ตอนที่ 345 พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน!
ตอนที่ 345 พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน!
“ระวัง!” โอดินร้องเตือนพร้อมกับถอยหลังอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พลังเทพของเขาก็พุ่งออกมากลายเป็นมือขนาดใหญ่หลายข้างเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ
ธอร์กับโทนี่ที่อยู่ใกล้โอดินมากที่สุดถูกดึงตัวออกมาทันทีที่โอดินถอย แต่กลุ่มนักรบทั้งสี่ของแอสการ์ดกลับไม่ได้โชคดีแบบนั้น กรงเล็บมหึมาพุ่งเข้ามาเร็วกว่ามือพลังเทพของโอดิน และเพียงพริบตาเดียวก็ซัดพวกเขาเข้าเต็มแรง
“ไม่!” ธอร์ร้องด้วยความเจ็บปวด เขายกค้อนสายฟ้าฟาดไปมาเพื่อดิ้นรนออกจากมือพลังเทพของโอดิน และพุ่งไปหาเพื่อนร่วมรบของเขา
กรงเล็บนั้นดูเหมือนจะโจมตีได้เพียงครั้งเดียว หลังจากทำลายล้างเสร็จ มันก็สลายกลายเป็นประกายไฟเล็ก ๆ หายวับไป ทิ้งไว้เพียงรอยกรงเล็บขนาดยักษ์บนพื้นหิมะ
“ข้าไม่เป็นอะไร!” ซิฟลุกขึ้นจากรอยกรงเล็บ มือกุมไหล่ซ้ายที่เลือดไหลออกมา แต่เธอไม่สนใจบาดแผลของตัวเอง และรีบหันไปมองเพื่อนร่วมรบของเธอด้วยความตื่นตระหนก
“โอ้ โอดินช่วย! ฉันเกือบจะได้ไปห้องโถงแห่งนักรบแล้ว” โฮกุนพูดพลางลุกขึ้นยืน สภาพของเขาแย่กว่าซิฟมาก แขนขวาหายไปทั้งแขน และหัวเต็มไปด้วยเลือด
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าโฮกุนอาจจะดูน่าสงสาร แต่เมื่อเทียบกับนักรบอีกสองคน เขายังถือว่าโชคดีกว่ามาก
“แฟนดรัล . . . โวลสแต็ก . . . ไม่!” ธอร์ทรุดตัวลงคุกเข่าหน้าหลุมลึก น้ำตาแห่งความโศกเศร้าเริ่มไหลริน สองเพื่อนสนิทของเขาปิดตาลงตลอดกาล นักรบแห่งแอสการ์ดทั้งสามกลายเป็นเพียงตำนาน
โฮกุนไอออกมาเป็นเลือดก่อนจะล้มตัวลงนั่งอย่างหมดแรง และปิดตาลงด้วยความเศร้า ตอนนี้ความเจ็บปวดในหัวใจยิ่งใหญ่กว่าบาดแผลทางกายของเขาซะอีก
“พวกเขาคือนักรบผู้เก่งกล้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด วิญญาณของพวกเขาได้กลับสู่ห้องโถงแห่งนักรบแล้ว” ซิฟพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แม้จะเต็มไปด้วยความเศร้า แต่เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา พร้อมกับแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิตและรักษาบาดแผลให้ผู้บาดเจ็บ
“ข้าจะฆ่ามัน!” สายฟ้าพวยพุ่งจากดวงตาของธอร์ เขาเต็มไปด้วยความโกรธและพุ่งตรงไปยังผนึก แต่ถูกโอดินใช้พลังเทพดึงกลับมา
“ปล่อยข้า!” ธอร์ตะโกนด้วยความโกรธ
โอดินตบหัวธอร์อย่างแรง “เงียบซะ! ต่อให้มีเจ้าหนึ่งร้อยคนก็สู้มันไม่ได้!”
พูดจบโอดินก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อซ่อมแซมผนึกที่ถูกทำลาย ส่วนโทนี่ก็เดินเข้ามาหาและตบไหล่ธอร์เบา ๆ พร้อมกับส่ายหัว
แต่ธอร์ไม่ยอมรับการตัดสินใจครั้งนี้ เขาผลักโทนี่ออกไปและเดินตามโอดินไป “ท่านพ่อไม่เคยสู้กับมัน แล้วท่านรู้ได้ยังไงว่าเราจะแพ้?”
