ตอนที่แล้วตอนที่ 9 ก่อกำเนิดขั้นแปด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 แม้กระทั่งทรงพลังกว่าเสือ

ตอนที่ 10 สหายชั่วมาเยือน


เสวี่ยหยูรูปร่างไม่สูง ผมมันแผล็บ หน้าตาเกลี้ยงเกลา ดวงตาเล็ก ๆ ฉายแววเจ้าเล่ห์ เมื่อก่อนเวลาออกไปเที่ยวเล่นเขามักจะเป็นคนวางแผน

วันนี้เขาไม่อยากมา แต่เสวี่ยผิงไห่ บิดาของเขาบังคับให้เขามาสืบข่าว เขาจึงไม่มีทางเลือก

หลังจากรออยู่ในห้องโถงของจวนอ๋องอยู่พักหนึ่ง บ่าวคนหนึ่งก็เดินเข้ามาแจ้ง “คุณชายเสวี่ย คุณชายของข้าเชิญท่านเข้าไปพบ”

“อืม” เสวี่ยหยูเคยมาที่นี่บ่อย ๆ เขาจึงรู้ทางไปยังเรือนพักของลู่เฉิน

ทว่าบ่าวผู้นั้นกลับพาเขาเดินผ่านเรือนพักไปยังสวนดอกไม้ เสวี่ยหยูเห็นร่างที่คุ้นเคยกำลังยืนคุยกับบ่าวสูงวัยอยู่ข้างแปลงดอกไม้

บ่าวสูงวัยผู้นั้นคือลู่อัน คนสวน

เขามองดูต้นกล้าดอกไม้ทะเลสีทองสองหมู่ที่กำลังเจริญเติบโตด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “คุณชาย หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกเจ็ดถึงสิบวันดอกไม้ก็จะบานแล้วขอรับ ข้ารู้สึกว่าต้นกล้าที่ปลูกครั้งนี้แข็งแรงเป็นพิเศษ”

ลู่เฉินคิดในใจ ดอกไม้ที่เขาปลูกด้วยเคล็ดวิญญาณหมื่นพฤกษาย่อมต้องแข็งแรงกว่าดอกไม้ทั่วไปเป็นธรรมดา

“เร็วขนาดนั้นเชียวหรือ? เช่นนั้นข้าจะเชิญท่านพ่อและท่านแม่มาชื่นชมดอกไม้ด้วย” ลู่เฉินรู้สึกภาคภูมิใจไม่น้อย

เสวี่ยหยูเดินเข้ามา ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา มองดูสวนดอกไม้สองหมู่ด้วยความประหลาดใจ เขาแอบคิดในใจ ลู่เฉินเปลี่ยนไปหรืออย่างไร? อยู่บ้านปลูกดอกไม้ช่างน่าขันสิ้นดี

ลู่เฉินมองไปที่แปลงดอกไม้ เอ่ยถาม “เมื่อดอกไม้ทะเลสีทองบานแล้ว มันจะออกผลหรือไม่?”

ลู่อัน คนสวนตอบกลับ “ออกผลขอรับ แต่ผลจะมีขนาดเล็กมาก เมล็ดเล็ก ๆ จะติดอยู่กับกลีบดอกสีทองและปลิวไปตามลม เมื่อถึงเวลานั้นคงจะสวยงามมาก”

“อ้อ เช่นนั้นก็ดี”

เสวี่ยหยูเห็นทั้งสองคุยกันอย่างออกรสอดไม่ได้ที่จะแทรก “พี่ลู่ ข้ามาแล้ว”

ลู่เฉินหันไปมอง เห็นเสวี่ยหยูยืนอยู่ เขาจ้องมองอีกฝ่าย

เสวี่ยหยูใจกระตุก เพียงแค่สบตาก็รู้สึกว่าลู่เฉินเปลี่ยนไป

เดิมทีดวงตาของลู่เฉินดูเลื่อนลอย เวลามองเขามักจะแสดงความดีใจออกมาอย่างโง่งม แต่ตอนนี้สายตาของลู่เฉินกลับคมกริบราวกับมีด ทำให้เขาขนลุก

“คุณชาย มีแขกมาหา เช่นนั้นข้าน้อยขอตัว” ลู่อันกล่าวลาและเดินจากไป

เสวี่ยหยูหัวเราะ “พี่ลู่ ข้าอยากมาหาท่านตั้งนานแล้วแต่ท่านพ่อไม่ให้มา วันนี้ข้าแอบหนีออกมา ข้าเป็นห่วงท่านมากเลยรู้ไหม!”

พูดจบก็ทำสีหน้าเป็นกังวล

ลู่เฉินเย้ยหยัน “คุณชายเสวี่ยเป็นห่วงข้า?”

“ใช่แล้ว พวกเราสนิทกันจะตาย” เสวี่ยหยูยิ้ม

“แต่ข้าสงสัย วันนั้นข้าไม่ได้ดื่มมาก ทำไมข้าถึงเมาได้?” ลู่เฉินจ้องมองเสวี่ยหยูพลางถาม

เสวี่ยหยูตอบอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “มากสิ! ทำไมจะไม่มาก? ตอนนั้นท่านกำลังคุยกับสาวงามอยู่ ดื่มเพลินจนไม่รู้ตัว”

“จริงหรือ?” ลู่เฉินยิ้มมองเข้าไปในดวงตาของเสวี่ยหยู

เสวี่ยหยูรู้สึกผิดอย่างมาก เขารู้สึกว่าลู่เฉินเปลี่ยนไปจริง ๆ เพียงแค่สบตาและคำพูดไม่กี่คำก็ทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เขาทำได้เพียงแสร้งยิ้ม “พวกเราสนิทกันขนาดนี้ ข้าจะโกหกท่านทำไม?”

เมื่อเห็นเสวี่ยหยูหลบสายตา ลู่เฉินก็หัวเราะออกมาทันที เขายกมือขึ้นตบหน้ากลม ๆ ของเสวี่ยหยู หัวเราะลั่น “ใช่ พวกเราสนิทกันมาก! ดื่มด้วยกัน ก่อเรื่องด้วยกัน”

เสวี่ยหยูโล่งใจที่เห็นลู่เฉินหัวเราะ

แต่การตบหน้าของลู่เฉินนั้นแรงมากจนแก้มของเขาชาไปหมด เขารู้สึกว่าลู่เฉินไม่ได้เชื่อในสิ่งที่เขาพูดและการตบหน้าเมื่อครู่เป็นการสั่งสอน

เสวี่ยหยูไม่พอใจอย่างมาก

ที่ผ่านมาเวลาพวกเขาสามคนไปเที่ยวเล่นด้วยกัน เขามักจะเป็นผู้นำ เสมือนว่าเขาเป็นหัวหน้า ส่วนลู่เฉินและเฉินเฟยเป็นเพียงลูกน้อง

แต่วันนี้ลู่เฉินกลับตบหน้าเขาอย่างไม่ไว้หน้า ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขารู้สึกว่าลู่เฉินเปลี่ยนไปมาก

บัดซบ! สนิทกันมากงั้นเหรอ? หากมีโอกาสข้าจะฆ่าเจ้า! เสวี่ยหยูคิดในใจ

แท้จริงแล้ว เขาไม่รู้เลยว่าลู่เฉินก็กำลังคิดเช่นกัน เขาควรจะแก้แค้นในวันนี้ ตีไอ้สารเลวนี่ให้ตายเลยดีไหม? หากบุตรชายของแม่ทัพเสวี่ยถูกฆ่าตายในจวนอ๋อง ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร?

ขณะที่ลู่เฉินกำลังคิดอยู่นั้น เสวี่ยหยูก็ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ลู่เฉิน ช่วงนี้เจ้าเอาแต่ปลูกดอกไม้อยู่บ้านหรือ? ต้นกล้าพวกนี้คืออะไร?”

พูดจบก็ย่อตัวลงสัมผัสต้นกล้าในแปลง

“อย่าแตะ!” ลู่เฉินห้ามทันที

“นี่มันต้นอะไรกัน? ห้ามแตะด้วยหรือ?” เสวี่ยหยูกล่าวอย่างไม่พอใจ

“ใช่ ข้าปลูกมันขึ้นมาด้วยมือของข้าเอง มีค่ามากกว่าชีวิตเจ้าเสียอีก” ลู่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร

“พูดเกินไปแล้ว”

เสวี่ยหยูลุกขึ้นยืน ตอนนี้เขารู้สึกถึงความไม่เป็นมิตรจากลู่เฉินได้อย่างชัดเจน เห็นได้ชัดว่าหลังจากเกิดเรื่องครั้งก่อน ลู่เฉินเริ่มสงสัยเขาแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาคงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

เขาไม่อยากอยู่ต่อจึงกล่าวตรง ๆ “พี่ลู่ ข้าได้ยินมาว่ามีหอนางโลมเปิดใหม่ในเมือง ข้าจะชวนเฉินเฟยไปด้วย พวกเราไปเที่ยวกันดีกว่า ไล่ความโชคร้ายออกไป เจ้าว่าดีหรือไม่?”

ดวงตาของลู่เฉินวาวโรจน์ “เกรงว่าจะไม่ได้ ท่านพ่อสั่งกักบริเวณข้าหกเดือน”

“อย่างนี้นี่เอง…” เสวี่ยหยูไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เขาจึงกล่าว “วันนี้ข้ามาเยี่ยมเจ้าโดยเฉพาะ ในเมื่อเจ้าสบายดีแล้ว เช่นนั้นข้าขอตัว”

ลู่เฉินเห็นเสวี่ยหยูทำท่าจะจากไป เขาจึงลังเลว่าควรจะแก้แค้นแทนเจ้าของร่างเดิมดีหรือไม่?

ทันใดนั้น เสียงของระบบก็ดังขึ้นในหัวอีกครั้ง [ท่านปฏิเสธคำชวนของสหายผู้คิดร้ายและเลือกฝึกฝนอยู่ที่บ้าน ทำให้รอดพ้นจากหายนะ ระบบจะมอบหัวข้อรางวัลสามอย่าง โปรดเลือกมาหนึ่งอย่าง:]

มีรางวัลด้วย! ลู่เฉินดีใจ

เขามาคิดได้ทีหลังว่าสหายผู้คิดร้ายอย่างเสวี่ยหยูก็มีประโยชน์ หากอีกฝ่ายชวนเขาอีกสักสองสามครั้ง เขาคงได้รับรางวัลมากมายจากระบบ

เมื่อคิดได้ดังนั้น ลู่เฉินจึงระงับความคิดที่จะฆ่าอีกฝ่ายไปก่อน

เขายิ้มทันที โอบไหล่เสวี่ยหยู “พวกเรายังเป็นสหายที่ดีต่อกัน มีคนบอกว่าเจ้าคิดร้ายต่อข้า แต่ข้าไม่เชื่อหรอก พวกเราสนิทกันจะตาย กินเหล้าด้วยกัน ตีกันด้วยกัน”

เสวี่ยหยูดีใจ คิดว่าลู่เฉินคนเดิมกลับมาแล้ว

“ใช่! พี่ลู่ ข้าจะทำร้ายท่านได้อย่างไร วันนั้นข้าก็เมา ถ้าบ่าวไพร่ไม่มาเจอข้า ข้าคงติดอยู่ในกองไฟ…” เสวี่ยหยูรีบอธิบาย

“ข้ารู้” ลู่เฉินพยักหน้า “ช่วงนี้ท่านพ่อเข้มงวดมาก ข้าออกไปไหนไม่ได้ อีกสองสามวันค่อยมาหาข้าใหม่ ข้าจะลองแอบหนีออกไป”

เสวี่ยหยูดีใจ “ได้เลย!”

ทั้งสองคนกลับมาสนิทสนมกันดังเดิม พูดคุยกันอยู่พักหนึ่งเสวี่ยหยูก็เตรียมตัวกลับ

ก่อนจากไป ลู่เฉินกล่าวว่า “บอกเฉินเฟยให้มาด้วยนะ”

“ฮ่า ๆ ดีมาก! สามเกลอแห่งเมืองเจิ้นหนานจะออกอาละวาดอีกครั้งแล้ว!”

“สามเกลออะไรกัน? พวกเราคือสามทหารเสือ!”

“ใช่ สามทหารเสือ! ข้ากลับก่อนนะ” เสวี่ยหยูยิ้มก่อนเดินจากไป

ลู่เฉินมองตามแผ่นหลังของเขา รอยยิ้มค่อย ๆ จางหายไป

ที่จริงแล้ว เขาอยากจะฆ่าเสวี่ยหยูให้ตาย

ทำร้ายเขายังไม่พอ ยังกล้าชวนเขาไปเที่ยวอีก ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนอะไรอยู่ การเก็บ “สหาย” ที่คิดจะฆ่าไว้ข้างกายช่างน่ารังเกียจสิ้นดี

ไม่นานนัก เสวี่ยหยูก็กลับไปยังจวนแม่ทัพเจิ้นหนานและเข้าไปในห้องหนังสือของเสวี่ยผิงไห่ทันที

“ท่านพ่อ ข้าไปมาแล้ว ลู่เฉินสงสัยข้า แต่เขาก็ทำดีกับข้ามาก ข้าว่าเขามีแผนร้ายแน่ ๆ” เสวี่ยหยูเป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาไม่ได้หลงกลลู่เฉิน

“เล่ามาให้ละเอียด”

เสวี่ยหยูเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เสวี่ยผิงไห่ฟัง

เสวี่ยผิงไห่ครุ่นคิด “ไอ้หมอนี่ต้องมีแผนร้ายแน่ การที่เขารักใคร่เจ้ามากขึ้นในภายหลังเป็นไปได้ว่าเขาต้องการทำให้เจ้าตายใจ ในเมื่อเขาระวังตัวเจ้าเช่นนี้ ช่วงนี้เจ้าก็อย่าไปหาเขา”

“ข้าก็ไม่อยากไปหาเขาแล้ว ข้ารู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป” เสวี่ยหยูกล่าวเสริม

หากลู่เฉินได้ยินเช่นนี้ คงต้องสบถว่า “รู้งี้ฆ่ามันตั้งแต่อยู่ในจวนเสียก็ดี”

เสวี่ยผิงไห่ถามต่อ “มีคนบอกว่าเขาหลงใหลการปลูกดอกไม้ จริงหรือไม่?”

4 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด