ตอนที่ 350 ฝากไว้ก่อนเถอะ!
ตอนที่ 350 ฝากไว้ก่อนเถอะ!
เมื่อจอมเวทย์ชุดขาวเห็นหัวซอมบี้เดดพูลที่มีชีวิตอยู่ก็เต็มไปด้วยความสยองขวัญทันที วงเวทที่กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ในมือเขาถึงกับแตกกระจายด้วยความตกใจ
เดดพูลเองก็หยุดเล่นสนุกทันทีด้วยความงุนงง ขณะที่หัวซอมบี้เดดพูลพยายามหมุนลูกตาเน่าเปื่อยไปยังจอมเวทย์ชุดขาว
ในระยะไกล เอริคกลับมองเห็นแสงแห่งความหวังอีกครั้ง หัวซอมบี้เดดพูลที่มีไวรัสซอมบี้ซึ่งเป็นไวรัสสุดอันตรายที่สามารถแพร่เชื้อได้ทั้งจักรวาล แม้แต่เทพเจ้าอย่างกาแล็คตัสก็ไม่อาจหลบหนีพ้น
ไวรัสนี้อาจดูไม่เป็นอันตรายในจักรวาลนี้สำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับจอมเวทย์ชุดขาวที่มีประสบการณ์มากมาย พวกเขาสามารถสัมผัสถึงอันตรายได้ทันที หัวซอมบี้เดดพูลจึงสร้างความรู้สึกวิกฤตที่ไม่เคยพบมานานและทำให้เขาหวาดกลัวอย่างรุนแรง
“เพื่อน นายดูเหมือนจะทำให้เขากลัวสุด ๆ นายไปแอบไปตีท้ายครัวเขามาหรือเปล่า?” เดดพูลก้มลงกระซิบกับหัวซอมบี้เดดพูล
“พูดไร้สาระ ฉันเหลือแค่หัว จะตีท้ายครัวเขาได้ยังไง? ใช้ลิ้นหรือไง? เขาคงตะลึงกับความหล่อของฉันมากกว่า เอาล่ะ ช่วยโกนหนวดให้ฉันหน่อยสิ ฉันรู้ว่านายเอามีดโกนติดมาด้วย” หัวซอมบี้เดดพูลพยายามยกคางขึ้นแต่ทำได้เพียงกลอกตาขาวที่เน่าเปื่อย
“ไม่มีปัญหาเพื่อน! เราคือเดดพูล พวกเราจะต้องดูดีที่สุดอยู่เสมอ!” เดดพูลหยิบมีดโกนออกจากกระเป๋า และในจังหวะเดียวกันเขาก็โกนผิด จนตัดเอาคางของหัวซอมบี้เดดพูลออกไปครึ่งหนึ่ง
“โอ๊ะ ขอโทษที หนังหน้าของนายมันหย่อนเกินไป แต่นายไม่ต้องห่วง ฉันรู้เคล็ดลับดูแลตัวเองนะ ใช้เบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชู . . .” เดดพูลพูดต่ออย่างหน้าตาเฉย ขณะโยนเศษคางเน่าเปื่อยใส่โล่เวทมนตร์ของจอมเวทย์ชุดขาว
จอมเวทย์ชุดขาวตกใจจนถอยหลังอย่างรวดเร็ว และก้าวออกจากโล่เวทมนตร์โดยไม่รู้ตัว พร้อมร่ายเวทมนตร์ป้องกันและทำความสะอาดตัวเองตลอดทาง “เอามันออกไปห่าง ๆ จากข้า!”
“โทนี่!” เอริคตะโกนร้องเรียกด้วยเสียงดัง พร้อมกับพลังเทพของเขาที่ถูกแปลงเป็นสนามแรงโน้มถ่วงมหาศาลกดทับจอมเวทย์ชุดขาวจนเขาขยับไม่ได้
โทนี่ซึ่งเตรียมพร้อมมานานแล้ว ชาร์จพลังจากเตาปฏิกรณ์อาร์คก้อนสุดท้ายเข้าสู่ปืนใหญ่อันทรงพลังเต็มกำลัง แน่นอนว่าเมื่อพลังงานนี้หมดลงเมื่อใด ชุดเกราะของเขาจะไม่สามารถรักษาชีวิตของเขาได้อีกต่อไป แต่เขาก็ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อการโจมตีครั้งนี้
ตูม!!!
ลำแสงพลังพุ่งใส่จอมเวทย์ชุดขาวที่ไม่สามารถหลบหรือป้องกันได้ คราวนี้เขาต้องรับการโจมตีอย่างเต็มที่
ในขณะเดียวกันเอริคก็ควบคุมพื้นที่โดยรอบเพื่อบีบการระเบิดให้เหลือเพียงรัศมีสองเมตร ทำให้บริเวณนั้นดูเหมือนมีดวงอาทิตย์ลุกโชนอยู่ตลอดเวลาไม่มีผิด
เมื่อทุกอย่างสงบลงจอมเวทย์ชุดขาวหายไปจากจุดเดิมที่เขาอยู่ . . .
“เขาตายแล้วหรือ?” ซิฟที่ซ่อนตัวอยู่ในห่างไกลออกไปถามพลางมองไปรอบ ๆ
“น่าจะใช่ ไม่มีใครรอดจากการระเบิดที่รุนแรงขนาดนั้นได้” โทนี่ซึ่งชุดเกราะไร้พลังงานตอบขณะนั่งหมดแรงบนพื้น
“อย่าเพิ่งประมาท!” โอดินยังคงระวังตัว ขณะที่เอริคเองก็มีสีหน้าเคร่งเครียด “ร่างกายถูกทำลายไปแล้ว แต่ปัญหาคือวิญญาณ!”
“อะไรนะ?” ธอร์ถามด้วยความสงสัย พลางยันตัวลุกขึ้นด้วยค้อนสายฟ้า
ทันใดนั้นเสียงของจอมเวทย์ชุดขาวก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ฮ่า ๆ เจ้าพวกโง่!”
ร่างวิญญาณโปร่งแสงของจอมเวทย์ชุดขาวปรากฏขึ้นข้างโอดิน แม้ร่างกายจะถูกทำลายเป็นผุยผง แต่เขาก็ยังคงร่ายเวทมนตร์อย่างชำนาญ
“ว้าว ผีสุดเจ๋ง! นายเดินทะลุกำแพงได้ไหม? เข้าห้องอาบน้ำหญิงได้รึเปล่า?” เดดพูลชูหัวซอมบี้เดดพูลเข้าไปใกล้เพื่อขู่เขาอีกครั้ง
แต่จอมเวทย์ชุดขาวซึ่งไม่มีร่างกายแล้วไม่กลัวไวรัสอีกต่อไป เขาสะบัดมือสร้างหินโม่ยักษ์บดเดดพูลไว้ข้างใต้ พร้อมหมุนอย่างช้า ๆ
“เจ้าพวกโง่! ข้าต้องยอมสละร่างเพราะพวกเจ้า!” จอมเวทย์ชุดขาวยิ้มเยาะ พลางใช้เท้าถีบหัวซอมบี้เดดพูลเข้าไปในหินโม่
ตูม!
ลำแสงสีขาวพุ่งเข้าใส่หินโม่จนแตกกระจาย เดดพูลและหัวซอมบี้เดดพูลจะถูกพลังมองไม่เห็นดึงกลับมา ก่อนที่เอริคจะก้าวเข้ามาใกล้พร้อมกับแสดงพลังเทพที่ไหลเวียนรอบตัวอย่างเต็มที่
“ดีเลย! เพราะฉันกำลังรอเวลาที่นายไม่มีร่างกายอยู่นี่แหละ!” เอริคแสยะยิ้ม ก่อนจะพุ่งแทงด้วยหอกแห่งวัฏจักร ทันใดนั้นพลังแห่งวัฏจักรก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าจอมเวทย์ชุดขาวอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงระหว่างวัตถุและพลังงานอีกต่อไป แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงระหว่างสิ่งสมมติและความจริง
“นี่มันพลังอะไรกัน? เจ้าเป็นใครกันแน่? ทำไมในวัฏจักรที่ผ่านมา ข้าถึงไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อนเลย?” จอมเวทย์ชุดขาวดิ้นรนสุดชีวิต พร้อมร่ายเวทมนตร์นานาชนิดอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันตัว
แต่เขาในตอนนี้เป็นเพียงเสี้ยววิญญาณที่ส่งมาจากร่างกายหลัก และไม่มีพลังงานจากร่างกายมาหล่อเลี้ยง พลังเวทของเขาจึงไม่อาจต้านทานพลังของเอริค ผู้ที่รวมพลังเทพของราชาแห่งแอสการ์ดสามยุคไว้ในร่างเดียวได้
วิญญาณของจอมเวทย์ชุดขาวถูกพลังแห่งวัฏจักรฉีกกระชาก บิดเบี้ยว เปลี่ยนจากสิ่งสมมติให้กลายเป็นความจริงในพริบตา ซึ่งเอริคก็ไม่ได้พูดตอบโต้อะไรอีก เขาเพียงจ้องมองการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของจอมเวทย์ชุดขาวด้วยแววตาเยือกเย็น
“นี่แหละคือพลังแห่งความจริง พลังแห่งอีเธอร์” โอดินพึมพำเบา ๆ ราวกับกำลังอธิบายบางสิ่งให้ใครบางคนฟัง
ธอร์ที่ยืนอยู่ด้านซ้ายของโอดินมีสีหน้าสับสน ขณะที่โทนี่ซึ่งถูกซิฟประคองมายังด้านขวาของโอดินก็แสดงสีหน้าครุ่นคิด “อีเธอร์? ความจริง? มันคืออะไร? สนามพลังพิเศษบางอย่างงั้นเหรอ? มันมีผลต่อวิญญาณได้ยังไง? วิญญาณมีจริงงั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นมันเป็นรูปแบบของอนุภาคหรือพลังงานกันแน่ . . .”
พลังเวทของจอมเวทย์ชุดขาวไม่สามารถทำอะไรได้เลยต่อพลังแห่งวัฏจักร วิญญาณของเขาค่อย ๆ ถูกทำให้แน่นิ่ง แข็งตัว และเปลี่ยนเป็นสารบางอย่างที่ไม่รู้จัก
เมื่อเอริคลดหอกแห่งวัฏจักรลง จอมเวทย์ชุดขาวที่ถูกกักขังอยู่ก็มีสีหน้าหวาดหวั่น เขาร่ายเวทมนตร์อย่างรวดเร็วเพื่อพยายามกลับคืนสู่สภาพวิญญาณ
“สายไปแล้ว!” เอริคตะโกน พร้อมกับดึงมีดสายรุ้งออกมาจากเอวของเขา และใช้จังหวะที่จอมเวทย์ชุดขาวตกตะลึงแทงมีดเข้าไปในอกของเขา พร้อมกับพลังเทพแห่งแอสการ์ดและพลังของเอริคเองที่หลั่งไหลสู่มีดนั้นอย่างเต็มที่
อดีต ปัจจุบัน และอนาคต!
พลังที่เป็นตัวแทนของสามยุคสมัยหลอมรวมในมือของคนที่ไม่ใช่ครอบครองตัวจริง และเปล่งประกายออกมาอย่างยิ่งใหญ่ ทันใดนั้นพลังแห่งสะพานสายรุ้งก็ถูกกระตุ้นเชื่อมต่อกับต้นไม้โลก พร้อมกับพลังงานมหาศาลที่ถ่ายทอดมาจากระยะไกล โดยที่เอริคปล่อยให้พลังนั้นหลั่งไหลออกมาโดยไม่หยุดยั้ง
ตูม!!
เมื่อพลังงานถึงจุดสูงสุด มีดสายรุ้งก็ไม่สามารถทนต่อแรงกดดันได้อีกต่อไป และระเบิดออกทันที การระเบิดนี้เป็นเหมือนตัวชนวนที่จุดให้ร่างกายของจอมเวทย์ชุดขาวทั้งหมดระเบิดตามมาติด ๆ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ!” จอมเวทย์ชุดขาวทิ้งคำขู่สุดท้ายไว้ก่อนที่ร่างของเขาจะแตกสลายเป็นชิ้น ๆ
โปรดติดตามตอนต่อไป …