ตอนที่แล้วบทที่ 50: ประหารชีวิต 2,350 คน ฆ่าล้างตระกูลชั้นสาม!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 52 : จูโหยวเจี้ยน : “พวกเจ้าหิวโหยกันจริงๆ สินะ โกงกินทุกอย่างที่ขวางหน้า!”

บทที่ 51: เข้าเฝ้าแต่เช้า โดนทำร้ายจิตใจอย่างหนักหน่วง!


บทที่ 51: เข้าเฝ้าแต่เช้า โดนทำร้ายจิตใจอย่างหนักหน่วง!

จูโหยวเจี้ยน: "ในที่สุดก็สงบแล้ว!"

"จิ่นเฟิง ให้คนของเจ้าลากศพไปทิ้ง"

"ล้างคราบเลือดบนพื้นให้สะอาด"

"จำไว้"

"คนในตระกูลของเฉินเหยียนและคนอื่นๆ ห้ามเหลือไว้แม้แต่คนเดียว"

หลังจากเสียงปืนสงบลง

จูโหยวเจี้ยนมองศพของเฉินเหยียนและคนอื่นๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย และสั่งการต่อ

ส่วนขุนนางที่ยังคงตกตะลึง

เดี๋ยวเข้าเฝ้าตอนเช้า ค่อยจัดการพวกเขา

"พ่ะย่ะค่ะ!"

"โปรดฝ่าบาทวางพระทัย"

"ผู้น้อยจะทำความสะอาดพื้นให้เรียบร้อย"

"จะไม่มีร่องรอยใดๆ เหลืออยู่"

ภายใต้การบังคับบัญชาของจิ่นเฟิง

องครักษ์เสื้อแพรและทหารรีบลากศพไปทิ้ง

จากนั้นก็มีคนเอาน้ำมาราดพื้น

ขณะที่องครักษ์เสื้อแพรและทหารกำลังทำงาน

จูโหยวเจี้ยนไม่ได้เข้าไปยุ่ง แต่หันไปพูดกับโจวหยานหรูและคนอื่นๆ ที่ยังคงตกตะลึง

"อย่ามัวแต่อึ้ง"

"ถึงเวลาประชุมเช้าแล้ว ไปกันเถิด"

พูดจบ

จูโหยวเจี้ยนก็เดินไปที่ตำหนักไท่เหอ พร้อมกับหวังเฉิงเอิน

ในขณะเดียวกัน

เหล่าขุนนางมองดูศพที่ถูกลากไป และคราบเลือดบนพื้น

พึมพำกับตัวเอง

"ไม่เหลือแล้ว ไม่เหลือเลยสักคน"

"สองพันสามร้อยห้าสิบชีวิต หายไปหมดสิ้น"

"ฮ่องเต้ไม่ไว้ชีวิตใครเลย"

"โหดเหี้ยมเหลือเกิน"

โจวหยานหรู เฉียนเชียนอี้ และคนอื่นๆ มองหน้ากัน

พวกเขารู้สึกโล่งใจ

โชคดีที่เมื่อครู่ไม่ได้ขอความเมตตา ไม่งั้นคงถูกประหารไปด้วย

เฉินเหยียนและคนอื่นๆ ถูกประหารทั้งหมดแล้ว

เหล่าขุนนางต่างตกใจในความโหดเหี้ยมของจูโหยวเจี้ยน พร้อมกับตั้งสติ

"ใกล้จะถึงเวลาเข้าเฝ้าแล้ว!"

"ฮ่องเต้ไปแล้ว พวกเราต้องรีบตามไป"

โจวหยานหรูและคนอื่นๆ ตั้งสติ

เดินไปที่ตำหนักไท่เหออย่างนอบน้อม

อีกด้านหนึ่ง

จูฉุนเฉินและขุนนางชั้นสูง ต่างก็ตื่นเต้น

เมื่อเห็นปืนคาบศิลาที่ทหารใช้ พวกเขาก็ตื่นเต้นมาก

"หือ!"

"เห็นหรือยัง"

"ทหารเหล่านี้สวมชุดเกราะ ถืออาวุธที่ทรงพลัง"

"สะดวก ปลอดภัย และแม่นยำกว่าปืนไฟ"

"นี่ต้องเป็นกองทัพที่ฮ่องเต้จัดตั้งขึ้นอย่างลับๆ"

"อาวุธและกองทัพที่ดีขนาดนี้"

"ถ้าให้พวกเรานำทัพ จะดีแค่ไหน"

เหล่าขุนพลและขุนนางผู้สูงศักดิ์ต่างฝันกลางวัน

ต่างก็อิจฉาปืนคาบศิลาและชุดเกราะของทหาร

จ้องมองลูกน้องของตัวเอง

จูฉุนเฉินกระแอมไอ แล้วด่าว่า

"ช่างเพ้อฝัน"

"ดูสภาพพวกเจ้าสิ คิดอะไรกันอยู่"

"นี่เป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่ฝ่าบาทสร้างขึ้น"

"ไม่ว่าจะเป็นอาวุธหรือชุดเกราะ"

"ล้วนต้องใช้เงินจำนวนมาก"

"คิดว่าฝ่าบาทจะยกให้พวกเจ้า? ฝันไปเถอะ"

"กองทัพที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่แปลกที่ฝ่าบาทจะขาดแคลนเงิน"

"ไม่คิดว่าต้าหมิงจะมีกองทัพที่แข็งแกร่งขนาดนี้ซ่อนอยู่"

"เพียงแต่ไม่รู้ว่ามีจำนวนเท่าไร"

"ถ้ามีมากพอ ย่อมสามารถกำจัดกบฏและแมนจูได้สบาย"

"อาวุธและยุทโธปกรณ์มากมายขนาดนี้ จะมีมูลค่าเท่าไร"

จูฉุนเฉินด่าลูกน้องของตัวเองด้วยความอิจฉา

แต่ทว่า

เฉินเหยียนและคนอื่นๆ เพิ่งถูกประหาร สองพันสามร้อยห้าสิบคนถูกฆ่าอย่างเป็นระเบียบ

ทำให้เขารู้สึกตกใจ

ดังนั้น

ตอนนี้ต้องทำตัวให้สงบเสงี่ยม

เมื่อได้ยินคำด่าของจูฉุนเฉิน

เหล่าขุนนางผู้สูงศักดิ์และขุนพลก็ได้สติ

"จริงด้วย"

"ฝ่าบาทเพิ่งฆ่าคนไปมากมาย"

"ทุกคนทำตัวให้เรียบร้อย ถ้าไม่อยากถูกกำจัดเหมือนเฉินเหยียนและคนอื่นๆ"

"ขุนนางฝ่ายบุ๋นไปแล้ว พวกเราก็ต้องรีบตามไป"

"อย่าให้ฝ่าบาทต้องรอ"

เหล่าขุนนางผู้สูงศักดิ์ที่ได้สติ เก็บความคิดของตัวเอง

รีบตามไปเข้าเฝ้า

ในฝูงชน

โจวคุ่ยและหยวนโหยวมีสีหน้ากังวล

"ตอนนี้จะทำอย่างไรดี"

"ไม่คิดว่าเฉินเหยียนและคนอื่นๆ จะมีความผิดมากมายขนาดนี้"

"เรื่องที่พวกเราทำ จะถูกหน่วยตงฉ่างและองครักษ์เสื้อแพรพบหรือไม่"

"ถ้าฝ่าบาทตรวจสอบ แม้จะเป็นพ่อตาของฮ่องเต้ พวกเราคงไม่พ้นถูกลงโทษ"

"ท่านโจว ท่านเทียน"

"การที่พวกเราบริจาคเงินแค่หนึ่งหมื่นตำลึง มันจะน้อยไปไหม"

หยวนโหยวทนไม่ไหว

เขาขี้ขลาด กลัวเหตุการณ์เมื่อครู่

มาเข้าเฝ้าแต่เช้า เจอเรื่องตกใจตั้งแต่เริ่ม

สองพันสามร้อยห้าสิบคนถูกประหารต่อหน้าต่อตา

นึกถึงเฉินเหยียนและคนอื่นๆ ที่คุกเข่าขอความเมตตา

แต่ก็ยังถูกยิงหัว เลือดไหลนองพื้น

หยวนโหยวกลัวว่าตัวเองจะเป็นเหมือนเฉินเหยียนและคนอื่นๆ

เมื่อเทียบกับชีวิต เงินทองเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย

เพื่อไม่ให้ถูกประหาร เขายอมเสียเงิน

เมื่อได้ยินที่หยวนโหยวพูด โจวคุ่ยที่หน้าซีดก็กลัวเช่นกัน

แต่ทว่า

เพื่อเงินของตัวเอง

โจวคุ่ยที่ขี้เหนียวจึงพูดขึ้นอย่างช้าๆว่า

"เฉินเหยียนและคนอื่นๆ ถูกฆ่าตาย ฝ่าบาทคงได้เงินมาไม่น้อย"

"ตอนนี้ฮ่องเต้ไม่ขาดแคลนเงิน"

"คิดบริจาคเงิน นั่นเป็นไปไม่ได้"

"ต่อไปก็ทำตัวให้เรียบร้อยก็พอ"

"บุตรสาวของพวกเราอยู่ในวัง เป็นถึงฮองเฮาและกุ้ยเฟย"

"น่าจะไม่มีอะไรหรอก"

"ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ค่อยดูสถานการณ์ตอนเข้าเฝ้า"

"ข้างหน้ายังมีขุนนางมากมาย ที่หวาดกลัวกว่าพวกเรามาก"

เมื่อพูดถึงการบริจาคเงิน

โจวคุ่ยก็ยังคงไม่เต็มใจ

แน่นอน

ถึงปากจะพูดแบบนั้น

แต่ในใจก็ยังคงกังวล

เมื่อได้ยินที่โจวคุ่ยพูด หยวนโหยวก็ได้แต่พยักหน้าอย่างขมขื่น

"ท่านโจว ท่านพูดถูก"

"พวกเราก็รอดูตอนเข้าเฝ้า"

"หวังว่าฮ่องเต้จะเห็นแก่ลูกสาวของพวกเรา"

"จะไม่เอาผิด และไม่ให้หน่วยตงฉ่างและองครักษ์เสื้อแพรมาตรวจสอบ"

"ไม่เช่นนั้นพวกเราแย่แน่"

หยวนโหยวและโจวคุ่ยกังวล

อย่างไรก็ตาม เทียนหงอวี่ที่เดินอยู่ข้างๆ กลับไม่กังวลเลย

ในใจเขากลับอยากจะหัวเราะออกมา

ตอนนี้ เทียนหงอวี่รู้สึกโชคดีมาก

โชคดีที่เมื่อวานส่งเฉินหยวนหยวนและคนอื่นๆ ไปให้จูโหยวเจี้ยน

วิธีนี้ดีกว่าบริจาคเงินเยอะ

เพราะส่งคนไปให้แล้ว

เขาจึงไม่กังวลอะไรเลย

ถึงคนอื่นจะมีปัญหา แต่เขาไม่ใช่

ส่วนโจวคุ่ยและหยวนโหยว ล้วนโง่เง่าสิ้นดี

เทียนหงอวี่ยังแอบหวังด้วยซ้ำ ว่าคนทั้งสองจะโชคร้าย

เพราะหากเป็นเช่นนี้

เขาก็จะเป็นพ่อตาคนเดียว และบุตรสาวของเขาก็อาจจะได้เป็นฮองเฮา

ตระกูลเทียนย่อมมีอนาคตที่สดใส

แค่คิดถึงเรื่องนี้ เทียนหงอวี่ก็ตื่นเต้น

โจวคุ่ยและหยวนโหยวที่เดินนำหน้า ยังคงกังวล

พวกเขาคิดว่าในฐานะพ่อตา ทั้งสามควรร่วมเป็นร่วมตาย

มองทียนหงอวี่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ทว่าหารู้ไม่ว่าเทียนหงอวี่กำลังคิดแผนอยู่

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด