ตอนที่ 63 : ในนามของ [ราชาแห่งเงินตรา]
"ฟังเสียงสะท้อนจากเลือดที่ร้อนระอุ รวบรวมจิตสังหาร...นี่คือกุญแจสำคัญในการดึงดูดรากฐานของเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารงั้นเหรอ?"
เฉินหลิงเก็บคำพูดทั้งหมดไว้ในใจ
ทันใดนั้นเขาก็จำขึ้นมาได้ว่า ตอนที่เขาอยู่คฤหาสน์หม่าจง เขาได้รับความสนใจจากเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร ดูเหมือนว่าก็อยู่ในสภาพนี้...ความเกลียดชังอันรุนแรงครอบงำจิตใจเมื่อเขายืนอยู่ต่อหน้ากู่เตา แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ไม่เคยฆ่าใคร กลับต้องมาใช้กริชเล่มหนึ่งผ่าลงบนร่างอีกฝ่าย
จิตสังหารที่ครอบงำจิตใจในขณะนั้นทำให้ก่อนที่เขาจะได้สติ เขาก็สังหารผู้คนทั้งคฤหาสน์จนหมดสิ้นแล้ว
อย่างไรก็ตามข้อแตกต่างก็คือ เวลานั้นเขาได้รับเส้นทางเทพเจ้าโดยตรงจากดวงดาวบนท้องฟ้าซึ่งเป็นตัวแทนของเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร แต่คราวนี้ทุกคนต้องเข้าไปในคลังโบราณ เพื่อจะได้รับเส้นทางสู่เทพเจ้าวิถีทหารจาก รากฐานเส้นทางเทพเจ้า เมื่อพูดในแง่ทฤษฎีสิ่งหลังควรจะด้อยกว่าสิ่งแรก
"ก่อนเข้าสู่คลังโบราณ มีกฎสองข้อที่พวกคุณต้องจำไว้"
"ข้อหนึ่ง คุณสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในคลังโบราณวิถีทหารได้ตามที่ต้องการ เพราะมันเป็นเพียงภาพฉายจิตสังหารในประวัติศาสตร์...แต่ในระหว่างนั้นพวกคุณไม่สามารถฆ่ากันเองได้ ถ้าสัตว์ประหลาดนั่นมันตายไปแล้วมันก็จะปรากฏตัวขึ้นมาใหม่ได้เอง แต่หากพวกคุณตาย....ก็คือตายจริงๆ"
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาเหลือบมองเหยียนซีไฉ และพูดเสริม
"แน่นอน ถ้าพวกคุณถูกสัตว์ประหลาดฆ่าตายระหว่างการต่อสู้ จะถือว่าเป็นอุบัติเหตุ...ไม่ว่ายังไง พวกคุณทุกคนต้องให้ความสำคัญกับชีวิตของตัวเองก่อน"
"ข้อสอง หลังจากที่พวกคุณเข้าไปในคลังโบราณแล้ว ประตูจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ จนกว่าจะครบ 24 ชั่วโมง มันถึงจะถูกเปิดอีกครั้ง ในช่วงนี้ไม่สามารถออกได้ชั่วคราว ผมยังขอพูดย้ำประโยคเดิมหากเจอเหตุการณ์ฉุกเฉิน จงให้ความสำคัญกับชีวิตของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก"
ทุกคำพูดของผู้พิทักษ์ล้วนกำลังเตือนทุกคนว่าอย่าห้าวมากเกินไปนัก และยังเป็นการพยายามลดการสูญเสียให้น้อยที่สุด
ในขณะเดียวกันนี้ เฉินหลิงเองก็สัมผัสได้ถึงสายตาใครบางคนกำลังจ้องมาที่เขา...
เมื่อเขาหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นเหยียนซีไฉซึ่งถูกรายล้อมด้วยผู้คุมกฎจำนวนมากกำลังเยาะเย้ยเขา...ในขณะที่ผู้ช่วงชิงเปลวไฟที่เหลืออีกเจ็ดคนต่างขมวดคิ้วและมองเขาตาเป็นมัน
เฉินหลิงเพิกเฉยต่อสายตาของคนทั้งสองกลุ่ม เสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มปลิวไสวตามสายลม เขายืนอยู่บนหัวเรือสายตามองออกไปยังคลังโบราณที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ไม่นานนัก เรือก็มาถึงด้านล่างของดาบยักษ์บนท้องฟ้า และจอดเทียบท่าอยู่หน้าประตูบานมหึมา
ไม่มีกำแพง ไม่มีทางเดิน และประตูสีดำตั้งตระหง่านโดดเดี่ยวบนทะเลน้ำแข็ง เบื้องหลังคือความว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุด...
"ถึงแล้ว" ผู้พิทักษ์สี่แถบมองดูเวลา
"เมื่อผ่านประตูนั่นไป ก็จะเข้าสู่ด้านในคลังโบราณวิถีทหารอย่างเป็นทางการ....หลังจากครบ 24 ชั่วโมง เรือจะมาจอดรอพวกคุณที่นี่"
ทุกคนมองหน้ากันและเดินมายังขอบดาดฟ้า พวกเขามองไปที่ประตูซึ่งตั้งอยู่เบื้องหน้าด้วยความว่างเปล่า พวกเขาไม่รู้ว่าจะเข้าไปได้ยังไง...
ในขณะนั้นเองหลู่ซวนหมิงซึ่งเงียบมาตลอด จู่ๆ ก็เดินออกไปด้านหน้าก่อนจะก้าวขึ้นไปบนราวบันไดซึ่งตกลงมาที่หน้าประตูสีดำ และไม่นานมันก็จางหายไป
ความเฉียบแหลมและความเด็ดขาดของหลู่ซวนหมิงทำให้คนอื่นๆ ตกใจ ไม่นานนักผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพวกเขาก็กระโดดลงจากเรือไปที่ประตูตามหลังชายหนุ่มสวมชุดสูทไป
"เฉินหลิงใช่มั้ย?" เหยียนซีไฉเหยียบราวบันไดด้วยเท้าข้างหนึ่งแล้วหันมาเยาะเย้ยเฉินหลิง "ฉันจะรอนายอยู่ในคลังโบราณ…"
หลังจากพูดจบ เขาก็กระโดดลงไปและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ผู้ช่วงชิงเปลวไฟทั้งเจ็ดตามไปติดๆ
เมื่อทุกคนไปกันเกือบหมดแล้ว มีเพียงเฉินหลิงที่ถูกทิ้งไว้ลำพังบนดาดฟ้า ภายใต้ดาบยักษ์บนท้องฟ้าสีดำ ตัวเขามีขนาดเล็กเท่ากับมด
ผู้พิทักษ์สามคนสวมเสื้อโค้ตยืนอยู่ข้างหลังเขา
"เข้าไปเถอะ" ผู้พิทักษ์ที่มีห้าแถบพูดขึ้นช้าๆ "แม้ว่าตอนนี้คุณเลือกที่จะไม่เข้าไป รอให้กลับขึ้นฝั่งเหยียนซีไฉก็หาวิธีฆ่าคุณได้ทุกเมื่อ...อิทธิพลของเขามีมากกว่าที่คุณคิด"
เมื่อพวกเขาเห็นว่าเฉินหลิงยังคงลังเลที่จะเข้าไป พวกเขาทั้งหมดจึงคิดว่าเฉินหลิงกลัว ท้ายที่สุดตราบใดที่เขาไม่โง่ พวกเขาทุกคนก็รู้ว่าหลังจากเข้าสู่คลังโบราณ เยียนซีไฉจะต้องใช้กำลังทั้งหมดไล่ล่าเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับเขาการเข้าไปในคลังโบราณครั้งนี้ แทบจะเหมือนการเข้าไปตาย
หลังจากเงียบไปนาน เฉินหลิงก็ค่อยๆ หันศีรษะกลับมา...
เขายิ้มให้กับผู้พิทักษ์ทั้งสามคน
"ใครบอกว่าผมจะถอยล่ะ"
เขาเอนหลังบนราวเล็กน้อยแล้วร่างของเขาก็ร่วงสู่พื้นด้านล่างเรืออย่างช้าๆ และจากนั้นก็หายเข้าไปในประตูสีดำ
.
[ค่าความคาดหวังของผู้ชม +3]
.
[ค่าความคาดหวังปัจจุบัน: 77%]
.
.
.......
.
ดวงตาของเฉินหลิงตกอยู่ในความมืด
.
เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง เท้าของเขาก็ยืนอยู่บนหน้าผาแล้ว
ผู้คุมกฎหลายคนที่เพิ่งเข้ามาก่อนหน้าเวลานี้ยืนอยู่ตรงหน้าเขา พวกเขาทั้งหมดยืนเรียงเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เหมือนว่าพวกเขากำลังรอเฉินหลิงอยู่...พวกเขามองไปที่เฉินหลิงพร้อมกับถอนหายใจ บ้างก็เสียใจ บ้างก็มองด้วยความยินดี บ้างก็เห็นอกเห็นใจ
ใครก็ตามที่เห็นความขัดแย้งระหว่างเขากับเหยียนซีไฉบนเรือ ล้วนแต่รู้ว่า...เฉินหลิงจะต้องตายแน่นอน
นี่เป็นผลที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากเขาทำให้เหยียนซีไฉโกรธ ว่ากันตามแก่นแท้แล้ว เขาเป็นเพียงผู้คุมกฎหนุ่มที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากเขตสาม จะเอาชนะเหยียนซีไฉที่กุมอำนาจไว้ในมือได้ยังไง
ในหมู่พวกเขายังมีผู้คุมกฎจากเขตอื่นๆ และส่วนใหญ่เห็นใจเฉินหลิง แม้ว่าท้ายที่สุดจะเปลี่ยนพวกเขาไปแทนที่เฉินหลิง ผลลัพธ์ในวันนี้ก็คงไม่แตกต่างกันนัก...
แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน ที่พวกเขาจะยืนขึ้นและออกไปพูดแทนเฉินหลิง สิ่งเดียวที่พวกเขาโชคดีตอนนี้คือ เหยียนซีไฉกำลังเพ่งเล็งเฉินหลิงไม่ใช่พวกเขา
แม้ตกอยู่ภายใต้การล้อมของกลุ่มคน แต่สีหน้าของเฉินหลิงก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย เขาเลื่อนสายตามองไปที่หมายเลข 8 และคนอื่นๆ ซึ่งยืนอยู่รอบนอก...
ผู้ช่วงชิงเปลวไฟหลายคนยืนกะพริบตาปริบๆ ราวกำลังบอกว่าพวกเขาไม่มีความคิดที่จะยื่นมือเข้าแทรกแซงเรื่องของเฉินหลิง ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขากำลังคิดอะไรอยู่
"นายกล้าเข้ามาจริงๆ สินะ…ฉันควรพูดว่านายอวดดีหรือว่ากล้าหาญดีล่ะ?"
เหยียนซีไฉพูดอย่างสบายๆ โดยมีผู้คุมกฎมากมายรายล้อม เขามองดูเฉินหลิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา
ขณะที่เขายกมือขวาขึ้นเล็กน้อย ผู้คุมกฎจากเมืองออโรร่ามากกว่าสิบคนซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเขาก็ชักปืนออกมาพร้อมกัน!
กระบอกปืนสีดำสนิทมากกว่าสิบกระบอกชี้ไปที่เฉินหลิง โดยไม่มีจุดบอดให้เขาหลบเลี่ยงได้...เหยียนซีไฉตั้งใจจะฆ่าเฉินหลิงที่นี่
กระสุนพร้อมจะพุ่งออกไปทุกเมื่อ เบื้องหน้าเฉินหลิงคือห่ากระสุนจำนวนนับไม่ถ้วน เบื้องหลังคือหุบเหวอันไร้ที่สิ้นสุด ไม่มีทางให้เขาถอยได้
เฉินหลิงเหยียดมือไปที่เอวตนเอง
ทันทีที่เขาชักปืนออกมา ทุกคนก็ตกอยู่ในความตึงเครียดทันที ด้านเหยียนซีไฉเองก็คว้าอาวุธสังเวยในกระเป๋าของเขาออกมาโดยไม่รู้ตัว ผูเหวินก้าวไปหนึ่งก้าวเพื่อปกป้องเขา กลิ่นอายของเส้นทางเทพเจ้าวิถีตำราแผ่กระจายออกไปอย่างเงียบๆ ในเวลาเดียวกันผู้คุมกฎที่ถือปืนทุกคนต่างเหนี่ยวไกออกไปโดยไม่รู้ตัว!
แต่ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียด เฉินหลิงก็ค่อยๆ นำปากกระบอกปืนยัดมันเข้าปากตนเอง
เฉินหลิงยิ้ม
มุมปากของเขายกขึ้นอย่างไม่อาจควบคุมได้ และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง!
"พวกนายคิดว่าฉันตายแล้ว...เรื่องนี้จะจบเหรอ?"
ท่ามกลางสายตาของทุกคน เขายกปลายนิ้วมือขวาขึ้นแล้วแตะระหว่างคิ้วเบาๆ ...เหมือนกับพวกเคร่งศาสนา ปากขมุบขมิบพึมพำ
"ช่วงชิงวิถีแห่งสวรรค์ ยึดครองฟ้าดิน"
"ในนามของ [ราชาแห่งเงินตรา] เทพเจ้าจอมโจรสูงสุด..."
"พวกนายทุกคนจะต้องตายที่นี่"
ปัง-!
เฉินหลิงเหนี่ยวไกปืน
ทันทีที่กระสุนเจาะทะลุลำคอเขา ในพริบตานั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นใบหน้าของหมายเลข 13 ซึ่งถูกเขาฆ่าตาย หลังจากนั้นเขาก็ตกลงไปในเหวด้านหลังอย่างช่วยไม่ได้
ผู้ช่วงชิงเปลวไฟ : ???
.
.
.