ตอนที่แล้วตอนที่ 19 ใครก็ตามที่ทำลายสวนดอกไม้ของข้าต้องตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21 นักเตะอันดับหนึ่งในใต้หล้า

ตอนที่ 20 ได้รับยันต์เซียน


ศาลาริมน้ำ

ยามราตรี ดวงจันทร์กลมโตส่องแสงสะท้อนผิวน้ำ บรรยากาศเงียบสงบ มีเสียงกบร้องดังมาจากสระบัว นับเป็นค่ำคืนฤดูใบไม้ร่วงที่งดงาม

ลู่โฉ่วอี๋นั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้ ลู่เฉินนั่งอยู่ข้าง ๆ ส่วนฮูหยินหลิวกำลังรินชาให้พวกเขา

ลู่เฉินยิ้ม “ท่านแม่ อย่าได้ลำบาก ท่านแม่นั่งลงเถอะ”

ฮูหยินหลิวยิ้ม “เฉินเอ๋อร์ ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเก่งกาจถึงเพียงนี้ แม้แต่คนที่จ้าวเหลยยังสู้ไม่ได้ เจ้ากลับจัดการได้อย่างง่ายดาย”

ลู่เฉินยิ้ม “ข้าฝึกฝนอย่างหนักมาเป็นเดือน ฝางเจิ้นฝูนั่นมันก็แค่คนขี้โกง อาเหลยไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลยสักนิด”

“อืม” ฮูหยินหลิวพยักหน้าพร้อมยิ้ม “บุตรชายที่ข้าให้กำเนิดมาไม่ธรรมดาจริง ๆ เพียงแค่ฝึกฝนเดือนเดียวยังเก่งกาจกว่าคนพวกนั้นที่ฝึกฝนมาเป็นสิบปี”

“ฮ่า ๆ ใช่แล้วขอรับ”

ลู่โฉ่วอี๋ขมวดคิ้ว “ฮูหยินของข้า ค่ำมืดขนาดนี้แล้ว สุขภาพเจ้ายังไม่ค่อยดี เช่นนั้นกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

“ก็ได้”

เมื่อเห็นฮูหยินหลิวลุกขึ้นและเดินจากไป ลู่โฉ่วอี๋ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฝึกฝนเพียงเดือนเดียวยังเหนือกว่าคนอื่นที่ฝึกฝนมาเป็นสิบปี? เฉินเอ๋อร์ คำพูดนี้เจ้าคงหลอกได้แค่แม่ของเจ้า…”

ลู่เฉินยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย “ท่านพ่อไม่เชื่อลูกชายของท่านเองหรือขอรับ?”

ลู่โฉ่วอี๋มองเห็นสีหน้าจริงจังของลู่เฉินจึงถามอย่างสงสัย “เจ้าฝึกฝนเพียงเดือนเดียวก็เก่งกาจขนาดนี้แล้วหรือ? ระดับบ่มเพาะของเจ้าก็พัฒนาขึ้นได้ในเดือนเดียว?”

ลู่เฉินเงยหน้ามองดวงจันทร์ “จริงขอรับ เดือนกว่าก่อนหน้านี้ข้ายังสู้ใครไม่ได้ หากท่านพ่อไม่เชื่อ ข้าสาบานต่อหน้าดวงจันทร์ก็ได้”

“นี่มัน…” ลู่โฉ่วอี๋พูดไม่ออก

เดิมทีเขาอยากจะถามว่าลู่เฉินได้พลังและวิชามาจากไหน แต่ตอนนี้ลู่เฉินกลับยืนยันว่าเขาเรียนรู้มันในช่วงเดือนที่ผ่านมา

เขาคงไม่คิดให้ลู่เฉินสาบานต่อหน้าพระจันทร์จริง ๆ หรอก แท้จริงแล้วลู่เฉินไม่ได้โกหก เขาเป็นคนไร้ค่าเมื่อเดือนที่แล้วจริง ๆ เพียงแต่ตอนนี้เขาได้รับรางวัลจากระบบ

“เช่นนั้นคงต้องขอบคุณอาจารย์ของเฉินเอ๋อร์แล้วสินะ” ลู่โฉ่วอี๋กล่าว

“ใช่แล้วขอรับ” ลู่เฉินคิดในใจ อาจารย์ของข้าก็คือระบบ!

ลู่โฉ่วอี๋อยากจะคุยกับลู่เฉิน ถามว่าเขาฝึกฝนมาตั้งแต่เมื่อไหร่และเรียนรู้เพลงเตะได้อย่างไร…แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงหยุดบทสนทนาไว้เพียงเท่านี้

ลู่เฉินฝึกฝนมาได้เดือนกว่า แถมยังได้รับการสั่งสอนจากอาจารย์ลึกลับ เช่นนั้นเขาก็จนปัญญา

ลู่โฉ่วอี๋จิบชาพลางกล่าวอย่างจนใจ “ดึกมากแล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ”

“ขอรับ” ลู่เฉินอยากกลับตั้งนานแล้ว เพราะอยากรีบกลับไปรับรางวัลจากระบบ

เมื่อลู่เฉินจากไป ลู่โฉ่วอี๋นั่งเอนกายจิบชาพลางชมจันทร์อยู่คนเดียว หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พึมพำกับตัวเอง “เป็นไปได้หรือที่คนเราจะฝึกฝนเพลงเตะขั้นเซียนและมีระดับบ่มเพาะก่อกำเนิดขั้นแปดได้ในเวลาเพียงเดือนเดียว?”

ทันทีที่เขาพูดจบ บัณฑิตวัยกลางคนผู้ไว้หนวดเคราแพะก็เดินออกมาจากความมืดด้านหลัง เขายิ้มพร้อมกล่าว “ตามหลักทฤษฎีแล้วเป็นไปไม่ได้ แต่หากได้พบกับผู้บ่มเพาะเซียนก็เป็นอีกเรื่อง”

ลู่โฉ่วอี๋หันกลับไปมอง “ท่านเหมิงเซียน ท่านกลับมาแล้ว! เป็นอย่างไรบ้าง?”

เหมิงเซียนยิ้ม “ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของท่านอ๋อง เช้าวันพรุ่งนี้ ฮ่องเต้คงต้องแปลกใจไม่น้อย!”

“ฮ่า ๆ ๆ ดี!” ลู่โฉ่วอี๋เผยสีหน้ายินดี

ทันใดนั้น เขาก็เล่าเรื่องของลู่เฉินให้เหมิงเซียนฟัง เหมิงเซียนผู้นี้ไม่ใช่ผู้บ่มเพาะธรรมดา เขาเป็นผู้บ่มเพาะเซียน วิสัยทัศน์และความสามารถของเขานั้นเหนือกว่าคนทั่วไป

เหมิงเซียนพยักหน้า “หากข้าเดาไม่ผิด บุตรชายของท่านคงได้พบกับผู้บ่มเพาะเซียนเป็นแน่ วิธีการของผู้บ่มเพาะเซียนนั้นเกินกว่าที่ท่านจะจินตนาการได้ พวกเขามียาและอาวุธวิเศษมากมาย การที่คนเราจะกลายเป็นยอดฝีมือในชั่วข้ามคืนไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วนับประสาอะไรกับแค่เดือนกว่า?”

ลู่โฉ่วอี๋รู้สึกตัว “ดูเหมือนว่าเฉินเอ๋อร์จะไม่ได้โกหกข้า”

จากนั้นเขาก็มองไปที่เหมิงเซียนด้วยความคาดหวัง “ท่านเหมิงเซียน พวกเราสนิทกันมานาน อีกอย่าง ข้าก็เป็นน้องเขยของท่าน ด้วยความสามารถของท่าน ท่านพอจะทำให้ข้าเป็นผู้บ่มเพาะเซียนได้บ้างหรือไม่? หากเป็นไปได้ ข้าจะสละทุกอย่าง!”

เหมิงเซียนส่ายหน้า “หากต้องการเป็นผู้บ่มเพาะเซียน จำต้องมีรากวิญญาณเซียน ข้าเคยตรวจสอบให้ท่านแล้ว ท่านไม่มีรากวิญญาณเซียน หากข้ามีความสามารถเช่นนั้น ข้าคงสอนน้องสาวข้าไปนานแล้ว…”

“เฮ้อ!” ลู่โฉ่วอี๋เคยขอร้องเหมิงเซียนหลายหนแต่ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือในด้านนี้เสียที

เขาได้แต่ถอนหายใจ

เหมิงเซียนยิ้ม “แม้ว่าท่านจะไม่มีรากวิญญาณเซียน แต่ฟ่านเอ๋อร์มีรากวิญญาณสี่ธาตุเหมือนกับข้า อีกหนึ่งปี เมื่อเขาอายุครบแปดขวบ เขาจะได้ฝึกฝนกับข้า”

ใบหน้าของลู่โฉ่วอี๋มีรอยยิ้ม เขากล่าว “บุตรชายข้าทุกคนล้วนเก่งกาจ แต่ฟ่านเอ๋อร์เป็นเลิศที่สุด ข้าจะยกตำแหน่งรัชทายาทให้เขา! ส่วนเหมิงหง ไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะรับนางเข้าจวน”

เหมิงเซียนพยักหน้า “น้องสาวข้าไม่มีรากวิญญาณเซียน ไม่อาจเป็นผู้บ่มเพาะเซียนได้ ข้าหวังเพียงให้นางมีชีวิตที่ดี”

“ท่านเหมิงเซียนโปรดวางใจ ข้า ลู่โฉ่วอี๋ จะไม่ทำให้นางผิดหวัง!”

ขณะเดียวกัน ลู่เฉินก็กลับไปยังกระท่อมในสวนดอกไม้ ชุนฮวาและชิวเยว่ยังคงรอเขาอยู่

“ดึกแล้ว พวกเจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ” ลู่เฉินให้สาวใช้ทั้งสองกลับไปพัก จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิบนเตียง “ระบบ”

[กำจัดภัยร้าย ท่านสังหารองครักษ์เสื้อแพรที่เป็นศัตรูได้สำเร็จ ระบบจะมอบหัวข้อรางวัลสามอย่าง โปรดเลือกมาหนึ่งอย่าง:

วิชากระบี่ขั้นสูง “วิชากระบี่ปักปิ่น”

ยันต์ระดับต่ำ “ยันต์ไฟ” (สามแผ่น)

ชุดเกราะ “ชุดเกราะแรด” ]

ลู่เฉินมองดูรางวัลทั้งสามอย่างและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

อย่างแรก วิชากระบี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ พลังทำลายล้างของวิชากระบี่ย่อมมากกว่าเพลงเตะ

อย่างที่สอง ยันต์ไฟนี้เองก็น่าสนใจไม่น้อย สิ่งนี้คือ “วิชาเซียน” ขว้างลูกไฟเผาอีกฝ่ายให้ตาย

อย่างที่สาม ชุดเกราะแรดก็เป็นของวิเศษที่ใช้ป้องกันตัว

ลู่เฉินคิดอยู่นานก่อนตัดสินใจ

“ข้าเลือกข้อสอง” เขาทนต่อสิ่งลี้ลับของเซียนไม่ได้ จึงเลือกยันต์ไฟสามแผ่น

แสงวาบสว่างขึ้น ยันต์ไฟสามแผ่นตกลงบนฝ่ามือของเขา ยันต์ทั้งสามเป็นกระดาษสีเหลืองกว้างสองนิ้ว มีอักขระต่าง ๆ ที่เขาไม่เข้าใจเขียนด้วยเลือดสีชาด

“ยันต์ของผู้บ่มเพาะเซียน!” ลู่เฉินดีใจมาก วิชากระบี่ปักปิ่นและชุดเกราะแรดเป็นสมบัติของผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดา มีเพียงยันต์เท่านั้นที่เป็นของผู้บ่มเพาะเซียน

ทว่า เมื่อลู่เฉินอยากทดลองใช้ กลับพบว่ามันใช้การไม่ได้

การจะใช้งานยันต์ได้ต้องมีระดับบ่มเพาะหลอมรวมปราณ กล่าวคือ ผู้บ่มเพาะเซียนระดับต่ำสุดเท่านั้นจึงจะใช้ได้

ลู่เฉินอยู่ที่ระดับก่อกำเนิดขั้นแปด ยังคงเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ เขาจึงไม่สามารถใช้งานมันได้ในขณะนี้

“บัดซบ! ขนาดยันต์กระดาษแผ่นเดียวก็ยังกลั่นแกล้งข้า!” แม้ว่าจะยังใช้ไม่ได้ แต่ลู่เฉินก็ไม่เสียใจ อย่างไรเสียสักวันเขาก็ต้องได้ใช้มัน

“หากอยากใช้มันเร็ว ๆ ก็ต้องรีบเพิ่มระดับบ่มเพาะ”

ลู่เฉินไม่จำเป็นต้องฝึกฝน เพียงแค่รอเวลา ขอเพียงเขาอยู่บ้านผ่านไปอีกวัน เขาก็จะได้รับประสบการณ์บ่มเพาะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปี

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เขาอยู่บ้านอย่างเบื่อหน่ายและคอยดูแลดอกไม้ทะเลสีทองทุกวัน ดอกไม้ทะเลสีทองมีระยะเวลาการบานประมาณหนึ่งสัปดาห์ หลังจากเจ็ดวัน กลีบดอกสีทองก็จะร่วงโรย ปลิวล่องไปตามแรงลม นำพาเมล็ดพันธุ์ไปทั่วทุกสารทิศ

ลู่เฉินไม่ได้ออกไปไหน เขาจึงไม่รู้เรื่องราวภายนอก ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เมืองเจิ้นหนานและจักรวรรดิต้าเฉียนต่างก็มีข่าวใหญ่สะเทือนโลก

หนึ่งในนั้นเกี่ยวข้องกับลู่เฉิน ว่ากันว่าคุณชายเจ็ดแห่งจวนอ๋องเจิ้นหนานที่เคยเป็นคนไร้ค่า บัดนี้กลับกลายเป็นยอดฝีมือเพลงเตะที่สามารถเตะองครักษ์เสื้อแพรจนตาย

ส่วนอีกข่าวหนึ่งนั้นน่าตกตะลึงยิ่งกว่า กองทัพปราบปรามชนเผ่าที่กำลังมุ่งหน้ามาล้อมเมืองเจิ้นหนานถูกซุ่มโจมตีกลางทาง ส่งผลให้ทหารสามหมื่นนายถูกสังหารในคืนเดียว!

5 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด