บทที่ 565 ซวี่หลิงเยว่เวอร์ชั่นด้อยค่า

เมื่อเห็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเยาะเย้ยบนอินเทอร์เน็ตที่เป็นไปในทางเดียวกันแทบทั้งหมด โจวฮ่าวอดไม่ได้ที่จะอยากช่วยพูดสักคำ แต่กลับถูกซวี่หลิงเยว่ห้ามไว้

"ไม่จำเป็น พูดไปก็ไร้น้ำหนัก มีแต่จะทำให้กระแสยิ่งลุกลาม"

"อีกอย่าง ฝีมือการแสดงของฉันแย่ก็เป็นความจริง พวกเขาสงสัยก็เป็นเรื่องปกติ ไม่จำเป็นต้องไปปิดปากใคร"

"แสดงได้ดีแค่ไหน พอหนังฉาย พวกเขาก็จะรู้เอง"

ได้ เมื่อภรรยายังไม่รีบร้อน โจวฮ่าวก็ไม่จำเป็นต้องยุ่งเรื่องไม่เป็นเรื่อง

แม้ว่าการฉายรอบพิเศษจะได้รับการตอบรับดี แต่ก่อนฉายจริงยังมีขั้นตอนอีกหลายอย่างที่ต้องผ่าน แต่เรื่องนี้เขาไม่ต้องจัดการเอง จางหงกับเหยียนเล่ย์จะดูแลให้เรียบร้อย

แต่เขาก็ยังกังวลอยู่บ้าง เพราะด้วยเนื้อหา หนังเรื่องนี้อาจจะมีปัญหาในขั้นตอนการตรวจสอบสุดท้าย

เพราะเรื่องที่เกี่ยวกับผีสางเทวดา ก็เดินอยู่บนเส้นแดงอยู่แล้ว จะผ่านการตรวจสอบได้หรือไม่ ต้องแก้ไขมากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจะเข้มงวดแค่ไหน

แต่นั่นเป็นเรื่องภายหลัง อย่างน้อยตอนนี้ เขาก็ปลดปล่อยพลังงานออกมาได้แล้ว

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าจะได้พัก กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายอีกช่วง - จางโม่ให้คำตอบกลับมาแล้ว บอกว่าชอบบทนั้นมาก...

ได้รับคำตอบนี้ ก้อนหินก้อนสุดท้ายในใจโจวฮ่าวก็ตกลงพื้น

การที่ชอบบทนี้ พิสูจน์ว่าจางโม่เป็นผู้กำกับที่จริงจังจริงๆ - เพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีตัวละครหลายตัว ไม่มีตัวเอกที่โดดเด่น

พูดตรงๆ คือ... หนังเรื่องนี้ไม่ได้ปั้นดารา

ผู้กำกับที่อยากได้กระแสจากดาราดังแม้แต่นิดเดียว คงไม่สนใจบทนี้

ให้บทนี้จางโม่เป็นคนกำกับ น่าจะวางใจได้

และตอนนี้โจวฮ่าวยังมีงานอีกอย่าง - บทซิตคอมนั้น ก็ควรจะเริ่มได้แล้ว

สวี่เสี่ยว คนบ้าละครจากสถาบันการละครกลางปักกิ่ง ตอนนี้เป็นผู้กำกับคนหนึ่งในกองถ่าย "นักแสดงปลอมตัว" แล้ว... ว่ากันว่านักแสดงรุ่นใหม่มักจะไปขอคำแนะนำจากเธอ

สวี่เสี่ยวก็ไม่หวง ถามอะไรก็ตอบ รวดเร็วกลายเป็นที่รักของทั้งกองถ่าย

แม้แต่หลิวเหว่ยก็มักจะเรียกเธอไปเป็นที่ปรึกษา...

สามารถได้รับคำชมเป็นเสียงเดียวกันจากทั้งกองในเวลาสั้นๆ แบบนี้ พิสูจน์ว่าเด็กคนนี้มีความสามารถจริงๆ

อัญมณีดีๆ แบบนี้ ปล่อยทิ้งไว้ข้างนอกก็เสียดายเกินไป

ต้องรีบใช้งานซะแล้ว!

สร้างไฟล์เอกสารใหม่ ตั้งชื่อ - "My Own Swordsman - นักดาบของฉันเอง"

ละครเรื่องนี้ ถือเป็นจุดสูงสุดของซิตคอมจีน ใครจะเขียนประวัติซิตคอมจีน ก็ต้องพูดถึงละครเรื่องนี้ เป็นมาตรฐานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ละครเรื่องนี้ผสมผสานความสนุกที่เข้าถึงง่ายกับความลึกซึ้งภายในได้อย่างสมบูรณ์แบบ ใครๆ ก็หาจุดสนใจและความสนุกของตัวเองได้ - คนนอกวงการดูเพื่อความบันเทิง กินเมล็ดแตงโมกับแตงโมหัวเราะฮ่าๆ

หนังเรื่องนี้สร้างมุกตลกและวลีเด็ดมากมาย แม้ผ่านไปสิบยี่สิบปี พวกมันก็ยังเป็นที่นิยม พลังชีวิตที่แข็งแกร่งจนน่าทึ่ง

คนในวงการสามารถเห็นการเปรียบเทียบระหว่างอดีตกับปัจจุบันมากมาย และเมื่อดูละครนี้พร้อมกับเหตุการณ์ปัจจุบัน... ยิ่งดูยิ่งได้รสชาติใหม่

เหมือนกับหนังดัง "คนท้าใหญ่" ความเป็นคลาสสิกเพิ่มขึ้นตามกาลเวล

แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นแสงสุดท้ายของยุคซิตคอม

หลังจากนั้น ทุนจากอินเทอร์เน็ตเข้ามาควบคุมการทำงานของวงการ กระแสยอดวิวเริ่มครอบงำทั้งวงการ ตั้งแต่นักแสดงไปถึงคนเขียนบทและผู้กำกับ เริ่มไม่แตะดิน... ซิตคอมที่สะท้อนชีวิตจริงหายไปในชั่วข้ามคืน

หลังจากนั้น ผู้ชมที่คลื่นไส้อยากอาเจียนจากละครวัยรุ่นหวานเลี่ยนก็ได้แต่ดูซิตคอมคลาสสิกเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกในทีวีและคอมพิวเตอร์

เอาละครเรื่องนี้มา ก็พอจะตอบโจทย์คุณซูแล้ว กำหนดเป้าหมายแล้ว เขาก็เข้าสู่โหมดทำงานหนัก เขียนบทอย่างบ้าคลั่ง

ต้องเร็ว เพราะเวลาไม่รอใคร ต้องเหลือเวลาให้หนังรวมข้างหน้าเพียงพอ!

..

ในขณะที่เขาปลีกวิเวกทำงาน การถกเถียงในโซเชียลมีเดียก็ไม่ได้สงบลง

ก่อนหน้ามี "ไม่ได้รางวัลภาพยนตร์ฮ่องกงเลย" ตามมาด้วย "ฝีมือการแสดงระดับเทพของซวี่หลิงเยว่"... สองข่าวซ้อนกัน ความขัดแย้งพุ่งสูงสุด

แฟนคลับกับกลุ่มแอนตี้แฟนต่อสู้กันอย่างดุเดือด จากเว่ยป๋อไปฮวาเปี่ยน จากฮวาเปี่ยนไปเสี่ยวตี้กวา จากเสี่ยวตี้กวาไปวิดีโอยูอิง...

วุ่นวายไปหมด

แต่สิ่งที่ทำให้พวกคนสนุกผิดหวังคือ ทั้งโจวฮ่าวและซวี่หลิงเยว่เลือกที่จะเงียบ ไม่ลงมาร่วมวง

วินัยเชิงกลยุทธ์นี้ เยี่ยมมาก!

แต่ในช่วงนี้ มีคนกลับเทน้ำมันร้อนลงในกองไฟ - ลู่จุนเฟิง นักแต่งเพลงระดับท็อปที่เคยร่วมงานกับซวี่หลิงเยว่ แนะนำนักร้องสาวรุ่นใหม่

จริงๆ แล้วลู่จุนเฟิงประกาศว่าจะกลับมาในวงการเพลงจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่พอเจอโจวฮ่าวปล่อยเพลงใหม่ติดๆ กันก็สับสน แล้วก็เงียบหายไปในช่วงจำศีล

ครึ่งปีที่ผ่านมา นอกจากอัพเดตโซเชียลมีเดียบ้างเพื่อแสดงตัวตน เขาแทบไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ หลายคนถึงกับสงสัยว่าเขาอาจจะถูกกระทบกระเทือนมากเกินไป เลยตัดสินใจออกจากวงการอีกครั้ง

สิ่งที่ทำให้ทุกคนคาดไม่ถึงคือ เขาเก็บตัวทำงานใหญ่ - แนะนำนักร้องหน้าใหม่ และปล่อยอัลบั้มเต็มเลย!

แค่นี้ก็ทำให้วงการเพลงจีนตื่นเต้นแล้ว เพราะยุคนี้แทบไม่มีใครทำอัลบั้มเต็มแล้ว มันใช้เวลานานเกินไป!

และเมื่อข้อมูลของนักร้องสาวหน้าใหม่ถูกเปิดเผย โซเชียลมีเดียก็ระเบิดทันที!

"เฮ้ย... เฮ้ย หน้าเด็กคนนี้ดูคุ้นๆ นะ?"

"น้องสาว ทำไมดูคล้ายซวี่หลิงเยว่จัง?"

"พูดให้ชัดๆ เอาคำว่ารู้สึกออก นี่คือถั่วแดงเวอร์ชั่นวัยสาว!"

"เวอร์ชั่นวัยสาว? ดูเหมือนเวอร์ชั่นขอทานมากกว่า หน้าตาสไตล์คล้ายกัน แต่พอดูดีๆ แล้วห่างกันไกล"

"พูดเล่นหรือไง ถั่วแดงนั้นหน้าตาอยู่ระดับท็อปของวงการบันเทิงทั้งหมด จะหาตัวแทนที่คุณภาพเท่ากันไม่ง่ายหรอก"

"จู่ๆ เอาซวี่หลิงเยว่เวอร์ชั่นขอทานออกมา ลู่จุนเฟิงหมายความว่าไง?"

"เมื่อก่อนเคยมีคนพูดว่าลู่จุนเฟิงแอบชอบถั่วแดง ตอนนี้ดูเหมือนจะจริง นี่ขนาดผ่านมานานแล้วยังคิดถึงไม่เลิก"

"แล้วเขายังทรยศถั่วแดงอีก? ไอ้คนชั่ว น่ารังเกียจ!"

"โห การกระทำนี้น่าขยะแขยงมาก ทั้งขยะแขยงถั่วแดง ทั้งขยะแขยงโจวฮ่าว... ลู่จุนเฟิง นายเก่งจริงๆ"

"น่าขยะแขยงจริงๆ ให้โจวฮ่าวเห็นจะคิดยังไง?"

"บ้าไปแล้ว..."

ไม่ว่าโซเชียลมีเดียจะด่าอย่างไร ก็ไม่อาจหยุดการเดบิวต์ของนักร้องสาวหน้าใหม่คนนี้ได้

พึ่งพาต้นไม้ใหญ่อย่างลู่จุนเฟิง ซุนหมิ่น นักร้องสาวคนนี้ พอออกมาก็กลายเป็นท็อปสตรีมในโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม แทบทุกแพลตฟอร์มเห็นโปสเตอร์อัลบั้มของเธอ ดังข้ามคืนจริงๆ

ตอนที่โจวฮ่าวรู้เรื่องนี้ ก็เป็นวันที่สองหลังอัลบั้มวางจำหน่ายแล้ว

และยอดขายวันแรกของอัลบั้มนี้ระเบิดมาก ภายในวันเดียวขายได้ถึงหนึ่งล้านสามแสนชุด!

สำหรับอัลบั้มแรกของนักร้องหน้าใหม่ ยอดนี้ถือว่าเป็นตัวเลขระดับมหาศาล!

สื่อหลายแห่งอุทานทันที: ราชินีเพลงจีนคนต่อไป มาแล้ว!

(จบบท)