ตอนที่แล้วตอนที่ 189 : มันมาจากไหน?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 191 : น้องฉู่ นายสุดยอดมาก!

ตอนที่ 190 : เขาจะยอมเหรอ?


ตอนที่ 190 : เขาจะยอมเหรอ?

หลังจากนั้น ฉู่เจียงก็ออกไปตามหาหยางเยว่และเหอยู่ชาน

ตามคำบอกของตากล้อง ฉู่เจียงก็หาพวกเขาเจออย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนไปนั่งอยู่ที่ตีนเนินเขาเล็กๆ เพื่อชมวิว ดอกไม้บนพื้นก็ถูกพวกเขาเด็ดออกมาจนหมดแล้วและพวกเขาก็ดูผ่อนคลายมาก

ฉู่เจียงกำลังจะเรียกพวกเขา แต่ก็ได้ยินเหอยู่ชานพูดขึ้นว่า "เธอคิดว่าเราจะเอาตัวพ่อครัวมาที่กลุ่มของเราได้ไหม?"

พ่อครัว?

หรือว่าพวกเขาจะหมายถึงฉัน?

เสียงของหยางเยว่ดังตามมา "ฉันว่าก็พอเป็นไปได้นะ ลองกลับไปคุยกับผู้กำกับแล้วขอเปลี่ยนกลุ่มกันเถอะ แบบนี้เราจะได้กินดีอยู่ดีแล้วให้เขาคอยบริการพวกเรา"

"เธอคิดว่าเขาจะยอมเหรอ?"

"อย่างมากก็ให้สัญญากับเขานิดหน่อยไป เช่นจะให้เงินเขาหลังจากถ่ายทำรายการเสร็จ ทำไมล่ะ? ยังไงเขาก็ได้เงินอยู่แล้ว ไม่เห็นมีอะไรเสียหายนี่!"

"แต่ฉันว่าให้เขาทำฟรีๆ น่าจะดีกว่า~~"

สิ่งที่ทั้งสองคนพูดช่างเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์เสียอีก ทำให้ฉู่เจียงหมดความอยากจะเรียกพวกเขาไปทานอาหารด้วยและเดินกลับทันที

ระหว่างทางกลับ เขาเจอหวังคงที่กำลังตัดหญ้าให้หมูกินอยู่ เขาหิ้วตะกร้าและโยนหญ้าเข้าไปทีละกอ จากความเร็วแบบนี้ คงต้องใช้เวลาสองหรือสามวันกว่าหญ้าจะเต็ม

นี่ทำให้ฉู่เจียงยิ่งมั่นใจที่จะฆ่าหมูให้ได้

ไม่อย่างนั้น พวกเขาคงจะได้เหนื่อยตายในอีกสองวัน

"น้องฉู่ ทำไมนายกลับมาเร็วจัง?"

หวังคงถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นฉู่เจียง "หยางเยว่กับเหอยู่ชานอยู่ไหนล่ะ?"

ฉู่เจียงเล่าคร่าวๆ ถึงสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินมา

หลังจากฟังจบ หวังคงก็โยนเคียวในมือลงกับพื้นด้วยความโกรธ"สองคนนั้นเลวร้ายจริง ปล่อยให้พวกนั้นหิวตายไปเถอะ!"

ฉู่เจียงยิ้ม "พวกนั้นไม่ดีจริงๆ แต่ก็ไม่ต้องไปใส่ใจพวกเขาหรอก ยังไงก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกหลังจากถ่ายทำรายการนี้เสร็จ"

"ก็จริง"

ฉู่เจียงช่วยหวังคงตัดหญ้าให้หมูได้มากพอสมควร จากนั้นเขาก็กลับบ้านพอถึงเวลาเขาก็ให้ทุกคนช่วยต้มน้ำร้อนและเตรียมตัวเชือดหมู

ยังไงทุกอย่างก็พร้อมอยู่แล้ว

"พวกนายทำอะไรกันอยู่? รีบไปจับหมูมาเร็ว!"

