บทที่ 366: เงื่อนไขการซื้อบ้าน
ลู่เป่าที่กำลังนอนแผ่เอกเขนกอยู่บนพื้นค่อยๆลืมตาขึ้นและแหงนหน้าขึ้นมองเล็กน้อย
“มากินนี่ซะ” เฉียวซางเปิดขวดยาในมือ พร้อมพูดออกมา
ยากระตุ้นศักยภาพแบบนี้ เธอแค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องให้ลู่เป่าดื่ม
ก็มีคำพูดอยู่ว่า... ตรงไหนไม่ดี ก็เสริมตรงนั้น
แต่ก็ใช่ว่าเธอคิดว่าลู่เป่าศักยภาพหรือพรสวรรค์ไม่ดี แค่คิดว่าเมื่อเทียบกับหยาเป่าและซุนเป่าแล้ว ลู่เป่าน่าจะเหมาะสมกับยานี้มากกว่า
“ลู่~”
ลู่เป่าไม่ได้ถามว่านี่คืออะไร มันลุกขึ้นยืนเดินเข้ามาใกล้ดมด้วยจมูกเพื่อเช็กกลิ่น
เมื่อเห็นว่ากลิ่นไม่แย่ มันก็ใช้กรงเล็บหยิบขวดไว้ แล้วนั่งลงกับพื้น ก้มหน้าดื่มจนหมดรวดเดียว
“เป็นยังไงบ้าง?” เฉียวซางถามด้วยความคาดหวัง
นี่มันยากระตุ้นศักยภาพระดับ S เลยนะ! ถ้าไม่ได้มีบัตรไม่จำกัดวงเงินใบนี้ เธอคงต้องทำงานหนักจนหมดอายุขัยกว่าจะมีเงินซื้อมาได้
“ลูลู่”
ลู่เป่าวางขวดเปล่าลงกับพื้นสะบัดหางแล้วหมุนตัวกลับไปยังที่เดิม นอนลงกับพื้นพร้อมปิดตา ส่งสัญญาณว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย
ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยได้ยังไงกันล่ะ? นี่มันยากระตุ้นศักยภาพระดับ S เลยนะ! หรือว่าจะหมดอายุแล้ว…
เฉียวซางก้มตัวลงไปหยิบขวดเปล่าขึ้นมาดูวันที่ผลิตและวันหมดอายุ
...ก็ยังไม่หมดอายุสักหน่อย
“ลู่…”
ในตอนนั้นเองจู่ๆลู่เป่าก็ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็วและแสดงสีหน้าสับสนออกมา
มันรู้สึกได้ว่าทั่วร่างกายมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป แปลกๆแต่…ก็สบายดีอย่างบอกไม่ถูก
เฉียวซางหันไปมองลู่เป่าอีกครั้ง แล้วก็ต้องตกใจเพราะทั้งตัวลู่เป่ากำลังเปล่งแสงสีฟ้าบางๆออกมา
และทันใดนั้น ร่างของมันก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆท่ามกลางแสงสีฟ้าสลัวนั้น...
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน จนเมื่อแสงสีฟ้าค่อยๆจางหายไป ร่างของลู่เป่าที่เดิมยาวประมาณ 40 เซนติเมตร ตอนนี้กลับขยายเป็นราวๆ 60 เซนติเมตร
“ซุน!”
ซุนเป่าจ้องมองลู่เป่าที่ตัวใหญ่ขึ้นทันทีด้วยดวงตาเบิกกว้าง แล้วก็เหมือนมันจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ มันลอยไปตรงหน้าผู้ฝึกสัตว์อสูรของตัวเอง สลับจ้องขวดเปล่ากับหน้้าของเฉียวซางไปมา
“ซุน…”
ถึงแม้ตัวจะใหญ่จนไม่สามารถนั่งบนหัวผู้ฝึกสัตว์อสูรได้อีก แต่มันก็ยังอยากลองบ้าง...
เห็นผลดีจริงๆแป๊บเดียวก็ตัวใหญ่ขึ้นขนาดนี้แล้ว… เฉียวซางไม่ทันสังเกตการกระทำของซุนเป่า เพราะกำลังจ้องลู่เป่าที่ตัวใหญ่ขึ้นจนตกอยู่ในห้วงความคิด
ยากระตุ้นศักยภาพเธอจำได้ว่ามันมีหน้าที่หลักคือปรับปรุงสมรรถภาพร่างกายของสัตว์อสูร ทำให้ขีดจำกัดของพลังงานที่รับได้เพิ่มขึ้น
ตามปกติแล้ว การปรับปรุงสมรรถภาพแบบนี้จะทำให้ขนาดตัวของสัตว์อสูรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
แต่ดูเหมือนว่ายากระตุ้นศักยภาพระดับ S นี้จะมีประสิทธิภาพรุนแรงเกินไป ทำให้ลู่เป่าตัวใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
น่าเสียดายที่บ้านไม่มีเครื่องทดสอบพลังงาน ไม่งั้นเธอคงได้ลองดูว่าขีดจำกัดพลังงานของลู่เป่าเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน
แต่ถ้าดูจากข้อมูลในตำราอสูรก็น่าจะพอวิเคราะห์อะไรบางอย่างได้…
คิดได้ดังนั้น เฉียวซางหลับตา และจิตของเธอก็เข้าสู่ตำราอสูรทันที
[ชื่อ: พรายเกล็ดน้ำค้าง]
[ประเภท: น้ำ, น้ำแข็ง]
[ระดับ: ระดับกลาง (9755/10000)+]
9755?!
เฉียวซางถึงกับตะลึง
นี่มันอะไรกันเนี่ย! เมื่อคืนยังดูข้อมูลอยู่เลย ค่าระดับยังแค่ 3013 ตอนนี้พุ่งไปเป็น 9755 แล้ว?!
นี่มันประสิทธิภาพของยากระตุ้นศักยภาพระดับ S เหรอ? เพิ่มทีเดียวตั้ง 6000 กว่า?!
เมื่อก่อนตอนเธอยังเป็นเพียงยาจกตัวน้อยๆ เคยซื้อไอเทมอย่างลูกแก้วรวมพลังให้กับหยาเป่ากับซุนเป่า ค่าระดับที่เพิ่มขึ้นต่อวันยังแค่ 5 หน่วย เอง พึ่งเคยเจอแบบพุ่งทีสี่หลักเป็นครั้งแรกนี่แหละ!
นี่มันเกินไปแล้ว!
ด้วยค่าพลังที่ลู่เป่าสะสมไว้ตอนนี้ ถ้าเพิ่มอีกหน่อยคงสามารถวิวัฒนาการได้ทันทีเลย
ว่าแต่... ไม่ใช่ว่ายานี้เพิ่มแค่ศักยภาพเหรอ? ทำไมค่าระดับถึงพุ่งขึ้นมาขนาดนี้?
เฉียวซางถอนจิตออกจากตำราอสูร รู้สึกอยากจะซื้อเครื่องทดสอบพลังงานมาตรวจดูสถานะของลู่เป่าให้ชัดเจนเดี๋ยวนั้นเลย
แต่พอเธอลุกขึ้นนั่งก็ต้องหยุดชะงัก เพราะนึกขึ้นได้ว่าเธอให้บัตรไม่จำกัดวงเงินกับแม่ไป เพื่อจะได้จัดการเรื่องซื้อบ้านใหม่...
ด้วยเหตุนี้ เฉียวซางจึงนั่งกลับลงไป พร้อมถอนหายใจเบาๆ
รอแม่กลับมาก่อนละกัน…
พรุ่งนี้ไปโรงเรียนแล้วค่อยหาโอกาสไปถามรองผู้อำนวยการเรื่องนี้อีกที…
"ซุน…"
เสียงซุนเป่าดังขึ้น มันยังคงจ้องมองมาที่เธออย่างตั้งใจ
ในที่สุดเฉียวซางก็สังเกตเห็นมันเข้า
“แกก็อยากลองดื่มบ้างเหรอ?” เฉียวซางถามพร้อมยิ้มออกมาอย่างรู้ทัน
"ซุนซุน!" ซุนเป่าพยักหน้าแรงๆด้วยความคาดหวัง
“แต่มันมีแค่ขวดเดียวนะ ตอนนี้ก็หมดไปแล้ว” เฉียวซางพูดอย่างอ่อนโยน
"ซุน…"
ซุนเป่าก้มหน้าลง สีหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ
เฉียวซางเห็นซุนเป่าทำหน้าเศร้าก็เหลือบมองขวดเปล่า ก่อนจะยกขึ้นแล้วพูดลองเชิงว่า
“ในนี้ยังเหลืออีกหยดเดียว แกลองเติมน้ำดูหน่อยไหมล่ะ?”
"ซุนซุน!"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซุนเป่าก็ดูร่าเริงขึ้นมาทันที มันรีบรับขวดที่เหลือหยดสุดท้ายของยากระตุ้นศักยภาพไว้ แล้วลอยตัวดีใจตรงไปยังห้องครัวทันที
เฉียวซางมองตามไปพลางถอนหายใจเบาๆ “...”
"ลูลู่"
อีกด้านหนึ่ง ลู่เป่ารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกายตัวเอง มันชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืน เดินไปยืนหน้ากระจกเต็มตัว มองสำรวจร่างใหม่ของตัวเอง
แต่มองเพียงแค่ครั้งเดียว มันก็เบือนหน้าหนีอย่างหมดความสนใจ แล้วเดินกลับไปยังที่เดิม นอนลงและหลับตาเหมือนเดิม
ไร้สาระสิ้นดี... เทียบกับหยาเป่าแล้ว ตัวมันก็ยังเล็กกว่าอยู่ดี!
เวลา 19:12 น.
บนโต๊ะอาหาร
แม่ของเฉียวซางเหลือบมองไปทางลู่เป่า แล้วเอ่ยขึ้นอย่างลังเลว่า
“ทำไมรู้สึกว่าลู่เป่าดูตัวใหญ่ขึ้นเยอะเลย?”
“วันนี้หนูซื้อมายาหลายอย่าง แล้วลู่เป่าก็ดื่มยากระตุ้นศักยภาพไปขวดหนึ่ง ก็เลยเป็นแบบนี้แหละค่ะ” เฉียวซางตอบกลับ ก่อนจะถามต่อว่า “ว่าแต่แม่ค่ะ ตอนบ่ายไปดูบ้านมาแล้วหรือยัง?”
"ย่าห์!"
หยาเป่าที่กำลังกินเม็ดพลังงานอยู่ในห้องนั่งเล่น หูตั้งขึ้นทันที มันหยุดเคี้ยวแล้วหันมามองด้วยสีหน้าคาดหวัง
แม่ของเฉียวซางหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า
“ไปดูมาแล้วนะ แต่ซื้อไม่ได้น่ะ”
เฉียวซางนิ่งไปสักพัก ก่อนจะถามด้วยความแปลกใจว่า
“ทำไมล่ะคะแม่?”
เมืองฮันกังมีบ้านที่แม้แต่บัตรไม่จำกัดวงเงินก็ซื้อไม่ได้ด้วยอย่างนั้นเหรอ?
"ย่าห์?"
หยาเป่าเองก็ทำหน้าสงสัยเหมือนกับผู้ฝึกของมัน
เย่เซียงถิงถอนหายใจอย่างหมดหนทาง ก่อนอธิบายว่า
“โครงการที่แม่สนใจมันมีเงื่อนไขในการซื้อบ้าน ต้องเป็น ‘บุคคลระดับ C’ ขึ้นไปถึงจะซื้อได้”
"ย่าห์?"
หยาเป่าเอียงคอมองอย่างงุนงง บุคคลระดับ C คืออะไร? ผู้ฝึกของไม่ได้เป็นเหรอ?
เฉียวซางถึงกับอึ้งไป นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินว่าที่เมืองฮันกังมีโครงการที่มีเงื่อนไขแบบนี้
ในความคิดของเธอ โครงการที่มีเงื่อนไขแบบนี้ส่วนใหญ่จะเจอในเมืองใหญ่ๆ เช่นจักรวรรดินครหรือไม่ก็เมืองลั่วจิงซึ่งเป็นเมืองสำคัญของประเทศ
บุคคลระดับ C หมายถึงคนที่ผ่านการประเมินระดับ C ในสาขาอาชีพต่างๆ เช่น ผู้ฝึกสัตว์อสูร นักพัฒนาสัตว์อสูร ผู้ประสานงาน นักปรุงยา หรือ นักสร้างไอเทม
ในเมืองใหญ่ ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะซื้อบ้านได้ แต่ต้องผ่านเงื่อนไขในการซื้อด้วย เช่น เรื่องสัญชาติ การจำกัดสิทธิ์การซื้อ และโดยเฉพาะโครงการในทำเลดีๆเงื่อนไขก็ยิ่งเข้มงวด
บางโครงการถึงกับกำหนดว่าผู้ซื้อจะต้องเป็นบุคคลระดับ A ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะซื้อได้ ซึ่งทำให้โครงการประเภทนี้ขายหมดเร็วที่สุด
ลองจินตนาการดูว่าหมู่บ้านที่มีแต่บุคคลระดับ A อาศัยอยู่ด้วยกันจะเป็นยังไง…
เฉียวซางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเมืองฮันกังก็มีโครงการแบบนี้เหมือนกัน
เย่เซียงถิงเห็นลูกสาวเงียบไปนาน เลยคีบเนื้อชิ้นหนึ่งใส่ชามของเธอ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆว่า
“ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้แม่จะลองไปดูโครงการอื่นอีก ตอนนี้เรามีบัตรใบนี้ จะกลัวไม่ได้บ้านที่เหมาะสมได้ยังไง”
“ก็จริงค่ะ” เฉียวซางพูดพลางคีบเนื้อในชามขึ้นมากินคำหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อว่า
“แม่ค่ะ พรุ่งนี้ช่วยซื้อเครื่องทดสอบพลังงานมาให้หนูหน่อยนะคะ”
“ได้สิลูก” เย่เซียงถิงตอบพร้อมรอยยิ้ม