ตอนที่ 20 หัวหน้าทีมและเพื่อนร่วมทีม

เมื่อชูอิจิ โฮชิตะกลับมาถึงบ้านในคืนนั้น เขาล้างหน้าล้างตาและรับประทานอาหารเย็นก่อนจะเริ่มต้นพยายามดัดแปลงปราสาทแห่งความทรงจำให้กลายเป็นเทคนิคนินจุทสึหรือเทคนิคผนึกอย่างเต็มรูปแบบ

งานนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่โชคดีที่ชูอิจิมีความเข้าใจพื้นฐานในเทคนิคผนึกอยู่แล้วจากการทำงานเกี่ยวกับ ยันต์ระเบิด และเขายังมีความชำนาญในการใช้ยันต์อีกด้วย

นอกจากนี้ ชูอิจิ ไม่ได้ตั้งเป้าที่จะทำให้ปราสาทแห่งความทรงจำกลายเป็นเทคนิคระดับ A หรือ S ในทันที

เป้าหมายแรกของเขาคือการเก็บบันทึกความทรงจำที่ได้จากคาถาแยกร่างเงาเข้าไปในปราสาทแห่งความทรงจำโดยตรง

การใช้งานนี้มีความคล้ายคลึงกับการสร้างยันต์ระเบิดที่เขากำลังพัฒนา แต่เนื่องจากเกี่ยวข้องกับสมองของเขาเองชูอิจิจึงดำเนินการอย่างระมัดระวังมาก เขาหลีกเลี่ยงการทดลองที่เสี่ยงเกินไปและมุ่งเน้นที่การออกแบบเทคนิคอย่างละเอียดถี่ถ้วน

เขาตัดสินใจว่าเมื่อเขาทำความก้าวหน้าได้มากพอ เขาจะปรึกษา ซึนาเดะ เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม

วันที่ 16 มีนาคม ปีที่ 39 ของโคโนฮะ

หลังจากการฝึกตอนเช้าและมื้อเช้าที่เต็มอิ่ม ชูอิจิพันผ้าพันแผลทางการแพทย์รอบแขนและขาของเขา ผ้าพันแผลเหล่านี้ชุบด้วยสารละลายยาพิเศษที่ช่วยลดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อและยังสามารถใช้หยุดเลือดได้ในกรณีฉุกเฉิน

ต่อมาเขาสวมชุดต่อสู้สีดำ ตามด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีดำที่มีแถบสีขาว ลวดลายบนแจ็คเก็ตมีลักษณะคล้ายกับสัญลักษณ์เกลียวของตระกูลอุซึมากิที่บริเวณไหล่ แขน และด้านหลัง

เขายังติดตั้งเกราะแขนและปลอกแขนเหล็ก รวมถึงกระเป๋าอุปกรณ์นินจา โดยมีดาบจักระโทสึกะ อยู่ในปลอกด้านหลังของเขา

เมื่อเตรียมพร้อมครบถ้วนแล้ว ชูอิจิ ออกจากบ้านและมุ่งหน้าไปยังสำนักงานโฮคาเงะ เขารออยู่ที่ด้านหน้าของอาคาร

ไม่นานนัก เขาก็สังเกตเห็นเด็กชายที่ดูคุ้นตากำลังเดินเข้ามา

"อุจิฮะ ชิซุย?"

ชูอิจิ กะพริบตา

เด็กชายอีกคนดูเหมือนจะสังเกตเห็นสายตาของ ชูอิจิ และยิ้มอย่างเป็นมิตร

ชูอิจิ ยิ้มตอบกลับ จากนั้นตัดสินใจเดินเข้าไปแนะนำตัวเอง

"สวัสดีครับ ผมโฮชิตะ ชูอิจิ"

"สวัสดีครับ ผม อุจิฮะ ชิซุย"

ชิซุย ตอบกลับด้วยท่าทีอบอุ่น

"ผมเคยได้ยินเรื่องของคุณนะ ชูอิจิคุง การจบการศึกษาจากโรงเรียนนินจาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ นี่น่าประทับใจมาก"

ชูอิจิ ตอบกลับ

"หลายคนจบการศึกษาตั้งแต่อายุนี้ แต่บางครั้งการจบเร็วก็อาจจะไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป"

หากเขามาจากตระกูลนินจาที่มีทรัพยากรมากมาย เขาคงจะเลือกเรียนอยู่ในโรงเรียนอีก 6 ปีเต็ม

ชิซุย หยุดคิดตามคำพูดของ ชูอิจิ ก่อนพยักหน้าเห็นด้วย

"คุณพูดถูกนะ ชูอิจิคุง"

ในตอนนั้นเอง ก็มีร่างหนึ่งลงมายืนข้างๆ ชิซุย

"ชิซุย นายมาก่อนเวลาเหมือนเดิมเลยนะ"

จากนั้นบุคคลใหม่นี้หันมาหา ชูอิจิ

"แล้วคุณคือใครเหรอ?"

ชิซุย ยิ้มและแนะนำพวกเขาให้รู้จักกัน

"นี่คือ โฮชิตะ ชูอิจิ ผมคิดว่าเขาคือเพื่อนร่วมทีมใหม่ของพวกเรา"

เด็กชายที่เพิ่งมาใหม่เบิกตากว้าง

"นี่ใช่ โฮชิตะ ชูอิจิ ที่จบการศึกษาตั้งแต่อายุ 6 ขวบหรือเปล่า?"

จากนั้น ชิซุย แนะนำเขาให้ ชูอิจิ รู้จักบ้าง

"ส่วนคุณ ชูอิจิ-คุง นี่คือ ซันโย คุรามะ จากตระกูล คุรามะ"

การมีทั้ง อุจิฮะ และสมาชิกตระกูล คุรามะ เป็นเพื่อนร่วมทีมนับว่าน่าประหลาดใจสำหรับ ชูอิจิ

อย่างไรก็ตามเขายังคงกล่าวทักทายอย่างสุภาพ

"ผม โฮชิตะ ชูอิจิ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ซันโย-เซ็นไป"

ซันโยโบกมือปฏิเสธคำเรียกอย่างรวดเร็ว

"ไม่ต้องเรียกฉันว่าเซ็นไปหรอกนะ ชิซุยกับฉันเพิ่งจบการศึกษาเมื่อปีที่แล้วเอง เราก็ยังเป็นมือใหม่เหมือนกัน"

มีประสบการณ์เพียงปีเดียวงั้นเหรอ?

ดังนั้น ชิซุย อาจจะมีอายุแก่กว่าฉันประมาณสองปี?

ชูอิจิ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

ภาพจำของเขาคือ ชิซุย น่าจะมีอายุไม่ห่างจาก อุจิฮะ อิทาจิ มากนัก

แต่เมื่อคิดถึงชื่อเสียงของ ชิซุย ที่ได้รับฉายาชิซุยชั่วพริบตา ก็คงเป็นไปได้ว่าเขาสร้างชื่อเสียงในช่วงสงครามโลกนินจาครั้งที่สาม และหลังจากการเสียชีวิตของโฮคาเงะรุ่นที่สี่ โดยเฉพาะระหว่างการปะทะกับ หมู่บ้านแห่งหมอก

หากชิซุยอายุแก่กว่าอิทาจิห้าปี ตอนที่เขาเริ่มมีชื่อเสียงก็จะมีอายุประมาณสิบปี

จูนิน ที่อายุเพียงสิบปีและมีเนตรวงแหวนที่พัฒนาเต็มที่? ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

ยิ่งไปกว่านั้น อุจิฮะ ชิซุย เป็นลูกหลานของ อุจิฮะ คางามิ ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย และมีอายุห่างจากโฮคาเงะรุ่นที่สาม ซารุโทบิ ฮิรุเซ็น มาก

หลานของ ฮิรุเซ็น อย่าง โคโนฮามารุ ยังเด็กกว่ารุ่นของ นารูโตะ มาก

ดังนั้น มีความเป็นไปได้สูงว่า ชิซุย อาจเป็นบุตรของ อุจิฮะ คางามิ

อุจิฮะ คางามิ เสียชีวิตเมื่อไหร่?

ช่วงเวลาที่เป็นไปได้มากที่สุดคือในช่วงสงครามโลกนินจาครั้งที่สอง

ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลที่ ชิซุย จะมีอายุแก่กว่า คาคาชิ และรุ่นของเขาประมาณหนึ่งหรือสองปี

ชูอิจิ ยอมรับได้อย่างรวดเร็วว่า อุจิฮะ ชิซุย มีอายุแก่กว่าเขาเล็กน้อย ทั้งสามคนพูดคุยกันอย่างสบายๆ และไม่นานก็เริ่มรู้จักกันดีขึ้น

เห็นได้ชัดว่าทั้งสามไม่มีใครที่เข้าถึงยากหรือแสดงท่าทางหยิ่งทะนง

"ดูเหมือนพวกเธอจะเข้ากันได้ดี"

เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหัน

ชูอิจิ และคนอื่นๆ หันไปมองอย่างรวดเร็ว

"มินาโตะเซนเซย์!"

ชิซุย เป็นคนแรกที่ก้าวออกมาข้างหน้าและโค้งตัวอย่างเคารพ ซันโย คุรามะ ก็ตามมาพร้อมโค้งตัวด้วยท่าทางตื่นเต้น

"มินาโตะเซนเซย์ คุณคือหัวหน้าทีมใหม่ของพวกเราใช่ไหม?"

เมื่อมองไปที่ นามิคาเสะ มินาโตะ ชูอิจิ ตกใจยิ่งกว่าตอนที่เห็น อุจิฮะ ชิซุย เสียอีก

มินาโตะ ยังดูเด็กมาก ประมาณ 15 ปี

การที่ได้ นามิคาเสะ มินาโตะ มาเป็นหัวหน้าทีมช่างเป็นเรื่องที่ ชูอิจิ คาดไม่ถึงเลย

เขาเคยคิดถึง จิไรยะ หรือแม้กระทั่ง ซาคุโมะ ฮาตาเกะ พ่อของ คาคาชิ หรือบางทีอาจเป็น จูนิน จากตระกูล ซารุโทบิ แต่ไม่เคยคิดว่าจะเป็น มินาโตะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดถึงฐานะของ มินาโตะ แล้ว ก็ดูเหมาะสม

ดังนั้นแม้จะล่าช้าเล็กน้อย แต่ ชูอิจิ ก็รีบก้าวไปข้างหน้าและโค้งตัว

"มินาโตะเซนเซย์ ผมชื่อ โฮชิตะ ชูอิจิ ครับ"

ทั้งสามคนแสดงท่าทีสุภาพและเป็นมิตร ไม่มีใครแสดงออกถึงความหยิ่งทะนงแบบที่มักพบในผู้มีพรสวรรค์เลย

มินาโตะ นามิคาเสะ ไตร่ตรองในใจและยิ้มออกมา

"สวัสดี ฉันชื่อ มินาโตะ นามิคาเสะ ตั้งแต่วันนี้ไป ฉันจะเป็นหัวหน้าทีมของพวกเธอ"

"ไปหาที่คุยกันเถอะ!"

เมื่อพูดจบ มินาโตะ ก็หายตัวไปทันที

แม้ว่า มินาโตะ จะทราบจาก ซารุโทบิ ฮิรุเซ็น ว่าการที่เขาได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมนั้นเป็นเพราะ ชูอิจิ เป็นหลัก แต่เขาไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ ออกมา

ทั้งสามคนสบตากัน ก่อนจะรีบใช้วิชาเคลื่อนย้ายร่างเพื่อตามเขาไป

บนดาดฟ้าหลังคา

มินาโตะ มองดู ชูอิจิ และคนอื่น ๆ ที่ตามมาถึงก่อนจะยิ้ม

"เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวกันก่อน เพื่อที่เราจะได้รู้จักกันมากขึ้น"

"ฉันจะเริ่มก่อนเอง"

"พวกเธอคงรู้ชื่อของฉันอยู่แล้ว ฉันถนัดวิชากระบวนท่า, วิชาเคลื่อนย้ายร่าง, และ ธาตุลม"

ต่อมา อุจิฮะ ชิซุย กล่าวเสริม

"ฉันคือ อุจิฮะ ชิซุย ฉันถนัดการใช้ดาบ, วิชาลวงตา, ธาตุไฟ, วิชาเคลื่อนย้ายร่าง, และมีเนตรวงแหวน แบบหนึ่งวงโทโมเอะ"

จากนั้น ซันโย คุรามะ กล่าวต่อ

"ฉันคือ ซันโย คุรามะ ฉันถนัด วิชาลวงตา"

สุดท้ายสายตาทั้งหมดหันมาที่ ชูอิจิ

ชูอิจิ รีบกล่าวทันที

"ฉันคือ โฮชิตะ ชูอิจิ ฉันถนัด ธาตุไฟ, วิชาแปลงร่างและมีพื้นฐานใน วิชาแพทย์นินจา"

ความชำนาญด้าน วิชาแพทย์นินจา ของเขารวมถึง วิชารักษาพื้นฐานและความเข้าใจพื้นฐานของ วิชาฝ่ามือลึกลับแม้ว่าเขาจะยังไม่ชำนาญ

เขามั่นใจว่าแม้ไม่มีแท็กผู้เชี่ยวชาญธาตุไฟติดตัว เขาก็ยังมีพรสวรรค์ในธาตุไฟ ซึ่งเมื่อรวมกับแท็กนักปราชญ์ก็ทำให้ผลลัพธ์เด่นชัดขึ้น

แต่สำหรับ วิชาแพทย์นินจา มันแตกต่างออกไป เนื่องจากพรสวรรค์ในด้านนี้ของเขาค่อนข้างอ่อนแอ และต้องใช้ความพยายามมากกว่า

การที่เขาสามารถเรียนรู้วิชาฝ่ามือลึกลับในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้นเป็นผลมาจากสถานะพิเศษที่ช่วยเพิ่มศักยภาพของเขา

มินาโตะ ยิ้มเมื่อได้ฟังการแนะนำตัว

"ตั้งแต่นี้ไป ชูอิจิ จะเป็น นินจาแพทย์ ของทีมเรา"

ในทีม นินจาแพทย์ มักจะเป็นคนที่ได้รับการปกป้องมากที่สุด

แต่แน่นอนว่า จากมุมมองของศัตรู นินจาแพทย์ ก็เป็นเป้าหมายแรกที่มักจะถูกโจมตีเช่นกัน