EP.16 ความคิดของสเตรนจ์
EP.16 ความคิดของสเตรนจ์
[มุมมองบุคคลที่ 3]
"เธอกำลังทำผิดวิธี…”
"ว้ากกกก!"
เสียงของสตีเฟนทำให้โนเอลสะดุ้งจนต้องตะโกนและหันไปหาเขา ชี้ไม้กายสิทธิ์และยิงลูกบอลน้ำออกไป แต่คาถาดันพลาดเป้าและบินออกไปด้านข้างและไปโดนต้นไม้
“น–นาย… นายคอยดูชั้นมานานแค่ไหนแล้ว !?” โนเอลถาม
“ครึ่งชั่วโมงเต็มๆนะ…” สตีเฟนยักไหล่
“การสะกดรอยตามราชวงศ์ถือเป็นอาชญากรรมนะ นายรู้ไหม!” โนเอลล์อุทานพร้อมจ้องมองเขาอย่างเคียดแค้น
“อืม… แล้วเธอต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่า” สตีเฟนถาม
“แน่นอนว่าชั้นไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนาย! โดยเฉพาะจากสามัญชน!” โนเอลพ่นลมหายใจแรง
“โอเค” สตีเฟนพูดในขณะที่เอนตัวกลับเข้าไปในห้องและปิดหน้าต่าง
“อะไร-” โนเอลตกตะลึง เธอจ้องไปที่หน้าต่างที่ปิดอยู่ก่อนจะกัดริมฝีปากและมองไปรอบๆและเห็นถึงความเสียหายที่เธอก่อขึ้น เธอเดินไปที่หน้าต่างของเขาและเห็นเขากำลังนั่งอ่านกรีมัวร์อยู่บนเตียง เธอเคาะหน้าต่าง และด้วยข้อมือของเขา หน้าต่างก็เปิดออก
“ว่าไง ?” สตีเฟนถามโดยไม่สนใจที่จะลุกขึ้นหรือแม้แต่ละสายตาจากหนังสือของเขา
“นายไม่ควรจะต้องพยายามโน้มน้าวชั้นให้เชื่อว่าชั้นต้องการความช่วยเหลือจากนาย และขอร้องจนกว่าชั้นจะยอมตกลงอย่างไม่เต็มใจ” เธอกล่าวขณะไขว้แขน
สตีเฟนเงยหน้าขึ้นมองเธอ ราวกับว่าเธอเสียสติไปแล้ว “แล้วทำไมชั้นถึงต้องทำแบบนั้น”
"หึ เพราะว่าชั้นเป็นเชื้อพระวงศ์น่ะสิ" โนเอลพูดอย่างเย่อหยิ่ง
สตีเฟนกลอกตา “ชั้นมีความนับถือตัวเองมากเกินไปจนไม่อาจเล่นตามความหลงผิดของเธอได้”
“ความหลงผิด !?” เธอกรีดร้อง
สตีเฟนมองดูเธอด้วยความสับสน “ใช่แล้ว เธอจะเรียกมันว่าอะไรได้อีกเมื่อมีคนคิดว่าพวกเขาสมควรได้รับโลกทั้งใบเพียงเพราะสถานะของพวกเขา”
"ชั้นไม่คาดหวังว่าโลกทั้งใบจะอยู่ตรงหน้าชั้น!"
“อืม… แล้วเธอคาดหวังให้ชั้นทิ้งทุกอย่าง คุกเข่าลง และหมอบราบลงเพียงเพราะสถานะที่ต่างกันของพวกเรา หากเธอคาดหวังเช่นนั้นจากชั้น แม้ว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนร่วมหน่วยกัน แล้วเธอจะคาดหวังอะไรจากคนที่ไม่ใช่เพื่อนร่วมหน่วยล่ะ” สตีเฟนยกคิ้วขึ้น
“ชั้นไม่ต้องการสิ่งนั้นเลย! ชั้นต้องการแค่ความเคารพเท่านั้น!” โนเอลตะคอก
“ในโลกนี้ ความเคารพนั้นไม่มีทางได้มาฟรีๆ เธอต้องพิสูจน์มันด้วยตัวเอง เธอเสียความเคารพของชั้นไปแล้ว และได้รับมันกลับคืนมา แล้วก็เสียมันไปอีกครั้ง” สตีเฟนตอบ
โนเอลก้มมองลงที่เท้าของเธอ คำพูดของเขามันกินใจเธออย่างมาก “ทำไมชั้นถึงต้องได้รับความเคารพจากสามัญชนด้วยล่ะ”
สตีเฟนดีดข้อมือของเขา และหน้าต่างก็ปิดลงอีกครั้ง
โนเอลหยุดและกัดริมฝีปาก จ้องมองพื้นด้วยความหงุดหงิด หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็ครางออกมา เดินกลับไปที่หน้าต่าง และเคาะอีกครั้ง
หน้าต่างเปิดออกอีกครั้ง "ว่าไง ?"
“นายหมายถึงอะไรที่ก่อนหน้านี้ที่นายบอกว่าชั้นกำลังทำผิดวิธี ?”
“ทำไมชั้นต้องตอบคำถามนั้นด้วย คนธรรมดาสามัญชนจะไปพูดเสนออะไรกับคนที่มีตำแหน่งอันทรงเกียรติแก่เชื้อพระวงคืชลชั้นสูงได้ยังไง” สตีเฟนแซว
“นี่นายจะช่วยชั้นหรือเปล่า” โนเอลถามด้วยความหงุดหงิด
“เธอต้องการความช่วยเหลือเหรอ ? ชั้นไม่เคยคิดจะเดาเลย...” สตีเฟนตอบอย่างเหม่อลอย พลางพลิกหน้าหนังสือไปมา
“นี่นายกำลังล้อเลียนการฝึกของชั้นอยู่เหรอ !?” โนเอลล์ถาม
สตีเฟนเงยหน้ามองเธอด้วยท่าทีจริงจัง ทำให้เธอประหลาดใจ "ชั้นนั้นจะไม่มีวันล้อเลียนการทำงานหนักของใครหรอกนะ”
โนเอลหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อสตีเฟนกลับไปที่กรีมัวร์ของเขา “ชั้นล้อเล่นเรื่องความไร้สามารถในขอความช่วยเหลือของเธอ แต่ชั้นจะรู้ได้ยังไงว่าเธอต้องการความช่วยเหลือในเมื่อเธอไม่เคยขอความช่วยเหลือเลย”
“อ๊าก!” โนเอลครางด้วยความรำคาญ เดินไปมาและมองดูความเสียหายที่เธอทำให้เกิดขึ้น
เธอก้มไหล่ลงและก้มหัวลงด้วยความเขินอายและละอายใจ “ชั้น… ชั้นต้องการความช่วยเหลือจากนาย”
สตีเฟนยิ้ม เอนตัวไปข้างหน้าที่หน้าต่าง กอดอกมองดูเธอ “เห็นไหม มันไม่ยากขนาดนั้นหรอก การต้องการความช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องน่าอาย มันหมายความว่าเธอต้องการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง”
โนเอลหน้าแดงอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้ายิ้มของเขา “ชั้นทำเพราะว่านายนั้นเสนอมาก็เท่านั้น อย่าคิดอะไรมากก่านั้นเชียว!”
สตีเฟนกลอกตาแล้วกระโดดออกไปนอกหน้าต่าง “อะไรก็ได้ที่ช่วยให้เธอนอนหลับได้ตอนกลางคืน”
“แล้วชั้นทำอะไรผิด ? ชั้นจะร่ายคาถาให้โดนเป้าหมายได้ยังไง ? นี่ชั้นเป็นอะไรไปเนี่ย?” โนเอลถามอย่างกระตือรือร้นที่จะทำให้ทุกอย่างคลี่คลาย
“ปัญหาของเธออยู่ตรงนี้ทั้งหมด…” สตีเฟนพูดพร้อมกับชี้ไปที่หน้าผากของเธอ
“มันอยู่ในหัวชั้นเหรอ ?” โนเอลเอียงหัวด้วยความสับสน
สตีเฟนพยักหน้า “ทุกครั้งที่เธอร่ายคาถา เธอจะมีสีหน้าเหมือนกับว่าคุณคาดหวังว่าจะล้มเหลว”
"ฮะ ?"
“เธอนั้นเห็นไหมว่าเวทมนตร์นั้นคือการทำให้สิ่งที่อยู่ในหัวของพวกเรากลายเป็นความจริง คาถานั้นตอบสนองต่อเจตนาและอารมณ์ของพวกเราอย่างมาก”
โนเอลพยักหน้าและฟังคำอธิบายของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ
“ชั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอนะ และชั้นก็จะไม่ถามด้วย เพราะนั่นเป็นธุระของเธอ แต่จากที่ชั้นยืนอยู่ ดูเหมือนว่าเธอนั้นจะมองว่าตัวเองนั้นล้มเหลว” สตีเฟนพูดอย่างตรงไปตรงมา
ดวงตาของโนเอลเบิกกว้างขึ้นเมื่อเธอมองดูสตีเฟน ความกลัวคืบคลานเข้ามาบนใบหน้าของเธอ
“เมื่อเธอคิดว่าตัวเองนั้นล้มเหลว เวทมนตร์ของเธอจึงตอบสนองกับความคิดของเธอ เวทมนตร์ของเธอเลยล้มเหลวเพราะเธอนั้นเชื่อว่าเธอจะต้องล้มเหลว และเมื่อเธอจัดการแก้ไขความคิดของเธอได้ เธอก็ควรจะสามารถแก้ปัญหาเวทมนตร์ของเธอได้”
โนเอลมองไม้กายสิทธิ์ของเธออย่างกังวลเล็กน้อย “มันตอบสนองต่อความรู้สึกของชั้น…”
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วชี้ไปที่เป้าหมายของเธอ พร้อมกับพูดกับตัวเองในใจว่า “ชั้นไม่ใช่คนล้มเหลว ชั้นจะไม่ล้มเหลว ชั้นไม่ใช่คนล้มเหลว ชั้นจะไม่ล้มเหลว”
ขณะที่เธอยิงกระสุนน้ำ กระสุนน้ำก็พุ่งไปข้างหน้าเป็นเส้นตรงก่อนที่จะเบี่ยงออกไปในทิศทางตรงข้ามในนาทีสุดท้าย
โนเอลมีท่าทีผิดหวังและหลบตาลงด้วยความละอาย 'บางทีชั้นอาจจะล้มเหลวก็ได้…'
“งานดีจริงๆ” สตีเฟนพูดด้วยรอยยิ้มและลูบหัวเธออย่างไม่รู้ตัว เขารู้สึกอยากปลอบใจเธอเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของเธอ
“นายหมายความว่าไง ที่ว่างานดีมาก ชั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง นายไม่เห็นเหรอ” โนเอลล์ถามด้วยความเศร้าใจเล็กน้อยกับความพยายามของเธอ
“แล้วเธอกับฉันก็เห็นสิ่งต่างๆแตกต่างกันออกไป ในขณะที่เธอมองเห็นความล้มเหลว ชั้นเห็นความก้าวหน้า ก่อนหน้านี้ เมื่อเธอร่ายมนตร์ มันก็จะบินว่อนไปทั่วและโจมตีทุกสิ่งที่ขวางหน้า แต่คราวนี้ ? คราวนี้มันบินเป็นเส้นตรงไปสักพัก ถ้าเธอไม่สังเกตเห็น”
ดวงตาของโนเอลเบิกกว้าง แต่คราวนี้ด้วยเหตุผลอื่น “นายพูดถูก…” เธอพึมพำเมื่อตระหนักได้ว่าสถานการณ์ดีขึ้น
“อย่างที่เห็น เธอทำได้ แต่ยังมีข้อสงสัยที่คอยฉุดรั้งเธอไว้จนถึงที่สุด ทำให้เธอไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้”
โนเอลพยักหน้า "ชั้นจะแก้ไขมันได้อย่างไร"
“นั่นคือส่วนที่ยากที่สุดของอาการปิดกั้นทางจิตใจ มันไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นสามารถแก้ไขให้เธอได้ เพราะที่สุด เธอจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่กวนใจเธออยู่ แต่ตอนนี้ สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ยอมรับความจริงที่ว่าเธอล้มเหลว!”
“ห๊ะ ?” โนเอลล์มองสตีเฟนราวกับว่าเขาบ้า
สตีเฟนยิ้มเยาะและชูนิ้วขึ้น “ถ้าเธอล้มเหลว นั่นหมายถึงทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว หนทางเดียวที่เธอจะไปได้คือก้าวไปข้างหน้า และเธอจะเริ่มปรับปรุงตัวเองเพื่อที่เธอจะไม่ล้มเหลวอีกต่อไป”
“พูดได้ง่ายกว่าทำ…” โนเอลบ่นพึมพำ
สตีเฟนพยักหน้าเห็นด้วย “เห้ย ชั้นจะช่วยเธอในขั้นตอนแรกไหม”
“หันหน้าไปยังเป้าหมายของเธอ” สตีเฟนสั่ง
“นี่ชั้นรับคำสั่งจากสามัญชนเหรอเนี่ย…” โนเอลพึมพำ แต่เธอก็ทำตาม
จากนั้นเธอก็ตกตะลึงเมื่อสตีเฟนยกคางของเธอขึ้น
“นี่นายกำลังทำอะไรอยู่ !?” เธอกล่าวออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย
“หยุดพูดเถอะ” สตีเฟนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"อะไรนะ-"
จากนั้นสตีเฟนก็จับมือเธอที่ถือไม้กายสิทธิ์ไว้โดยยกคางขึ้น ทำให้เธอหน้าแดงมากขึ้น “ตอนนี้ ชั้นอยากให้เธอลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปซะ”
“ห๊ะ ?” โนเอลถามโดยหันไปหาเขาด้วยความสับสน
“หันหน้าไปข้างหน้า อย่ามองชั้น” สตีเฟนสั่ง พร้อมกับหันสายตาของเธอกลับไปยังเป้าหมาย
โนเอลยังคงหน้าแดงอย่างต่อเนื่อง 'ชั้นไม่อยากเชื่อเลยว่าชั้นจะปล่อยให้สามัญชนคนนี้แตะต้องชั้นได้!'
“ตอนนี้ ให้มองดูเป้าหมายของเธอ นั่นควรเป็นเป้าหมายเดียวของเธอ อย่าคิดถึงสิ่งอื่นใด สิ่งอื่นใดไม่เกี่ยวข้องเลยนอกจากเป้าหมายของเธอ ไม่ว่าจะเป็นชั้น เธอ ชีวิตของเธอ ครอบครัวของเธอ สถานะของเธอ ทุกอย่างไม่เกี่ยวข้อง ลืมทุกสิ่งและปล่อยให้สัญชาตญาณของเธอเข้ามาควบคุม…” สตีเฟนกระซิบ
คำพูดของเขาราวกับเสียงกระซิบของปีศาจ โนเอลจ้องมองเป้าหมายของเธอ ไม้กายสิทธิ์ชี้ไปทางนั้น เธอหลับตาและทำตามคำแนะนำของสตีเฟน
“ปล่อยให้สัญชาตญาณของเธอเข้ามาควบคุม” เขากล่าวซ้ำ “ปล่อยให้มานาของเธอไหลไปตามที่ควรจะเป็น…”
สตีเฟนมองดูลูกบอลน้ำเริ่มหมุนอยู่ที่ปลายไม้กายสิทธิ์ของเธอ
“ปล่อยวางทุกสิ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความไม่มั่นคง ความกลัว ความโกรธ ความเศร้า แม้แต่ความสุขและความยินดี ปล่อยให้ทุกสิ่งเหล่านี้ผ่านไปในช็อตนี้”
ร่างของโนเอลถูกผลักกลับไปเล็กน้อยขณะที่เธอปล่อยคาถา
เธอได้ยินเสียงอะไรบางอย่างถูกกระแทก จึงค่อยๆลืมตาขึ้น ต้นไม้ตรงหน้าเธอหายไปแล้ว เหลือเพียงแรงกระแทกที่จุดที่เธอเคยยืนอยู่
เธอเบิกตากว้างขึ้นเมื่อเธอหันไปหาสตีเฟนด้วยความตกใจ “ชั้นทำ…” เธอพึมพำด้วยความไม่เชื่อ
เธอตกตะลึงกับความสำเร็จของตัวเองมากจนไม่สังเกตว่าเธอกับสตีเฟนสนิทกันมากเพียงใดในขณะนั้น
สตีเฟนถอยออกไปเล็กน้อย "เธอทำได้ ขอแสดงความยินดีด้วย" เขากล่าวพร้อมยกมือขึ้นเพื่อแสดงความยินดี
"ฮ่าๆๆ ชั้นทำสำเร็จแล้ว!" โนเอลล์ร้องดีใจโดยกระโดดโลดเต้นและตบมือทั้ง 2 ข้างของสตีเฟนอย่างไม่รู้ตัว
โนเอลที่พึ่งรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็หน้าแดงก่ำก่อนจะกระแอมไอ เธอยืนตัวตรงโดยเอามือวางไว้ที่สะโพกแล้วพูดว่า “ชั้นหมายถึง แน่นอนชั้นทำได้ เพราะยังไงชั้นเป็นเชื้อพระวงศ์ มันเป็นเรื่องที่คาดหวังได้” เธอสะบัดผมหางม้าข้างนึงไปด้านหลัง
สตีเฟนกลอกตาและถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด
โปรดติดตามตอนต่อไป.
_______________