ตอนที่แล้วบทที่ 383: โหดจริง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 385: ติดเทรนด์อันดับหนึ่ง

บทที่ 384: หยาเป่า VS ดอกหางดวงตะวัน


ปรี๊ด!!! เสียงนกหวีดดังขึ้น

ถัดมาเสียงประกาศด้วยสำเนียงชัดเจนก็ถูกถ่ายทอดผ่านลำโพงไปทั่วสนามประลองสัตว์อสูรเมืองไค่หนาน

“การแข่งขันรอบแรกเฉียวซางจากโรงเรียนเซินซุ่ยเป็นผู้ชนะ”

“ว้าว!”

เสียงโห่ร้องสนั่นลั่นสนามทันที บรรยากาศเต็มไปด้วยความเดือดพล่าน

โดยเฉพาะกลุ่มผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ในที่นั่งชมของพวกเขา ดวงตาแต่ละคนเบิกกว้างราวกับไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

นี่เป็นความรู้สึกตื่นตะลึงที่เฉพาะนักเรียนชั้นปีสามในปีนี้เท่านั้นที่จะเข้าใจได้

ติงเหยียนจิ่งคือคนที่เป็นเงาดำทาบทับจิตใจของทีมโรงเรียนชั้นปีสามทั้งหมด แต่กลับแพ้ไปแบบนี้เลยงั้นเหรอ?!

“เวรเอ๊ย! เฉียวซางนี่มันปีศาจชัดๆ…”

“นี่โลกมันจะหมุนกลับด้านแล้วใช่ไหม…”

“ติงเหยียนจิ่งคนที่เคยอัดฉันเละไม่มีชิ้นดี ดันมาแพ้ให้กับเด็กปีหนึ่งเนี่ยนะ?!”

“ก็โทษเขาไม่ได้หรอก คิดดูดีๆสิ สัตว์อสูรประเภทผีและพลังจิตที่ใช้ทักษะควบคุมเงาได้แบบสามมิติต่อให้อีกาสายฟ้าฟาดจะเร็วแค่ไหนก็หนีไม่พ้นหรอก”

“ถ้าการป้องกันของอีกาสายฟ้าฟาดแข็งแกร่งกว่านี้อีกนิด หลังจากหลุดจากการควบคุมเงาได้แล้ว เกมอาจจะพลิกได้เหมือนกัน เพราะอสูรล่าสมบัติที่เปราะบางขนาดนั้นโดนฟ้าผ่าไปทีเดียวก็แพ้แล้ว”

“ตั้งแต่แข่งมาก็มีแค่หมอนี่คนเดียวที่สามารถหลุดจากควบคุมเงาได้”

“ให้ตายเถอะ แค่ตอนจังหวะที่หมอนั่นให้อีกาสายฟ้าฟาดเอาปากจิกพื้นตอนนั้น ในใจฉันหมอนั่นก็ชนะไปแล้ว เพราะถ้าเป็นฉันคงไม่มีวันคิดวิธีแบบนั้นออกแน่ๆ”

“พวกนายอย่าพึ่งลืมไปสิว่าสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดของติงเหยียนจิ่งไม่ใช่อีกาสายฟ้าฟาดแต่เป็นหางพฤกษาต่างหาก”

ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่ที่เคยแพ้ให้ติงเหยียนจิ่ง ต่างก็รู้สึกสะใจลึกๆกับผลลัพธ์นี้ แต่บนใบหน้าและคำพูดกลับทำทีเหมือนพยายามหาข้อแก้ตัวให้กับติงเหยียนจิ่ง

ก็ถ้าขืนด่าไปว่าหมอนัั่นกาก คำด่าพวกน้ันมันจะวกกลับมาที่พวกเขาซึ่งเคยโดนไอ้เวรนั่นอััดจนเละน่ะสิ!

ในขณะที่ผู้เข้าแข่งขันแสร้งทำเป็นพูดเข้าข้างเขา แต่ความคิดเห็นในช่องถ่ายทอดสดกลับตรงไปตรงมากว่ามาก

[ประกาศอย่างเป็นทางการ! แชมป์ระดับมณฑลคนใหม่ถือกำเนิดแล้ว!]

[ฮ่าๆๆๆ! ไอ้ติ้ง! เอ็งก็มีวันนี้เหมือนกันสินะ!]

[เฉียวซางสุดยอด!]

[อยากเห็นพรายเกล็ดน้ำค้าง…]

[โว้ย! ตอนแรกฉันก็แค่คิดเล่นๆ แต่ไม่อยากเชื่อเลยว่าติงเหยียนจิ่งจะแพ้จริงๆ!]

[ฉันตัดสินใจแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นแฟนตัวยงของเฉียวซาง!]

[แม่เจ้า! ยัยเด็กนี่มันของจริงสุดๆ!]

[รอบสองก็สู้เขานะ ยัยเฉียวสุดโฉด!]

[อยู่ๆฉันก็นึกได้ว่าสัตว์อสูรอีกตัวของติงเหยียนจิ่งคือหางพฤกษา…]

[หวังว่าสัตว์อสูรของเฉียวซางจะไม่บ้าจี้นะ!]

[พวกนาย ฉันพูดจริงนะ เมื่อกี้ฉันหัวเราะเยาะไอ้เวรนั่นจนตะคริวกินแน่ะ…]

สนามประลองสัตว์อสูรเมืองไค่หนาน

แถวแรกของที่นั่งผู้ชม

หวังเว่ยโต้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่นออกมา

“ฮ่าๆๆ! ผู้อำนวยการหวง ถึงผลจะออกมาเป็นแบบนี้ แต่ติงเหยียนจิ่งก็ถือว่าเก่งมากแล้วล่ะ แต่น่าเสียดายที่ดันมาเจอเฉียวซางจากโรงเรียนเราตั้งแต่รอบแรกๆ ไม่งั้นเขาน่าจะมีลุ้นติดสามอันดับแรกในปีนี้แน่ๆ!”

พูดจบเขาก็หันไปมองฟู่ไห่หยางด้วยสายตาเป็นนัย รีบพูดอะไรที่ทำให้ไอ้แก่หวงนี่โมโหขึ้้นไปอีกสิ!

ฟู่ไห่หยาง: "???"

มองฉันทำไมเนี่ย! ถึงเราจะตกลงจัดแข่งกระชับมิตรร่วมกัน แต่โรงเรียนฉันกับหลี่ตันอยู่ในละแวกเดียวกันนะโว้ย ถ้าฉันพูดช่วยเอ็งตอนนี้ แล้วไอ้แก่หวงมาหาเรื่องฉันทีหลังจะทำยังไง?

ฟู่ไห่หยางทำเป็นไม่เข้าใจความนัยของหวังเว่ยโต้ว

หวังเว่ยโต้วยังคงส่งสายตามองเขาอย่างต่อเนื่องจนเปลือกตาแทบจะเป็นตะคริว

ฟู่ไห่หยางที่ถูกมองจนรู้สึกแปลกๆสุดท้ายก็ต้องกระแอมไอแห้งๆแล้วพูดออกมาแบบไร้อารมณ์ว่า “อืม… อยากดูรอบถัดไปจริงๆ”

หวังเว่ยโต้ว: "…"

ใช่แล้ว คู่ถัดไปก็คือดอกหางดวงตะวัน

ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าชายวัยกลางคนรูปร่างท้วมที่นั่งข้างผู้อำนวยการหวงเหรินเปียวซึ่งตอนแรกมีสีหน้าดูไม่พอใจ กลับเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

ผู้อำนวยการหวงเหรินเปียวไม่ได้พูดอะไร เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรแสดงสีหน้าแบบไหนดีเพื่อตอบโต้ความเย้ยหยันของหวังเว่ยโต้วที่อยู่ตรงหน้า เลยเลือกที่จะไม่แสดงสีหน้าอะไรเลยและพยายามนิ่งเฉยให้มากที่สุด

หวังว่าตอนที่ติงเหยียนจิ่งเรียกดอกหางดวงตะวันออกมา แกจะยังยิ้มได้นะ… หวงเหรินเปียวคิดในใจ

บนสนามแข่งขัน

“ฉันยอมรับว่าเธอเก่งมากจริงๆ แต่คิดว่าแค่นี้จะชนะฉันได้เหรอ?” ติงเหยียนจิ่งจ้องมองเฉียวซางพร้อมพูดออกมา

เฉียวซางชะงักไปเล็กน้อย ก่อนพยักหน้าและตอบกลับไปอย่างหน้าตาเฉยว่า “ก็ใช่น่ะสิ”

ติงเหยียนจิ่ง: "..."

เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนพูดต่อ “เมื่อกี้ฉันแค่พลาดนิดหน่อย”

เฉียวซางพยักหน้า “ฉันรู้ ตั้งแต่ตอนที่อีกาสายฟ้าฟาดของนายเริ่มหมดพลังไปครึ่งหนึ่งแล้วแถมยังได้รับบาดเจ็บอีก นายไม่ควรให้มันใช้ทักษะในจังหวะสุดท้ายจนมันต้องเจ็บหนักแบบนั้นเลย”

คำพูดนี้ทำเอาติงเหยียนจิ่งถึงกับมึนไปเลย โดยไม่เข้าใจสักนิดว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไรกันแน่

ปรี๊ด!!!

เสียงนกหวีดดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสัญญาณเริ่มการเรียกสัตว์อสูรตัวใหม่

ในขณะเดียวกัน บนหน้าจอถ่ายทอดสดก็เต็มไปด้วยข้อความจากผู้ชมที่พิมพ์กันแบบถล่มทลาย

[พรายเกล็ดน้ำค้าง! พรายเกล็ดน้ำค้าง! ขอร้องล่ะ เรียกพรายเกล็ดน้ำค้างออกมาเถอะ!]

[สุนัขเพลิงเร้นลับ! ฉันอยากเห็นสุนัขเพลิงเร้นลับ!]

[อย่าหวังเลย ฉันเคยดูการแข่งของเฉียวซางมาแล้ว เธอชอบใช้สัตว์อสูรตัวเดิมจนจบเกม เว้นแต่ว่าอสูรล่าสมบัติของเธอจะแพ้ถึงจะเรียกตัวใหม่]

[ถ้าพูดแบบนี้ ฉันก็อยากเห็นเฉียวซางแพ้สักรอบนะ]

[ไม่นะ! ฉันอยากเห็นพรายเกล็ดน้ำค้าง!]

[อสูรล่าสมบัติน่ารักดีนะ ให้มันโชว์อีกสักหน่อยก็ได้]

[จากที่ฉันสังเกต เธอมีโอกาสเรียกสัตว์อสูรตัวใหม่แน่ ดูสิ เธอเรียกอสูรล่าสมบัติเข้าไปแล้ว]

[พรายเกล็ดน้ำค้าง! ฉันไม่สน! ฉันอยากเห็นพรายเกล็ดน้ำค้าง!]

[อย่าคาดหวังเลย พรายเกล็ดน้ำค้างเป็นประเภทน้ำ ติงเหยียนจิ่งตัวต่อไปเป็นประเภทพืช คนมีเหตุผลไม่มีใครเอาประเภทน้ำมาเจอกับประเภทไม้หรอก]

[แต่ว่าพรายเกล็ดน้ำค้างมีประเภทน้ำแข็งด้วยนี่นา ประเภทน้ำแข็งเอาชนะประเภทพืชได้พอดีเลยด้วย!]

[เลิกเถียงกันได้แล้ว การแข่งขันเริ่มแล้ว เรียกตัวไหนเดี๋ยวก็รู้เอง]

ผู้ชมจำนวนมหาศาลจากหลากหลายสถานที่จ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์

ในจังหวะเดียวกันบนหน้าจอถ่ายทอดสด กลุ่มดาวสีเขียวและสีเทาส่องแสงขึ้นพร้อมกัน

และในตอนนั้นเอง ข้อความจากผู้ชมก็ล้นทะลักจนบังหน้าจอไปหมด

ผู้ชมกว่า 70% ทำสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน… นั่นก็คือปิดข้อความถ่ายทอดสดทันที

สนามประลองสัตว์อสูรเมืองไค่หนาน

หลังจากเงียบไปชั่วขณะ ทั้งที่นั่งผู้ชมและพื้นที่พักของผู้เข้าแข่งขัน ทุกคนแทบจะลุกขึ้นพร้อมกัน ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและตื่นเต้น จ้องมองไปยังสัตว์อสูรสีแดงขาวที่ดูงดงามและสง่างามจนเกินบรรยายที่ยืนอยู่กลางสนาม

ในวินาทีนั้น ความเป็นระเบียบของสนามประลองก็หายไปทันที

“เชี่ย! เชี่ย! เชี่ย! อ๊ากกกกกกก!”

“นั่นมัน… สุนัขเพลิงเร้นลับใช่ไหม?! แม่เจ้า! มันวิวัฒนาการเป็นสัตว์อสูรระดับสูงแล้วเหรอ?!”

“โอย! หล่อเท่เกินไปแล้ว!”

“กรี๊ดดดดด! คุ้มค่าจริงๆที่ลางานมาวันนี้! โคตรคุ้มกับเงินโบนัสที่ถูกหักเลย!”

“เดี๋ยวนะ! เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีดอกหางดวงตะวันอยู่ด้วย!”

“แค่ดูจากรูปร่างก็ดูออกเลยว่านี่คือร่างวิวัฒนาการจากสุนัขเพลิงเร้นลับแน่นอน!”

“อืม…ก่อนหน้าฉันเคยเห็นว่ามีคนบอกว่าสุนัขเพลิงเร้นลับวิวัฒนาการแล้ว ตอนนั้นฉันยังด่าคนโพสต์ว่าไร้สาระอยู่เลย สุดท้ายคนไร้สาระกลายเป็นฉันเอง…”

เสียงฮือฮายังดังต่อเนื่อง

จู่ๆก็มีเสียงไมค์ช็อตดังขึ้น ตามด้วยเสียงประกาศผ่านลำโพงที่ชัดเจนและสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น

“ขอความกรุณาให้ทุกท่านอยู่ในความสงบ! โปรดเงียบลงด้วย!”

แต่ถึงจะประกาศไปแบบนั้นบรรยากาศก็ยังคงวุ่นวายไม่ซาลงเลยแม้แต่นิดเดียว

“การแข่งขันกำลังจะเริ่มแล้ว! ขอทุกคนกลับไปยังที่นั่งของตนเองและรักษาความสงบ!”

คำประกาศนี้ทำให้ผู้ชมเริ่มกลับเข้าสู่ที่นั่งทีละคน และทุกคนก็ดึงโทรศัพท์ออกมาเปิดโหมดบันทึกวิดีโอด้วยความตื่นเต้น

ที่นั่งผู้ชมแถมหน้าสุด

หวงเหรินเปียวตื่นจากความสับสน หันไปมองหวังเว่ยโต้วที่ตอนนี้ยิ้มกว้างจนแทบจะถึงท้ายทอย ดวงตาเต็มไปด้วยความซับซ้อนก่อนจะพูดขึ้นเป็นครั้งแรกว่า

“ไม่น่าแปลกใจที่คุณมั่นใจมั่นใจหนาว่าเฉียวซางจะชนะ”

หวังเว่ยโต้วที่ก่อนหน้านี้ทำตัวเย้ยหยันคนอื่น คราวนี้กลับทำเป็นถ่อมตัวขึ้นมาแทน “ฮ่าๆๆไม่ขนาดนั้นหรอก?”

หวงเหรินเปียว: "..."

บนสนามแข่ง

ติงเหยียนจิ่งมองสัตว์อสูรที่เฉียวซางเพิ่งเรียกออกมา ดวงตาเบิกกว้างพร้อมกับความคิดในหัวที่ตีกันวุ่นวาย ราวกับมีเสียงวิ้งๆดังสนั่น

สุนัขเพลิงเร้นลับ… วิวัฒนาการแล้ว?!

ทางด้านหยาเป่ามันยืนมองคู่ต่อสู้อย่างตื่นเต้น สายตาเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความกระตือรือร้น ถ้าไม่ใช่เพราะมีผู้ชมเต็มสนามจนต้องรักษาภาพลักษณ์ไว้ มันคงบินวนขึ้นฟ้าไปสักรอบแล้ว

“ย่าห์!”

ในที่สุดมันก็ได้สู้สักที!

“เว่ย…”

ดอกหางดวงตะวันที่อยู่ตรงข้ามมองสัตว์อสูรตัวใหญ่ที่ดูน่ากลัวอย่างชัดเจนด้วยสีหน้าตื่นตัว ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย

มันถูกผู้ฝึกสัตว์อสูรของตัวเองหลอกเข้าเต็มๆว่าใครก็ตามที่เห็นมันจะต้องหวาดกลัว…

แต่ทำไมคู่ต่อสู้นี่ดูเหมือนจะตื่นเต้นแทนล่ะ?!

ปรี๊ด!!!

เสียงนกหวีดดังขึ้นจากสัตว์อสูรประเภทจักรกลที่ลอยอยู่กลางสนามซึ่งรับหน้าที่เป็นกรรมการเสริม

“เว่ย!”

ทันทีที่ได้ยินเสียงนกหวีด ดอกหางดวงตะวันก็เริ่มลงมือ มันสะบัดตัวครั้งหนึ่ง ลูกบอลสีขาวเล็กๆคล้ายดอกตูมก็พุ่งออกมาจากตัวมัน พอถูกลมพัดก็ฟุ้งกระจายไปทั่วสนาม

ลูกบอลสีขาวเหล่านี้เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆและดูเหมือนจะครอบคลุมพื้นที่สนามมากขึ้นทุกที

ตั้งสติ… ตั้งสติ… นี่คือการแข่งขัน ฉันแพ้ไม่ได้อีกแล้ว ติงเหยียนจิ่งสูดลมหายใจลึกเพื่อปรับอารมณ์ให้มั่นคง มองสถานการณ์บนสนามด้วยสายตาแน่วแน่

การกระจายลูกบอลตั้งแต่เริ่มเป็นแผนที่เขากับดอกหางดวงตะวันวางไว้ล่วงหน้าตั้งแต่แรกแล้ว

ลูกบอลเหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษ หากแตะโดนจะทำให้พลังกายของศัตรูอ่อนแอลง ไม่ว่าจะอยู่บนฟ้าหรือพื้นดิน หากสัมผัสก็จะได้รับผลกระทบ ซึ่งไม่เว้นแม้แต่สัตว์อสูรวิวัฒนาการระดับสูงอย่างสุนัขเพลิงเร้นลับที่วิวัฒนาการแล้ว

ในขณะที่ติงเหยียนจิ่งตั้งสติ เฉียวซางยกมือขึ้น

มีบางอย่างที่เธออยากลองทำมานานแล้ว…

ผู้คนนับล้านที่ชมถ่ายทอดสดต่างจับจ้องไปยังหน้าจอ กล้องซูมไปที่เฉียวซาง

สาวน้อยผมมัดหางม้าในจอภาพดีดนิ้วเบาๆครั้งหนึ่ง

ในทันใดนั้นเอง สัตว์อสูรสีแดงขาวที่ดูสง่างามจนเกินบรรยายก็เงยหัวขึ้นพร้อมอ้าปากกว้างยิงลูกบอลพลังงานสีแดงเข้มที่ดูดุดันน่าสะพรึงกลัวขึ้นสู่ท้องฟ้า

จากนั้นเพียงชั่วพริบตา ฝนเพลิงที่ร้อนแรงราวกับทะลุผ่านมิติลงมาสู่สนาม เปลวเพลิงอันเกรี้ยวกราดปกคลุมทุกพื้นที่ เปลี่ยนสนามแข่งขันให้กลายเป็นแดนนรกต้องห้าม

เปลวเพลิงสีแดงเจิดจ้ากัดกร่อนทุกสรรพสิ่ง หากใครก้าวเท้าเข้าไปคงถูกเผาจนสิ้นสลาย

เมื่อเปลวเพลิงสงบลง ภาพในจอถ่ายทอดสดเผยให้เห็นสนามที่เสียหายจนแทบจำไม่ได้ พื้นดินกลายเป็นหลุมดำปนแดง ควันร้อนลอยขึ้นมาเป็นระยะ

และที่นั่น…มีสัตว์อสูรตัวหนึ่ง นอนสลบอยู่ในสภาพที่มองไม่ออกว่าเดิมเป็นแบบไหน ตัวมันไหม้เกรียมจนกลายเป็นสีดำทั้งตัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด