ตอนที่แล้วทำตามใจนาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน

ตอนที่ 479 ข้าจะทำทุกอย่าง!


ไอร่าจำเขาได้ทันที เขาคือผู้รับใช้ปุโรหิตที่เคยแบกเธอขึ้นไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์เมื่อครั้งก่อน

แต่เขาไม่ได้จำไอร่าได้เลย เขาเพียงปฏิบัติต่อเธอในฐานะแขกผู้ทรงเกียรติของผู้พยากรณ์

โดยเฉพาะเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงออร่าของผู้ทรงพลังจากตัวเธอ ท่าทางของเขายิ่งแสดงความเคารพและระมัดระวังมากขึ้น

“ผู้พยากรณ์อนุญาตให้เพียงท่านอวี้เทียนและท่านบุหรงขึ้นไปบนภูเขาได้ ส่วนอสูรตนอื่น ๆ โปรดรออยู่ที่เชิงเขา”

ไอร่าจำได้ว่าเขาเคยแบกเธอขึ้นภูเขาครั้งก่อน จึงไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขาลำบาก เธอจึงบอกให้เหล่าสัตว์ปีกพักรออยู่ตรงนั้น

!!

ผู้รับใช้ผู้พยากรณ์นำทางไป

ไอร่าและบุหรงเดินตามเขา

บันไดทอดตัวขึ้นไปในหมู่เมฆ ไม่มีที่สิ้นสุด

ไอร่าเคยปีนบันไดนี้มาแล้วสองครั้ง แต่ละครั้งเหนื่อยจนเดินต่อไม่ไหว อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เธอก้าวขึ้นบันไดอย่างมั่นคง แม้จะถึงประตูวิหารที่อยู่กลางภูเขาแล้ว เธอก็ยังไม่ดูเหนื่อยเลย

สมกับเป็นร่างมังกร ความอึดของเธอแข็งแกร่งกว่าร่างเก่าเยอะ

ผู้รับใช้ผู้พยากรณ์นำพวกเขาทั้งสองเข้าไปในวิหารก่อนจะถอยออกไปเงียบ ๆ

ในโถงวิหารว่างเปล่า ไอร่ามองไปรอบ ๆ แล้วเรียกขึ้น “ผู้พยากรณ์ ท่านอยู่ไหม?”

ไม่นานนัก ผู้พยากรณ์ก็เดินออกมาจากประตูข้าง

ชุดผ้าไหมฉลามสีขาวทำให้เขาดูสูงโปร่งและสง่างาม บนใบหน้าที่หล่อเหลาสมบูรณ์แบบ ดวงตาของเขาถูกปิดด้วยผ้าไหมฉลามสีขาวยวง ข้ายาวสีทองอ่อนปล่อยสยายถึงเอว

“พวกเจ้ามาแล้ว” ผู้พยากรณ์พูดราวกับว่าเขากำลังต้อนรับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันมานาน “นั่งตรงไหนก็ได้ตามสบาย”

ไอร่าและบุหรงนั่งลงบนเบาะรองนั่งตรงข้ามเขา

เบาะรองนั่งนี้นุ่มมาก ไอร่าอดไม่ได้ที่จะลูบมัน ใต้เบาะมีหนังสัตว์ ทับด้วยสำลีข้างบน และมีสำลีอัดแน่นอยู่ข้างใน

แม้ว่าดวงตาจะถูกปิดไว้ แต่ผู้พยากรณ์ก็ยังเห็นการกระทำเล็ก ๆ ของไอร่า เขากล่าว “สำลีนั่นซื้อมาจากเมืองหิน ที่นั่นมีของดีมากมาย คอนริเป็นราชาอสูรที่ดีมาก เขาดูแลเมืองหินได้ดีจริง ๆ”

เมื่อได้ยินคนอื่นชมสามีของตัวเอง ไอร่าก็อดภาคภูมิใจไม่ได้ “คอนริไม่เลวจริง ๆ”

บุหรงมองเธอพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ

ผู้พยากรณ์กล่าว “ข้ารู้ว่าทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”

ไอร่าอยากถามเรื่องระบบ แต่เนื่องจากบุหรงอยู่ข้าง ๆ เธอจึงต้องระงับความอยากนั้นไว้ก่อน เธอหันไปพูดกับบุหรงว่า “เจ้าช่วยออกไปก่อนได้ไหม?”

แทนที่จะตอบคำถาม บุหรงกลับถามกลับ “สิ่งที่เจ้ากำลังจะพูดเป็นเรื่องที่ข้าฟังไม่ได้หรือ?”

เขาตามเธอมาจนถึงวิหารว่านโซ่ว แต่ตอนนี้เธอกลับอยากไล่เขาออกไป ไอร่ารู้สึกผิดมาก แต่ก็ยังต้องพูดสิ่งที่ต้องพูด “มีบางเรื่องที่ข้าบอกได้แค่กับผู้พยากรณ์”

บุหรงหัวเราะเบา ๆ แววตาเยือกเย็น “ดูเหมือนเจ้าจะใกล้ชิดกับผู้พยากรณ์มากกว่าพวกเราซะอีก”

ไอร่าไม่รู้จะอธิบายอย่างไร จึงได้แต่เงียบ

บุหรงไม่พอใจอย่างมาก เขาลุกขึ้นและเดินจากไปอย่างไร้เยื่อใย

หลังจากที่เขาออกไป ไอร่าก็เอ่ยถามสิ่งที่เธออยากรู้มากที่สุด “ผู้พยากรณ์ ท่านรู้ไหมว่าระบบอยู่ที่ไหน?”

“เขาทำข้อตกลงกับข้าเพื่อช่วยชีวิตเจ้าในตอนนั้น”

ความรู้สึกไม่ดีแล่นวูบในใจไอร่า เธออดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ตอนแรกข้าคิดว่าข้อตกลงระหว่างพวกท่านคือการแลกร่างกัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าข้าคิดผิด พวกท่านตกลงอะไรกัน?”

แทนที่จะตอบตรง ๆ ผู้พยากรณ์กลับถามเธอกลับ

“เจ้าคิดยังไงกับวิหารว่านโซ่วนี้?”

ไอร่ามองตามสายตาของเขาและกวาดตามองไปรอบ ๆ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอตอบอย่างระมัดระวัง “ที่นี่กว้างใหญ่และสง่างามมาก”

“แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าจะรู้สึกยังไงถ้าต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต?”

ไอร่าตอบไม่ได้

ถ้าเธอต้องอยู่ในที่เย็นชาร้างไร้ผู้คนแบบนี้ เธอคงจะบ้าตายเพราะความเหงา

ผู้พยากรณ์นั่งคุกเข่าบนเบาะรองนั่ง ชุดผ้าไหมฉลามสีขาวของเขากระจายราบไปกับพื้น นิ้วเรียวขาวที่ได้รูปไขว้กันอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเขาซ่อนอยู่หลังผ้าไหมฉลามสีขาว ทำให้มองไม่เห็นสีหน้าใด ๆ เขาถอนหายใจเบา ๆ เสียงนั้นสะท้อนในวิหารที่ว่างเปล่า

“นี่คือกรง ข้าถูกขังอยู่ที่นี่และไม่สามารถออกไปได้ชั่วชีวิต ข้าจำไม่ได้แล้วว่าผ่านมากี่ปีนับตั้งแต่ข้าได้เห็นโลกภายนอก ภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบ และทะเลเหล่านั้นกลายเป็นเพียงสัญลักษณ์ในความทรงจำของข้า ข้ารู้ว่ามันยังมีอยู่ แต่ข้าจำไม่ได้แล้วว่ามันหน้าตาเป็นอย่างไร”

ไอร่าอ้าปากเหมือนจะปลอบโยนเขา แต่เมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปาก เธอกลับรู้ว่าคำพูดเหล่านั้นตื้นเขินเกินไป

ในฐานะผู้พยากรณ์ เขาย่อมรู้และมีประสบการณ์มากกว่าเธอ

คำปลอบโยนของเธอคงไม่มีความหมายอะไรสำหรับเขา

ผู้พยากรณ์มองตรงไปข้างหน้า สายตาของเขาดูเหมือนจะทะลุผ่านผ้าไหมฉลามและทอดไปถึงภูเขา ทะเลสาบ และแม่น้ำที่ห่างไกล

“ข้ารู้สึกอิจฉาเจ้าตัวเล็กของเจ้ามาก เขาสามารถติดตามเจ้าและได้เห็นโลกภายนอก ข้าก็อิจฉาความไว้วางใจและความพึ่งพาของเจ้าที่มีต่อเขาด้วย ดังนั้นข้าจึงอยากแลกเปลี่ยนตัวตนกับเขา น่าเสียดายที่เขาปฏิเสธ”

ไอร่าลอบชมเชยระบบในใจ ‘ทำได้ดีมาก!’

ผู้พยากรณ์กล่าว “เขาอยากช่วยเจ้า แต่เขาก็ไม่อาจทิ้งเจ้าไปได้ ดังนั้นเราทั้งสองจึงยอมถอยคนละก้าว ข้าได้แบ่งปันสัมผัสและสัญชาตญาณทั้งหมดของข้ากับระบบ ด้วยวิธีนี้ ข้าสามารถมองเห็นโลกภายนอกผ่านดวงตาของเขา และได้ยินทุกสิ่งที่เจ้าพูดกับเขาผ่านหูของเขา ต้องขอบคุณเจ้า ข้ามีความสุขมากในช่วงนี้”

ไอร่ามองเขาด้วยความประหลาดใจ “นี่คือข้อตกลงของท่าน”

“เขาได้ช่วยชีวิตเจ้า และข้าได้เห็นโลกภายนอก พวกเราทั้งคู่ได้รับสิ่งที่ต้องการ นี่คือข้อตกลงที่ดี”

ไอร่าขมวดคิ้ว “แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมระบบถึงหายไปอย่างกะทันหัน?”

ผู้พยากรณ์ถอนสายตากลับมามองเธออีกครั้ง “ระบบไม่ได้บอกเจ้าหรือว่า เมื่อเจ้ากลับมามีชีวิตในร่างของอวี้เทียน เจ้าจะต้องจ่ายสิ่งที่มีค่าที่สุดเป็นค่าตอบแทน?”

ไอร่าพยักหน้าแสดงว่าเธอจำได้

“นั่นคือระบบ”

ไอร่าชะงัก แล้วจู่ๆ ก็ลุกขึ้นถามด้วยอารมณ์ว้าวุ่น “ทำไมต้องเป็นระบบ? ข้ามีของมีค่าตั้งมากมาย ทำไมถึงต้องเป็นเขา?!”

“เขาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเจ้า ทันทีที่เจ้าฟื้นคืนชีพขึ้นมา เขาก็ถูกกำหนดให้ต้องจากไปในวันหนึ่ง” ผู้พยากรณ์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “สวรรค์มีความยุติธรรม หากเจ้าได้รับบางสิ่ง เจ้าต้องสูญเสียบางสิ่ง เจ้าได้โอกาสเกิดใหม่ และต้องสูญเสียระบบ”

ไอร่าทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความหมดหวัง ใบหน้าซีดเผือด “ข้าไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นระบบ ถ้าข้ารู้ว่าต้องจ่ายราคาสูงขนาดนี้ ข้ายอมไม่มีโอกาสฟื้นคืนชีพดีกว่า”

“เจ้าได้ฟื้นคืนชีพแล้ว และระบบจากไปแล้ว เจ้าจะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีก”

ไอร่าวิงวอน “ไม่มีวิธีช่วยเขาเลยหรือ? ท่านเป็นผู้พยากรณ์ ท่านต้องรู้วิธีช่วยเขาใช่ไหม?”

ผู้พยากรณ์เงียบ

ไอร่าคุกเข่าต่อหน้าเขาและอ้อนวอนด้วยน้ำตานองหน้า “ได้โปรดช่วยคิดหาวิธีหน่อยเถอะ ขอเพียงช่วยเขาได้ ข้ายอมทำทุกอย่าง!”

เสียงของผู้พยากรณ์เย็นชา “ทุกอย่างหรือ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด