ตอนที่ 19 ใครก็ตามที่ทำลายสวนดอกไม้ของข้าต้องตาย
“ลมหมุนกวาดใบไม้!”
“มังกรสะบัดหาง!”
ลู่เฉินเหวี่ยงขา เงาขาปรากฏขึ้นทั่วท้องฟ้า ช่างเป็นภาพที่งดงามและน่าตกตะลึง ผู้คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ พวกเขาต่างตกใจกับเพลงเตะของลู่เฉิน
โลกภายนอกต่างลือกันว่าคุณชายเจ็ดแห่งจวนอ๋องลู่เป็นคนไร้ค่า อ่อนแอ ไม่อาจฝึกยุทธ์ได้ แล้วเขาแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?
แม้แต่จ้าวเหลยก็ยังเทียบไม่ได้!
โดยเฉพาะวิชาเตะวายุอัสนีของลู่เฉิน ในระหว่างการต่อสู้ ลมปราณพัดกระหน่ำ มีเสียงลมและฟ้าร้องดังก้องกังวานสะท้อนไปทั่ว คงต้องเตะด้วยความเร็วและพลังมหาศาลอย่างมากจึงจะเกิดเสียงเช่นนี้ได้
ผู้ชมต่างตกตะลึง แต่ฝางเจิ้นฝูที่กำลังต่อสู้อยู่กลับหวาดเกรง
สิ่งที่น่าตกใจคือลู่เฉิน คุณชายไร้ค่าแต่กลับมีความสามารถเช่นนี้ ส่วนสิ่งที่น่ากลัวคือเขารู้สึกว่าระดับบ่มเพาะและเพลงเตะของลู่เฉินไม่ด้อยไปกว่าเขาเลยแม้แต่น้อย และเขาไม่อาจเอาชนะได้!
ปัง! ปัง! ปัง! เงาขาปะทะกันดุจต้นไม้ใหญ่สองต้น เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ลู่เฉินผสานพลังปราณเข้ากับขาของตัวเอง แต่ละครั้งที่เตะออกไปล้วนทรงพลัง เมื่อขาของทั้งสองปะทะกัน ฝางเจิ้นฝูเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แม้ว่าขาของเขาจะไม่หัก แต่ก็รู้สึกเจ็บปวด
“บัดซบ!”
ฝางเจิ้นฝูสบถในใจ ลู่เฉินแสร้งทำเป็นคนไร้ค่า โลกภายนอกต่างก็บอกว่าเขาเป็นขยะ แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นยอดฝีมือ!
ยอดฝีมือเพลงเตะตัวจริง!
ทั้งสองต่อสู้ปะทะกันหลายครั้ง ฝางเจิ้นฝูรู้ดีว่าเขาไม่มีทางชนะ หากต้องการพลิกสถานการณ์ โอกาสเดียวของเขาคือรองเท้าหัวเหล็กที่เขาสวมอยู่
เขาแสยะยิ้มร้าย ก่อนยืนด้วยขาข้างเดียว และเหวี่ยงอีกข้างหนึ่งออกไป มุ่งเป้าเตะไปที่นิ้วเท้าของลู่เฉิน
ฟึ่บ!
“คุณชาย ระวังรองเท้าหัวเหล็กของเขาด้วย!” จ้าวเหลยที่กำลังถูกทหารพยุงอยู่มีสีหน้าเปลี่ยนไป รีบเตือนเสียงดัง “อย่าปะทะกับเขาโดยตรง!”
ความพ่ายแพ้ของเขาเกิดจากสิ่งนี้
แต่คำเตือนของเขาก็สายเกินไป ลู่เฉินไม่ฟังคำเตือน ทั้งยังเตะสวนกลับ…
“นี่มัน…” เหล่าขุนพลต่างส่ายหน้าถอนหายใจ คุณชายเจ็ดช่างเอาแต่ใจ ไร้ซึ่งประสบการณ์การต่อสู้! เมื่อครู่จ้าวเหลยเพิ่งพลาดท่าเพราะรองเท้าหัวเหล็ก แล้วเหตุใดยัง…
เฉินจ้าวโล่งใจ คิดว่าครั้งนี้ชนะแน่ หากลู่เฉินถูกเตะตาย งานชมดอกไม้ของอ๋องลู่จะจบลงเช่นไรกัน?
แต่กลับเกิดสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด หลังจากที่ทั้งสองเตะใส่กันก็มีเสียงดังกรุ๊งกริ๊ง ลู่เฉินไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด เขายังคงเตะต่อไปเช่นเดิม
ฝางเจิ้นฝูงุนงงพลางคิดในใจ นี่เจ้าก็ใส่รองเท้าหัวเหล็กเช่นกันหรือ?
แท้จริงแล้ว ลู่เฉินใส่ “รองเท้าใยไหมเหล็กกล้า” ซึ่งปกติจะนุ่มราวกับเส้นไหม แต่ในระหว่างการต่อสู้มันสามารถรวมกับพลังปราณและแข็งราวกับเหล็ก
รองเท้าใยไหมเหล็กกล้าปะทะกับรองเท้าหัวเหล็ก ฝางเจิ้นฝูเป็นฝ่ายเสียเปรียบอีกหน!
ลู่เฉินเตะเขาไปหลายครั้ง แต่ละครั้งล้วนหมายเป้าไปที่นิ้วเท้า แม้ว่าฝางเจิ้นฝูจะใส่รองเท้าหัวเหล็ก แต่เขาก็ไม่อาจทนต่อแรงกระแทกได้!
หลังจากถูกเตะไปหลายครั้ง ฝางเจิ้นฝูก็รู้สึกว่าขาข้างหนึ่งชาไปหมด ส่วนเท้านั้นชาจนไร้ความรู้สึกไปนานแล้ว ไม่แน่ว่ากระดูกคงแตกละเอียด
จากนั้นลู่เฉินก็เตะซ้ำอีกครั้ง
ฝางเจิ้นฝูหวาดกลัว เขารีบถอยหลังพร้อมกล่าวเสียงดัง “เพลงเตะของคุณชายเจ็ดช่างยอดเยี่ยม ข้าขอยอม…”
เขากลัวจนอยากจะยอมแพ้ แต่ลู่เฉินไม่ให้โอกาสเขาได้พูด เขาก้าวเท้าเข้าหาเพื่อประชิดอีกฝ่าย
ฝางเจิ้นฝูตกใจจนหันหลังวิ่งหนี ลู่เฉินใช้ท่า “ลมพันคลื่นโถม” ไล่ตามฝางเจิ้นฝูไปติด ๆ
ตอนนั้นเอง เฉินจ้าวเห็นท่าไม่ดีจึงรีบลุกขึ้นตะโกน “ไว้ชีวิตเขาด้วย!”
ทว่าลู่เฉินกลับไม่สนใจ เขาใช้ท่าไม้ตายของวิชาเตะวายุอัสนีกลางอากาศ “อัสนีบาต!”
เขาเตะเข้าที่หลังของฝางเจิ้นฝู
โครม! ฝางเจิ้นฝูร่างกระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร ก่อนจะกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ในสวน เลือดสาดกระเซ็น ร่างกายกระตุก คงจะไม่รอดแล้ว
“อึก~” ทุกคนต่างพากันสูดหายใจ
ไม่มีใครคาดคิดว่าลู่เฉิน คุณชายไร้ค่าจะมีความสามารถถึงเพียงนี้ แค่ขาข้างเดียวก็สามารถเตะยอดฝีมือขององครักษ์เสื้อแพรจนตายได้
ช่างเหลือเชื่อ!
โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!
จ้าวเหลยที่ถูกทหารสองคนพยุงอยู่มีสีหน้าตกตะลึง เขามองเห็นอย่างชัดเจนว่าท่าเตะที่ลู่เฉินใช้สังหารฝางเจิ้นฝูเป็นท่าเดียวกับที่ฆ่าจวี้เซียง!
กล่าวคือ ยอดฝีมือเพลงเตะที่ซ่อนตัวอยู่ในจวนก็คือคุณชายเจ็ด!
“เป็นเขาไปได้อย่างไร?” จ้าวเหลยไม่อยากจะเชื่อ
ลู่โฉ่วอี๋ก็เช่นกัน เขาตกใจมากที่ฝางเจิ้นฝู ยอดฝีมือองครักษ์เสื้อแพรถูกบุตรชายของตนเตะจนตาย
ลู่โฉ่วอี๋เองก็เป็นยอดฝีมือเช่นกัน เขามีระดับบ่มเพาะก่อกำเนิดขั้นเก้า เขารู้สึกได้ว่าบุตรชายของเขาไม่เพียงแต่มีเพลงเตะที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังมีระดับบ่มเพาะอย่างน้อยก็คงก่อกำเนิดขั้นแปด
“เจ้าเด็กนี่ไปฝึกฝนมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” ลู่โฉ่วอี๋งุนงง
บุตรชายไร้ค่าของเขากลายเป็นยอดฝีมือเพลงเตะโดยที่เขาไม่รู้เรื่อง ไม่มีอะไรน่าขันไปกว่านี้อีกแล้ว
แต่ตอนนี้ลู่โฉ่วอี๋ไม่มีเวลามาคิดเรื่องนี้
เมื่อเฉินจ้าวเห็นฝางเจิ้นฝูถูกเตะตาย เขาก็โกรธจัด ตะโกนเสียงดัง “คุณชายลู่ ฝางเจิ้นฝูยอมแพ้แล้ว ข้าก็บอกให้เจ้าหยุด แต่เจ้ายังดันทุรังลงมือ เจ้าคิดว่าองครักษ์เสื้อแพรฆ่าได้ง่าย ๆ งั้นรึ?”
ทันทีที่เขาพูดจบ เหล่าองครักษ์เสื้อแพรก็ชักมีดสั้นออกมา จ้องมองลู่เฉินราวกับเสือหิวกระหาย
ลู่เฉินปล่อยชายเสื้อลง “เขาทำลายสวนดอกไม้ของข้า ข้าจึงเอาชีวิตเขาเพื่อชดใช้”
เฉินจ้าวกล่าวเสียงดัง “บังอาจ!”
โครม!
ลู่โฉ่วอี๋ตบโต๊ะด้วยความโกรธ “องครักษ์เสื้อแพรแล้วอย่างไร? ข้านั่งอยู่บ้านจัดงานชมดอกไม้ของข้าอยู่ดี ๆ ข้าไม่ได้เชิญฝางเจิ้นฝูมาเสียด้วยซ้ำ เขาเสนอหน้าเข้ามาหาเรื่องเองแล้วก็ถูกฆ่าตายเอง! เขาคิดว่าจวนอ๋องของข้าเป็นของเล่นงั้นรึ?”
ทันทีที่เขาพูดจบ เหล่าทหารองครักษ์ของจวนก็กรูกันเข้ามา ชักดาบเตรียมพร้อม
ส่วนเหล่าขุนพลของกองทัพเจิ้นหนานก็จ้องมองอย่างใจจดใจจ่อ
เฉินจ้าวเสียเปรียบ เขาตั้งใจมาหาเรื่องที่จวนอ๋อง ทำลายงานชมดอกไม้ แต่สุดท้ายเขากลับกลายเป็นตัวตลกเสียเอง
ฝางเจิ้นฝูถูกฆ่าตาย ลูกน้องของเขาก็มีจำนวนน้อยกว่าอีกฝ่าย เขาทำได้เพียงจำนนพาคนจากไปด้วยความผิดหวัง
“ท่านอ๋องลู่ อย่าคิดว่าท่านจะได้เปรียบตลอดไป! ข้าจะบอกให้ว่ากองทัพปราบปรามทางใต้และกองทัพปราบปรามชนเผ่ากำลังเดินทางมา เมืองเจิ้นหนานกำลังจะถูกล้อม! ท่านไม่มีทางหนีรอด!”
เฉินจ้าวตะโกนพร้อมโบกมือ “ไป!”
เหล่าองครักษ์เสื้อแพรแบกศพของฝางเจิ้นฝูและรีบหนีไปพร้อมกับเฉินจ้าว
เมื่อคนพวกนี้ออกไป เหล่าขุนพลของกองทัพเจิ้นหนานก็ทยอยกันกลับ พวกเขากังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่กองทัพทั้งสองล้อมเมือง?
และการที่พวกเขามางานเลี้ยงในวันนี้ องครักษ์เสื้อแพรจะมาเอาเรื่องพวกเขาในภายหลังหรือไม่?
เหล่าทหารเก่าต่างมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก แต่ลู่โฉ่วอี๋กลับไม่ใส่ใจ เขายิ้มและกล่าวอำลา “ทุกท่าน หากพวกท่านยังให้เกียรติลู่โฉ่วอี๋ผู้นี้ ข้าจะจดจำไว้ ข้าจะไม่ให้พวกท่านเดือดร้อน! เชิญพวกท่านกลับไปก่อน พรุ่งนี้ทุกอย่างจะกระจ่าง”
เมื่อได้ยินคำพูดของลู่โฉ่วอี๋ ทุกคนต่างก็สงสัย ท่านอ๋องลู่จะก่อกบฏคืนนี้หรือไม่? แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ ตอนนี้เขาไม่มีทั้งทหารและอำนาจ แล้วจะก่อกบฏได้อย่างไร?
ทุกคนต่างกล่าวลาและจากไปพร้อมความสงสัย
ไม่นานนัก แขกทั้งหมดก็กลับหมดจวน เหลือเพียงคนในตระกูลลู่
ลู่โฉ่วอี๋ให้คนพาจ้าวเหลยไปรักษา จากนั้นก็พูดกับลู่เฉิน “เฉินเอ๋อร์ วันนี้พ่อดื่มมากไปหน่อย อยากดื่มชาแก้เมา เจ้ามาดื่มเป็นเพื่อนพ่อหน่อย”
ลู่เฉินรู้ว่าลู่โฉ่วอี๋ต้องมีคำถามมากมาย เดิมทีเขาตั้งใจจะปิดบังต่อไป แต่เป็นเขาเองที่ทนไม่ได้ จ้าวเหลยเคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาเคยสัญญากับจ้าวเหลยว่า “วันหน้าข้าจะตอบแทน”
หากวันนี้เขาไม่ลงมือ เขาคงเป็นได้แค่คนขี้ขลาดคนหนึ่ง
โชคดีที่เขาได้รับรางวัลจากการเตะฝางเจิ้นฝูตาย จึงไม่ถือว่าขาดทุน ส่วนเรื่องที่ลู่โฉ่วอี๋อยากจะถามสิ่งใด ก็คงปล่อยให้ถามไป เขาไม่คิดหวาดกลัว