หลังจากฉู่เจียงเตรียมทุกอย่างเสร็จ เขาก็พบว่าทั้งสามคนยังยืนนิ่งๆ อยู่จึงอดไม่ได้ที่จะเร่งพวกเขา

เร่อเปาก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว "หมูน่ารักออก... แต่ยังไงฉันก็เป็นผู้หญิงนะ"

ฉินปินรีบผลักหวังคง "นายเป็นผู้ชาย นายก็ไปสิ แถมนายยังเคยเลี้ยงหมาตัวใหญ่มากมาก่อนด้วย นายน่าจะมีประสบการณ์มากกว่าฉันในเรื่องรับมือกับสัตว์ใหญ่แบบนี้ นายไปจัดการเลย"

หวังคงจ้องเขา "นายเป็นแค่คนที่มากินฟรี แถมนายกินไปเยอะแล้วด้วย นายทำงานมากกว่านี้สิ!"

"นายไป! ยังไงฉันก็ไม่ไป!"

"ฉันก็ไม่ไปเหมือนกัน!"

เห็นพวกเขายืนเถียงกัน ฉู่เจียงก็เดินไปที่คอกหมูและคว้าหมูน้ำหนักประมาณ 100 ปอนด์ขึ้นมาอย่างง่ายดาย

เหตุผลหลักที่มันตัวเบาแบบนี้คือ ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม หมูพวกนี้ยังโตไม่เต็มที่ โดยปกติแล้วช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะเชือดหมูคือในช่วงตรุษจีน แต่พวกเขาคงรอจนถึงช่วงตรุษจีนไม่ได้ ดังนั้นถ้าพวกเขาอยากกินเนื้อ ก็ต้องใช้วัตถุดิบที่มีอยู่

การเชือดหมูน้ำหนักประมาณ 100 ปอนด์ ก็น่าจะเพียงพอให้พวกเขากินไปได้ 5 วันแล้ว

พูดตามตรง ฉู่เจียงเองก็ไม่เคยเชือดหมูมาก่อน แต่เขามีทักษะการทำอาหารที่ระบบให้เป็นรางวัล พอเขาคิดว่าจะเชือดหมู ขั้นตอนต่างๆ ก็ปรากฏขึ้นในใจเขาโดยอัตโนมัติ

หลังจากที่เขาเดินเข้าไปในคอกหมู เขาก็จับลูกหมูตัวหนึ่งออกมา มัดขาและเท้าของมันให้เรียบร้อยแล้ววางมันลงก่อนจะเชือดหลอดเลือดแดงที่คอของมันโดยไม่ลังเล จนลูกหมูส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาทันที

เสียงร้องของมันดังออกไปไกลมาก...

"อี๊ด——"

เมื่อมองไปที่เลือดที่ไหลออกมาจากคอของลูกหมู เร่อเปา หวังคงและฉินปินก็วิ่งหนีไปด้วยความกลัว ราวกับว่าคนที่ถูกฆ่าไม่ใช่หมูแต่เป็นพวกเขาเอง

พูดตามตรง ฉู่เจียงเองก็รู้สึกกลัวอยู่ในใจบ้าง ไม่ใช่เพราะเขากลัว แต่เป็นเพราะฉากนี้ชวนสะอิดสะเอียนจริงๆ ปกติคนที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนก็มักจะรับไม่ได้เช่นกัน

หลังจากระบายเลือดออกเสร็จแล้ว เขาก็นำลูกหมูลงไปในน้ำร้อนที่เตรียมไว้ล่วงหน้า หลังจากแช่ไว้ประมาณ 10 นาที เขาก็เริ่มขูดขนออกจากตัวของลูกหมู ไม่นาน ขนของลูกหมูก็ถูกขูดออกจนเกลี้ยง

หลังจากนั้น เขาก็เริ่มตัดหัว ตัดกีบ ตัดหาง ผ่าท้องและแบ่งครึ่งตัว ในช่วงแรกเขาก็ยังทำได้ไม่ค่อยคล่อง แต่หลังๆ มันก็เริ่มกลายเป็นสัญชาตญาณโดยอัตโนมัติ

เมื่อฆ่าหมูเสร็จแล้ว ฉู่เจียงก็นำเนื้อหมูเข้าไปในครัว พร้อมสั่งให้เร่อเปา หวังคงและฉินปินทำความสะอาดบริเวณที่ใช้เชือดหมู

ทั้งสามคนมองหน้ากัน ก่อนจะเริ่มโยนความผิดให้กันและกัน

ฉู่เจียงมองพวกเขาแล้วพูดขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว ไม่ต้องทำความสะอาดก็ได้นะ แต่ที่นี่อากาศร้อน ฉันกลัวว่าพรุ่งนี้จะมีหนอนขึ้นเต็มไปหมด...แต่ก็คงหนอนไม่ได้ร้ายแรงอะไรใช่ไหม? หนอนมันไม่มีพิษมีภัยกับคนหรอกและถ้ามองนานๆ ไป ก็อาจจะรู้สึกว่าพวกมันน่ารักขึ้นก็ได้มั้ง!"

"หยุดพูดเถอะ!"

เร่อเปาร้องออกมา "ฉันไปเอง! ฉันไปเอง!"

เมื่อเทียบกับการต้องเห็นเลือดและอวัยวะภายในแล้ว การเห็นหนอนนั้นยิ่งเลวร้ายกว่าสำหรับเธอ แม้สิ่งเหล่านี้จะไม่มีพิษมีภัย แต่มันก็น่าขยะแขยงจริงๆ!

เร่อเปาเป็นผู้หญิงและเป็นดารา เมื่อเธอเริ่มลงมือทำความสะอาดแล้ว หวังคงและฉินปินก็ไม่กล้าปล่อยให้เธอทำคนเดียวพวกเขาจึงวิ่งไปช่วย

เมื่อทำกันไปได้สักพักนึง พวกเขาก็เริ่มคุ้นเคยและการทำความสะอาดนี้ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนตอนแรกอีกต่อไป แถมพวกเขายังเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนานระหว่างทำความสะอาดอีกด้วย

เมื่อหยางเยว่และเหอยู่ชานเดินผ่านมา พร้อมกับถุงขนมสองใบ พวกเขาเห็นภาพนี้แล้วก็ถึงกับตกตะลึง...

ทั้งสองมองดูพวกเขาอย่างไม่เชื่อสายตา "พวกนายทำอะไรกัน? ทำไมที่นี่ถึงมีกลิ่นแปลกๆ แบบนี้?"

หวังคงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายให้เร่อเปาและฉินปินฟัง

ดังนั้น พวกเขาจึงแสดงท่าทีไม่ค่อยเป็นมิตรต่อหยางเยว่และเหอยู่ชาน เมื่อเห็นทั้งสองเดินมาพวกเขาจึงเก็บรอยยิ้ม และตอบคำถามแบบขอไปที ก่อนจะเดินหนีไป

หยางเยว่และเหอยู่ชานถึงกับงง

เมื่อถามตากล้อง พวกเขาก็ได้รู้ว่าฉู่เจียงรู้เรื่องที่พวกเขาพูดในตอนบ่ายแล้ว

หยางเยว่รู้สึกผิดทันที "บางทีสิ่งที่เราพูดเมื่อตอนบ่ายมันอาจจะเกินไปจริงๆ...แต่มันก็เป็นแค่เรื่องล้อเล่น ไม่เห็นต้องจริงจังขนาดนี้เลยใช่ไหม?"

"พูดง่ายๆ ก็คือรับไม่ได้สินะ!"

เหอยู่ชานพูดอย่างไม่สนใจ "ไม่เป็นไรหรอก คนแบบนี้แอบฟังคนอื่นแล้วยังไปเล่าให้คนอื่นฟังอีก...ช่างเขาเถอะ ยังไงเราก็แค่พูดในสิ่งที่อยากพูดก็แค่นั้น ทำไมต้องสนใจหน้าเขาด้วย?"

"ก็จริง"

หลังจากพูดจบ ทั้งสองก็เตรียมตัวกลับไปที่พัก แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าเมื่อเดินผ่านหน้าต่าง สายลมยามเย็นจะพัดพากลิ่นหอมเย้ายวนตรงเข้าจมูกของพวกเขาอีกครั้ง...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด