ตอนที่แล้วตอนที่ 64 : เปิดฉากสู่ความโกลาหล
ทั้งหมดรายชื่อตอน

ตอนที่ 65 : การแสดง...เริ่มต้นแล้ว


เมื่ออาวุธในมือถูกขโมยไปโต้งๆ ก็ทำให้ผู้คุมกฎส่วนใหญ่เกิดความสับสน

.

พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้มาใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสกับเส้นทางเทพเจ้ามาก่อน สำหรับเส้นทางเทพเจ้าวิถีจอมโจรซึ่งไม่ได้อยู่ในการดูแลของเมืองออโรร่าด้วยแล้วยิ่งยากที่จะเข้าใจ ดังนั้นทันทีที่อาวุธถูกขโมยไปพวกเขาจึงตกอยู่ในอาการงงงวย

.

ปัง ปัง ปัง !

.

เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มผู้คุมกฎที่ยืนอยู่ด้านหน้าก็ล้มลงกับพื้นราวกับฟางที่ถูกลมพัด

เปิดฉากยิงครั้งแรก ฝ่ายผู้คุมกฎก็สูญเสียไปมากกว่าสิบคน เหยียนซีไฉตกใจและดึงผู้คุมกฎที่อยู่ตรงหน้าเขามาเป็นโล่ ในเวลาเดียวกันนั้นเข็มเงินก็โผล่ออกมาจากทางด้านข้างของแหวนในมือขวา จากนั้นเหยียนซีไฉก็แทงมันเข้าไปในร่างของผู้คุมกฎที่ถูกยิงจนพรุนเหมือนรังแตน

ขณะที่เลือดเนื้อของผู้คุมกฎถูกกลืนกินอย่างบ้าคลั่ง อัญมณีสีแดงบนแหวนก็สว่างขึ้น พลังลึกลับแผ่ออกมาจากฝ่ามือของเหยียนซีไฉ

"ขยี้!"

ผู้คุมกฎที่อยู่ด้านข้างเหยียนซีไฉถูกดูดกลืนจนแห้งกรอบและหายไป ท่ามกลางลูกกระสุนที่พุ่งมาเขายกมือขวาขึ้นในอากาศ

ครู่ต่อมา ปืนที่ถูกผู้ช่วงชิงเปลวไฟขโมยไปก็ถูกทำลายด้วยความรุนแรงจากมือที่มองไม่เห็น ลำกล้องปืนที่เคยตรงก็ขดงอเป็นลูกบอล และกลับกลายเป็นว่าฝ่ามือของพวกผู้ช่วงชิงเปลวไฟได้รับบาดเจ็บ!

"วัตถุสังเวย?" หมายเลข 8 เห็นสิ่งนี้ ภายในดวงตาของเขาฉายแววอันตราย เขายกมือขวาขึ้นคว้าจับไปทางเหยียนซีไฉ

เมื่อเขากำลังจะขโมยวัตถุสังเวยของเหยียนซีไฉ ผูเหวินก็ก้าวออกมาข้างหน้า จากนั้นหยิบกระดาษซวนจื่อ*ออกจากมาแขนเสื้อแล้วปล่อยให้มันพุ่งตรงไปหาคนทั้งเจ็ด

บนกระดาษซวนจื่อ มีตัวอักษรสีเข้มดูแข็งแกร่งและทรงพลัง

.

[นิ่ง]

.

เมื่อคำว่า "นิ่ง" จางหายไปบนกระดาษ ร่างของผู้ช่วงชิงเปลวไฟทั้งเจ็ดคนหยุดนิ่งในเวลาเดียวกัน ราวกับว่าร่างกายของพวกเขากลายเป็นรูปปั้นหิน ร่างของผู้แย่งชิงไฟทั้งเจ็ดตัวแข็งทื่อในเวลาเดียวกัน เหมือนว่าร่างกายของพวกเขาได้กลายเป็นรูปปั้นหินไปแล้ว พวกเขาถูกแช่แข็งอยู่กับที่ชั่วขณะ

เส้นทางเทพเจ้าวิถีตำรา ระดับแรก [ปิดผนึก]

เมื่อเห็นฉากนี้ หัวใจของหมายเลข 8 จมดิ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าผูเหวินคนนี้จะได้รับเส้นทางเทพเจ้าวิถีตำราแล้วจริงๆ ...แล้วเขาเข้ามาในคลังโบราณวิถีทหารนี่ทำไมกัน?

สำหรับเหยียนซีไฉที่มีเขาอยู่ข้างกาย นั่นไม่ใช่การโกงอย่างหน้าด้านๆ เหรอ

ระหว่างสายฟ้ากับไฟศิลา ลำแสงของดาบคล้ายพระจันทร์เสี้ยวได้ฟันมาจากความมืด และผ่านไปที่ลำคอของผู้ช่วงชิงเปลวไฟซึ่งถูกตรึงไว้!

หลู่ซวนหมิงในชุดสูทสีดำหยุดนิ่ง เมื่อดาบตรงดิ่งมาร่างกายก็ย้อมไปด้วยเลือดสดๆ ในเวลานั้นมีกะโหลกศีรษะขนาดใหญ่กลิ้งมาจากผู้ช่วงชิงเปลวไฟที่อยู่ข้างหลังเขา...

ผู้ช่วงชิงเปลวไฟเจ็ดคน ตอนนี้หายไปหนึ่ง

"ไปเร็ว!" หลู่ซวนหมิงฆ่าคนไปหนึ่งคนก็ไม่ได้โจมตีต่อ แต่กลับรีบวิ่งเข้าไปในพื้นที่ส่วนลึกของคลังโบราณ

"เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา! แยกกันไป!!"

ประโยคนี้ยังเรียกสติผู้คุมกฎคนอื่น ๆ อีกด้วย พวกเขาหันกลับมาโดยไม่ลังเลและกระจายกันออกไปทุกทิศทาง

แม้ว่าพวกเขาจะมีมากกว่าเจ็ดสิบคน แต่หลังจากการเผชิญหน้าเพียงครั้งเดียว ก็ถูกผู้ช่วงชิงเปลวไฟสังหารไปมากกว่าสิบคน แม้ว่าจะอาศัยวัตถุสังเวยของเหยียนซีไฉ เส้นทางเทพเจ้าวิถีตำราของผูเหวิน และหลู่ซวนหมิงที่ลงมือกะทันหัน ก็ไม่ใช่ว่าจะได้เปรียบผู้ช่วงเปลวไฟ รอให้ผู้ช่วงชิงเปลวไฟคนอื่นๆ หลุดพ้นจากคำว่า "นิ่ง" เมื่อไร พวกนั้นก็จะฆ่าพวกเขาทุกคนได้อย่างง่ายดาย!

วินาทีต่อมา หมายเลข 8 เป็นคนแรกที่หลุดพ้นจากคำว่า [นิ่ง] เขามองดูกลุ่มคนที่หลบหนีเข้าไปในพื้นที่คลังโบราณคนละทิศคนทางด้วยสายตาทะมึน หลังจากลังเลอยู่นานเขาก็ไม่เลือกที่จะไล่ตามพวกเขา

"ให้ตายเถอะ! หมายเลข 14 ถูกตัดหัว!" ผู้ช่วงชิงเปลวไฟคนอื่นๆ กลับมาขยับตัวได้อีกครั้ง สีหน้าพวกเขาดูน่าเกลียดมากเมื่อเห็นศพที่แยกจากกันของเพื่อนพวกเขา

"เราประเมินศัตรูต่ำเกินไป" หมายเลข 8 พูดช้าๆ "เหยียนซีไฉ หลู่ซวนหมิง และผูเหวิน ทั้งสามคนนี้ล้วนเป็นคนหนุ่มที่มีอิทธิพลมากในเมืองออโรร่า...ในเมื่อพวกเขาต้องเข้ามาในคลังโบราณ จะไม่มีวิธีการป้องกันตัวเองได้ยังไง?"

"จุดสำคัญคือผูเหวินคนนั้น" จงเหยากวงกัดฟันแล้วพูด "ถ้าไม่ใช่เพราะเส้นทางเทพเจ้าของเขา เวลานี้เราคงขโมยวัตถุสังเวยจากเหยียนซีไฉมาได้แล้ว และดาบของหลู่ซวนหมิง....ครั้งหน้าหน้าเจอจะฆ่าพวกมันให้สิ้นซาก!"

"หมายเลข 8 เราจะไม่ไล่ตามไปเหรอ?"

"อย่าลืมเป้าหมายของเรา สิ่งสำคัญคือการขโมยรากฐานของเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร" หมายเลข 8 มองไปยังทางที่พวกนั้นหลบหนีแล้วยิ้มเยาะเย้ย

"สำหรับพวกเขา...แม้ว่าเราจะปล่อยให้พวกเขามีชีวิตรอดจนครบ 24 ชั่วโมง และประตูคลังโบราณเปิดอีกครั้ง แล้วยังไงล่ะ?"

"คนที่รอพวกเขาอยู่นอกประตู อาจไม่ใช่ผู้พิทักษ์สามคนจากเมืองออโรร่า...แต่เป็นปราชญ์จอมโจร"

ผู้ช่วงชิงเปลวไฟจินตนาการถึงฉากนั้น มุมปากก็ยกขึ้นทีละนิด ภายในใจก็สงบลงทันที...มีปราชญ์จอมโจรอยู่ข้างนอกคอยช่วยเหลือพวกเขา พวกเขายังจะกลัวอะไรอีกล่ะ?

"ก็ใช่ ถ้างั้นก็ปล่อยให้พวกมันกระโดดโลดเต้นไปสักพัก"

"เรื่องหมายเลข 13 นี่มันยังไงงงไปหมดแล้ว…สรุปแล้วเขาเป็นใคร?"

"ไม่ว่าเขาคิดจะทำอะไรก็ช่าง ยังไงก็ตายไปแล้ว คนตายจะก่อคลื่นลมอะไรได้?"

"ฉันแค่รู้สึกว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ..."

"เอาล่ะ อย่าคิดมาก ตอนนี้เราควรมุ่งความสนใจไปที่การขโมยรากฐานของเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร"

ผู้แย่งชิงเปลวไฟทั้งหกหันหลังออกจากหน้าผา เดินตรงสู่ส่วนลึกของคลังโบราณวิถีทหาร ไม่นานก็หายไปที่ปลายขอบฟ้า

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน

ฝ่ามือเปื้อนเลือดคู่หนึ่งค่อยๆ ปีนขึ้นมาถึงขอบหน้าผา

เสียงลมหนาวพัดคร่ำครวญราวกับภูตผีกำลังร่ำไห้อยู่ใต้ก้นหุบเหว ร่างหนึ่งสวมเสื้อคลุมงิ้วสีแดงสดปีนขึ้นมาจากเบื้องล่างของเหว...

เฉินหลิงพ่นปลอกกระสุนออกจากปาก ศีรษะที่ถูกเจาะทะลุกำลังซ่อมแซมตนเองด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เขากวาดสายตามองสำรวจศพเปื้อนเลือดบนพื้น ดูเหมือนเขาจะนับอะไรบางอย่าง

"หนึ่ง สอง สาม...สิบสอง สิบสาม"

"ตายไปแล้วสิบสาม ยังเหลืออีกหกสิบสี่คน...การต่อสู้ยังไม่รุนแรงพอ"

.

[แสดงให้จบโดยมีคนเข้าร่วมอย่างน้อยห้าสิบคน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครรอดชีวิตหลังจากการแสดงจบ]

.

นี่คือเส้นทางเทพเจ้าที่บิดเบี้ยวที่เฉินเยี่ยนทิ้งไว้ให้เฉินหลิง เป้าหมายของการแสดง

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาต้องแน่ใจว่าภายใน 24 ชั่วโมงทุกคนจะตายที่นี่...หากเขาต้องการฆ่าคนอีกเจ็ดสิบเจ็ดคนด้วยตัวคนเดียว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเรื่องยากมาก เพราะในหมู่พวกเขายังมีผู้ช่วงชิงเปลวไฟอีกเจ็ดคน วัตถุสังเวย และเหยียนซีไฉที่รายล้อมไปด้วยผู้คุมกฎจำนวนมาก ไหนจะผูเหวินผู้ครอบครองเส้นทางเทพเจ้าวิถีตำรา และยังมีหลู่ซวนหมิงที่ไม่ทราบพลังในการต่อสู้

ข่าวดีก็คือ เส้นทางเทพเจ้าต้องการแค่ให้ "ไม่มีผู้รอดชีวิต" เท่านั้น ไม่ใช่ต้องการให้เฉินหลิงฆ่าทุกคนด้วยมือของเขาเอง...ดังนั้นเฉินหลิงจึงเขียนและกำกับ "สคริปต์" นี้ด้วยตนเอง

โดยใช้ความตายของตนเองเป็นเหยื่อล่อ ทำให้ผู้ช่วงชิงเปลวไฟกับคนอื่นๆ ต่อสู้กัน ไม่เพียงแค่ทำให้มีผู้เสียชีวิตโดยไม่มีการนองเลือดเท่านั้น ยัง สามารถหลบหนีสายตาคนอื่นได้

.

[ความคาดหวังของผู้ชม +8 ]

.

[ค่าความคาดหวังในปัจจุบัน:35%]

.

บนขอบหน้าผามืดสลัว บนพื้นดินถูกย้อมด้วยเลือดจนเปลี่ยนเป็นสีแดง

เฉินหลิงซึ่งสวมชุดงิ้วแดงค่อยๆ นั่งยองๆ ลง และวางปลายนิ้วระหว่างริมฝีปากเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ใช้นิ้วข้างนั้นกดลงบนพื้นเปื้อนเลือด...คล้ายนักแสดงที่กำลังจะเริ่มทำการแสดงโดยการจูงพิษบนพื้นเวที

มุมปากของเขาอดไม่ได้ที่จะยกขึ้น ราวกับว่าเขากำลังเสร็จสิ้นพิธีกรรมบางอย่าง และเขาก็พึมพำกับตัวเอง

"การแสดง...เริ่มต้นแล้ว"

.

.

.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด