บทที่ 6 การสมัครวิ่งมาราธอน
หลี่เว่ยกั๋วสังเกตสีหน้าของซ่งเหวินเซวียนอย่างพิจารณา ทำให้ซ่งเหวินเซวียนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะรู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน
คุณลุงหลี่คงตกใจกับความเปลี่ยนแปลงของเขา เพราะแตกต่างจากตัวตนเดิมมากเกินไป
"คุณลุงหลี่ ผมไม่เป็นไรจริงๆ นะครับ"
แม้ซ่งเหวินเซวียนจะรู้สาเหตุ แต่ก็ไม่สามารถอธิบายเรื่องระบบได้ จึงได้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้และเปลี่ยนเรื่อง
"ทำไมนายถึงวิ่งได้เก่งขนาดนี้?" หลี่เว่ยกั๋วถามด้วยความประหลาดใจ
"เอ่อ... ผมแอบฝึกซ้อมมานานแล้วครับ อาจจะเป็นเพราะพรสวรรค์ด้วยมั้งครับ" ซ่งเหวินเซวียนไม่รู้จะตอบอย่างไร จึงตอบส่งๆ ไป
"ไม่นึกเลยว่าแต่ก่อนนายขี้เกียจขนาดนั้น เดินสองก้าวก็หอบแล้ว พอได้ฝึกฝนก็เก่งขนาดนี้ นี่มันพรสวรรค์ชัดๆ" หลี่เว่ยกั๋วพูดด้วยความทึ่ง
ไม่คิดว่าคุณลุงหลี่จะเชื่อจริงๆ แม้ซ่งเหวินเซวียนจะรู้สึกผิดที่หลอกคนแก่ แต่ในใจก็แอบโล่งอก
"เออใช่ น้องซ่ง เมื่อนายมีพรสวรรค์ขนาดนี้ วันที่ 1 เดือนหน้ามีการแข่งมาราธอนที่ทะเลสาบเทียนไถในเมืองเจียงโจว นายสนใจสมัครไหม?" เห็นว่าซ่งเหวินเซวียนมีพรสวรรค์ หลี่เว่ยกั๋วจึงชวน "ถ้านายเข้าร่วม เราสองคนก็ไปด้วยกัน เก่งขนาดนี้ไม่แน่อาจได้อันดับนะ ติดท็อปเท็นก็ได้เงินรางวัลหมื่นหยวนแล้ว"
แต่เดิมซ่งเหวินเซวียนเตรียมจะปฏิเสธ แต่พอได้ยินว่าอันดับที่สิบยังได้เงินรางวัลหมื่นหยวน เขาก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที จึงถามคุณลุงหลี่ว่า:
"แล้วอันดับหนึ่งล่ะครับ?"
"อันดับหนึ่งเหรอ?" หลี่เว่ยกั๋วมองซ่งเหวินเซวียนแล้วหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนพูดว่า "คนหนุ่มอย่าใจร้อนไป ลุงยอมรับว่าน้องซ่งมีฝีมืออยู่ แต่ปีนี้มาราธอนได้รับการสนับสนุนจากบริษัทใหญ่"
"เงินรางวัลอันดับหนึ่งสูงถึงห้าแสนหยวนเชียวนะ นักวิ่งมาราธอนมืออาชีพในประเทศก็สมัครกันมาเยอะ ได้ยินว่ามีนักกีฬาชื่อดังจากต่างประเทศมาสมัครด้วย"
คำพูดของคุณลุงหลี่แสดงชัดว่าไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวซ่งเหวินเซวียน
แต่พอได้ยินว่าอันดับหนึ่งได้เงินรางวัลสูงถึงห้าแสนหยวน ดวงตาของซ่งเหวินเซวียนก็เป็นประกายวาววับ
แม้ร่างเดิมจะเขียนนิยายออนไลน์ได้รายได้หลักหมื่นต่อเดือน แต่เพราะต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวที่ยังเรียนอยู่สองคน ทำให้มีเงินเก็บไม่มาก ตอนนี้ในบัญชีธนาคารเหลือเงินเก็บไม่ถึงสี่หมื่นหยวน
ปัจจุบันเขาออกกำลังกายลดน้ำหนัก ทำให้กินจุขึ้นมาก นับเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยสำหรับเขาในตอนนี้
ถ้าได้เงินห้าแสนหยวนมาก็จะดีมาก
"คุณลุงครับ มาราธอนนี้สมัครยังไงครับ?" ซ่งเหวินเซวียนรีบถามอย่างใจร้อน
อันดับหนึ่งเขาต้องเอาให้ได้ ถึงพระเยซูมาก็ไม่หยุดเขาได้!
ด้วยระบบที่เป็นโกงตัวช่วย เขามั่นใจมาก
"นายเข้าเว็บไซต์สำนักงานกีฬาเมืองเจียงโจวก็สมัครได้เลย แต่ต้องรีบหน่อยนะ วันสุดท้ายของการรับสมัครคือสิ้นเดือนนี้"
หลี่เว่ยกั๋วดูมีความสุขมากที่ซ่งเหวินเซวียนอยากสมัคร
หลังจากรู้วิธีสมัครแล้ว ซ่งเหวินเซวียนวิ่งกับคุณลุงหลี่อีกสักพัก ทั้งสองตกลงว่าจะวิ่งด้วยกันทุกเช้า แล้วจึงแยกย้าย
ทันทีที่แยกกัน ซ่งเหวินเซวียนก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดเว็บไซต์สำนักงานกีฬาเมืองเจียงโจว และแน่นอนว่าหน้าแรกมีประกาศ: การแข่งขันมาราธอนระดับเอลิทที่ทะเลสาบเทียนไถเมืองเจียงโจว
คลิกเข้าไปก็เจอหน้าต่างสมัคร งานนี้แบ่งเป็นประเภทฮาล์ฟมาราธอน ฟูลมาราธอน และการวิ่งเล่นสำหรับมือสมัครเล่น
เงินรางวัลห้าแสนหยวนสำหรับอันดับหนึ่งนั้นเป็นของประเภทฟูลมาราธอน ระยะทาง 42.2 กิโลเมตร
ซ่งเหวินเซวียนคลิกสมัครประเภทฟูลมาราธอนทันที หลังจากกรอกข้อมูลส่วนตัวและจ่ายค่าสมัคร 298 หยวน เขาก็สมัครสำเร็จ
วันนี้เป็นวันที่ 20 พฤษภาคม การรับสมัครจะปิดวันที่ 31 พฤษภาคม
จากนั้นวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันเด็ก จะปล่อยตัวที่จัตุรัสเหรินหมิน วิ่งจากจัตุรัสเหรินหมินไปตามถนนริมทะเลสาบเทียนไถ วิ่งรอบทะเลสาบไปจนถึงเส้นชัยที่อำเภอเทียนไถ
หลังจัดการสมัครมาราธอนเรียบร้อย ซ่งเหวินเซวียนก็ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตซื้อของใหญ่
ซื้อไข่ ผัก เนื้อสัตว์ พอให้กินได้สองสามวัน แล้วจึงหิ้วถุงเต็มมือกลับหมู่บ้าน
ของพวกนี้ถ้าเป็นคนทั่วไปคงกินสิบวันไม่หมด แต่ซ่งเหวินเซวียนกินจุขึ้นมาก
ที่จริงเขาอยากซื้อมากกว่านี้ แต่หิ้วไม่ไหว
กลับถึงบ้านแล้ว ซ่งเหวินเซวียนก็เริ่มทำอาหารเช้าทันที เหมือนเดิมคือทอดไข่ดาวสิบกว่าฟอง แล้วต้มบะหมี่หม้อใหญ่
ตอนนี้ทำแบบนี้ไปก่อน นอกจากง่ายและอิ่มท้องแล้วยังประหยัดด้วย
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ ซ่งเหวินเซวียนก็เริ่มไลฟ์สดออกกำลังกาย
"สวัสดีครับพี่น้องในห้องไลฟ์!" พอเริ่มไลฟ์ก็มีคนเข้ามาเกือบสองพันคน
"สวัสดีครับคนหล่อ!" "วันนี้จะเริ่มความมีวินัยของวันนี้แล้วเหรอคะ? (ร้องไห้)"
ผู้ชมในห้องไลฟ์ล้วนเป็นคนมีความสามารถ พูดจาก็ไพเราะ แม้วันนี้จะเป็นวันที่สองที่เขาไลฟ์ แต่เขาก็หลงรักอาชีพนี้ไปแล้ว
ความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองก็ได้รับการตอบสนองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ที่น่าสนใจคือ วิดีโอที่ซ่งเหวินเซวียนอัพโหลดเมื่อวานก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะฉากที่เขากลายเป็นคนกินจุหลังออกกำลังกาย ดึงดูดผู้ชมจำนวนมาก
ด้วยเหตุนี้ ผู้ติดตามบัญชีโด่วอินของเขาจึงเพิ่มขึ้นอีกหมื่นกว่าคน
ตอนนี้มีผู้ติดตามกว่า 65,000 คนแล้ว
คุยกับแฟนๆ ในห้องไลฟ์ไปครึ่งชั่วโมง ซ่งเหวินเซวียนก็เริ่มออกกำลังกายประจำวัน
ไลฟ์เกือบสามชั่วโมง บางครั้งก็โต้ตอบกับแฟนๆ เขารู้สึกว่าสนุกมาก
ถ้าไม่ได้ไลฟ์สด การออกกำลังกายคนเดียว แม้จะมีระบบให้ประสิทธิภาพเต็มที่ ก็คงเป็นเรื่องน่าเบื่อมาก
"ขอบคุณครับที่ทุกคนส่งของขวัญมา ขอบคุณมากๆ!"
หลังจากทำท่าออกกำลังกายเสร็จอีกหนึ่งเซ็ต ซ่งเหวินเซวียนที่เหงื่อท่วมเสื้อเดินมาที่หน้ากล้อง
เขาโต้ตอบกับแฟนๆ ในห้องไลฟ์ได้คล่องแคล่วขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มปล่อยตัวเป็นธรรมชาติมากขึ้น
"รู้สึกว่าเป็นภาพหลอนหรือเปล่า? รู้สึกว่าเสียงพูดของคนไลฟ์ฟังดูดีขึ้นเรื่อยๆ"
"ใช่ ฉันก็รู้สึกแบบนั้น แถมวันนี้คนไลฟ์ออกกำลังกายดูสบายกว่าเมื่อวานชัดเจน โดยเฉพาะตอนวิดพื้น ดูมีแรงขึ้นมาก!"
"ที่แท้ก็ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่คิดแบบนี้ (ร้องไห้)"
"การออกกำลังกายยังฝึกเสียงได้ด้วยเหรอ ตลกชะมัด! (ตกใจ)"
ด้วยพลังของระบบ การออกกำลังกายสองวันติดต่อกันทำให้ร่างกายพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน ในแง่สมรรถภาพร่างกาย ตอนนี้ซ่งเหวินเซวียนเหนือกว่าคนทั่วไปมากแล้ว
อีกทั้งการไลฟ์สองครั้งและการโต้ตอบกับแฟนๆ ก็ทำให้เสียงของเขาไพเราะขึ้นเรื่อยๆ เสียงห้าวๆ เมื่อสองวันก่อนก็หายไปแล้ว
โชคดีที่รูปร่างของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงชัดเจนนัก ไม่งั้นคงอธิบายยาก
"ฉันมีพรสวรรค์ เป็นอัจฉริยะในการฝึกฝนที่พบได้หนึ่งในล้าน พวกนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยทั้งนั้น!"
ซ่งเหวินเซวียนทำหน้าติดตลก พูดด้วยท่าทางหยิ่งๆ
"คนไลฟ์ทำตัวน่าหมั่นไส้จัง (โกรธ) บอกที่อยู่มาสิ อยากไปตีจัง (555)"
"เห็นด้วย!"
"เห็นด้วย +1"
"เห็นด้วย +10086"
จังหวะการคุยถูกซ่งเหวินเซวียนพาเข้าร่องเข้ารอย
หลังจากโต้ตอบกับแฟนๆ ในห้องไลฟ์อีกพักใหญ่ ตอนที่ซ่งเหวินเซวียนกำลังจะปิดไลฟ์เพื่อไปทำอาหาร
จู่ๆ ก็มีของขวัญ "ปาร์ตี้คาร์นิวัล" สีแดงปรากฏในห้องไลฟ์!
แล้วปาร์ตี้คาร์นิวัลก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ... +1... +2... +10...
ตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุด จนกระทั่งถึงปาร์ตี้คาร์นิวัล +30 จึงหยุดลง
(จบบท)
