บทที่ 372: รอบแรก? ดุเดือด! 1
หวังรุ่ย "เหอะ" ออกมาหนึ่งเสียงแล้วไม่พูดอะไรต่ออีก
ถึงแม้บางครั้งเขาจะรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับเจ้าหมอนี่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในเรื่องของความสามารถและพรสวรรค์ หมอนี่มีสิทธิ์พูดแบบนี้จริง ๆ
เฉียวซางแห่งโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยแม้จะมีพรสวรรค์ที่ทำให้คนที่พบเจอสิ้นหวังได้ แต่ยังไงก็เป็นนักเรียนรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่าอยู่สองปี
ในการแข่งขันผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับเดียวกัน คนที่อายุมากกว่ามักจะมีพลังและความแข็งแกร่งที่โดดเด่นกว่าอยู่แล้ว
ท้ายที่สุดอายุมันก็ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่ผ่านไปเปล่าๆ
ต่อให้พรสวรรค์จะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ถ้ามันยังไม่ผลิบานออกมาอย่างเต็มที่ก็ไม่มีทางเทียบกับพวกเขาได้
หลี่จงหลินที่ทนความอึดอัดไม่ไหว พอเห็นทั้งสองคนเงียบกันหมดแล้วก็พูดขึ้นว่า
"อีกไม่กี่วันฟู่เสี่ยวตันกับพวกคนอื่นๆก็จะมาที่ไค่หนานเพื่อแข่งกันแล้ว ถึงตอนนั้นจะไปดูกันไหม?"
ฟู่เสี่ยวตันก็เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมระดับชั้นมัธยมปลายปีสามของโรงเรียนผู้ฝึกอสูรหลี่ตันเหมือนกัน แต่เธอเข้าร่วมแข่งขันในประเภทการประสานงานแบบเดี่ยว
การแข่งขันประสานงานจะเน้นโชว์ความสวยงามของทักษะ ดังนั้นส่วนใหญ่จะจัดขึ้นในตอนกลางคืน ซึ่งเวลาไม่ชนกับการแข่งขันการต่อสู้แบบเดี่ยวของพวกเขา
"ไม่ไป" หวังรุ่ยตอบปฏิเสธทันที
"ล้อเล่นกันอยู่รึไง? นี่มันช่วงสำคัญของการแข่งขันนะ กลับมาทุกวันก็ต้องพักผ่อนเก็บแรงไว้แข่งพรุ่งนี้ จะเอาเวลาที่ไหนไปดูการแข่งขันประสานงานไร้สาระอะไรนั่น? ถ้้ามีเวลาว่างมากขนาดนั้น สู้เอาไปวางแผนกลยุทธ์เพิ่มอีกสักหน่อยยังจะดีกว่า"
"แล้วนายล่ะ ไปหรือเปล่า?" หลี่จงหลินหันไปพูดกับติงเหยียนจิ่งด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
ทุกคนรู้กันดีว่าคำสอนที่ว่าห้ามนักเรียนมัธยมปลายมีแฟนเพราะจะกระทบต่อการเรียนมันก็แค่คำพูด เพราะความจริงแล้วลับหลังมีไม่น้อยที่แอบคบกัน
ติงเหยียนจิ่งก็เป็นหนึ่งในนั้น
ในฐานะคนเด่นคนดังของโรงเรียน ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟู่เสี่ยวตันเป็นเรื่องที่ครูบาอาจารย์ต่างก็พอจะรู้กันอยู่บ้าง แต่เพราะทั้งคู่ทำผลงานระดับมณฑลได้ดีเยี่ยม เลยไม่มีใครอยากเข้ามายุ่งกับเด็กที่อนาคตสดใสขนาดนี้ ถึงจะไม่ต้องพึ่งผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็มีทางเดินชีวิตที่ไร้ปัญหาอยู่แล้ว
ติงเหยียนจิ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งแล้วตอบว่า "ไม่ไป"
หลี่จงหลินได้ยินก็อึ้งไป "หวังรุ่ยที่เป็นโสดมันไม่ไปก็เข้าใจได้ แต่นายไม่ไปด้วยนี่มันอะไรกัน?"
หวังรุ่ย: "???"
ติงเหยียนจิ่งตอบกลับโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาว่า
"แฟนน่ะต่อให้สำคัญยังไงก็สู้การแข่งขันไม่ได้หรอก หยวนอวิ๋นเหวินของโรงเรียนมัธยมอู๋ไฉตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอกลายเป็นอุปสรรคสำคัญในรอบคัดออกครั้งนี้ ถ้าฉันยังไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้แน่นอน ฉันไม่มีทางเสียเวลาไปทำเรื่องไร้สาระแบบนั้นหรอก"
หลี่จงหลินได้ยินดังนั้นก็รู้สึกนับถือขึ้นมาในทันที
หวังรุ่ยมองติงเหยียนจิ่งด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนขึ้นมา
ใช่เลย เขาแทบจะลืมไปแล้วว่าติงเหยียนจิ่งสามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่เพราะพรสวรรค์อย่างเดียว
ตอนที่เขาเข้าร่วมทีมโรงเรียนในช่วงปีหนึ่ง ติงเหยียนจิ่งเป็นคนที่ตั้งใจฝึกซ้อมมากกว่าคนอื่นๆแต่เพราะหลังจากนั้นในรุ่นเดียวกันไม่มีใครสามารถเทียบเขาได้เลยทำให้เขาเริ่มเปลี่ยนไป จนเกือบทำให้หวังรุ่ยลืมไปว่าในตอนแรกติงเหยียนจิ่งเป็นคนแบบไหน
ขณะนั้นเอง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ติงเหยียนจิ่งมองดูชื่อคนโทรเข้า ก่อนจะรับสายด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปทันที
"ฮัลโหล เมื่อกี้ฉันก็คิดถึงเธออยู่เลยนะ"
"จะมาแข่งวันมะรืนใช่ไหม? แข่งกี่โมงเหรอ?"
"เวลาเหรอ? แน่นอนว่าฉันมีเวลาอยู่แล้ว"
"รับรองว่าฉันจะไปเชียร์เธอแน่ๆ ฉันคิดคำขวัญเชียร์ไว้แล้วด้วย"
"เมื่อกี้ฉันยังถามหลี่จงหลินกับพวกเขาเลยว่าจะไปด้วยกันไหม"
"ส่วนหวังรุ่ยน่ะ เธอก็รู้ว่าหมอนั่นไม่สนใจการแข่งขันประสานงานอยู่แล้ว ส่วนหลี่จงหลินจะไปกับฉันแน่นอน"
หลี่จงหลิน: "..."
หวังรุ่ย: "..."
วันรุ่งขึ้น
ที่ด้านนอกสนามประลองสัตว์อสูรแห่งเมืองไค่หนาน
ผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่งกำลังรายงานสดจากพื้นที่
“นี่คือการแข่งขันผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับมัธยมปลายแห่งชาติที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และด้านหลังของฉันคือสนามประลองสัตว์อสูรแห่งไค่หนาน ที่จะใช้จัดการแข่งขันรอบคัดออกในวันนี้” ผู้สื่อข่าวสาวหน้าตาสะสวยยิ้มให้กล้องก่อนพูดต่อ
“การแข่งขันมาถึงช่วงนี้แล้ว ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือต่างก็เป็นยอดฝีมือของนักเรียนมัธยมปลายปีสามในมณฑลเจ้อไห่ของเรา”
“ปีนี้ การแข่งขันในระดับมณฑลไม่ได้เป็นการครอบครองความเป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียนผู้ฝึกอสูรหลี่ตันเหมือนปีก่อนๆ อีกต่อไป”
“หยวนอวิ๋นเหวินจากโรงเรียนมัธยมอู๋ไฉ, สวี่อี้เสวียนจากโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ย, เหลียวเฉาหนานจากโรงเรียนฝึกอสูรเซิ่งติ้ง และเฉียวซางจากโรงเรียนมัธยมเซินซุ่ยที่อายุเพียง 15 ปี แต่กลับเข้าร่วมการแข่งขันในระดับชั้นปีสามได้ ต่างก็แสดงผลงานที่น่าทึ่งในรอบคัดเลือกและรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา”
“ส่วนโรงเรียนผู้ฝึกอสูรหลี่ตัน ซึ่งเป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งของมณฑลเรา ก็ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้เข้าแข่งขันอย่างติงเหยียนจิ่ง, หวังรุ่ย และหลี่จงหลิน ต่างก็ผ่านเข้าสู่รอบคัดออกทั้งหมด”
“แล้วใครกันที่จะได้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนของมณฑลเจ้อไห่ เพื่อเข้าสู่การแข่งขันระดับแบ่งเขตภูมิภาค? มาดูกันว่าในสนามตอนนี้จะเป็นอย่างไร!”
ในเวลาเดียวกัน บริเวณด้านบนของสนามประลองสัตว์อสูรแห่งไค่หนาน นกพิราบที่มีร่างอ้วนกลม สวมชุดหูฟังและแบกกล้องไว้บนตัว ได้เล็งกล้องไปที่พื้นที่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว
บริเวณพื้นที่นักกีฬา
เหล่านักเรียนในชุดเครื่องแบบโรงเรียนต่างๆรวมตัวกันอย่างคึกคัก
"เอ๊ะนั่น พวกนักเรียนที่ใส่ชุดเครื่องแบบสีน้ำตาล พวกเขามาจากโรงเรียนไหนกันนะ? มีกลุ่มเชียร์ลีดเดอร์มาด้วยเหรอ? วันนี้วันพุธไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องเรียนหนังสือกันรึไง?" เด็กหนุ่มทรงผมเกรียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอิจฉาปนประชดพลางชี้ไปยังกลุ่มนักเรียนบนอัฒจันทร์
"โรงเรียนผู้ฝึกอสูรซั่วชงน่ะ" เพื่อนที่อยู่ข้างๆเหลือบมองกลุ่มคนในชุดเครื่องแบบสีน้ำตาลแล้วตอบ
"สองปีที่ผ่านมาโรงเรียนพวกเขาไม่มีใครเข้ารอบคัดออกได้เลย ปีนี้ดันมีคนผ่านเข้ามาได้สักที ก็คงตื่นเต้นกันใหญ่นั่นแหละ"
พอได้ยินดังนั้น เด็กหนุ่มหัวเกรียนก็เปลี่ยนจากความอิจฉาเป็นเสียงหัวเราะดังลั่น
"ฮ่าๆๆแค่เข้ารอบคัดออกได้สักคนก็ต้องพากันมาทั้งโรงเรียนเลยเหรอเนี่ย? นี่มันเหมือนมาทัศนศึกษาเลย จะน่าอายไปถึงไหน!"
เพื่อนข้างๆไม่ได้ตอบอะไรกลับ เพราะสายตากำลังจ้องไปที่ตำแหน่งด้านซ้ายด้านหน้าของเขา
เด็กหนุ่มหัวเกรียนหันมองตามสายตาเพื่อนไป แล้วก็พลันตื่นเต้นขึ้นมาทันที
"นั่นมันเฉียวซางนี่หว่า! ได้เจอตัวเป็นๆสักที! ตัวจริงเธอสวยกว่ารูปอีกนะ! ฉันอยากลองขอถ่ายรูปคู่กับพรายเกล็ดน้ำค้างของเธอจัง ไม่รู้เธอจะยอมไหม"
เพื่อนข้างๆเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า
"ถ้าจะขอ ก็บอกด้วย ฉันเองก็อยากถ่ายรูปคู่กับสุนัขเพลิงเร้นลับของเธอเหมือนกัน"
ในฐานะดาวรุ่งที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ทำให้สายตาของคนจำนวนไม่น้อยจ้องมองมาทางนี้
เฉียวซางกวาดตามองไปรอบๆแล้วอดถอนหายใจไม่ได้
"งานใหญ่ขนาดนี้เชียวเหรอ"
สิ่งที่เห็นคือสนามประลองสัตว์อสูรไค่หนานที่มีที่นั่งคนดูเต็มทุกที่ นอกจากนั้นในอากาศและรอบสนามยังมีกล้องถ่ายภาพไม่ต่ำกว่าสิบตัวลอยอยู่ และบนแท่นสูงยังมีผู้บรรยายนั่งอยู่เหมือนงานแข่งรายการใหญ่ที่ออกทีวี
"นี่มันรอบคัดออกแล้ว งานจะไม่ใหญ่ได้ยังไงล่ะ" สวี่อี้เสวียนที่ผ่านการแข่งขันผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับมัธยมปลายแห่งชาติมาสองครั้งแล้วตอบกลับอย่างชินชาพร้อมอธิบายต่อ
"ในรอบคัดออกโรงเรียนดังๆในมณฑลมักจะมารวมตัวกันเต็มที่ คนที่มาดูการแข่งขันนอกจากจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัวของผู้แข่งแล้ว ส่วนใหญ่มักเป็นผู้ปกครองที่มีลูกเรียนมัธยมต้น"
"พวกผู้ปกครองเหล่านี้มักตั้งใจมาจากที่อื่นเพื่อสำรวจดูว่าโรงเรียนไหนเหมาะกับลูกของพวกเขามากที่สุด"
เฉียวซางพยักหน้าเข้าใจ
ผู้ปกครองที่มีทางเลือกในโรงเรียนดังๆได้นั้น ส่วนใหญ่มักจะมาจากครอบครัวที่มีฐานะพอสมควร และลูกๆก็มักมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยม
แม้เขตทะเบียนบ้านของพวกเขาจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของโรงเรียนที่ต้องการ แต่เพื่ออนาคตของลูก การซื้อบ้านในเมืองอื่นเพื่อลงทะเบียนที่อยู่ใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรสำหรับพวกเขา
ไม่น่าแปลกใจเลยที่วันนี้ทั้งผู้อำนวยการและอาจารย์ซุนต่างก็พากันแต่งตัวจนดูดีเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งก็เพราะเหตุผลนี้นี่เอง
ในตอนนั้นเองชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่แถวหน้าเดินขึ้นมายังสนามพร้อมกับสัตว์อสูรชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายกระรอกขนาดเล็กยืนอยู่บนไหล่
ชายคนนั้นพูดขึ้นว่า
"รายชื่อผู้แข่งในรอบแรกของรอบคัดออกจับคู่เสร็จแล้ว กรุณาดูที่หน้าจอขนาดใหญ่"
เขาไม่ได้ใช้ไมโครโฟน แต่เสียงของเขากลับดังชัดเจนจนทั้งสนามได้ยิน
เฉียวซางหันไปมองสัตว์อสูรตัวเล็กบนไหล่ของชายคนนั้น ข้อมูลของมันก็ผุดขึ้นมาในหัว
กระรอกขยายเสียงเป็นสัตว์อสูรที่มีลักษณะเฉพาะตัวอย่างขยายเสียง โดยในแต่ละระดับของลักษณะเฉพาะตัวนี้สามารถเพิ่มระดับเสียงของตัวเองและรอบข้างได้ตามความต้องการ และหากควบคุมให้ดี ยังสามารถปรับความดังได้อย่างเหมาะสมโดยไม่เกิดปัญหาเสียงแตกเหมือนไมโครโฟน ทำให้ได้รับความนิยมในหมู่คนที่ทำงานด้านดนตรี
ในขณะเดียวกันกลางสนามเหนือพื้นที่นั่งผู้ชมและที่นั่งของนักกีฬาที่มาแข่งขันก็ปรากฏจอเสมือนขนาดใหญ่สี่จอหันไปในทิศทางต่างๆ
บนจอแสดงรายชื่อและภาพถ่ายของผู้เข้าแข่งขันที่กำลังเลื่อนขึ้นช้าๆ
เฉียวซางเงยหน้ามองจอทีละแถว พลางไล่สายตาดูรายชื่ออย่างตั้งใจ
[โรงเรียนฝึกอสูรไค่หนานที่ 3 หลี่ลี่เจิน VS โรงเรียนฝึกอสูรเจียงหยางที่ 1 เหลียงหยวน]
[โรงเรียนมัธยมกว่างเต๋อ เฉินอิ้ง VS โรงเรียนฝึกอสูรฮั่นเหวินที่ 9 เหอห้าว]
[โรงเรียนผู้ฝึกอสูรหลี่ตัน ติงเหยียนจิ่ง VS โรงเรียนฝึกอสูรเซิ่งติ้ง อู๋ลู่]
[โรงเรียนมัธยมเซินซุ่ย สวี่อี้เสวียน VS โรงเรียนนานาชาติซวงซวง เฉินหลี่ปั๋ว]
[โรงเรียนฝึกอสูรฉีตูที่ 1 หวังซือเชียน VS โรงเรียนพันธมิตรผู้ฝึกอสูรหลานอวี้ หวงไคจวิ้น]
[…]
[โรงเรียนมัธยมเซินซุ่ย เฉียวซาง VS โรงเรียนมัธยมอู๋ไฉ หยวนอวิ๋นเหวิน]
โรงเรียนมัธยมอู๋ไฉ... หยวนอวิ๋นเหวิน... เอ๊ะ? หยวนอวิ๋นเหวิน?
เฉียวซางชะงักไปเล็กน้อย พลางคิดในใจ
นี่มันอะไรกัน รอบแรกของเธอจะดุเดือดขนาดนี้!