บทที่ 163: การประลองทักษะทางการเเพทย์!
บทที่ 163: การประลองทักษะทางการเเพทย์!
“เเพทย์กระจอก?”
“แกบอกว่าฉันเป็นเเพทย์กระจอกงั้นหรอ!”
หลินเยว่เดือดดาลเสียจนกำลังจะระเบิดใส่เซียวซิงหยู…แต่ฉินเยี่ยนหรันเดินมาถึงเสียก่อน
“เอะอะโวยวายอะไรกัน!”
“หัวหน้าฉิน น้องที่รักของคุณนี่ไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่เลยนะครับ เขากล้าด่าผมว่าเเพทย์กระจอกด้วย!”
ฉินเยี่ยนหรันเดินไปหาเซียวซิงหยู เเล้วถามเบาๆ “เซียวหยู เกิดอะไรขึ้น?”
“พี่เยี่ยนหรัน ผมทนดูฝีมือของคุณหมอหลินไม่ไหวแล้ว การฝังเข็มของเขามันหยาบมาก หาจุดฝังเข็มไม่เจอ แถมยังไปโดนกล้ามเนื้อรอบๆจนแผลเปิดอีก”
ฉินเยี่ยนหรันพยักหน้า ไม่ว่ายังไงเธอก็เชื่อใจเซียวซิงหยูอย่างสนิทใจ
“ถอยไปหลินเยว่ ให้เซียวซิงหยูรักษาสิงโตแดง”
“หัวหน้าฉิน ผม…”
“ถอยไป!”
ฉินเยี่ยนหรันจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา พร้อมน้ำเสียงเด็ดขาด
หลินเยว่จำต้องหุบปาก ถอยหลังไปสามก้าว เเต่ยังไม่วายมองเซียวซิงหยูด้วยสายตาอาฆาต
“เซียวหยู อสูรของฉันเลือดไหลไม่หยุด มันจะเป็นอะไรใหม…”
“ไม่ต้องห่วง มีฉันอยู่ อสูรของนายจะไม่เป็นไร”
“ฝากนายด้วยนะ!”
หลี่เล่อเล่อเชื่อใจเซียวซิงหยู เขานั่งลงข้างๆเเล้วลูบหัวสิงโตแดงเพื่อปลอบประโลมมัน
เซียวซิงหยูใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเครื่องมือฝังเข็ม แล้วเริ่มฝังเข็มต่อ
การฝังเข็มของเซียวซิงหยูนั้นมั่นคงและแม่นยำต่างจากฝีมืออันหยาบกระด้างของหลินเยว่อย่างมาก…ณ เวลานี้เขาราวกับเป็นหมอเทวดาคนหนึ่ง
ฟุบๆๆๆๆ!!!
เข็มเงินเจ็ดเล่มถูกฝังลงบนจุดต่างๆ จากนั้นเซียวซิงหยูก็ค่อยๆหมุนเข็มกระตุ้นจุดฝังเข็มไล่ไปทีละเล่มอย่างแม่นยำ
ตลอดการรักษา สิงโตแดงไม่ส่งเสียงร้องเลยเเม้เเต่น้อย แววตาที่หวาดกลัวในตอนนั้นเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน เเละกำลังพริ้มตาอย่างมีความสุข
สามนาทีผ่านไป
หลี่เล่อเล่อก็เช็ดน้ำตา เเล้วตะโกนด้วยความดีใจ “เลือดหยุดแล้ว! เยี่ยมไปเลย!”
เมื่อเซียวซิงหยูถอนเข็มสุดท้ายออก สิงโตแดงก็ลุกขึ้นมาส่ายหัว แล้วพ่นเลือดเสียออกมาเป็นจำนวนมาก
จากนั้น, สิงโตแดงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง มันเดินวนรอบเซียวซิงหยูอย่างอารมณ์ดี แล้วยกขาหน้าเพื่อขอบคุณผู้มีพระคุณของมัน
“ซิงหยูสุดยอดไปเลย! ไม่คิดว่านายจะฝังเข็มเป็นด้วย!”
“สมเเล้ว ที่เป็นเเพทย์พิเศษของกิลด์นภา!”
“ซิงหยู อสูรของฉันซี่โครงหัก นายช่วยรักษาให้หน่อยได้ไหม?”
เเค่เซียวซิงหยูโชว์ฝีมือเล็กๆน้อยๆ เขาก็สามารถเอาชนะใจเพื่อนๆในห้องได้อีกครั้ง
เเละตอนนี้ไม่ใช่แค่เพื่อนๆเขาเท่านั้น, เเม้เเต่สมาชิกกิลด์นภาก็ชื่นชมเซียวซิงหยูเช่นกัน
“เซียวหยู ฝีมือทางการแพทย์ของเธอนี่สุดยอดมาก หลินเยว่เทียบกับเธอไม่ได้เลย”
“หลินเยว่ นายเห็นแล้วใช่ใหม…นี่แหละเหตุผลที่นายไม่ได้เป็นเเพทย์พิเศษของกิลด์เรา”
“หึๆ…ถ้าฉันเป็นนายนะ ฉันเผ่นออกจากกิลด์นภาไปแล้ว อยู่ไปก็อายเปล่าๆ”
หลินเยว่หน้าแดงก่ำ เขารู้ดีว่าฝีมือการฝังเข็มของตัวเองสู้เซียวซิงหยูไม่ได้
เเต่เพื่อกู้หน้าเเละรักษาตำแหน่ง หลินเยว่จึงท้าเซียวซิงหยูอีกครั้ง
“เซียวซิงหยู ยังจำข้อตกลงของเราตอนกลางวันได้ไหม?”
“จำได้สิ”
หลินเยว่ตบมือ รอยยิ้มบิดเบี้ยว
“งั้นก็ดี! เรามาประลองฝีมือทางการเเพทย์กัน…ถ้าแกแพ้ แกต้องออกจากกิลด์นภา แล้วสละตำแหน่งเเพทย์พิเศษให้ฉัน!”
“ส่วนถ้าฉันแพ้ ฉันจะออกจากกิลด์นภาทันที!”
เมื่อพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ระหว่างเซียวซิงหยูกับหลินเยว่ ก็จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้อยู่ในกิลด์นภาต่อไป
ฉินเยี่ยนหรันยังคงไม่แสดงความกังวลใดๆ เพราะเธอเชื่อมั่นในน้องชายอัจฉริยะของเธออยู่เเล้ว
“หลี่ไค่ เรียกอสูรของนายออกมา”
“ครับ!”
หลี่ไค่เป็นมือขวาของฉินเยี่ยนหรัน เเละเขาเป็นถึงปรมาจารย์อสูรระดับสี่ดาว
วิ้งงงง!!!
ตราอสูรเปิดออก หลี่ไค่ได้เรียกอสูรร่างกำยำออกมา
อสูรตัวนี้มีหัวเป็นหมีสีน้ำตาล ยืนตัวตรง เเละมีความสูงกว่าแปดเมตร
บนหัวของมันมีขนสีเงิน ส่องประกายระยิบระยับภายใต้แสงจันทร์ ราวกับมีมีดสั้นสีเงินเล่มเล็กๆปักอยู่ทั่งร่างกาย
นักรบหมีสีเงิน คือชื่อของอสูรตัวนี้
มันอยู่ในระดับเหนือธรรมชาติ (ขั้นที่หนึ่ง)...มีสายเลือดระดับตำนานเเละมีพลังมากมายมหาศาล
อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ นักรบหมีสีเงินอยู่ในสภาพย่ำแย่อย่างมาก
มันนั่งพิงหลังอยู่กับพื้น ตาเหม่อลอย เเละหายใจหอบถี่
ผิวหนังเป็นสีม่วงดำ ขนที่แขนทั้งสองข้างร่วงหมด นอกจากนี้ยังมีบาดแผลขนาดใหญ่เเละลึกจนเห็นกระดูกสีขาวโพลน
ภายในบาดแผล มีเงาดำเล็กๆกำลังขยับอย่างน่าสะพรึงกลัว…พวกมันคือปรสิตที่มีพิษร้ายแรง
ทันใดนั้น ฉินเยี่ยนหรันก็กล่าวอธิบายต่อหน้าทุกคน
“ในการต่อสู้ที่หุบเขาห้าพิษ นักรบหมีสีเงินได้ปกป้องรถไฟด้วยการรับการโจมตีของราชินีวานรโลหิตไปเต็มๆ”
“การโจมตีครั้งนั้นทำให้นักรบหมีสีเงินบาดเจ็บสาหัส แขนทั้งสองข้างติดพิษ เส้นประสาทบริเวณข้อศอกถูกทำลาย…”
เซียวซิงหยูสังเกตบาดแผลที่แขนของนักรบหมีสีเงินอย่างละเอียด พร้อมเปิดใช้งานดวงตาเทพอสูร
“พิษลามไปถึงไหล่และคอแล้ว ต้องรักษาทันที…โชคดีที่ผมเอาขวดยาสีเขียวมาด้วย”
ฉินเยี่ยนหรันมองหลินเยว่ด้วยสายตาเย็นชา แล้วหันไปพยักหน้าให้เซียวซิงหยู
“การแข่งขันความสามารถทางการแพทย์ของพวกนาย จะใช้นักรบหมีสีเงินเป็นโจทย์”
“หลินเยว่ นายรักษาแขนซ้ายของนักรบหมีสีเงิน”
“เซียวซิงหยู นายรักษาแขนขวาของนักรบหมีสีเงิน”
หลินเยว่เดินออกมายืนข้างนักรบหมีสีเงิน ใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจและเย่อหยิ่ง
“หัวหน้าฉิน ช่วงหกเดือนที่ผมออกไป ไม่ใช่แค่ไปทำภารกิจกับสมาชิกกิลด์เท่านั้น…แต่ผมยังได้ไปพบปะกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาพิษมาหลายคน…”
“ด้วยความพยายามอย่างหนัก ผมจึงพัฒนาเซรุ่มแก้พิษนี้ขึ้นมา เเละผมได้ตั้งชื่อมันว่า เซรุ่มแก้พิษหลิน”
หลินเยว่เปิดกระเป๋า เเล้วหยิบขวดยาสีแดงสดออกมา
“เซรุ่มนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรกว่าร้อยชนิด…มันสามารถแก้พิษได้ทุกอย่าง!”
“หลินเยว่ เราไม่ได้มารอฟังนายคุยโวนะ…รีบเอาฝีมือมาโชว์สักทีเถอะ!” หลี่ไค่พูดอย่างหมดความอดทน
“หึๆ…หลี่ไค่ นายดูให้ดีล่ะ!”
หลินเยว่แสยะยิ้มอย่างยโส หยิบเข็มฉีดยาขึ้นมา เเล้วฉีดเซรุ่มเข้าที่แขนซ้ายของนักรบหมีสีเงินต่อหน้าทุกคน
ทันใดนั้น ยาก็เริ่มออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว
บาดแผลที่แขนซ้ายของนักรบหมีสีเงินค่อยๆสมาน ผิวหนังที่เป็นสีม่วงดำเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงอ่อน…ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่าเซรุ่มกำลังช่วยกำจัดพิษในร่างของนักรบหมีสีเงิน
กรรรร!!!
แต่ความสงบสุขของหลินเยว่กลับอยู่ได้ไม่นาน เพราะ ณ เวลานี้…นักรบหมีสีเงินเริ่มแสดงอาการเจ็บปวดออกมา
“บ้าเอ๊ย! อสูรของฉันทำไมตาเหลือก?”
“เกิดอะไรขึ้น…มันชักงั้นเหรอ?”
ห้านาทีหลังจากฉีดเซรุ่ม มันก็ได้เริ่มเกิดผลข้างเคียงขึ้น
นักรบหมีสีเงินตาเหลือก ตัวสั่น เดินโซเซไปมา
“เจ้านี่มันโดนพิษหรือว่าเป็นอะไรกันแน่เนี่ย?”
“โอ้โห นักรบหมีสีเงินตอนนี้เดินเหมือนลุงของฉันที่เป็นอัมพาตเลย!”
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ หลี่ไค่ก็หันไปจ้องมองหลินเยว่ด้วยความโกรธ
“เอ่อ…ไม่ต้องห่วง ยาของฉันแค่มีผลข้างเคียงนิดหน่อย อย่าตกใจไป” หลินเยว่พูดตะกุกตะกัก
ปู๊ด~
ปู๊ดปู๊ดปู๊ด~
“เฮ้ย! เหม็นฉิบ!”
“นี่มันตดหรืออาวุธชีวภาพวะเนี่ย?”
อาการของนักรบหมีสีเงินแย่ลงเรื่อยๆ มันไม่ใช่แค่ตาเหลือกตัวสั่น แต่มันยังตดออกมาอีกชุดใหญ่
เเถมกลิ่นตดของมันร้ายกาจราวกับอาวุธชีวภาพ
“ไอ้สารเลว, นี่มันยาบ้ายาบออะไรของเเก!” หลี่ไค่กระชากคอเสื้อหลินเยว่อย่างหมดความอดทน
เเละทันใดนั้นเอง เซียวซิงหยูที่ทนดูไม่ไหว หยิบขวดยาสีเขียวขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋า
“นี่คือยารักษาพิษทุกชนิดที่ผมพัฒนาขึ้นมาเมื่อสามวันก่อน พวกคุณเรียกมันว่าขวดยาสีเขียวก็ได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเยว่ก็เอ่ยอย่างดูถูก “ขวดยาสีเขียว?…หึหึ ตั้งชื่อเเบบนี้นี่มันของเด็กเล่นหรือเปล่า?”
“หลบไป”
เซียวซิงหยูไม่สนใจคำดูถูก เขาผลักหลินเยว่ออก เดินไปหานักรบหมีสีเงิน เปิดขวดยาสีเขียว เเล้วค่อยๆทายาน้ำที่มีกลิ่นแปลกๆลงบนบาดแผลที่แขนขวาของนักรบหมีสีเงินทันที
“ทุกคน ต่อไปนี้คือช่วงเวลาแห่งการรักษาของจริง” มุมปากของเซียวซิงหยูยกขึ้นอย่างมั่นใจ
……………………..