยหลังทีละก้าวจนหลังชนกับผนังอีกด้าน จากนั้นควบคุมไข่มุกเรืองแสงให้ลอยขึ้นช้าๆ...

ในชั่วขณะนั้น ถ้ำใต้ดินค่อยๆปรากฏให้เห็นชัดขึ้น ลวดลายบนผนังก็ปรากฏออกมาอย่างเต็มที่!

นางตกตะลึง! ความตื่นเต้นท่วมท้นจนนางแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ดวงตาเบิกกว้าง มองเห็นแต่ลวดลายสัญลักษณ์ขนาดใหญ่ที่อยู่บนผนังตรงหน้า!

สุดท้ายนางก็พบว่า ผนังตรงหน้าที่ดูเหมือนหินที่ขรุขระไม่สม่ำเสมอ แท้จริงแล้วเป็นรอยสลักของยันต์ขนาดมหึมา รอยสัญลักษณ์สีแดงและขาวครอบคลุมผนังทั้งหมดแทบไม่มีช่องว่าง!

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยันต์ นางรู้ดีว่าการสร้างยันต์ที่มีความซับซ้อนระดับนี้ยากเย็นเพียงใด นางเคยวาดค่ายกลส่งข้ามทวีปขนาดใหญ่บนโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร ซึ่งต้องใช้ลวดลายยันต์ที่คล้ายคลึงกัน แต่สัญลักษณ์ตรงหน้านี้กลับใหญ่กว่า และใช้สีที่ต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่ยันต์ชนิดใดๆที่โลกนี้รู้จัก

นางตื่นเต้นจนแทบจะกลั้นความรู้สึกไว้ไม่อยู่ แต่พยายามระงับอารมณ์ ใช้สายตาจดจำลวดลายเหล่านั้นอย่างแน่วแน่ แล้วนางก็พบว่าลวดลายเหล่านี้แตกต่างจากยันต์ที่นางเคยเรียนรู้โดยสิ้นเชิง!

อย่างไรก็ตาม เมื่อนางจดจำลวดลายไปได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆสมองนางกลับว่างเปล่า จำสิ่งที่พยายามจดจำไปก่อนหน้าไม่ได้เลย

เกือบจะในทันทีที่นางกลับมาสงบจิตใจ มองไปที่ผนังอย่างเยือกเย็นอีกครั้ง พยายามลองจดจำอีกครั้ง แต่ผลลัพธ์กลับเหมือนเดิม นางจึงเข้าใจได้ถึงความล้ำลึกที่ซ่อนอยู่

ชัดเจนว่านี่คือกลไกการป้องกันตัวเองของยันต์ ไม่ใช่ใครก็ตามที่จะสามารถเรียนรู้ลวดลายบนนี้แล้วสร้างมันขึ้นมาได้!

เมื่อคิดได้ดังนั้น นางรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็กลับมาสงบในเวลาไม่นาน เพราะนางได้รับประสบการณ์มากมายแล้วในครั้งนี้  ไม่ใช่ว่าสมบัติทุกชิ้นจะต้องเป็นของนาง!

หากโชคชะตาไม่ใช่ของนาง ก็ไม่เป็นไร

นางคิดแล้วก็โบกมือปัดฝุ่นที่ยังค้างอยู่บนผนังออกจนหมด เผื่อว่าวันหนึ่ง อาจมีผู้ที่มีโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ผ่านมาเจอสัญลักษณ์นี้ และได้รับมันไปตามวาสนา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด