ตอนที่แล้วบทที่ 21: พวกเขาทำตัวยังไงกัน?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 23: สิ่งผิดปกติ

บทที่ 22: มีกี่คนที่มีความสามารถเทียบเท่ากับพวกคุณสองคน?


บทที่ 22: มีกี่คนที่มีความสามารถเทียบเท่ากับพวกคุณสองคน?

“ฉันฆ่าใคร?”

เมื่อเผชิญกับคำกล่าวหาของตันหมิงเซว่ ฟู่เฉียนก็ถามราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ยังแกล้งโง่อยู่อีกหรอ”

ตันหมิงเซว่หัวเราะอย่างเย็นชา

“ความขัดแย้งที่นี่เมื่อวานนี้เป็นที่รู้กันไปทั่วแล้ว นายฆ่าคนด้วยตัวนายเอง นายยังคิดจะปฏิเสธอยู่อีกหรอ?”

“ขอโทษทีนะ แต่เรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับผู้เหนือธรรมชาติอยู่ภายใต้เขตอำนาจของเรา และเนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับการตาย นายจึงต้องมากับฉัน”

“เธอกำลังพูดถึงเรื่องนั้นเองหรอ?”

สีหน้าของฟู่เฉียนยังคงสงบนิ่งอย่างสมบูรณ์

“เมื่อวานนี้มีคนเสียชีวิตที่นี่จริงๆ แต่เขาตกลงมาจากชั้นสี่จนเสียชีวิตเองต่างหาก”

“นายค่อยอธิบายเรื่องนั้นกับฉันช้าๆ ก็ได้หลังจากที่นายไปกับฉัน”

ตันหมิงเซว่พูดอย่างเย็นชา จิตสังหารแผ่กระจายออกมาจากตัวเธอ

“ความอดทนของฉันมีขีดจำกัด หากนายยังคงดื้อรั้น ก็อย่าโทษที่ฉันไม่สุภาพ”

“หัวหน้าตัน!”

ตอนนี้เหวินหลี่เริ่มรู้สึกวิตกกังวลเล็กน้อย

“คุณฟู่เป็นบอดี้การ์ดที่เราจ้างมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ความขัดแย้งเกิดขึ้นเพราะนักฆ่าพยายามทำร้ายฉัน และคุณฟู่ก็กำลังปฏิบัติหน้าที่ของเขาอยู่ คุณจะละเมิดกันขนาดนี้ไม่ได้นะ”

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเหวินหลี่ ใบหน้าของตันหมิงเซว่ก็อ่อนลงเล็กน้อย

“เราแค่ขอพาตัวคุณฟู่ไปสอบปากคำก็เท่านั้นเอง ถ้าไม่มีปัญหาอะไร เขาก็จะได้กลับมาในเร็วๆ นี้ หลังจากการต่อสู้ที่เข้มข้นและการตายของผู้เหนือธรรมชาติ เราจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่าทุกคนจะปลอดภัย ดังนั้นโปรดเข้าใจด้วย”

ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่ยอมปล่อยฉันไปง่ายๆ สินะ

ฟู่เฉียนคิดในใจ

ตามข้อมูลที่รวบรวมมาได้ พวกเขามีสิทธิ์ที่จะสอบสวนเรื่องความขัดแย้งใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับผู้เหนือธรรมชาติ

และด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ฟู่เฉียนจึงอดคิดไม่ได้ว่ามันจะไม่มีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง

เมื่อนึกถึงคุณชายเย่ที่ยังไม่ปรากฏตัวตลอดทั้งวัน ฟู่เฉียนก็มีลางสังหรณ์

เป็นไปได้มากว่าหลังจากสืบหาประวัติของเขาอย่างลับๆ แล้วและไม่พบอะไรเลย เขาจึงตัดสินใจที่จะก่อเรื่องและปล่อยให้ผู้พิทักษ์ราตรีมาจัดการเขาแทน

แม้ว่าคุณชายเย่จะไม่สามารถใช้พวกเขาเพื่อฆ่าเขาได้ แต่อย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็ยังดึงตัวเขาออกไปได้

ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น

ทางเลือกแรก: ไปกับหัวหน้าตันคนนี้ ปล่อยให้คุณหนูเหวินอยู่ที่นี่ และพึ่งพาบอดี้การ์ดและคนของคุณชายเย่เพื่อปกป้องชีวิตของเธอไปสักพัก

เนื่องจากตระกูลเย่มีความตั้งใจที่จะแต่งงาน พวกเขาจึงจะไม่ต้องการให้ลูกสะใภ้ในอนาคตคนนี้ตาย

ทางเลือกที่สอง: ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ จัดการหัวหน้าตันคนนี้โดยตรง จากนั้นก็จัดการกับผู้พิทักษ์ราตรีที่เข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน จนกว่าจะไม่มีใครกล้ามารบกวนเขาอีกในขณะที่เขาทำภารกิจ

ทางเลือกที่สองนี่แม่งโคตรวายร้ายเลยว่ะ!

แม้ว่าชีวิตของคุณหนูเหวินอาจจะตกอยู่ในอันตรายหากเขาจากไป แต่ก็เห็นได้ชัดว่าอัตราความสำเร็จของทางเลือกที่สองนั้นไม่สูง

ประเด็นสำคัญคือ เหวินหลี่อาจจะตกใจจนสติแตกและเผลอทำบางอย่างที่คาดคิดเอาได้

ในท้ายที่สุด ฟู่เฉียนจึงตัดสินใจร่วมมือชั่วคราว และไปตรวจสอบความแข็งแกร่งของพวกผู้พิทักษ์ราตรีเหล่านี้

ท้ายที่สุดแล้ว หากเขาต้องใช้แผนสองจริงๆ อย่างน้อยเขาก็ควรจะรู้ถึงความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ของเขาก่อน

“ไม่มีปัญหา งั้นฉันจะไปกับคุณก็ได้”

ภายใต้สายตาที่เป็นกังวลของเหวินหลี่ ฟู่เฉียนเดินตามตันหมิงเซว่ออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลเหวิน

ในฝูงชน ฟู่เฉียนมองเห็นอาจารย์จี้ ซึ่งปะทะกับเขาสองครั้งเมื่อวานนี้ แต่ไม่เห็นคุณชายเย่เลย

เขากลัวว่าฉันจะฆ่าเขาด้วยความโกรธหรอ?

ฟู่เฉียนเข้าใจเหตุผลได้ในทันที

คนๆ นี้รู้สึกผิดอย่างเห็นได้ชัด กังวลว่าฟู่เฉียนอาจเดาได้ว่าเป็นฝีมือของเขา และก่อนที่จะเดินตามตันหมิงเสว่ ด้วยความกลัว เขาจึงเลือกที่จะซ่อนตัวและไม่โผล่หัวออกมาให้เห็น

และเป็นไปได้ว่าตอนนี้เขากำลังแอบดูจากหน้าต่าง

เขาเป็นคนใจแคบและระมัดระวังมากจริงๆ!

การเดินทางค่อนข้างยาวนาน หลังจากรถเลี้ยวไปมา เมื่อฟู่เฉียนกำลังจะหมดความอดทน รถก็หยุดลงในที่สุด

“เชิญ”

ตันหมิงเซว่ลงจากรถก่อน และฟู่เฉียนก็เดินตามไป เห็นฐานของผู้พิทักษ์ราตรีเป็นครั้งแรก

สถานที่แห่งนี้ดูเรียบง่ายกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก

เมื่อเทียบกับทิวทัศน์อันงดงามของวิลล่าส่วนตัวของตระกูลเหวินแล้ว ฐานของผู้พิทักษ์ราตรีกลับตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่ผู้คนพลุกพล่าน

จากภายนอก มันดูธรรมดามาก แม้ว่าพื้นที่จะไม่เล็กก็ตาม

หลังจากติดตามตันหมิงเซว่เข้าไปในฐานแล้ว เขาจึงรู้สึกถึงบางอย่างที่พิเศษ

ภายในอาคารที่ได้รับการก่อสร้างอย่างพิถีพิถัน มีพื้นที่หลายแห่งที่ทำจากวัสดุพิเศษ

ไม่มีผู้คนจำนวนมากเข้าออก แต่ทุกคนล้วนมีท่าทีที่แสดงถึงความมีอำนาจและดูเหมือนว่าจะมีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา

“เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะมาถึงที่นี่ในไม่ช้า”

“ก่อนที่เราจะดำเนินการต่อ ฉันต้องยืนยันคำถามง่ายๆ สองสามข้อกับนายก่อน”

“ว่ามา”

ฟู่เฉียนมองไปรอบๆ ขณะที่เขาตอบอย่างขี้เกียจ

“ฟู่เฉียนเป็นชื่อจริงของนายใช่ไหม? ตามทฤษฎีแล้ว ข้อมูลของผู้เหนือธรรมชาติทั้งหมดควรได้รับการลงทะเบียนกับหน่วยผู้พิทักษ์ราตรี แต่ฉันได้ตรวจสอบบันทึกทั้งหมดแล้ว และไม่เห็นมีบันทึกของนายเลย”

“แน่นอน ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมถึงไม่มีบันทึกของฉัน นั่นอาจเป็นเพราะฉันเพิ่งจะเป็นผู้เหนือธรรมชาติได้ไม่นาน”

“โอ้?”

ตันหมิงเซว่กลอกตา

“จากข้อมูลปัจจุบัน ความแข็งแกร่งของนายอย่างน้อยก็อยู่ในระดับที่หก นายกำลังจะบอกฉันว่านายเปลี่ยนจากคนธรรมดาเป็นผู้เหนือธรรมชิตขั้นกลางได้ในเวลาเพียงไม่กี่วันใช่ไหม?”

“แล้วมันเป็นไปไม่ได้หรอ? เมื่อคืนนี้ ฉันกำลังสังเกตปรากฏการณ์บนท้องฟ้าอยู่ดีๆ และฉันก็ได้พบกับอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันมองเห็นอะไรบางอย่าง”

ตุ๊บ!

สมุดบันทึกของตันหมิงเซว่กระแทกเข้ากับโต๊ะ

หลังจากสงบสติอารมณ์ลงได้เล็กน้อยแล้ว ตันหมิงเซว่ก็หยิบสมุดบันทึกขึ้นมาอีกครั้ง

“นายรู้ไหมว่านายฆ่าใครไปเมื่อวาน”

“นักฆ่า และขอเน้นย้ำว่าฉันแค่ทำให้เขาบาดเจ็บ ส่วนการที่เขาพลัดตกจากที่สูงแล้วทำให้เขาเสียชีวิตนั้นเป็นเรื่องของความซวยล้วนๆ”

“ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะบอดี้การ์ดมืออาชีพ ฉันแค่ทำหน้าที่ของตัวเองก็เท่านั้น”

“บอดี้การ์ดมืออาชีพ?”

ตอนนี้ตันหมิงเซว่หงุดหงิดมากจนหัวเราะออกมา

“บอดี้การ์ดมืออาชีพที่มีเงินเดือนสองหมื่นห้าพันเหรียญสหรัฐ? ราคาของนายก็ไม่ได้ถูกเลยนะ!”

“เห็นแบบนี้เราทำกำไรได้น้อยนะ แต่อัตราการหมุนเวียนสูง และสิ่งที่เราทำอยู่ก็คือการสร้างชื่อเสียง!”

“เกิดอะไรขึ้น?”

ขณะที่ตันหมิงเสว่กำลังจะโวยวาย ประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเปิดออกด้วยเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด และชายสวมแว่นตาวัยสามสิบกว่าก็เดินเข้ามา

“ไอ้นี้มันบ้า ถึงตานายสอบปากคำแล้ว”

ตันหมิงเสว่ผงะถอยเมื่อเธอลุกขึ้นยืน

“พวกปรมาจารย์มักจะมีบุคลิกที่โดดเด่นกันอยู่แล้ว!”

ชายสวมแว่นตาหัวเราะคิกคักขณะที่เขาพลิกดูบันทึกและยื่นมือไปหาฟู่เฉียนเพื่อแนะนำตัว

“คุณฟู่ ใช่ไหม ผมคือฉีเสวีย”

“โปรดอย่าเข้าใจผิด เหตุผลเดียวที่เราทำให้คุณลำบากมาในวันนี้คือเพราะหน้าที่ของเราเท่านั้น”

“ท้ายที่สุดแล้ว การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของปรมาจารย์ขั้นกลางในเขตอำนาของเราก็เป็นสิ่งที่เราต้องควบคุมให้ได้”

“สำหรับความขัดแย้ง ผู้เหนือธรรมชาติมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง และการต่อสู้และการสังหารกันก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ในทุกกรณี”

“ดูสิ พวกเราทุกคนเป็นเพื่อนร่วมงานกันที่นี่ และความซื่อสัตย์ในอาชีพก็เป็นสิ่งจำเป็น”

ฟู่เฉียนพยักหน้า

“คุณเริ่มถามได้เลย”

“เรามีข้อมูลพื้นฐานแล้ว”

ชายสวมแว่นตาพลิกดูบันทึกของตันหมิงเซว่

“ดังนั้น ผมจะถามคำถามที่น่าสนใจที่สุดก่อนว่าปรมาจารย์อย่างคุณไปทำงานเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลเหวินได้ยังไง?”

“เพราะฉันได้รับความไว้วางใจจากใครบางคน”

“ใคร?”

ชายสวมแว่นตาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด

“ไม่มีความเห็น”

หลังจากถามคำถามที่ไม่สำคัญอีกสองสามข้อ ชายสวมแว่นตาก็วางสมุดบันทึกลง

“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ คุณออกไปได้แล้ว”

“เฮ้!”

ตันหมิงเซว่ตกใจ

“นายปล่อยเขาไปได้ยังไง?”

“จากข้อมูลปัจจุบัน อดีตของคุณฟู่ค่อนข้างใสสะอาด และความขัดแย้งก็เป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ของเขาจริงๆ ส่วนเรื่องที่ไม่มีบันทึกก่อนหน้านี้ ตอนนี้เรามีแล้ว ดังนั้นความขัดแย้งจึงได้รับการแก้ไขแล้ว”

ชายสวมแว่นตาโบกมือเพื่อบอกตันหมิงเซว่ว่าอย่าพูดอะไรอีก เขาหันศีรษะไปทางฟู่เฉียน

“คุณฟู่ หากคุณมีคำถามใดๆ คุณก็สามารถถามพวกเราได้เช่นกัน”

มีคำถามหรอ?

ฟู่เฉียนคิดสักครู่ จากนั้นจึงชี้ไปที่ทั้งเขาและตันหมิงเสว่

“ในฐานทัพนี้ มีกี่คนที่มีความสามารถเทียบเท่ากับพวกคุณสองคน?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด