ตอนที่แล้วบทที่ 14 : ออกไม่ได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 16 : การฝึกการแสดง

บทที่ 15 : หลี่เอ๋อร์


ประตูห้องนอนของหยางมี่ยังปิดสนิท ยังไม่ตื่น ก็น่าจะเป็นแบบนั้น เพราะตอนนี้เพิ่งจะแปดโมงกว่าๆ ไม่มีคนอายุประมาณ 18 ปีคนไหนจะตื่นเวลานี้หรอก ยกเว้นจะมีผู้ใหญ่วัยกลางคนที่ไม่รู้จักกาลเทศะโทรมาปลุก

เฉินนั่วคิดว่าเพราะต้องไปพบอาจารย์จริงๆ จังๆ แถมยังเกี่ยวกับโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยของเขาด้วย น่าจะแต่งตัวให้เรียบร้อยหน่อย หลังจากล้างหน้าแปรงฟันแล้ว เขาจึงกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

ก่อนออกจากบ้าน เขาส่องกระจกบานเต็มตัวที่หน้าประตู ในกระจกสะท้อนภาพวัยรุ่นที่สวมเสื้อเชิ้ตลายตารางสีอ่อน ทับด้วยเสื้อโค้ทผ้าสักหลาดสีน้ำตาลเข้ม ท่อนล่างเป็นยีนส์ธรรมดากับรองเท้าผ้าใบ ไม่เหมือนแฟชั่นยุคนี้เท่าไหร่ แต่กลับคล้ายแฟชั่นอีก 20 ปีข้างหน้ามากกว่า

ความสูง 180 ไม่ได้ถือว่าสูงมาก แต่ก็ไม่เตี้ย อาจจะเพราะทรงผม เฉินนั่วรู้สึกว่าคนในกระจกมีแววตาที่เย็นชาไปหน่อย

แค่เพราะผมหรือเปล่านะ?

เฉินนั่วรู้สึกไม่คุ้นกับตัวเองแบบนี้ เขาเคยได้รับฉายาจากสาวๆ ว่าเป็นหนุ่มอบอุ่นแห่งศตวรรษไม่ใช่หรือไง?

คงต้องโทษตัวละครใบ้แน่ๆ

เขายิ้มใส่กระจก แล้วอ้าปากกว้างๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้า ใช้นิ้วดึงคิ้วและหางตาขึ้นเล็กน้อย... หลังจากถ่ายหนังมาเดือนกว่า พื้นฐานการปรับสีหน้าแบบนี้เขาชำนาญแล้ว และแล้วใบหน้าที่ดูเคร่งขรึมในกระจกก็อ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เฉินนั่วออกจากบ้าน แวะซื้อซาลาเปาสองลูก เดินกินไปด้วยตลอดทาง จนมาถึงสถาบันภาพยนตร์

อาจารย์หยางที่จางอี้อี้แนะนำมา มีออฟฟิศอยู่ชั้นสองของตึกรูปตัวยู หน้าห้องมีป้ายฝ่ายรับสมัครนักศึกษา อาจารย์หยางอายุราวๆ 30 ต้นๆ ดูเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส แต่อาจจะยุ่งมาก คุยกับเฉินนั่วไม่กี่ประโยคก็ให้จ่ายเงิน พอจ่ายเสร็จก็พาเฉินนั่วไปห้องข้างๆ แล้วเรียก "อาจารย์หลี่คะ มีนักเรียนใหม่มาสมัครคอร์สอบรม รบกวนช่วยออกมาต้อนรับหน่อยค่ะ"

ไม่นานนัก หญิงวัยราว 40 กว่าก็เดินออกมา

เธอใส่แว่นตากรอบกระสีน้ำตาลอมแดง รูปร่างท้วมเล็กน้อย แม้อายุจะไม่ใช่น้อยๆ แต่ดูแลตัวเองดีมาก บนใบหน้ามีเพียงริ้วรอยบางๆ แต่งหน้าอย่างประณีต ผมเป็นลอนคลื่นธรรมชาติ สวมเสื้อไหมพรมสีน้ำเงินเข้าที่ตัดเย็บอย่างดี คอเสื้อและปลายแขนปักลวดลายวิจิตร ท่อนล่างเป็นกางเกงขายาวสีดำทรงหลวมกับบู๊ตยาว

นับตั้งแต่กลับชาติมาเกิด ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ดูพิถีพิถันที่สุดที่เฉินนั่วเคยเจอ

"มาอีกคนแล้วเหรอ?" เธอดูไม่ค่อยพอใจ "อาจารย์หยาง คลาสการแสดงเริ่มมาหลายวันแล้วนะ ทำไมยังรับนักเรียนอยู่อีก?"

อาจารย์หยางดูเก้อเขินเล็กน้อย ยิ้มแหยๆ "คนสุดท้ายแล้วค่ะ คนสุดท้ายจริงๆ"

อาจารย์หลี่มองสำรวจเฉินนั่ว แล้วหันไปพูด "นี่ต้องเป็นคนสุดท้ายจริงๆ นะ ถ้ามีคนมาอีก อาจารย์หยางก็ต้องสอนเองแล้ว"

"ได้ค่ะ ได้ค่ะ ไม่มีอีกแล้วจริงๆ ขอโทษด้วยนะคะอาจารย์หลี่ งั้นฝากด้วยนะคะ ดิฉันขอตัวก่อน"

หลังจากอาจารย์หยางจากไป อาจารย์หลี่มองสำรวจเฉินนั่วอีกครั้งแล้วพยักหน้า "ตามฉันมา"

เฉินนั่วเดินตามเธอเข้าไปในห้องทำงาน

"อายุเท่าไหร่? มีพื้นฐานการแสดงมาก่อนไหม? เรียนเพื่ออะไร?"

เธอนั่งลงบนโซฟาในห้อง พลางพยักหน้าให้เฉินนั่วนั่งฝั่งตรงข้าม

"18 ปีครับ ไม่มีพื้นฐานครับ ตั้งใจจะสอบเข้าโรงเรียนการแสดง" เฉินนั่วเสริม "ช่วงที่ผ่านมาเพิ่งได้แสดงหนังมา ไม่รู้ว่าจะนับเป็นพื้นฐานได้ไหมครับ"

"หนังอะไรเหรอ?"

"เป็นหนังของนักศึกษาปริญญาโทภาควิชากำกับที่นี่ครับ ชื่อจางอี้อี้ เขา..."

เฉินนั่วยังพูดไม่ทันจบ หญิงสาวก็ขัดขึ้น "หนังของจางอี้อี้เลือกนายเป็นนักแสดงเหรอ? พระเอกด้วย?"

"ครับ ใช่ครับ"

อาจารย์หลี่ขมวดคิ้ว "ฉันแนะนำคนให้เขาไป เขาไม่เอา แต่กลับเลือกนาย? ตอนนี้ถ่ายเสร็จแล้วใช่ไหม?"

"ครับ เสร็จแล้ว"

"ถ่ายนานแค่ไหน?"

"เดือนกว่าๆ ครับ"

อาจารย์หลี่จ้องมองเฉินนั่วด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ "ตอนนี้ฉันจะให้โจทย์นายหน่อย ดูพื้นฐานของนาย อืม... ให้นายแสดงเป็นผู้ชายวัยสี่สิบกว่า เจ้าชู้ใจเร็วด้วยรัก วันนี้เป็นวันเกิดของกิ๊ก แต่ภรรยาชวนไปเดินห้าง เขาเลยต้องโทรไปบอกกิ๊กว่าไปไม่ได้ จะพูดอะไร พูดยังไง แล้วแต่นาย เริ่มได้"

ห้านาทีต่อมา อาจารย์หลี่สั่งให้เขาหมุนตัวอยู่กับที่หนึ่งรอบ

"นายชื่ออะไรนะ?"

"เฉินนั่วครับ เฉินที่แปลว่าหู นั่วที่แปลว่าคำสัญญา"

เฉินนั่วรู้สึกอยากจะหัวเราะในใจ ตอนถ่ายเป็นตัวละครใบ้ ถึงจางอี้อี้และทีมงานจะบอกว่าเขาแสดงได้ดี แต่เวลาดูตัวเองในจอมอนิเตอร์ เขากลับรู้สึกแปลกๆ ไม่รู้ว่าดีตรงไหน หาความรู้สึกไม่เจอเลย เพราะมันต่างจากตอนถ่ายคลิปสั้นมาก

แต่เมื่อกี้ที่อาจารย์หลี่ให้แสดงเป็นผู้ชายวัยกลางคนที่นอกใจ เขากลับมั่นใจมาก แทบจะเรียกได้ว่าแสดงเป็นตัวเองเลย

อย่างที่คาด ท่าทีของอาจารย์หลี่อ่อนลง "ฉันชื่อหลี่เอ๋อร์ เอ๋อร์ที่แปลว่าใกล้ไกล นายเรียกฉันว่าอาจารย์หลี่ก็แล้วกัน คอร์สติวก่อนสอบนี้ ฉันเป็นผู้รับผิดชอบหลัก และจะเป็นอาจารย์สอนการแสดงของพวกนายด้วย เราเรียนทุกวันตั้งแต่เก้าโมงถึงเที่ยง บ่ายสองถึงห้าโมง แบ่งเป็นการแสดง การเคลื่อนไหว การพูด และการร้อง ตารางเรียนเดี๋ยวฉันจะถ่ายเอกสารให้ โดยหลักการแล้วเราไม่บังคับการเข้าเรียน แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็เป็นของนายเอง หวังว่านายจะไม่มาสายกลับก่อน อย่าให้เงินที่พ่อแม่หามาด้วยความยากลำบากต้องสูญเปล่า"

หลังจากเฉินนั่วพยักหน้ารับ อาจารย์หลี่ก็บอกว่าตอนนี้ที่ห้องเรียนกำลังมีคลาสอยู่ เขาลงไปเดินดูมหาวิทยาลัยก่อนได้ แล้วสิบโมงครึ่งค่อยกลับมา คาบต่อไปเป็นคลาสการแสดงของเธอ เธอจะพาเขาไปเอง

ความจริงเฉินนั่วไม่อยากไปเดินเลย เขาอยากนั่งพักบนโซฟาที่อาจารย์หลี่นั่งมากกว่า แต่ก็เห็นชัดว่าอีกฝ่ายไม่อยากให้เขาอยู่ในห้องทำงานให้รำคาญ เฉินนั่วจึงได้แต่รับคำแล้วเดินออกไป

หลังจากเฉินนั่วออกจากห้อง อาจารย์หลี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์

"จางอี้อี้ นายไม่รู้หรือไงว่าเริ่มเรียนไปแล้ว? ยังจะแนะนำนักเรียนมาให้อาจารย์หยางอีก... นายคิดจะปิดฉันด้วยใช่ไหม วันๆ เอาชื่อฉันไปอวดอ้างข้างนอก เรื่องแค่นี้ยังจะแอบๆ ซ่อนๆ..."

"ช่างเถอะ วันนี้ฉันขี้เกียจสั่งสอนนาย หนังนายถ่ายเสร็จแล้วเหรอ?... ตัดฉากที่เฉินนั่วแสดงมาให้ฉันดูหน่อย... หา หนังห่วยๆ ของนายนี่ รักษาความลับเข้มงวดจัง..."

"ไม่ใช่อะไรหรอก ช่วงก่อนหน้านี้มีผู้กำกับจากฮ่องกงมาปักกิ่งหาดารา มาที่สำนักงานฉัน ฉันแนะนำไปหลายคน เขาบอกไม่เหมาะสักคน ช่วงนี้ฉันได้ยินว่าเขากำลังจะไปหาดาราเกาหลีมาเล่นแทน"

"...ใช่ไง ฉันก็คิดแบบนั้น น้ำบ่อในอย่าให้ไหลไปนอกบ่อ เฉินนั่วคนนี้ฉันว่าหน้าตาเข้าท่าดี ก็เลยอยากดูว่าเขาอยู่หน้ากล้องเป็นยังไง... ฮึ หนังทุนน้อยจะมาหาฉันได้ไง บอกให้รู้ไว้ หนังทุนหลายสิบล้านเชียวนะ..."

"แน่นอนว่าไม่ใช่พระเอก รายละเอียดเขายังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ ฉันก็บอกนายไม่ได้หรอก แค่รู้ว่าเป็นผู้กำกับใหญ่จากฮ่องกง งานใหญ่ นักแสดงระดับท็อป..."

"ไม่ต้องให้เขาเลี้ยงข้าวฉันหรอก แค่ฉันพูดประโยคเดียวเอง จะได้หรือไม่ได้ก็อยู่ที่ตัวเขาเอง..."

"อืม รีบหน่อยล่ะ"

(จบบทที่ 15)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด