ตอนที่ 1635 : แผนการของเผ่าพันธุ์แห่งความว่างเปล่า!
ตอนที่ 1635 : แผนการของเผ่าพันธุ์แห่งความว่างเปล่า!
“ฝ่าบาทได้พิชิตดินแดนบนสมรภูมิแห่งความว่างเปล่าไปกว่าครึ่งแล้วในช่วงสองวันที่ผ่านมา ดังนั้นเผ่าพันธุ์แห่งความว่างเปล่าคงจะไม่อาจอยู่เฉยๆ ได้อีกต่อไป และพวกมันก็คงจะส่งครึ่งก้าวเจตจำนงมารักษาการณ์ที่เมืองหลักเพื่อป้องกันการโจมตีของพวกเรารึเปล่าเจ้าคะ?”
“หากพวกเราลงมือ ครึ่งก้าวเจตจำนงผู้นี้ก็น่าจะสามารถยันพวกเราไว้ได้สักพักและรอให้กำลังเสริมมาถึงเพื่อจัดการกับพวกเราในทีเดียว” ไป่อี้คาดเดา
โจวต่อสู้และบรรพชนหมื่นอสูรพยักหน้า พวกเขาเห็นด้วยกับการคาดเดาของไป่อี้
มันคงจะแปลกถ้าเผ่าพันธุ์แห่งความว่างเปล่าไม่มีปฏิกิริยาอะไรหลังจากที่พวกเขาพิชิตดินแดนของอีกฝ่ายไปมากมายขนาดนี้
ดูเหมือนว่านี่คือมาตรการรับมือของอีกฝ่าย
“งั้นพวกมันก็คงจะคำนวณผิดแล้ว”
“ครึ่งก้าวเจตจำนงทั่วไปย่อมไม่อาจหยุดพี่ได้เลย ครึ่งก้าวเจตจำนงของพวกมันคงจะตายไปนานแล้วก่อนที่กำลังเสริมของพวกมันจะมาถึง”
บรรพชนหมื่นอสูรหัวเราะออกมา
“ไปกันเถอะ อย่ามัวเสียเวลากันเลย”
โจวต่อสู้สั่งการ
“เจ้าค่ะฝ่าบาท”
ไป่อี้พยักหน้าและสั่งให้กองทัพเก็บกวาดสมรภูมิ หลังจากจัดการเสร็จแล้ว โจวต่อสู้ก็เปิดอุโมงค์แห่งความว่างเปล่าและจากไปพร้อมกับกองทัพของเขาทันที
หลังจากผ่านไปสักพัก…
บนซากปรักหักพังของเมืองหลักคริสตัล อุโมงค์แห่งความว่างเปล่าที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ปีแสงก็ปรากฏขึ้น
เรือรบจากเผ่าพันธุ์แห่งความว่างเปล่าในระดับเทพอาวุโส ระดับเทพสูงสุด และกระทั่งระดับครึ่งก้าวเจตจำนงได้ลอยออกมาจากอุโมงค์แห่งความว่างเปล่าทีละลำ จากนั้นพวกมันก็มองเห็นซากปรักหักพังของเมืองหลักคริสตัลที่อยู่เบื้องล่าง
เมื่อแม่ทัพของเผ่าพันธุ์แห่งความว่างเปล่าเห็นเช่นนี้ สีหน้าของพวกมันก็มืดลงในทันที ในเวลาเดียวกัน พวกมันก็สั่งให้ยานรบเปิดเรดาห์และค้นหากองทัพของเจตจำนงสูงสุดอย่างเต็มความสามารถ
และพวกมันก็ได้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว
ภายในรัศมี 10,000 ปีแสง มันไม่มีไพร่พลจากกองทัพจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ตะวันสาดแสงหรือกองทัพหมื่นอสูรเลยสักคน
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายได้หนีไปแล้ว
“บัดซบ!”
“พวกมันหนีไปแล้ว!”
ยอดฝีมือครึ่งก้าวเจตจำนงจากเผ่าพันธุ์แห่งความว่างเปล่าที่ยืนอยู่บนยานรบหลักพูดออกมาด้วยความโกรธและสีหน้าที่ไม่ค่อยไม่น่าดูเท่าไร
มันคือผู้บัญชาการในการโจมตีครั้งนี้ เพื่อที่จะทำตามคำสั่งของจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าในการสังหารราชันคนธรรมดา ไพร่พลที่มันได้นำมาด้วยประกอบไปด้วยจิตวิญญาณเทพเจ้ากว่า 500,000 ล้านตน เทพแท้จริงกว่า 10,000 ล้านตน เทพอาวุโสกว่า 200,000 ตน เทพสูงสุด 500 ตน และครึ่งก้าวเจตจำนง 10 ตน และยังมีตัวตนระดับเจตจำนงอย่างเมิ่งถัวอยู่ด้วย!
ด้วยไพร่พลมากมายมหาศาลถึงเพียงนี้ ในฐานะผู้บัญชาการ มันย่อมตื่นเต้นมาก ดังนั้นหลังจากได้ทราบข่าวว่ามีดินแดนสงครามระดับเทพสูงสุดขั้นหนึ่งจำนวนสี่แห่งถูกพิชิต มันจึงมุ่งหน้ามาที่นี่ทันที แต่สุดท้ายเมื่อมันมาถึง มันก็พบเพียงแค่ดินแดนสงครามที่กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว
ต่อมาพวกมันก็ได้รับข่าวว่าดินแดนสงครามระดับเทพสูงสุดขั้นสองอย่างดินแดนสงครามคริสตัลถูกโจมตี ดังนั้นพวกมันจึงมุ่งหน้ามาที่นี่ในทันที แต่พวกมันก็ไม่คาดคิดว่าจะมาช้าไปและศัตรูก็หนีไปได้อีกครั้ง
ราชันคนธรรมดามีความสามารถอะไรกัน? ทำไมมันถึงหนีไปได้เร็วนัก?
ในอดีต เมื่อบรรพชนหมื่นอสูรเป็นผู้นำของฝ่ายสมรภูมิสูงสุดบนสมรภูมิแห่งความว่างเปล่า สถานการณ์โดยรวมก็แตกต่างไปจากนี้อย่างสิ้นเชิง
ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ พวกมันก็เริ่มมีปฏิกิริยาขึ้นมา
ในอดีตมันไม่มีครึ่งก้าวเจตจำนงอยู่ภายใต้บรรพชนหมื่นอสูรเลยที่สามารถฉีกมิติได้ ดังนั้นฝ่ายของพวกมันย่อมมีข้อได้เปรียบที่สามารถต่อสู้และหลบหนีได้ตามต้องการ
แต่ในตอนนี้ที่บรรพชนหมื่นอสูรมีราชันคนธรรดาอยู่ข้างกาย ราชันคนธรรมดาที่สามารถสยบโมแมนได้เมื่อสองวันก่อน
ตัวตนในระดับนั้นย่อมสามารถเปิดอุโมงค์มิติขึ้นบนสมรภูมิแห่งความว่างเปล่าได้อย่างง่ายดายด้วยความแข็งแกร่งในระดับนั้น สามารถข้ามมิติบนสมรภูมิแห่งความว่างเปล่าได้อย่างอิสระ
และในตอนนี้ที่พวกมันไม่รู้จุดหมายของอีกฝ่าย แม้ว่าพวกมันจะสามารถข้ามมิติไปมาบนสมรภูมิแห่งความว่างเปล่าได้ แต่พวกมันก็ทำได้แค่ตามหลังของอีกฝ่ายเท่านั้น
“ท่านเมิ่งถัว พวกเราควรทำยังไงต่อไปดี?”
“ราชันคนธรรมดาและโมแนนสามารถข้ามมิติบนสมรภูมิแห่งความว่างเปล่าได้แล้ว ตอนนี้พวกเราไม่มีข้อได้เปรียบเรื่องความเร็วเหนือพวกมันอีกแล้ว!”
ครึ่งก้าวเจตจำนงผู้นั้นพูดออกมาด้วยความเป็นกังวล
“มันจะต้องคิดอะไรให้มากความอีก? เนื่องจากพวกเราไม่สามารถไล่ตามพวกมันได้ งั้นก็หาเมืองที่ยังไม่ถูกโจมตีและรอราชันคนธรรมดาอยู่ที่นั่นก็พอ”
“ข้ารู้ว่าในขณะที่พวกเรากำลังรอ มันคงมีเมืองแห่งความว่างเปล่าถูกพิชิตไปเรื่อยๆ และยอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์แห่งความว่างเปล่าถูกสังหารไปมากมาย แต่ตราบใดที่พวกเราสามารถกำจัดราชันคนธรรมดาและบรรพชนหมื่นอสูรได้ พวกเราก็จะสามารถทำให้ท่านจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าพึงพอใจได้ และเขาก็คงจะไม่ตำหนิพวกเราอย่างแน่นอน กลับกัน พวกเราอาจจะได้รับรางวัลก้อนโตซะด้วยซ้ำ!”
เมิ่งถัวสามารถอ่านสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน
จากภัยคุกคามของราชันคนธรรมดาในตอนนี้ ความร้ายแรงของสถานการณ์ก็เกินกว่าการสูญเสียเมืองแห่งความว่างเปล่าไปแล้ว
พวกมันไม่จำเป็นต้องจัดการกับบรรพชนหมื่นอสูรอีกตราบใดที่พวกมันสามารถจัดการกับราชันคนธรรมดาได้ในท้ายที่สุด และจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าก็จะไม่ตำหนิพวกมันอย่างแน่นอน และคงจะตบรางวัลก้อนโตให้กับพวกมันอย่างแน่นอน
ส่วนเมืองแห่งความว่างเปล่าที่เสียไป หลังจากที่ราชันคนธรรมดาตายไปแล้ว บรรพชนหมื่นอสูรก็คงจะไม่สามารถรับมือกับพวกมันได้เพียงลำพังอย่างแน่นอน
เมื่อเวลานั้นมาถึง พวกมันก็คงสามารถทวงคืนเมืองเหล่านั้นกลับคืนมาได้ และคงจะไม่ได้ใช้ความพยายามมากมายอะไร
“ขอรับ”
“งั้นพวกเราควรจะเลือกเมืองไหนเพื่อรอราชันคนธรรมดาดี?”
ครึ่งก้าวเจตจำนงผู้นั้นคิดอยู่สักพักและรู้สึกว่ามันก็สมเหตุสมผล ดังนั้นมันจึงถามออกมาทันที
“ราชันคนธรรมดาและไพร่พลของพวกมันได้พิชิตดินแดนสงครามระดับเทพสูงสุดขั้นหนึ่งทั้งสี่แห่งไปแล้ว พวกมันยังได้เริ่มพิชิตดินแดนสงครามระดับเทพสูงสุดขั้นสองอย่างดินแดนสงครามคริสตัลต่อ ดังนั้นพวกมันก็น่าจะลงมือกับดินแดนสงครามระดับเทพสูงสุดขั้นสองที่เหลือ… งั้นพวกเราก็ไปยังดินแดนสงครามระดับเทพสูงสุดขั้นสองอื่นเพื่อรอพวกมันกันเถอะ”
เมิ่งถัวคิดอยู่สักพักและพูดออกมา
“เฉียบแหลมยิ่งนัก!”
ยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวเจตจำนงพูดออกมาด้วยความเคารพและถ่ายทอดคำสั่งออกไปทันที