โอดินหันมามองธอร์ด้วยหางตา ก่อนจะกลับไปซ่อมแซมผนึกต่อโดยไม่พูดอะไร
“ท่านเคยบอกว่า คนที่ควบคุมแร็กนาร็อกคือกลุ่มเทพแห่งเทพ แต่ตอนนี้มันมีแค่ตัวเดียว! และพวกเราคือทีม!” ธอร์ยืนกรานพร้อมกับจ้องมองโอดิน “เราอาจชนะก็ได้!”
“ถ้าชนะได้ ข้าคงจัดการเองไปแล้ว!” โอดินตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาและหันกลับไปทำงานต่อ
ธอร์โกรธจัด เขาดึงไหล่ของโอดิน “ท่านพ่อ ความกล้าของท่านหายไปไหนหมด!”
“พอแล้ว!” โอดินตวาดและฟาดธอร์กระเด็นออกไป “จำไว้ ข้าคือพ่อของเจ้า เจ้าลูกโง่หลงตัวเอง!”
“และท่านก็คือคนแก่ขี้ขลาด!” ธอร์ลุกขึ้นและตะโกนใส่โอดิน ตอนนี้สองพ่อลูกไม่มีใครยอมถอยเลยแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นโทนี่ก็รีบเข้าไปยืนคั่นกลางระหว่างทั้งสอง “พอเถอะ ทั้งสองคน ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการจัดการกับเทพเจ้านั่น ไม่ใช่มาทะเลาะกัน พระเจ้า ความสัมพันธ์ของนายสองคนแย่ยิ่งกว่าฉันกับพ่อฉันซะอีก”
โอดินสงบอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว เขาฮึดเบา ๆ ก่อนจะกลับไปซ่อมแซมผนึกต่อ ส่วนธอร์ก็กวัดแกว่งค้อนสายฟ้าไปมาอย่างไม่พอใจ และหันไปมองเพื่อนรักที่จากไป
“กรรร!” ในขณะที่โอดินเพิ่งซ่อมแซมผนึกได้เพียงครึ่งหนึ่ง เสียงคำรามก็ดังก้องจากมิติแฝง ทำให้ใบหน้าของโอดินเปลี่ยนไปทันที เขาเร่งมือซ่อมแซมผนึก ในขณะที่โทนี่ก็เตรียมอาวุธจากชุดเกราะของเขา ส่วนธอร์ก็ยกค้อนสายฟ้าขึ้น ตอนนี้ทุกคนอยู่ในท่าพร้อมรบ!
ปัง!
ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดก็โผล่ออกมาจากมิติแฝงและพุ่งชนผนึกที่แตกร้าวจนสั่นสะเทือนอย่างหนัก สัญลักษณ์เวทมนตร์จำนวนมากถูกลบเลือน คาถาหลายบทพังทลาย ความพยายามของโอดินทั้งหมดต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
“แบบนี้ไม่สำเร็จแน่!” โทนี่คำนวณอย่างรวดเร็ว และพบว่าอัตราการทำลายของสัตว์ประหลาดนั้นเร็วกว่าการซ่อมแซมของโอดิน
“มันเป็นตัวที่ฆ่าโวลสแต็กกับแฟนดรัลหรือเปล่า?” ดวงตาของธอร์เต็มไปด้วยความโกรธ
“ฉันไม่แน่ใจ แต่ถึงจะไม่ใช่ มันก็ต้องเกี่ยวข้องกัน!”
“ปล่อยมันออกมา!” ซิฟพูดพร้อมกดมือเบา ๆ ที่ด้ามดาบ ทันใดนั้นปลายอีกด้านของด้ามดาบก็เปลี่ยนเป็นคมดาบแหลมคม โฮกุนเองก็กัดฟันและลุกขึ้นยืนหยิบค้อนขึ้นมาด้วยมือที่เหลือเพียงข้างเดียว
“ไม่มีปัญหา ท่านโอดิน ปล่อยมันออกมาเลย!” โทนี่เตรียมพร้อมเช่นกัน เขารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณที่โอดินมอบความรู้ให้เขา และนี่เป็นโอกาสที่เขาจะตอบแทน
“มันมาแล้ว เตรียมตัวรับมือ!” โอดินเอียงตัวเล็กน้อย วงเวทย์ผนึกแยกออกเป็นรอยร้าวเล็ก ๆ พร้อมกับเสือขาวขนาดมหึมาที่พุ่งชนผนึกจนหลุดออกมา
เสือขาวตัวนี้สูงกว่า 10 เมตร ตัวสีขาวบริสุทธิ์ แต่บริเวณหลังกลับไม่มีขน โดยมีเกล็ดละเอียดปกคลุมแทน มันมีปีกขนาดใหญ่สองคู่ที่สามารถสร้างพายุหมุนได้อย่างรุนแรง เขี้ยวยาวสองซี่โผล่พ้นปากออกมา และที่หน้าผากยังมีตาที่สามอีกด้วย
“เสือมีปีก? ฉันว่านายควรไปอยู่ในสวนสัตว์หรือคณะละครสัตว์นะ นายน่าจะกลายเป็นดาวเด่นได้แน่นอน” โทนี่พูดหยอกล้ออย่างสนุกสนาน แต่การเคลื่อนไหวของเขากลับไม่ช้าลงเลย ชุดเกราะของเขาสว่างขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงจากทุกช่องว่างของชุด
ชุดเกราะนี้เป็นการปรับแต่งจากหุ่นเดสทรอยเยอร์ของโอดินที่โทนี่นำมาเสริมด้วยเทคโนโลยีและเวทมนตร์ของโอดิน ทันใดนั้นโทนี่ก็ยกแขนขึ้น เปลวไฟจากเกราะแขนยิ่งสว่างขึ้นและพุ่งออกมาเป็นลำแสงไฟร้อนแรงสองสาย
เสือขาวคำรามเสียงดัง พร้อมโบกปีกสร้างลมพายุที่ทรงพลังพัดไฟของโทนี่จนดับ และขังเขาเอาไว้ในพายุหมุน
“แกนี่แหละที่ฆ่าแฟนดรัลกับโวลสแต็ก!” ธอร์ตะโกนด้วยความโกรธ หลังจากมองกรงเล็บของเสือขาวและเปรียบเทียบกับรอยกรงเล็บที่ฆ่าเพื่อนของเขา เขามั่นใจว่ามันคือคนร้ายอย่างแน่นอน!
ค้อนโยลเนียร์ของธอร์ปลุกพายุสายฟ้าอันไร้ขอบเขต มันเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและถูกฟาดลงไปที่เสือขาวด้วยพลังมหาศาล
เสือขาวคำรามโต้กลับ และยกกรงเล็บขึ้นเพื่อปะทะกับค้อนสายฟ้าของธอร์
ตูม!
แรงปะทะสร้างคลื่นกระแทกมหาศาลพร้อมแสงสายฟ้าที่กระจายออกไปพัดพายุที่กักโทนี่ไว้จนหายไป
ธอร์ลุกขึ้นจากพื้นหิมะด้วยความตกตะลึง และมองไปยังเสือขาวอย่างไม่เชื่อสายตา กรงเล็บของมันสามารถฟาดค้อนสายฟ้าของเขาจนกระเด็นออกไปได้!
“กรรร!” เสือขาวคำรามเสียงดัง มันยืนสองขาและโชว์กรงเล็บของมันที่ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน!
“ตายซะเถอะ!” ทันใดนั้นซิฟที่ซุ่มอยู่ใต้ตัวเสือขาว เธอยกดาบขึ้นเหนือหัว เล็งไปยังหน้าท้องที่ดูอ่อนนุ่มของมัน
“ซิฟ ระวัง!” ธอร์ร้องเตือนด้วยความตกใจ แต่ช้าเกินไป ขาหน้าของเสือขาวได้ฟาดลงมาแล้ว ซึ่งขนบริเวณหน้าท้องที่ดูนุ่มกลับแข็งจนดาบของซิฟหักสะบั้น
เธอกำลังจะถูกเสือขาวบดขยี้ แต่แล้วเงาสีเงินสดใสก็พุ่งเข้ามาใต้ท้องเสือขาวโอบร่างซิฟออกไปจากระยะโจมตีอย่างกะทันหัน
“คนสวย เธอไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกนะ”
“ขอบคุณนะ โทนี่” ซิฟพูดด้วยความโล่งอก
ธอร์ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองเสือขาวด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด “พลังของมันเทียบเท่ากับท่านพ่อของข้า พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน!”
โปรดติดตามตอนต่อไป …