ฟาร์มขั้นเทพกับประตูมิติตามใจนึก ตอนที่ 156 เลือดมังกรแท้
ฟาร์มขั้นเทพกับประตูมิติตามใจนึก ตอนที่ 156 เลือดมังกรแท้
“คำราม!!”
วานรมารคำรามลั่น บัดนี้มันยืนขึ้นอย่างเชื่องช้า ทว่าทรงพลังยิ่งนัก อาวุธเทพในมือถูกปักลงบนพื้นอย่างรุนแรง พลังอันน่าสะพรึงกลัวทำให้พื้นดินแตกเป็นเสี่ยง ๆ เกิดเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ราวกับขุมนรก
ทุกการกระทำของมัน ล้วนเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน
“ต้องหาโอกาสกำจัดมันซะแล้ว!”
หงอี้กัดฟันแน่น คิดอย่างเงียบงัน
สิ่งมีชีวิตในโลกใบนี้ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว
ยอดสัตว์ร้ายเช่นนี้ สำหรับยอดฝีมือสูงสุดในโลกใบนี้ ก็เป็นเพียงมดตัวเล็ก ๆ ที่แข็งแกร่งขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น
ทว่า ความดุร้ายของพวกมันกลับสามารถบดขยี้เทพเจ้าในโลกปีศาจระดับต่ำได้อย่างง่ายดาย
เจ้าเหนือหัวทั้งสี่ ต่างสงบสติอารมณ์ลงเล็กน้อย
แต่ก็ยังคงเผชิญหน้ากัน
หมาป่ายักษ์สวรรค์น้ำแข็ง ด้วงเหล็กกลืนเทพ งูหลามกลืนสวรรค์ และวานรมารสงครามคลั่ง
ยอดสัตว์ร้ายทั้งสี่ หากร่วมมือกัน พวกมันสามารถพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้อย่างแน่นอน
“ดูเหมือนว่า พวกมันกำลังหวาดกลัวเทพประตูสวรรค์ทั้งสองตน”
“แต่นี่ไม่ใช่โอกาสของฉันเหรอ?”
หงอี้ยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา
“อืม?”
หงอี้ตกตะลึงเล็กน้อย เขาพบว่าภาพเงาของเทพประตูสวรรค์ทั้งสองตนที่เฝ้าอยู่หน้าประตูสวรรค์ในห้วงมิติ เริ่มจางหายไป พลังอำนาจก็ลดลง
“ดูเหมือนว่า ทุกครั้งที่เทพประตูสวรรค์โจมตี พวกมันกำลังปลดปล่อยพลังของตัวเอง”
“หลังจากปลดปล่อยพลัง พวกมันก็จะอ่อนแอลง”
“ฉันก็ว่าอยู่ ตามพลังที่เทพประตูสวรรค์ทั้งสองตนแสดงออกมาเมื่อกี้ สัตว์ร้ายทั้งสี่ไม่มีทางบุกทะลวงประตูสวรรค์ได้!”
หงอี้คิดอย่างเงียบงัน
“พวกมันก็คงจะมองออกเช่นกัน”
“แบบนี้ ก็คงไม่มีใครอยากเป็นตัวเปิดทางแล้ว”
“คาดว่า พวกมันคงจะต้องตัดสินกันก่อน แล้วค่อยบุกทะลวงประตูสวรรค์!”
หงอี้กำลังชั่งใจ
เขาอยากจะบุกทะลวงประตูสวรรค์
แต่ ถ้าบุกทะลวงไม่สำเร็จ พลังของเทพประตูสวรรค์ก็จะถูกใช้ไปเปล่า ๆ ถึงตอนนั้น คนที่จะได้ประโยชน์ก็คือพวกมัน
“คำราม!”
ในขณะนั้น วานรมารสงครามคลั่งคำรามลั่น พุ่งเข้าหาหมาป่ายักษ์สวรรค์น้ำแข็งที่อยู่ใกล้ที่สุด
คนที่ใจร้อนที่สุด ก็คือมัน
“วานรมาร เจ้าหาที่ตายหรือ?”
น้ำเสียงเย็นยะเยือกดังออกมาจากปากของหมาป่ายักษ์สวรรค์น้ำแข็ง ทุกพยางค์กลายเป็นอักขระน้ำแข็ง เยือกแข็งทุกสิ่ง
“ตูม!!”
ทว่า วานรมารสงครามคลั่งกลับไม่สนใจ อาวุธเทพในมือฟาดฟันอย่างรุนแรง ทำลายทุกการโจมตี
“อืม!”
หงอี้ไม่ลังเลอีกต่อไป
เขารู้ดีว่าจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองคืออะไร
ในการต่อสู้วัดพลัง เขาไม่กลัวเจ้าเหนือหัวเหล่านี้
แต่ความเร็วและพลังจิตวิญญาณ คือจุดอ่อนของเขา
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังไม่มีวิชาต่อสู้ใด ๆ
พายุจิตวิญญาณ ไม่สามารถทำร้ายสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้
ดังนั้น ถ้าอยากจะได้รางวัลสำหรับผู้ที่บุกทะลวงเป็นคนแรก เขาก็ต้องเป็นหนูทดลอง
“ฮ่า ๆ...”
“มดตัวเล็ก ๆ ก็อยากจะบุกทะลวง!”
“ก็ดี ใช้โอกาสนี้ ลดพลังของเทพประตูสวรรค์ลงก็แล้วกัน!”
เมื่อเห็นหงอี้พุ่งขึ้นไปในห้วงมิติ เจ้าเหนือหัวเหล่านั้นไม่ได้ขัดขวาง
กลับยืนดูอย่างใจเย็น พลังที่แม้แต่วานรมารที่ดุร้ายก็ยังต้านทานไม่ได้ พวกเขาไม่เชื่อว่ามนุษย์ตัวเล็ก ๆ จะสามารถต้านทานได้
“ไม่ขัดขวาง?”
“คิดจะใช้ฉันเป็นหนูทดลองงั้นหรือ?”
เมื่อเห็นว่าเจ้าเหนือหัวเหล่านั้นไม่ได้ขัดขวาง หงอี้ก็รู้ทันความคิดของพวกมัน จึงอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย
ใครจะชนะใคร ยังไม่แน่นอน
“ตูม!!”
แน่นอนว่า เมื่อเห็นหงอี้พุ่งเข้ามา เทพประตูสวรรค์ทั้งสองตนก็ยืนอยู่กลางประตูสวรรค์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ยกฝ่ามือขึ้นพร้อมกัน ฟาดลงมาที่หงอี้
ในขณะนั้น หงอี้รู้สึกได้ถึงพลังเทพที่น่ากลัว ความกดดันที่น่าสะพรึงกลัวราวกับภูเขากำลังถล่มลงมา
“พลังความเป็นตาย!”
หงอี้คำรามลั่น ปราณโลหิตกลายเป็นมังกร พลังความเป็นตายที่แข็งแกร่งที่สุดไหลเวียนไปตามเจตจำนงของเขา เข้าสู่ปราณโลหิต ระเบิดพลังออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ตูม!!!”
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว พลังที่น่ากลัวกลายเป็นกระแสอากาศ พุ่งกระหน่ำไปทุกทิศทาง เมฆโดยรอบถูกพัดกระจาย ต้นไม้สูงใหญ่ในเทียนหวงถูกทำลาย
เทพประตูสวรรค์ทั้งสองตนถอยหลังไปหลายก้าว ถอยเข้าไปในประตูสวรรค์
“อืม!”
หงอี้ทรงตัวได้ ใช้ความเร็วภาพมายา พุ่งเข้าไปในประตูสวรรค์ หายวับไปกับตา
บรรยากาศเงียบสงัดจนน่ากลัว!
แบบนี้ก็บุกทะลวงได้?
มนุษย์ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง บุกทะลวงประตูสวรรค์ได้?
ตกลง มนุษย์คนนี้แข็งแกร่งเกินไป หรือเทพประตูสวรรค์อ่อนแอเกินไป
ยิ่งไปกว่านั้น เทพประตูสวรรค์ที่ถูกบีบให้ถอยกลับไป ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะขัดขวางแค่ผู้ที่บุกทะลวงเป็นคนแรกเท่านั้น
เมื่อผู้ที่บุกทะลวงเป็นคนแรกสำเร็จ ภารกิจของพวกเขาก็เสร็จสิ้น
“วานรมาร!!”
“เจ้าหลอกพวกเรา!!”
ด้วงเหล็กกลืนเทพโกรธมาก มันรู้สึกว่าตัวเองถูกวานรมารหลอก
เทพประตูสวรรค์ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น
มนุษย์คนหนึ่ง สามารถเอาชนะเทพประตูสวรรค์ทั้งสองตนได้ วานรมารจะถูกโจมตีจนร่วงลงมาได้อย่างไร
ดังนั้น ทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตาที่วานรมารสร้างขึ้น เพื่อหลอกพวกมัน
ผลสุดท้าย มนุษย์คนนั้นกลับได้ประโยชน์ไป
เสียงของด้วงเหล็กกลืนเทพนั้นแหลมคมและแหบแห้ง เหมือนเสียงโลหะเสียดสีกัน
“อืม!”
ในทันที ด้วงเหล็กกลืนเทพก็ปรากฏตัวขึ้นข้างกายวานรมาร กรงเล็บที่แหลมคมราวกับเคียวของยมทูต หมายจะฉีกวานรมารเป็นชิ้น ๆ
“ไสหัวไป!”
วานรมารคำรามลั่น
ที่จริงแล้ว มันก็ตกตะลึงและหวาดกลัวเช่นกัน
มนุษย์ตัวเล็ก ๆ คนนั้น แข็งแกร่งขนาดนั้นเชียวหรือ?
พลังของเทพประตูสวรรค์นั้นน่ากลัวมากจริง ๆ
ทว่า วานรมารที่ดุร้ายไม่อยากอธิบายอะไรทั้งนั้น อาวุธเทพในมือฟาดฟันอย่างรุนแรง บีบให้ด้วงเหล็กกลืนเทพถอยกลับไป จากนั้นก็พุ่งทะยานขึ้นฟ้า มุ่งหน้าไปยังประตูสวรรค์
“ไสหัวลงไป!”
แต่ความเร็วของหมาป่ายักษ์สวรรค์น้ำแข็งกลับเร็วกว่า เท้าขนาดมหึมาเหยียบลงบนหัวของวานรมารอย่างแรง เหยียบแล้วก็พุ่งทะยานขึ้นฟ้า
“คำราม!”
งูหลามกลืนสวรรค์คำรามลั่น พลังดูดกลืนที่น่ากลัวแผ่ขยายไปทั่วสวรรค์และโลก หมายจะกลืนกินเจ้าเหนือหัวทั้งสามตนที่อยู่ข้างหน้า
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น
ดูเหมือนว่า พวกมันกำลังแย่งชิงโควต้าคนที่สอง
ในขณะนี้ หงอี้พบว่าตัวเองปรากฏตัวขึ้นบนแท่นแห่งหนึ่ง
รอบข้างเต็มไปด้วยอักขระเวทมนตร์ ส่องประกายระยิบระยับ
ในมือของเขา มีกล่องผ้าหนึ่งกล่อง
กล่องผ้า นี้ ปรากฏขึ้นในมือของเขาตอนที่เขากำลังบุกทะลวง
“รางวัลสำหรับผู้ที่บุกทะลวงเป็นคนแรก?”
หงอี้รู้สึกคาดหวังอย่างมาก
“แคร็ก!”
หงอี้เปิดกล่องผ้า อย่างช้า ๆ
“คำราม!”
เสียงคำรามของมังกรที่น่าสะพรึงกลัวดังก้องไปทั่วสวรรค์และโลก
พลังกดดันที่น่ากลัว พุ่งเข้าใส่หงอี้ ร่างกายของเขาถูกกระแทกจนกระเด็นออกไป
เพล้ง!
ระหว่างนั้น เขาก็ปิดกล่อง โดยสัญชาตญาณ พลังกดดันที่น่ากลัวก็หายไป
“เลือดมังกร!”
“เลือดมังกรแท้!”
“น่ากลัวมาก!!”
หงอี้ตั้งสติได้ คำรามออกมาอย่างอดไม่ได้
ภายในกล่อง นี้ มีโลหิตมังกรแท้อยู่หนึ่งหยด
ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นโลหิตมังกรแท้ที่ไม่ธรรมดา
ภายในเลือดมังกรนี้ ดูเหมือนจะมีวิญญาณมังกรแฝงอยู่
เสียงคำรามของมังกรเมื่อครู่ เกือบจะทำให้วิญญาณของเขาแตกสลาย
“นี่... มังกรระดับไหนกัน?”
“เกือบจะเอาชีวิตฉันไปแล้ว!”
หงอี้พบว่า ดวงตาทั้งสองข้างของเขามีเลือดซึมออกมา
พลังอำนาจช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว
