บทที่ 402: โรงแรมใต้ทะเล
ไอ้หมอนี่ไม่หัดอ่านสถานการณ์ซะบ้าง!... เจียงซิ่วบ่นในใจอย่างหงุดหงิด
แม้ว่าเขาจะเป็นนักพัฒนาสัตว์อสูรระดับ A แต่เมื่อมีข่าวว่าผู้ฝึกสัตว์อสูรของพรายเกล็ดน้ำค้างจะมาที่นี่ ในภูมิภาคกู่หวู่ก็มีนักพัฒนาสัตว์อสูรระดับเดียวกันหลายคนทั้งที่แสดงตัวและแอบเข้ามาแข่งกันเพื่อรับงานนี้แบบฟรีๆ ไม่รู้ว่าพวกที่วันๆเอาแต่ก้มหน้าวิจัยได้ข่าวพวกนี้จากไหนกันแน่
เขาเองก็ต้องอาศัยความสัมพันธ์จากการเป็นรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยของหลิวเหยา ถึงได้แย่งงานนี้มาได้
ช่างเถอะ ยังเหลือเวลาอีกตั้งสิบกว่าวัน ให้เฉียวซางได้สัมผัสบรรยากาศของภูมิภาคกู่หวู่ไปก่อนละกัน... เจียงซิ่วหันไปพูดกับกิ้งก่าผลึกขาวว่า "ไปกันเถอะ"
"เยียน"
กิ้งก่าผลึกขาวพยักหน้าก่อนจะค่อยๆคลานลงไปในคลองน้ำและหยุดอยู่ตรงริมฝั่ง
"พวกเธอขึ้นมาได้เลย" เจียงซิ่วพูดพร้อมกับนั่งลงบนตัวของกิ้งก่าผลึกขาว
กิ้งก่าผลึกขาวนั้นไม่เหมือนสัตว์อสูรประเภทน้ำตัวอื่นในลำคลองที่มีเก้าอี้ติดตั้งบนตัว แต่มันมีขนาดใหญ่พอ และลำตัวของมันก็มีส่วนที่ยื่นออกมาคล้ายหนามในบางจุดซึ่งพอจะใช้แทนที่พิงหลังได้
ทั้งสี่คนขึ้นไปนั่งบนตัวของมันอย่างรวดเร็ว
เจียงซิ่วนั่งอยู่ด้านหน้า เขาลูบหัวกิ้งก่าผลึกขาวเบาๆ
ทันใดนั้น กิ้งก่าผลึกขาวก็อ้าปากออก ฟองน้ำขนาดใหญ่โปร่งแสงก่อตัวขึ้นจากด้านหน้าและห่อหุ้มร่างของมันทั้งตัว
นี่จะลงน้ำจริงๆเหรอเนี่ย... เฉียวซางเพิ่งคิดได้ไม่นาน กิ้งก่าผลึกขาวก็พลันพุ่งลงน้ำไป
ทันใดนั้น ทิวทัศน์รอบตัวก็เปลี่ยนไป
ตามปกติ สายน้ำยามค่ำคืนมักจะมืดสนิทจนชวนขนลุก แต่คลองใต้เมืองไห่เฉิงในช่วงเวลานี้กลับมีแสงสีน้ำเงินลึกลับกระจายอยู่ทุกหนแห่ง สัตว์อสูรประเภทน้ำที่เปล่งแสงลี้ลับประดับประดาโลกใต้น้ำให้สวยงามราวกับเป็นอีกมิติหนึ่ง
สวยเกินไปแล้ว แล้วสัตว์อสูรพวกนี้...ทำไมถึงได้มีเยอะขนาดนี้กัน... เฉียวซางตกตะลึงกับภาพตรงหน้า
รอบตัวเธอมีสัตว์อสูรประเภทน้ำหลากหลายชนิดรวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นสายพันธุ์ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
"ซุน ซุน!"
ซุนเป่าตาเป็นประกาย มันตื่นเต้นจนกระโดดไปเกาะฟองน้ำ พลางจ้องมองโลกภายนอกอย่างตื่นเต้น
"แม่เจ้า! นี่ต้องลงโซเชียลหน่อยแล้ว!" สวี่อี้เสวียนยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปด้วยความตื่นเต้น
ซุ่นปั๋วอวี้ยังคงพยายามรักษามาดของอาจารย์ผู้เข้มขรึมเอาไว้ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายภาพสองสามรูป
เจียงซิ่วหันกลับมามองสีหน้าของเฉียวซาง แล้วเขาก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
เขารู้อยู่แล้วว่าไม่มีใครสามารถต้านทานความงามของทิวทัศน์ใต้น้ำในภูมิภาคกู่หวู่ได้
"นี่เป็นสัตว์อสูรป่าหมดเลยเหรอคะ?" เฉียวซางถาม
เจียงซิ่วเผยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร ก่อนอธิบายว่า "ภูมิภาคกู่หวู่ไม่เหมือนภูมิภาคเย่หัว เมืองของเราถูกล้อมรอบไว้ด้วยน้ำ สัตว์อสูรป่าที่อยู่ใต้น้ำไม่มีทางขับไล่ออกหมดได้ ดังนั้นเราจึงอยู่ร่วมกันกับมันอย่างสงบสุข แค่ไม่รบกวนมันโดยไม่จำเป็นก็จะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว"
ไม่ทันไร สัตว์อสูรรูปร่างบางใสที่มีครีบคู่เหมือนปีกโบยบิน ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านนอกฟองน้ำ มันส่งจูบให้กับซุนเป่า
"ซุนซุน!"
ซุนเป่าตื่นเต้นจนแทบจะพุ่งทะลุฟองน้ำออกไป
ตั้งแต่เกิดมา มันยังไม่เคยเจอสัตว์อสูรตัวไหนที่แสดงความเป็นมิตรออกมาทันทีที่เจอแบบนี้มาก่อน!
มันอยากจะเป็นเพื่อนกับเจ้านั่น!
เฉียวซางตกใจจนรีบคว้าซุนเป่าเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน
เจียงซิ่วหัวเราะแล้วพูดว่า "นี่คือสัตว์อสูรที่ชื่อคิสซี่หรือจะเรียกอีกอย่างว่่่าปลาจูบก็ได้ จริงๆแล้วมันไม่มีอะไรหรอก มันแค่ชอบส่งจูบเล่นไปทั่ว เป้าหมายที่มันส่งจูบนี่นับไม่ถ้วนเลยนะ บอกให้อสูรล่าสมบัติของเธออย่าไปจริงจังกับมันมากนัก"
แต่เฉียวซางยังไม่ทันต้องพูดอะไร ซุนเป่าก็เข้าใจเองเรียบร้อยแล้ว
มันมองคิสซี่ที่ว่ายจากไปด้วยสายตาเหม่อลอย และเห็นว่ามันไม่ทันไปไหนไกลก็ส่งจูบให้เป้าหมายใหม่อีกแล้ว
"ซุน..."
ซุนเป่าแสดงสีหน้าผิดหวัง ความปรารถนาในมิตรภาพที่เพิ่งจะจุดประกายก็แตกสลายไปทันที
แต่โชคดีที่ซุนเป่าเปลี่ยนความสนใจได้ง่ายมาก
ไม่นานมันก็ลืมเรื่องของคิสซี่หมดสิ้น แล้วหันไปตื่นเต้นกับสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติอื่นๆที่อยู่ด้านนอกฟองอากาศ
...
กิ้งก่าผลึกขาวไม่ได้ว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่มุ่งหน้าลึกลงไปยังส่วนลึกของใต้น้ำ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขาก็มาถึงโรงแรมที่ถูกล้อมรอบด้วยฟองอากาศขนาดยักษ์ ตัวอาคารหรูหราและโอ่อ่าอย่างเหลือเชื่อ
เฉียวซางและพวกอีกสองคนถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก
โรงเรียนทุ่มทุนขนาดนี้เลยเหรอ?! สวี่อี้เสวียนตกใจสุดขีด
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะตกตะลึงขนาดนี้ เพราะในสองปีก่อนที่เธอได้มาแข่่งยังรอบแบ่งเขตภูมิภาค เธอได้แต่นอนในโรงแรมราคาถูก!
อาคารตรงหน้าที่ดูหรูหราอลังการแบบนี้ มองจากนอกบลูสตาร์ยังรู้้เลยว่าเป็นโรงแรมห้าดาว
ในภูมิภาคกู่หวู่ โรงแรมที่อยู่ใต้น้ำในระดับเดียวกันนี้ แพงกว่าบนบกถึงสามเท่า
นั่นหมายความว่า การพักในโรงแรมห้าดาวนี้หนึ่งคืน เท่ากับการพักในโรงแรมห้าดาวบนบกสามคืนเลยทีเดียว!
ซุ่นปั๋วอวี้พูดขึ้นอย่างลังเลว่า "ศาสตราจารย์เจียง ผมจำได้ว่าผมไม่ได้จองโรงแรมนี้นะครับ"
ที่แท้ก็เข้าโรงแรมผิดหรอกเหรอ?... สวี่อี้เสวียนรู้สึกเศร้าใจในใจเงียบๆ
เจียงซิ่วหัวเราะแล้วพูดว่า "โรงแรมที่นายจองไว้น่ะ ฉันไปดูมาแล้ว ห้องเล็กไปหน่อย แถมยังไม่สะดวกสำหรับการฝึกซ้อม พวกนายเดินทางมาไกลทั้งที ไหนๆก็มาถึงภูมิภาคกู่หวู่แล้ว ควรพักให้สบายหน่อย"
"เพราะงั้นฉันเลยเปลี่ยนโรงแรมให้พวกนายใหม่ โรงแรมนี้อยู่ด้านบนของสนามประลองสัตว์อสูรของเมืองไห่เฉิง พอถึงเวลาการแข่งขันก็จะสะดวกมาก"
"แถมทุกห้องที่ฉันจองไว้มีหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นวิวใต้น้ำได้เต็มที่ จะนอนพักไปพร้อมกับดูวิวใต้น้ำแบบนี้ ฉันคิดว่าสัตว์อสูรประเภทน้ำของพวกนายคงจะชอบมาก"
พูดจบ เขาหันสายตาไปมองเฉียวซาง ราวกับจะบอกว่า
โรงแรมนี้ฉันจองมาเพื่อพรายเกล็ดน้ำค้างของเธอโดยเฉพาะ มันต้องชอบแน่ๆ!
สวี่อี้เสวียนตื่นเต้นจนแทบไม่อยากเชื่อว่าได้พักในโรงแรมนี้จริงๆ เธอแทบจะอยากโยนทุกอย่างทิ้งแล้ววิ่งกระโจนเข้าไปในห้องทันที
ซุ่นปั๋วอวี้เอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่สายตาที่เขามองเฉียวซางนั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อน เพราะเขารู้ดีว่าเหตุผลทั้งหมดที่เจียงซิ่วทำแบบนี้ก็เพราะอะไร
...
ทั้งสามคนได้ห้องพักกันคนละห้อง
ห้องพักตกแต่งอย่างหรูหราสุดๆ ภายนอกหน้าต่างบานใหญ่มีสิ่งมีชีวิตประเภทน้ำหลากหลายสายพันธุ์ว่ายผ่านไปมาเป็นระยะ ๆ บรรยากาศให้ความรู้สึกสมจริงราวกับตัวเองกำลังอยู่ภายใต้สายน้ำเฉกเช่นเดียวกับพวกมัน
เฉียวซางเรียกหยาเป่าและลู่เป่าที่กำลังหลับออกมา พอเธอล้มตัวลงนอนบนเตียง หนังตาก็ค่อยๆหนักอึ้งจนหลับไปอย่างรวดเร็ว
เช้าวันรุ่งขึ้น เฉียวซางสะดุ้งตื่นเพราะเสียง "ย่าห์!", "ซุนซุน!", และ "ลู่ลู่!" ที่ดังตลบอบอวล
เมื่อเธอลืมตาขึ้น ก็เห็นหยาเป่าและลู่เป่ากำลังเกาะอยู่ที่หน้าต่างบานใหญ่ด้วยท่าทางตื่นเต้น มองวิวใต้น้ำที่สวยงามอย่างสนุกสนาน
หยาเป่าและลู่เป่ายืนใกล้กัน แถมยังแกว่งหางพร้อมกันอย่างน่ารัก ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกมันดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
เฉียวซางลุกขึ้นนั่ง มองภาพตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ "พวกแกคืนดีกันแล้วเหรอเนี่ย?"
"ย่าห์!"
หยาเป่าหันมาทันทีที่ได้ยินเสียงของผู้ฝึกมัน เลยกระโดดเข้ามาหาเธอด้วยความตื่นเต้น
เฉียวซางจึงได้แต่อ้าแขนและรับมันไว้โดยอัตโนมัติ
"ลู่..."
อีกด้านหนึ่ง ลู่เป่าหันมามองเฉียวซางเมื่อได้ยินคำถาม มันหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหน้าไปอีกทางด้วยท่าทางหยิ่งยโสและแสดงอาการเหมือนไม่ยอมรับง่ายๆ
ใครคืนดีกับเจ้าหมอนี่กันเล่า!
ลู่เป่าหันหน้าหนีอย่างหยิ่งยโส แต่หยาเป่าไม่สนใจคำพูดนั้นเลย มันตื่นเต้นมาก ใช้กรงเล็บชี้ไปที่วิวใต้น้ำด้านนอกและร้องออกมาสองครั้ง แสดงความเห็นว่าที่นี่สวยมาก
เฉียวซางจ้องมองหยาเป่าอยู่สองวินาที ก่อนจะถามว่า "ไม่ใช่ว่าแกเกลียดน้ำที่สุดเหรอ?"
"ย่าห์?"
หยาเป่าชะงักเล็กน้อย ก่อนจะแสดงสีหน้าสงสัยเหมือนไม่เข้าใจตัวเอง
จริงด้วย...แต่ดูเหมือนตอนนี้มันจะไม่ได้เกลียดน้ำขนาดนั้นแล้ว...
เฉียวซางเข้าใจทันทีว่าเป็นเพราะอะไร
ตั้งแต่หยาเป่าได้วิวัฒนาการและประเภทพลังจิตเพิ่มเข้ามา มันก็ไม่ได้เกลียดน้ำเท่าเดิมอีกต่อไป ยิ่งตอนฝึกกับลู่เป่าในสวน ถ้ามีน้ำกระเด็นใส่ มันก็ไม่ได้แสดงความรำคาญเหมือนเมื่อก่อน
แถมลู่เป่าฝึกทักษะประเภทน้ำอยู่ข้างๆมันบ่อยๆทำให้หยาเป่าก็เริ่มคุ้นเคยกับน้ำมากขึ้น
นี่เป็นโอกาสดีที่จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างหยาเป่ากับลู่เป่า เฉียวซางคิดในใจว่าจะไม่บอกเหตุผลที่แท้จริงกับพวกมันเด็ดขาด
เธอแกล้งทำท่าครุ่นคิด ก่อนพูดอย่างเข้าใจว่า "หรือเพราะลู่เป่าแกเลยไม่เกลียดน้ำแล้ว?"
"ย่าห์..."
หยาเป่าทำหน้าจริงจังและเริ่มนึกย้อนกลับไป ดูเหมือนว่าหลังจากลู่เป่าเข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกับมัน มันก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดน้ำขนาดนั้นอีกแล้ว
สุดท้ายมันก็พยักหน้าอย่างมั่นใจ
"ลู่..."
ลู่เป่าได้ยินบทสนทนานั้น ตัวของมันแข็งค้างทันที
เฉียวซางเห็นท่าทีของลู่เป่า รีบใช้โอกาสนี้พูดต่อว่า "ลู่เป่าที่นี่คือภูมิภาคกู่หวู่ ใต้น้ำคือถิ่นที่แกถนัดและคล่องตัวมากที่สุด ถ้าพวกเราออกไปเล่น แกต้องช่วยดูแลหยาเป่าดีๆนะ"
"ซุน!"
ซุนเป่าร้องขึ้นมา เหมือนจะย้ำเตือนว่ามันก็อยู่ที่นี่ด้วย
"รวมถึงเจ้าซุนเป่าด้วย" เฉียวซางพูดเสริม
"ลูลู่..."
ลู่เป่าไม่ได้มองหยาเป่า แต่พยักหน้าอย่างแข็งทื่อ เพื่อตอบรับว่ามันเข้าใจแล้ว