ตอนที่แล้วบทที่ 51: เข้าเฝ้าแต่เช้า โดนทำร้ายจิตใจอย่างหนักหน่วง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 53: คำให้การหลายร้อยหน้า ทุกหน้ามีชื่อ!

บทที่ 52 : จูโหยวเจี้ยน : “พวกเจ้าหิวโหยกันจริงๆ สินะ โกงกินทุกอย่างที่ขวางหน้า!”


บทที่ 52 : จูโหยวเจี้ยน : “พวกเจ้าหิวโหยกันจริงๆ สินะ โกงกินทุกอย่างที่ขวางหน้า!”

ณ ตำหนักไท่เหอ~

“ผู้ใดมีเรื่องจะกราบทูล ก็เชิญกราบทูล ไม่มีก็ถวายบังคมลา”

เสียงของหวังเฉิงเอินดังก้องไปทั่วท้องพระโรง

จูโหยวเจี้ยนมองเหล่าขุนนางด้วยแววตาตื่นเต้น

โจวหยานหรู จูฉุนเฉิน แม้กระทั่งโจวคุ่ย และคนอื่นๆ ที่อยู่ในท้องพระโรง

ล้วนแต่ร่ำรวยมั่งคั่งมานานหลายปี

หมูถูกเลี้ยงจนอ้วนพีแล้ว!

ถึงเวลาเชือดแล้ว

แต่ก่อนไม่มีอำนาจ ก็ทำได้เพียงเล่นละครตบตาไปกับขุนนางเหล่านี้

บัดนี้ หน่วยตงฉ่าง องครักษ์เสื้อแพร แม้กระทั่งกองทัพ ต่างก็อยู่ในกำมือแล้ว

รวมไปถึงข้าราชการฝ่ายพลเรือนที่มีความสามารถ ก็ถูกซื้อตัวมาจนหมดสิ้น

ทุกอย่างพร้อมสรรพ

ถึงเวลาลับมีดเตรียมเชือดหมูเชือดแกะแล้ว!

ในสายตาของจูโหยวเจี้ยน เหล่าขุนนางก็เป็นเหมือนแกะอ้วนพี

รอคอยให้ฮ่องเต้อย่างเขา เก็บเกี่ยวผลประโยชน์

เหล่าขุนนางพวกนี้ ต่างก็กอบโกยเงินทองของแผ่นดินไปวันๆ

ตอนนี้ ทุกอย่างต้องคืนกลับมา

คิดจะสู้กับฮ่องเต้อย่างเขา แต่ก่อนยังพอมีโอกาส

แต่วันนี้ โจวหยานหรูและพรรคพวก ไม่มีทางสู้ได้อีกแล้ว!

สิ้นเสียงของหวังเฉิงเอิน

ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ในท้องพระโรง ยังคงหวาดผวาจากการที่เฉินเหยียนและพวกถูกสังหาร

ต่างมองหน้ากันไปมา เงียบกริบกันหมด

โจวหยานหรูเฉียนเชียนอี้ และคนอื่นๆ แผนการทั้งหมดที่วางไว้เมื่อคืนวาน ก็ไม่กล้าเอ่ยออกมา

กลัวแล้ว

พวกเขากลัวจริงๆ

จูโหยวเจี้ยนผู้ประทับบนบัลลังก์มังกร บัดนี้เด็ดขาดเฉียบแหลม

2350 ชีวิต สั่งฆ่าก็ฆ่า

ไม่เว้นแม้แต่คนชรา ผู้หญิง หรือเด็ก

โจวหยานหรูและพวกกลัวว่า หากเอ่ยปากขึ้นมา ก็จะถูกกำจัด

พวกเขาไม่อยากถูกจับไปประหาร

ภาพการสังหารหมู่ 2350 คน มันน่าสะพรึงกลัวเกินไป

ถึงแม้ในใจจะมีคำพูดมากมาย

แต่วันนี้ในท้องพระโรง ไม่มีใครกล้าพูดอะไรไม่ออกสักคำ

เหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นไม่กล้าพูด

จูฉุนเฉิน รวมถึงขุนนางฝ่ายบู๊และขุนนางชั้นสูง ก็ยืนนิ่งอยู่กับที่

ไม่มีใครอยาก หรือกล้าเป็นคนพูดคนแรก

จูโหยวเจี้ยน : “...”

หวังเฉิงเอิน : “...”

เหล่าขุนนางที่เคยแย่งกันพูด บัดนี้กลายเป็นใบ้ไปหมดแล้ว

หวังเฉิงเอินมองท่าทางของเหล่าขุนนาง รู้สึกขบขันอยู่ในใจ

ฮ่องเต้ของเขาเพิ่งจะเริ่มลงมือ ก็ทำให้ขุนนางมากมายหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้

เหล่าขุนนางที่เคยแย่งกันพูดจาโอหังในท้องพระโรง

วันนี้กลับซึมเซาไปหมด

เผชิญหน้ากับพระบารมีของฮ่องเต้ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะโต้แย้งอีกต่อไป

แน่นอน

ล้วนแต่เป็นพวกขี้ขลาดตาขาว

หวังเฉิงเอินมองดูท่าทีของเหล่าขุนนาง ในใจก็ยิ่งดูถูกดูแคลนมากขึ้น

หากฮ่องเต้ของเขาไม่ได้สั่งประหารเฉินเหยียนและพวก เหล่าขุนนางจะยอมสงบเสงี่ยมเงียบเช่นนี้หรือ

รออยู่หลายนาทีก็ไม่มีใครเอ่ยปาก มีเพียงเหล่าขุนนางที่มองหน้ากันไปมา

จูโหยวเจี้ยนหมดความอดทนที่จะเสียเวลาไปกับพวกเขาอีกต่อไป

ภายใต้สายตาหวาดหวั่นของเหล่าขุนนาง

จูโหยวเจี้ยนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“น่าสนใจ การเข้าเฝ้าวันนี้น่าสนใจจริงๆ!”

“เหล่าขุนนางของข้า ปกติมิใช่ว่ามีความคิดเห็นกันมากมายหรอกหรือ”

“เมื่อวานนี้ ก็ยังมีผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันไม่หยุด”

“เหตุใดมาวันนี้”

“ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ กลับอ้ำอึ้งกันหมด”

“เงียบกริบกันหมด ราวกับกลายเป็นคนใบ้ไปแล้ว!”

โจวหยานหรู : “...”

ขุนนางทั้งปวง : “...”

เมื่อถูกฮ่องเต้เย้ยหยัน

เหล่าขุนนางอ้าปากค้าง แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร

พวกเขาเพียงแค่ก้มหน้า เงียบไม่กล้าพูด

จูโหยวเจี้ยนเห็นปฏิกิริยาของเหล่าขุนนางทั้งหมดอยู่ในสายตา

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูด เขาก็พูดต่อในท้องพระโรง

“ในเมื่อวันนี้พวกเจ้าไม่อยากพูด”

“งั้นก็ถึงคราวที่เราจะพูดบ้าง”

“พวกเจ้าคงจะรู้กันดีถึงความผิดของเฉินเหยียนและพวก”

“องครักษ์เสื้อแพรค้นพบเงินและทองคำหลายล้านตำลึงจากบ้านของพวกมัน”

“ปกติก็ร้องคร่ำครวญว่าขาดแคลนเงินทอง ท้องพระคลังว่างเปล่า”

“ที่แท้แล้ว คนที่ยากจนคือเรา คือราชวงศ์หมิง”

“ส่วนขุนนางใต้บังคับบัญชา ไม่มีใครยากจนเลยสักคน”

“ที่ผ่านมา พวกเจ้าก็แค่เล่นละครให้เราดูเท่านั้น”

“ดีมาก”

“ราชวงศ์หมิงกำลังระส่ำระสาย ใกล้ถึงจุดจบแล้ว”

“นับจากนี้ไป เราจะไม่มีเวลามาเล่นละครกับพวกเจ้าอีกแล้ว”

“วันนี้ฆ่าไปชุดหนึ่งแล้ว เราจะฆ่าต่อไปอีก”

“คนขององครักษ์เสื้อแพรและหน่วยตงฉ่าง กระจายตัวไปทั่วเมืองหลวงแล้ว”

“สิ่งที่สืบสวนได้ ทำให้เราตาสว่างเลยทีเดียว”

“ที่แท้ ราชวงศ์หมิงของเรา เลี้ยงตัวปลิงมากมายไว้ตลอดหลายปีมานี้”

“เหล่าขุนนาง ต่างก็โกงกินบ้านเมือง”

“พวกเจ้าสมควรตาย!”

เมื่อมีอำนาจในมือมากพอแล้ว

จูโหยวเจี้ยนไม่เสแสร้งอีกต่อไป

ใช่แล้ว

เหล่าขุนนางตรงหน้าล้วนเป็นพวกทรยศ เป็นขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง

เงินทองมากมายที่โกงกินไป ล้วนเป็นของราชสำนัก

แต่กลับเข้ากระเป๋าของพวกมันทั้งหมด

มิน่าล่ะ ราชวงศ์หมิงถึงไม่มีเงิน

จูโหยวเจี้ยนเปิดเผยธาตุแท้ ด่าทอโจวหยานหรูและพวกอย่างไม่ไว้หน้า

เมื่อได้ฟังคำด่าทอของฮ่องเต้

โจวหยานหรูและพวกก็ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกไม่ดี รู้ตัวว่าภัยมาถึงตัวแล้ว

แน่นอน

ก่อนเข้าเฝ้าก็โดนโจมตีอย่างหนักหน่วง

ของว่างก่อนเข้าเฝ้า ก็คือการประหารชีวิต 2350 คน

ตอนนี้เข้าเฝ้าอย่างเป็นทางการแล้ว จะมีวันที่ดีได้อย่างไร

คำพูดของจูโหยวเจี้ยน แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขารู้เรื่องบางอย่างแล้ว

โจวหยานหรูและพวก ต่างก็หวาดกลัว หน้าซีดเผือด คุกเข่าลงพร้อมกัน

“ฝ่าบาท!”

“พวกข้าพเจ้าล้วนถูกใส่ร้าย!”

“กระหม่อมภักดีต่อราชวงศ์หมิงอย่างสุดหัวใจ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ฝ่าบาท”

“ฝ่าบาท”

“คนของหน่วยตงฉ่างและองครักษ์เสื้อแพร ล้วนกลั่นแกล้งใส่ร้ายพวกเรา”

“ขอฝ่าบาททรงพิจารณาด้วย”

โจวหยานหรู เฉียนเชียนอี้ จูฉุนเฉิน และคนอื่นๆ ต่างก็คุกเข่าลงกับพื้น

ฮ่องเต้พิโรธแล้ว เห็นได้ชัดว่าจะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น

การเข้าเฝ้าในวันนี้ ต้องมีคนซวยแน่

เหล่าขุนนางต่างก็สวดภาวนา ขออย่าให้เป็นตัวเอง

ทุกคนต่างก็รีบแสดงความภักดีและความบริสุทธิ์ของตน

แต่ทว่า

จูโหยวเจี้ยนรู้เบื้องลึกของขุนนางเหล่านี้ดี

เขาแสยะยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม

“ใส่ร้าย?”

“กลั่นแกล้ง?”

“ยังกล้าขอให้เราตรวจสอบอย่างละเอียดอีก พวกเจ้านี่มัน...”

“เอาล่ะ เราจะเปิดเผยความจริงให้พวกเจ้ารู้”

เราให้คนขององครักษ์เสื้อแพร แอบจับตาดูพวกเจ้ามานานแล้ว”

“เมื่อวานเราเพิ่งเสนอเรื่องการจัดเก็บภาษีการค้า และพัฒนาสหกรณ์การค้าราคาประหยัด”

“เพื่อที่จะจัดเก็บเงินเข้าท้องพระคลังให้มากขึ้น และเพื่อประโยชน์สุขของราษฎร”

“และพวกเจ้าต่างก็รับปากเป็นอย่างดีในท้องพระโรง”

“เราก็นึกว่าพวกเจ้าจะตั้งใจทำงาน”

“แต่ทว่า”

“หลังจากออกจากท้องพระโรงแล้ว”

“แต่ละคนพูดอะไร ทำอะไร คงไม่ลืมกันหรอกนะ”

“นำคนมา!”

“เอาบันทึกขององครักษ์เสื้อแพรเมื่อวานนี้มาทั้งหมด”

“ให้ขุนนางพวกนี้ดู ว่าพวกมันทำอะไรกันไว้บ้าง”

สิ้นเสียงของจูโหยวเจี้ยน

ขันทีหลายคนอุ้มกระดาษจำนวนมาก เดินเข้ามาหาจูโหยวเจี้ยนด้วยความเคารพ

จูโหยวเจี้ยนหยิบบันทึกขององครักษ์เสื้อแพรออกมา แล้วโยนลงไปในท้องพระโรง

“...”

มองดูกระดาษที่ปลิวว่อนอยู่กลางอากาศ

โจวหยานหรูและพวกที่คุกเข่าอยู่ ต่างก็ตัวสั่น รีบหยิบขึ้นมาดู

โจวหยานหรู : “!”

เฉียนเชียนอี้ : “!”

ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ : “...”

เมื่อเห็นเนื้อหาในกระดาษ เหล่าขุนนางต่างก็ตกตะลึง

สมรู้ร่วมคิดกับพ่อค้า ลดการจัดเก็บภาษีการค้า

สั่งให้พ่อค้ากลุ่มหนึ่ง จัดการกับสหกรณ์การค้าราคาประหยัด

ทุกอย่าง ถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจน

แม้กระทั่งกินอะไร นอนตอนไหน

ในกระดาษก็บันทึกไว้อย่างละเอียด

ขุนนางแต่ละคน มีบันทึกเป็นของตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น ขุนนางฝ่ายบู๊ หรือแม้แต่ขุนนางชั้นสูง

หลังจากอ่านเนื้อหาในกระดาษจบ ทุกคนรู้สึกหน้ามืดตาลาย

บางคนถึงกับเป็นลมล้มพับไปในท้องพระโรง

ส่วนคนที่ยังไม่เป็นลม ต่างก็ตัวสั่นงันงก

เหงื่อไหลท่วมหลัง

เหล่าขุนนางมองดูเนื้อหาในกระดาษด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง

คำพูดทุกคำที่เคยพูด ถูกบันทึกไว้อย่างครบถ้วน

องครักษ์เสื้อแพรที่ฮ่องเต้แอบส่งมา แทรกซึมเข้ามาอยู่ข้างๆ พวกเขาแล้ว

ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าตัวเองฉลาด สมรู้ร่วมคิดกับพ่อค้าเพื่อก่อเรื่อง

แต่ทว่า

เบื้องหน้าเครือข่ายข้อมูลขององครักษ์เสื้อแพร ทุกอย่างก็เป็นเพียงเรื่องตลก

โจวหยานหรูและพวก เหงื่อแตกพลั่ก สติแตกกระเจิง

จูโหยวเจี้ยนนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร มองดูท่าทางของเหล่าขุนนางอย่างใจเย็น

“เห็นกันชัดแล้วใช่ไหม”

“ตอนนี้ยังมีอะไรจะพูดอีกหรือ?”

“เราว่าพวกเจ้าคงหิวโหยกันจริงๆสินะ อะไรที่กินได้ล้วนสวาปาม!”

“โกงกินทุกอย่างที่ขวางหน้า!”

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด