ตอนที่แล้วบทที่ 32 : การเข้าพัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34 : กลับสู่ปักกิ่ง

บทที่ 33 : กลีบดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์


ตอนที่เฉินนั่วแบกเสี่ยวเย่อเหอเข้าไปในโรงแรม เขาได้เตรียมคำตอบไว้หลายแบบสำหรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

แต่ป้าพนักงานต้อนรับกลับเพียงแค่มองเขาแวบเดียว ท่าทางคุ้นชินกับเหตุการณ์แบบนี้ พูดเรียบๆ ว่า "เหลือห้องเตียงใหญ่ห้องเดียว คืนละ 200 มัดจำ 200 เช็คเอาท์ก่อนเที่ยง ถ้าผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือดจะไม่คืนมัดจำ" แล้วก็ก้มหน้าถักไหมพรมต่อ

"เอ่อ... ครับ แต่ผมไม่ได้เอาบัตรประชาชนมา..."

"เพิ่มอีก 50"

เมื่อทุกอย่างเป็นไปอย่างเป็นระบบขนาดนี้ เฉินนั่วก็ไม่ลังเลอีกต่อไป จ่ายเงิน 450 หยวนไป รับคีย์การ์ดมาแล้วก็แบกเสี่ยวเย่อเหอขึ้นลิฟต์

ครั้งนี้สบายกว่าครั้งที่แล้วมาก เพราะมีลิฟต์ให้ใช้

เฉินนั่วแบกเสี่ยวเย่อเหอเข้าห้องชั้น 5 วางเธอลงบนเตียงนุ่ม แล้วหันไปเสียบคีย์การ์ดเปิดแอร์ ตั้งใจว่าจะห่มผ้าให้เธอแล้วกลับ

พอหันกลับมา พบว่าเสี่ยวเย่อเหอลืมตาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ กำลังจ้องเขาไม่กะพริบ

เฉินนั่วถอนหายใจโล่งอก พูดว่า "ตื่นแล้วเหรอ? ดีเลย เธอห่มผ้าเองนะ ฉันจะกลับแล้ว รถจอดอยู่ข้างล่าง กุญแจอยู่นี่ พรุ่งนี้เธอขับกลับเองนะ"

เฉินนั่วรอสักพัก เห็นเสี่ยวเย่อเหอไม่พูดอะไร จึงบอกว่า "งั้นฉันไปละ บาย"

พอหันหลังเดินไปได้สองก้าว ก็ได้ยินเสียงเมาๆ ของเสี่ยวเย่อเหอดังมาจากข้างหลัง "พูดตามตรง นายเป็นเกย์จริงๆ ใช่ไหม?"

เฉินนั่วชะงัก หันกลับไปมอง

เสี่ยวเย่อเหอดื่มมาเยอะจริงๆ แก้มขาวๆ แดงระเรื่อเหมือนดอกท้อ ตาปรือครึ่งหลับครึ่งตื่น ราวกับอีกวินาทีจะหลับไปอีกครั้ง ทำให้แววตาดูพร่ามัวชวนฝัน เธอนอนตะแคงในท่าเดิมตอนที่เขาวางลงบนเตียง ขายาวๆ งอพับซ้อนกัน จากมุมที่เฉินนั่วมอง เห็นส่วนเว้าโค้งกลมของสะโพก เสื้อยับยู่ยี่ คอเสื้อเลื่อนต่ำลงมาถึงกระดูกไหปลาร้า เผยให้เห็นลำคอขาวผ่องเป็นประกาย

เฉินนั่วกระแอมเบาๆ พูดว่า "ฉันไม่ได้เป็น"

เฉินนั่วน้อยที่ซุกซนเจ้าเล่ห์เริ่มตื่นตัวขึ้นมา ยืนท้าทายต่อหน้าฟ้าดิน

"งั้น... นายดูถูกฉันหรือเปล่า?"

"ยิ่งไม่มีทาง"

เสี่ยวเย่อเหอจ้องหน้าเขา ราวกับพยายามแยกแยะว่าเขาพูดจริงหรือโกหก "นายรู้ไหม? ที่รองผู้อำนวยการหลี่พูดเป็นเรื่องจริง ที่ฉันได้มาเต้นในหนังของพวกนาย เพราะฉันไปขอร้องเธอที่ออฟฟิศ ไม่งั้น มีคนอยากเต้นกับนายเยอะแยะ ไม่มีทางถึงคิวฉันหรอก"

ในที่สุดเธอก็ปรับท่านอน นอนหงายมองเพดาน ริมฝีปากยกยิ้มบางๆ "หนังของเฉินเค่อซิน ใครๆ ก็อยากแสดง ถ้าโชคดีได้เป็นที่สะดุดตา บางทีหนังเรื่องหน้าอาจได้เป็นตัวประกอบ ก็เข้าวงการบันเทิงได้แล้ว โอกาสแม้จะน้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย จริงไหม?"

เฉินนั่วพยักหน้า "อืม"

เสี่ยวเย่อเหอพึมพำ "ฉันก็อยากเป็นแบบโจวซวิ่น แสดงหนัง ดังระดับประเทศ หาเงินได้เยอะแยะ" พูดจบเธอก็พลิกตัวนอนคว่ำ มองเฉินนั่วถาม "แล้วนายเริ่มเล่นหนังยังไงเหรอ? เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม?"

"ได้สิ" เฉินนั่วขยี้จมูก พูดว่า "ฉันแค่โชคดี เดินอยู่บนถนนแล้วมีคนเห็น ชวนไปแสดงหนัง"

"เฉินเค่อซินเห็นเหรอ? เรื่องนี้เลยใช่ไหม?"

"เปล่า เป็นอีกเรื่อง งบน้อย ผู้กำกับเป็นนักศึกษาปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยภาพยนตร์ปักกิ่ง ชื่อจางอี้อี้ ถ่ายทำประมาณเดือนกว่าๆ หลังจากนั้นผู้กำกับจางก็แนะนำฉันให้รู้จักกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยภาพยนตร์คนหนึ่ง ให้ฉันไปเรียนการแสดงกับเธอ แล้วอาจารย์ก็แนะนำฉันให้ผู้กำกับเฉิน"

เสี่ยวเย่อเหออิจฉาจนเห็นได้ชัด "นายโชคดีจริงๆ"

เฉินนั่วพยักหน้า "ใช่ พ่อฉันบอกว่านี่เป็นเพราะฉันได้เจอแต่คนดีๆ ฉันก็คิดว่าอย่างนั้น จริงๆ แล้วตอนแรกฉันไม่ได้สนใจการแสดงเลย รู้ไหมทำไมฉันถึงมาปักกิ่ง? เพราะเกรดฉันแย่มาก สอบที่อื่นไม่ติด พ่อเลยให้ฉันมาสอบมหาวิทยาลัยภาพยนตร์"

เสี่ยวเย่อเหอหัวเราะ "เหมือนฉันเลย ฉันก็เกลียดการเรียน พ่อแม่เลยให้ฉันเรียนเต้นรำตั้งแต่เด็ก"

"เธอเริ่มเต้นตั้งแต่เมื่อไหร่?"

"ป.2 ตอนแรกเรียนกับครูดนตรีที่โรงเรียน พอโตขึ้นหน่อย พ่อแม่ก็พาไปสมัครเรียนที่สถาบันในเมือง เรียนอาทิตย์ละสองวัน ตอนนั้นพ่อออกเรือหาปลา แม่ขายปลา ครอบครัวเราค่อนข้างมีฐานะ..."

"แล้วต่อมา?"

เสี่ยวเย่อเหอพูดเสียงเรียบ "ต่อมาแม่เป็นมะเร็งปอดเสียชีวิต ผ่านไปสองปีพ่อก็แต่งงานใหม่ แต่ไม่กี่ปีพ่อก็เป็นโรคไต ต้องล้างไตทุกอาทิตย์ เงินทองที่มีก็หมดไปทีละนิด พี่ชายต้องทำงานสองงานเพื่อหาเงิน แต่คืนหนึ่งตอนกลับบ้านโดนรถชน คนขับหนีไป หาตัวไม่เจอ ตั้งแต่นั้นมาพี่ชายก็สมองไม่ค่อยดี"

เสี่ยวเย่อเหอเล่าอย่างเรียบเฉย ใบหน้าไร้อารมณ์ แต่พอเฉินนั่วฟังจบ รู้สึกเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่จุกที่คอ พูดอะไรไม่ออก

เสี่ยวเย่อเหอมองเขา จู่ๆ ก็ยิ้ม "พูดเรื่องพวกนี้ทำไมกัน ไม่พูดแล้ว ยังไงก็ผ่านมาได้ อ๊า ฉันเวียนหัวจัง หลิวเจี๋ยวเจี๋ยวกับพวกนั้น วันนี้รุมกรอกเหล้าฉันเยอะเลย โชคดีที่ไม่อ้วก ไม่งั้นอายแย่เลย ช่วยพยุงฉันหน่อย อยากเข้าห้องน้ำ"

เฉินนั่วเดินไปพยุงเธอลุกจากเตียง เสี่ยวเย่อเหอทิ้งน้ำหนักครึ่งตัวพิงเขา ดูเหมือนจะไม่มีแรงเลย ใบหน้าเล็กๆ ซบอยู่ที่อกเขา ลมหายใจอุ่นๆ ผ่านเสื้อซึมเข้าผิวกาย ทั้งร้อนทั้งจั๊กจี้

เฉินนั่วพยุงเสี่ยวเย่อเหอเข้าห้องน้ำ รอจนเธอนั่งลงบนโถส้วมแล้วจึงปล่อยมือ

ไม่รู้เพราะฤทธิ์เหล้าหรือเหตุผลอะไร ใบหน้าของเสี่ยวเย่อเหอแดงจัดราวกับจะมีเลือดหยด เสียงพูดก็อ่อนแรง "ขอบใจ"

"ไม่เป็นไร เสร็จแล้วเรียกฉันนะ"

เฉินนั่วค้อมตัวเล็กน้อยเดินออกจากห้องน้ำ ยืนรออยู่หน้าประตู

จากนั้นก็ได้ยินเสียงน้ำซ่าๆ ดังมาจากในห้อง ถึงได้รู้ว่าโรงแรมนี้เสียงลอดได้ง่ายขนาดนี้ เขารู้สึกว่าอีกเดี๋ยวคงไม่ใช่แค่ค้อมตัว แต่อาจต้องนั่งยองๆ ด้วย

กำลังจะถอยห่างจากประตู จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของเสี่ยวเย่อเหอ

เฉินนั่วไม่ทันคิดอะไร มือคว้าลูกบิดประตู ผลักเข้าไปทันที

เห็นเสี่ยวเย่อเหอตัวโน้มไปข้างหน้า ขาทั้งสองงอเล็กน้อย อยู่ในท่าย่อตัว มือทั้งสองจับอยู่ที่เอวกางเกง แต่กางเกงยังไม่ได้ดึงขึ้น ค้างอยู่ที่โคนขา จากมุมที่เฉินนั่วยืนอยู่ มองเห็นส่วนโค้งขาวผ่องอย่างชัดเจน

เฉินนั่วยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่ก้าวเข้าไป และไม่ถอยออกมา

เสี่ยวเย่อเหอดูเหมือนสมองจะหยุดทำงาน เธอยังคงอยู่ในท่านั้น หันหน้ามา เสียงแหบแห้ง พูดว่า "เมื่อกี้มีแมลงสาบ"

"อ๋อ" เฉินนั่วพยักหน้า สบตากับเสี่ยวเย่อเหอ ทั้งสองคนจ้องมองกันอยู่อย่างนั้น ไม่มีใครละสายตาไปไหน

จากนั้น เขาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ ค่อยๆ ก้าวเข้าใกล้เสี่ยวเย่อเหอทีละก้าว พลางพูดเสียงแผ่วเบา "แมลงสาบมันร้ายนะ เธออย่าขยับ ฉันจะช่วยกำจัดมัน"

(จบบทที่ 33)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด