บทที่ 37 มุ่งหน้าสู่กาแล็กซีหลงเซี่ยว

“รายงานการทดสอบทั้งหมดของยานบรรทุกเครื่องบินหนัก ระดับ T2 ควีนบี เสร็จสิ้นแล้ว โดยมีอัตราการสำเร็จ 100% กัปตัน โปรดออกคำสั่ง” รองกัปตันชาร์ล็อตต์บนห้องบังคับการของยานควีนบี รายงานผ่านการสื่อสารวิดีโอกับจ้าวเฉิน ซึ่งอยู่บนห้องบังคับการของยานซีโร่บลิซซาร์ด

จ้าวเฉิน พยักหน้าด้วยความพอใจ “ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว เรามาออกเดินทางกันเถอะ จุดหมายปลายทางคือ กาแล็กซีหลงเซี่ยว!”

“เอ่อ...เราจะไปทำลายโจรสลัดอวกาศพวกนั้นจริงๆเหรอ แค่ยานอวกาศสองลำของเราเนี่ยนะ” จ้าวหว่านเอ๋อถามด้วยความกังวลที่ปลายอีกด้านของหน้าต่างวิดีโอ

จ้าวเฉินมองจ้าวหว่านเอ๋อด้วยรอยยิ้ม “ข้อมูลสมรรถนะทั้งหมดของยานบรรทุกเครื่องบินหนัก T2 ควีนบี เธอควรเห็นแล้วใช่ไหม? แล้วทำไม...เธอไม่เชื่อล่ะ”

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อนะ...แค่ว่า...เรามียานอวกาศแค่สองลำ...มันเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ฉัน...ฉันแค่เป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้น” จ้าวหว่านเอ๋อพึมพำ

มุมปากของจ้าวเฉินยกขึ้น “ไม่มีอะไรต้องกังวลในปฏิบัติการนี้ เอาเถอะ ก่อนจะออกเดินทาง เธอส่งข้อความหาเจียงหงและสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับยานของกองยานโจรสลัดอวกาศ รวมถึงข้อมูลกองยานของพวกขุนนางพวกนั้นด้วย

ถ้ามีข้อมูลเกี่ยวกับยานของพวกเขา จะดีมาก”

“โอเค ฉันจะติดต่อไปเดี๋ยวนี้” จ้าวหว่านเอ๋อตอบ

การสื่อสารสิ้นสุดลง

จ้าวหว่านเอ๋อนั่งอยู่บนเก้าอี้กัปตันบนห้องบังคับการของยานบรรทุกเครื่องบินหนัก ระดับ T2 ควีนบี เธอมองไปรอบๆ จนถึงตอนนี้เธอยังรู้สึกยากที่จะเชื่อว่าเธออยู่บนยานบรรทุกเครื่องบิน T2 จริงๆ

ยิ่งกว่านั้น... มันยังเป็นยานบรรทุกเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพน่ากลัวมากอีกด้วย

“พี่สาวชาร์ล็อตต์ พี่คิดว่า...ปฏิบัติการครั้งนี้มันจะอันตรายไหมคะ?” จ้าวหว่านเอ๋อมองไปที่ชาร์ล็อตต์

หลังจากผ่านไปกว่าสองเดือนร่วมกัน จ้าวหว่านเอ๋อและชาร์ล็อตต์ก็สนิทกันมากขึ้น จ้าวหว่านเอ๋อมักจะไปเรียนรู้ทักษะการบังคับยานอวกาศและการต่อสู้จากชาร์ล็อตต์อยู่บ่อยๆ

ชาร์ล็อตต์เองก็ไม่ได้มีท่าทีกีดกันหญิงสาวผู้ไม่เลือกปฏิบัติต่อเผ่าครึ่งสัตว์อย่างเธอ จึงพร้อมที่จะสอนทุกอย่าง

"ถ้าเป็นไปตามข้อมูลที่สายลับส่งกลับมา โจรสลัดอวกาศและกองยานขุนนางที่พยายามก่อกบฏมียานอวกาศน้อยกว่าห้าสิบลำ และส่วนใหญ่เป็นยานอวกาศ T1

ไม่มีปัญหาอะไรกับปฏิบัติการนี้เลย

เว้นแต่ว่าพวกเขามียานอวกาศ T2 มากกว่ายี่สิบลำ หรือยานอวกาศ T3 หนึ่งลำ

ท้ายที่สุดคุณควรจะรู้ด้วยว่ายานบรรทุกเครื่องบินหนัก ระดับ T2 ควีนบี ที่พี่ชายของคุณสร้างนั้นน่ากลัวแค่ไหน"

รองกัปตันชาร์ลอตต์มองไปที่ห้องบังคับการตรงหน้าเธอแล้วพูดอย่างจริงจัง: "นี่ไม่ใช่ยานบรรทุกเครื่องบิน T2 ทั่วไป แต่เป็นยานบรรทุกเครื่องบินกึ่ง T3 ต่างหาก ใครเคยเห็นยานอวกาศ T2 ที่มีฟังก์ชันโล่ดวงดาวบ้าง!"

…………

ซีโร่บลิซซาร์ด ห้องบังคับการ

"เส้นทางการเดินยานด้วยไดรฟ์วาร์ปได้รับการเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว จากนี้จะเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว ภายในสิบห้านาทีจะเข้าสู่การเดินทางด้วยไดรฟ์วาร์ป ภายในสิบนาที ลูกยานทั้งหมดต้องเข้าสู่โหมดไดรฟ์วาร์ป!

ขอย้ำอีกครั้ง ภายในสิบนาที ลูกยานทั้งหมดต้องเข้าสู่โหมดไดรฟ์วาร์ป!" เสียงประกาศจากจ้าวเฉินดังไปทั่วทั้งยาน

ขณะที่เขากำลังพูด แคปซูลนอนหลับทั้งหมดในห้องบังคับการก็ถูกดีดออกมา

ในขณะนี้จ้าวเฉินเกิดความคิดขึ้นมา เขายังไม่รู้เลยว่า การใช้แคปซูลนอนหลับของของยานบรรทุกเครื่องบินหนัก T2 ควีนบีจะรู้สึกอย่างไร มันน่าจะดีกว่ายานที่ประกอบขึ้นเองลำนี้มาก

โดยไม่คาดคิดว่าเขาไม่ใช่คนแรกที่ได้สัมผัสกับยานอวกาศลำใหม่ที่สร้างขึ้น

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาสร้างยานอุตสาหกรรมหนัก ระดับ T2 แฮมเมอร์ เสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาสร้างยานลาดตระเวนเบาประจัญบาน ระดับ T3 บลิซซาร์ด

เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะมียานอวกาศ T3 ที่แท้จริง

ยานลาดตระเวนเบาประจัญบาน ระดับ T3 บลิซซาร์ด นี่คือยานที่จ้าวเฉินฝันถึงมาตลอด และมันก็อยู่ในคลังข้อมูลของเขาอยู่แล้ว

การมียานอุตสาหกรรมหนัก ระดับ T2 แฮมเมอร์ จะเปิดโอกาสให้จ้าวเฉินสร้างยาน T3 บลิซซาร์ด ได้

“รายงาน ลูกยาน 99 คนจากทั้งหมด 101 คนบนยานได้เข้าไปในแคปซูลนอนหลับแล้ว” ลูกยานหญิงครึ่งสัตว์ที่อยู่ข้างๆ รายงาน

เธอคือผู้ช่วยชั่วคราวที่รองกัปตันชาร์ล็อตต์ มอบหมายให้จ้าวเฉิน

“ฉันเข้าใจแล้ว คุณควรเข้าไปในแคปซูลนอนหลับด้วย” จ้าวเฉิน กล่าว

“รับทราบ” ลูกยานหญิงเข้าไปในแคปซูลนอนหลับ และของเหลวสีฟ้าก็เริ่มถูกฉีดเข้าไป

จ้าวเฉินเหลือบมองห้องบังคับการที่ไฟค่อยๆ มืดลง จากนั้นก็มองไปที่ยานบรรทุกเครื่องบินหนัก T2 ควีนบี ที่กำลังเร่งความเร็วขึ้นเช่นกันบนแผนที่อวกาศ

การเดินทางด้วยไดรฟ์วาร์ปครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนที่ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง

แต่ต้องใช้เวลาถึงสองสัปดาห์เต็ม!

เพราะพวกเขาต้องเดินทางข้ามกาแล็กซี!

กาแล็กซีอาร์กติกฟ็อกซ์และกาแล็กซีหลงเซี่ยวอยู่ติดกัน แต่เนื่องจากกาแล็กซีหลงเซี่ยวไม่มีประตูดาว จึงเข้าถึงได้ด้วยการเดินทางด้วยยานอวกาศเท่านั้น

จากจุดนี้เราก็เห็นได้ว่า ประตูดาวนั้นสำคัญแค่ไหนต่อกาแล็กซี!

มีพื้นที่รกร้างว่างเปล่ามากมายระหว่างกาแล็กซี ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่น

การข้ามพื้นที่รกร้างว่างเปล่านี้ใช้เวลานานมาก

เหมือนอย่างในสมัยโบราณ หากคนคนหนึ่งต้องการเดินทางจากทวีปหนึ่งไปยังอีกทวีปหนึ่ง เขาต้องข้ามทะเลอันไร้ขอบเขต

พื้นที่นี้ยังมีชื่อเรียกว่า 'พื้นที่ชายขอบของกาแล็กซี'

จ้าวเฉินนอนลงในแคปซูลนอนหลับ ขณะที่ของเหลวสีฟ้าถูกฉีดเข้าสู่แคปซูล

เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

‘ภารกิจถูกกระตุ้น: กำจัดกองยานโจรสลัดอวกาศ’

[เนื้อหาภารกิจ: ทำลายกองยานโจรสลัดอวกาศในกาแล็กซีหลงเซี่ยว

ระดับความยากของภารกิจ: ระดับ C

รางวัลภารกิจ: แต้มภารกิจ 3 แต้มและคะแนนสะสม 600 คะแนน

บทลงโทษหากล้มเหลว: หักคะแนนสะสม 600 คะแนน]

จ้าวเฉินไม่รอช้า ตัดสินใจรับภารกิจทันที

หลังจากนั้น จ้าวเฉินก็เข้าสู่ภาวะหลับลึก

ยานซีโร่บลิซซาร์ด และยานบรรทุกเครื่องบิน ควีนบี ก็ออกเดินทางจากกาแล็กซีอาร์กติกฟ็อกซ์ไปยังกาแล็กซีหลงเซี่ยว

————

กาแล็กซีหลงเซี่ยว

บนดาวเคราะห์ที่สามารถอยู่อาศัยได้แห่งหนึ่ง ในบ้านที่อยู่เหนือพื้นดินห้ากิโลเมตร

ขณะนี้เจียงซาช่ากำลังรับประทานอาหารเย็นร่วมกับครอบครัวของเธอ

แม้ว่าครอบครัวเจียงของเธอจะเป็นขุนนางของกาแล็กซีหลงเซี่ยว แต่ถึงแม้จะมีสถานะที่สูงส่ง และสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาก็ดีกว่าคนทั่วไป

เจียงซาช่ามองไปที่อาหารบนโต๊ะ

แต่ละคนมีข้าวหนึ่งส่วนและผักใบเขียวสามส่วน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเนื้อสับขนาดเท่าปลายนิ้ว อาหารเหล่านี้เป็นอาหารธรรมชาติ ส่วนที่เหลือเป็นอาหารสังเคราะห์

อาหารสังเคราะห์เหล่านี้มีรูปลักษณ์หรูหรา ด้วยปลาชิ้นใหญ่และเนื้อสัตว์ชิ้นโต แต่พอทานเข้าไปแล้ว รสชาติเหมือนพลาสติก ไม่มีความแตกต่างอะไรเลย

แต่ถึงกระนั้น อาหารเหล่านี้ก็ยังเป็นอาหารที่คนทั่วไปสามารถกินได้หนึ่งเดือน

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเจียงซาช่าอาจภูมิใจในครอบครัวของเธอ

แต่หลังจากที่เธอไปที่สถาบันทหารยานอวกาศดาวเหนือ และได้เห็นโลกภายนอก เธอก็เริ่มเกลียดชีวิตแบบนี้

“พ่อ ทำไมท่านไม่เข้าร่วมแผนของตระกูลเป่าและตระกูลคุ้ย! ถ้าแผนการสำเร็จและเรากำจัดจ้าวเฉินได้ พวกเราสามตระกูลก็จะสามารถควบคุมทั้งกาแล็กซีหลงเซี่ยวได้

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกผู้นำของตัวเอง หรือใช้กาแล็กซีหลงเซี่ยวเป็นบันไดสู่การแปรพักตร์ไปอยู่กับกองกำลังอื่นๆ มันก็ดีกว่าการอยู่ในสถานการณ์แบบนี้!” พ่อของเจียงซาช่ามองไปที่ชายชราและไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ตัดสินใจ

"หรือว่าท่านยังคงภักดีต่อตระกูลจ้าวอยู่?"

จนถึงตอนนี้ เนื่องจากผู้เฒ่าเจียง ครอบครัวเจียงจึงไม่ได้เข้าร่วมแผนปฏิบัติการของตระกูลเป่าและตระกูลคุ้ย