ตอนที่ 24 ความรักของเด็กสาว
ณ คุกใต้ดินในจวนองครักษ์เสื้อแพร ที่ตั้งของคุกมืด
กึก กึก กึก
ฝีเท้าของเจียงจ้านดังก้องไปตามทางเดินใต้ดินอันมืดมิด ไร้ซึ่งแสงสว่าง สองข้างทางมีห้องขังมากมาย ลูกกรงหนาเท่าแขน ภายในมีเพียงฟางแห้ง
ในกองฟางเหล่านั้นมีเงาดำ ๆ กลิ้งเกลือกอยู่ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า พวกเขาก็รีบคลานออกมาพร้อมตะโกน “ท่านหัวหน้า ได้โปรดกราบทูลฝ่าบาท ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว! ข้าน้อยไม่กล้าอีกแล้ว! ขอท่านไว้ชีวิตข้าน้อยด้วย!”
ไม่รู้ว่าคนพวกนี้ถูกขังมานานเท่าไหร่ พวกเขาดูไม่เหมือนมนุษย์ ราวกับผีหิวโหย
เจียงจ้านชินกับภาพเหล่านี้อย่างดี เขาไม่สนใจพวกมัน เดินตรงไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของคุกมืด
ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ คนในห้องขังก็ยิ่งน่าเวทนายิ่งขึ้น นักโทษบางคนที่เพิ่งถูกทรมานนอนหายใจรวยริน เลือดไหลนองพื้น ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง
เจียงจ้านไม่สนใจสิ่งใด เดินต่อไปจนถึงส่วนลึกสุดของคุกมืด ที่นี่มีการป้องกันที่แน่นหนา ห้องขังทำจากเหล็กกล้าทั้งหมด ไม่ว่าจเป็นประตูหรือกุญแจ
“ท่านหัวหน้า” ทหารยามที่เฝ้าห้องขังรีบคารวะ
เจียงจ้านมองลอดช่องเล็ก ๆ บนประตูเหล็ก ก่อนจะกล่าว “เปิดประตู”
แกร๊ก เสียงไขกุญแจดังขึ้น เจียงจ้านเดินเข้าไป
มีผู้คุมสองคนนั่งคุมกันที่นี่ เมื่อเห็นเจียงจ้านก็รีบลุกขึ้น
“ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
“ไม่มีขอรับ”
“เช่นนั้นพวกเจ้าออกไปก่อน”
หลังจากที่คนของเขาออกไป เจียงจ้านก็เดินไปที่มุมหนึ่งของห้องขัง ที่นี่มีชั้นวางเหล็กสีดำรูปร่างประหลาด มีโซ่เหล็กเส้นหนามากมายล่ามร่างของชายคนหนึ่งไว้
โซ่เหล็กแทงทะลุผิวหนังและยึดติดกับกระดูกไหปลาร้า ซี่โครง กระดูกขา และข้อมือ ร่างกายของชายคนนั้นเต็มไปด้วยบาดแผล
เจียงจ้านมองดูเขาอย่างใจเย็น “เถี่ยเซียว วิธีการขององครักษ์เสื้อแพรเป็นเช่นไรหรือ? เทียบกับเจ้า ปีศาจร้ายที่ชอบฆ่าคน องครักษ์เสื้อแพรยังคงใจดีกว่ามาก”
อีกฝ่ายไม่สนใจเขา หลับตาลงราวกับว่าตายไปแล้ว
เจียงจ้านกล่าวต่อ “ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะมีลูกสาว ฮ่า ๆ ตอนนี้องครักษ์เสื้อแพรกำลังสืบหาตัวนาง คงได้เจอในไม่ช้า”
เมื่อเถี่ยเซียวได้ยินเช่นนี้ เขาก็ลืมตาขึ้นทันที ดวงตาของเขาแดงก่ำ น่ากลัวอย่างมาก
“ก็งั้น ๆ ทำไมไม่โหดร้ายกว่านี้ละ? หวังว่าพวกเจ้าจะไม่แตะต้องลูกสาวข้า มิเช่นนั้นต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็จะฆ่าล้างตระกูลพวกเจ้า!”
“ฆ่าล้างตระกูลข้า?” เจียงจ้านหัวเราะลั่น “องครักษ์เสื้อแพรมีตั้งแสนคน พวกเราล้วนภักดีต่อฮ่องเต้ ต่อให้ข้าตายก็ยังมีคนอื่น เจ้าจะฆ่าพวกเราได้หมดหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น หากฆ่าพวกเราหมด…”
เจียงจ้านเผยยิ้มร้าย “แล้วใครจะจัดหายาให้เจ้า? เจ้าจะทนได้กี่วันหากไม่มีมัน?”
“อ๊ากก!” เถี่ยเซียวดิ้นรนอย่างรุนแรงและคำรามลั่น
ทว่าความบ้าคลั่งของตัวเองกลับทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งขึ้น เลือดไหลออกจากบาดแผลเต็มตัว ไม่นานนักเขาก็สงบลงและกล่าว “พวกเจ้ามันหน้าไม่อาย ใช้วิธีสกปรกเช่นนี้!”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มอ่อนลง เจียงจ้านก็เผยยิ้มจาง ๆ หยิบยาสูบขึ้นมาจุดไฟ สูบสองสามครั้ง “ยาสูบรอบนี้คุณภาพดีมาก”
เถี่ยเซียวได้กลิ่นยาสูบก็สูดหายใจเข้าลึก “พวกเจ้าไม่ฆ่าข้า ไม่ทำลายพลังบ่มเพาะข้า แถมยังทำให้ข้าติดยา…ข้ารู้ว่าพวกเจ้าต้องการอะไร รีบพูดมา”
เจียงจ้านนำกล้องยาสูบใส่ปากของเถี่ยเซียว จากนั้นก็กล่าว “พี่ชายของเจ้า จ้าวอี้จั๋วกำลังจะไปท้าประลอง เขาคงอยากประลองเพลงเตะกับอีกฝ่าย แต่พวกเราต้องการให้คนผู้นั้นตาย!”
เถี่ยเซียวสูบสองครั้ง “เรื่องเล็กน้อย เจ้าอยากให้เขาตายแบบไหน? ตายอย่างเปิดเผย ตายอย่างลับ ๆ หรือถูกทรมานจนตายก็ได้”
“ตายอย่างเปิดเผย ในนามของเจ้า…”
เมืองเจิ้นหนาน จวนอ๋องลู่
ดอกไม้ทะเลสีทองร่วงโรย กลีบดอกสีทองเหี่ยวเฉา นำพาเมล็ดเล็ก ๆ ปลิวไปตามลม เมื่อสายลมพัดผ่าน จะเห็นกลีบดอกสีทองปลิวว่อนเต็มท้องนภา สวยงามราวกับภาพวาด
“สวยจัง” หยวนหยาง สาวใช้ในชุดสีฟ้าอ่อนมองดูภาพอันงดงาม
นับตั้งแต่ลู่เฉินจับจวี้เซียง สายลับองครักษ์เสื้อแพรและช่วยหยวนหยางไว้ได้ สาวใช้คนนี้ก็ชอบมาหาเขาโดยไม่มีเหตุผล
สาวใช้สองคนของลู่เฉิน ชุนฮวาและชิวเยว่ยังเด็กมาก ส่วนหยวนหยางอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปด รูปร่างบอบบางน่ามอง
ลู่เฉินพอจะเดาความคิดของนางออกแต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจอะไร ในเมื่อมีสาวหน้าตาดี รูปร่างก็งามข้างกาย เช่นนั้นก็มาช่วยเขาปลูกดอกไม้ไปก็แล้วกัน
ลู่อัน คนสวนก็มองดูกลีบดอกที่ปลิวว่อนไปตามลม เขามองกิ่งก้านที่แห้งเหี่ยวแล้วเอ่ยถาม “คุณชาย พวกเราจะปลูกดอกไม้ทะเลสีทองต่อไหมขอรับ?”
ลู่เฉินเอื้อมมือคว้ากลีบดอกมาหนึ่งอัน ก่อนจะโยนมันทิ้ง “ดอกไม้ทะเลสีทองระดับต่ำเกินไป ครั้งหน้าไม่ต้องปลูกแล้ว ในสวนดอกไม้สองหมู่นี้พวกเราจะปลูกเถาวัลย์โลหิต”
เถาวัลย์โลหิตเป็นพืชระดับสูง ลู่เฉินเคยปลูกมันในระหว่างการจำลอง เขาจึงค่อนข้างคุ้นเคย
“ขอรับ ข้าน้อยจะไปซื้อต้นกล้าเถาวัลย์โลหิต” ลู่อันพยักหน้า “แล้วสวนดอกไม้อีกสองหมู่ที่เพิ่งบุกเบิกจะปลูกอะไรดีขอรับ?”
ลู่เฉินกล่าว “ปลูกต้นไม้ ข้าจะปลูกต้นจันทน์หอมสีทอง”
ต้นจันทน์หอมสีทองเป็นพืชระดับสูง ที่สำคัญ ลู่เฉินค้นพบในการจำลองว่าการปลูกต้นจันทน์หอมสีทองและต้นโพธิ์ไว้ด้วยกันจะช่วยในการบ่มเพาะ
“ต้นจันทน์หอมสีทอง?” ลู่อันส่ายหน้า “นั่นเป็นของล้ำค่า หายากมาก ข้าได้ยินมาว่ามีอยู่ลึกเข้าไปในป่า แต่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน”
ลู่เฉินกล่าว “ข้าขอให้ท่านพ่อช่วยหาให้แล้ว”
“หากท่านอ๋องช่วยเหลือ คงจะหาง่ายขึ้น”
ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ชายร่างกำยำคนหนึ่งก็เดินกระเผลกเข้ามาพร้อมกล่าว “คุณชาย วันนี้มีอะไรให้ข้ารับใช้หรือไม่?”
ผู้ที่เข้ามาคือจ้าวเหลย หัวหน้าองครักษ์
ว่ากันว่ากระดูกหักต้องใช้เวลาพักฟื้นร้อยวัน แต่โลกนี้มียาชั้นเลิศมากมาย อ๋องลู่หายามารักษาจ้าวเหลย ทำให้เขาสามารถลุกขึ้นเดินได้ในเวลาไม่ถึงสิบกว่าวัน
ตอนนี้จ้าวเหลยมาหาลู่เฉินทุกวัน คอยช่วยเขาพรวนดินและรอคอยให้ลู่เฉินสอนเพลงเตะ
ลู่เฉินพูดด้วยความลำบากใจ “อาเหลย ท่านไม่เป็นอะไรแล้วใช่หรือไม่? เห็นท่านเดินกระเผลก คงต้องพักผ่อนอีกสักหน่อยกระมัง”
จ้าวเหลยหัวเราะ “หายดีแล้วขอรับ แค่ยังเจ็บอยู่บ้าง อีกไม่กี่วันก็คงหายสนิท”
“เช่นนั้นก็ช่วยกันถอนต้นดอกไม้ทะเลสีทอง เตรียมดิน ใส่ปุ๋ย เตรียมปลูกต้นไม้รอบต่อไป”
“ปลูกอะไรหรือขอรับ?”
“เถาวัลย์โลหิต…”
สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ต้นกล้าเถาวัลย์โลหิตที่ลู่อันสั่งซื้อก็ถูกส่งมาถึง ลู่อันกำลังสั่งให้บ่าวไพร่ขนย้ายต้นกล้า
อีกด้านหนึ่ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ จ้าวเหลยหายดีสนิท เขาไม่เดินกระเผลกอีกต่อไป
“เอาล่ะ ข้าจะเริ่มสอนท่านก็ได้ ท่านลองใช้เพลงเตะวายุของตระกูลท่านก่อน”
จ้าวเหลยรอคอยมานานกว่าสิบวัน ในที่สุดเขาก็จะได้รับคำแนะนำจากคุณชาย เขาดีใจมาก รีบใช้เพลงเตะวายุของตระกูลทันที
ลู่เฉินรอจนกระทั่งเขาแสดงเพลงเตะเสร็จ จึงเลียนแบบท่าทางของเขา
แม้ว่าเขาจะไม่เคยเรียนเพลงเตะวายุมาก่อน แต่วิชาเตะวายุอัสนีของเขาก็บรรลุขั้นสูงแล้ว วิชาเพลงเตะนั้นเชื่อมโยงกัน เขาจึงสามารถเข้าใจเพลงเตะวายุได้
ไม่นานนัก ลู่เฉินก็คิดออก
“เพลงเตะวายุของท่านไม่มีปัญหา แต่ที่สำคัญคือเพลงเตะวายุนั้นมีระดับต่ำเกินไป วิธีการใช้พลังและท่วงท่าบางอย่างยังไม่ต่อเนื่อง…”
ลู่เฉินนำวิธีการใช้เพลงเตะวายุอัสนีมาปรับใช้กับเพลงเตะวายุเล็กน้อย หลังจากที่จ้าวเหลยฝึกฝนอีกครั้ง เขาก็รู้สึกพอใจมาก
“คุณชาย ข้าฝึกฝนมาหลายปีไม่เคยมีใครแนะนำ ขอบคุณท่านมาก!” จ้าวเหลยดีใจมากและยังคงฝึกฝนต่อไป
เนื่องจากการปรับเปลี่ยนวิธีการใช้พลัง เพลงเตะของเขาเริ่มมีเสียงลมปราณดังลอด ทำให้เขายิ่งตื่นเต้นมากขึ้น