บทที่ 17: แทงสวน
บทที่ 17: แทงสวน
มืออาชีพ!
ฟู่เฉียนกลับมาที่โกดังแล้ว และยังคงครุ่นคิดกับการลอบสังหารที่เพิ่งเกิดขึ้น
แผนการนี้ได้รับการวางแผนจัดฉากมาอย่างชัดเจนโดยมืออาชีพ โดยแต่ละขั้นตอนเชื่อมโยงกันอย่างแนบเนียน
ขั้นตอนแรกคือการสะกดจิตสาวใช้ข้างเป้าหมาย โดยพยายามวางยาพิษและกำจัดเป้าหมายอย่างลับๆ
หากไม่สำเร็จ ก็จะมีสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติแอบซุ่มรออยู่ข้างนอก พร้อมที่จะใช้สาวใช้เพื่อระบุตำแหน่งและโจมตีอย่างรุนแรง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคุณหนูเหวินที่จะรอดชีวิต!
[แต้ม SAN ลดลง 1 แต้ม เข้าสู่ฉากจัดเก็บ]
ขณะที่ฟู่เฉียนประหลาดใจ เขาก็สัมผัสกับประตูหมอกอีกครั้ง
คราวนี้ เขาทำซ้ำแบบเดิมโดยเตะทำลายเสาหินและรวมเข้ากับฝูงชนเพื่อแทรกซึมเข้าไปในวิลล่า
ทะลุประตูเข้ามาอีกครั้งในขณะที่เหวินหลี่กำลังจะดื่มซุป
“หยุดอยู่ตรงนั้นก่อน!”
ฟู่เฉียนตะโกนขึ้น ระเบิดชามในมือของเหวินหลี่อีกครั้งด้วยกระสุนลม ทำให้เหธอเปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้า
สำหรับแม่บ้านที่ชื่อฟางติง ฟู่เฉียนยังคงเลือกที่จะไม่กำจัดเธอโดยตรง แต่ปล่อยให้ลูกน้องของเหวินซิ่วเซียนควบคุมเธออีกครั้ง
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอตายตรงนั้น และคนข้างนอกแอบหนีไปได้?
เขายังคงรอการโจมตีจากภายนอก
เพื่อให้ยักษ์หินโจมตีในเวลาเดียวกันจากทิศทางเดียวกัน เขาถึงกับเลือกเตะเสาเดียวกัน
ตอนนี้ ทุกอย่างดำเนินไปตามบท
ฟู่เฉียนนับเวลาอย่างเงียบๆ
“ทำไม ใครส่งแกมา”
“ฉันไม่รู้... ฉันไม่ได้…”
เหวินซิ่วเซียนและสาวใช้มาถึงขั้นตอนการสนทนาก่อนตายอีกครั้ง และด้วยเสียงกรีดร้อง เมื่อสาวใช้พุ่งเข้าหาเหวินหลี่ ฟู่เฉียนก็กระโจนเข้าใส่โดยทันที
เขาพุ่งไปข้างหน้าชายวัยกลางคนแซ่จี้ เตะเหวินหลี่ไปที่มุมกำแพง
“แกกล้าดียังไง!”
พ่อของเหวินหลี่โกรธจัดและคำรามในขณะที่เขาพุ่งไปที่ด้านข้างของเหวินหลี่ที่ล้มลง
ชายวัยกลางคนแซ่จี้มาถึงในเวลานี้ พร้อมกับชกหมัดเงียบๆ ใส่ฟู่เฉียน
“โห้ เขาเก่งกว่าสาวน้อยคนนั้นเป็นไหนๆ”
แม้ว่ามันจะดูธรรมดา แต่พลังที่อยู่เบื้องหลังหมัดของชายวัยกลางคนนั้นก็แข็งแกร่ง
ฟู่เฉียนไม่หลบ เขาตอบโต้หมัดนั้นด้วยหมัดของตัวเองโดยไม่ลังเล
พลังอันรุนแรงพุ่งเข้ามา ทำให้ฟู่เฉียนสั่นสะท้านจนถึงทรวง และทำให้แขนของเขาสั่นด้วยความเจ็บปวด
น่าสนใจ นี่เป็นตัวละครตัวแรกที่ทำให้เขาเลือดออกได้
แน่นอนว่าชายวัยกลางคนแซ่จี้มีอาการแย่กว่ามาก เขาเซถอยหลังกลับไปด้วยหมัดอันทรงพลัง ทำให้เขาเซไปสามก้าว ใบหน้าของเขาแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บ
ชายวัยกลางคนไม่สามารถซ่อนสีหน้าตกใจของเขาได้ และกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามดังก้องไปทั่วอากาศ และเสาหินสีขาวก็พุ่งทะลุกำแพงลงมายังตรงจุดที่เหวินหลี่เคยยืนอยู่
เศษซากกระจัดกระจายไปทั่ว ฝุ่นฟุ้งกระจายในเมฆ
เหวินซิ่วเซียนซึ่งกอดเหวินหลี่เอาไว้คำรามดัง จากนั้นเขาก็เงียบลงทันใด โดยจ้องมองเสาหินที่ฝังอยู่บนพื้นอย่างว่างเปล่า
หากเขาเข้ามาช้ากว่านี้อีกนิด กระดูกของเหวินหลี่ก็คงถูกบดละเอียดจนกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว
“นี่คือ…”
ฟู่เฉียนไม่ได้สนใจพ่อที่สับสน แต่กลับคว้าเสาหินแทน
คุณภาพไม่เลวเลย ไม่มีแม้แต่รอยแตกหลังจากโดนแรงกระแทกดังกล่าว
เขาชื่นชมมันและจากนั้นก็หายใจเข้าลึกๆ
ในชั่วพริบตาต่อมา ฟู่เฉียนออกแรงเต็มที่และปาเสาหินออกจากกำแพง
ท่ามกลางสายตาที่หวาดกลัวของผู้คนรอบข้าง ฟู่เฉียนทำท่าเท่ๆ เหวี่ยงเสาหินกลับไปยังทางที่มันมา
เสาหินเปลี่ยนเป็นหอกอีกครั้ง พุ่งผ่านอากาศไปหลายสิบเมตรในพริบตา
นอกบ้านพัก ยักษ์หินเหมือนกำลังรอดูผล แต่เมื่อได้ยินเสียงลมแรงดังขึ้น มันก็ตกใจมากเมื่อเห็นเสาหินที่มันขว้างไปกำลังพุ่งกลับมา
ร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยหินนั้นมีพลังป้องกันที่สูงมาก แต่มันก็ยังขาดความคล่องตัว
แม้จะพยายามหลบอย่างสุดความสามารถ แต่ขาขวาข้างหนึ่งก็ยังถูกกระแทกอย่างแรงจนแตกออกเป็นสองส่วน
ท่ามกลางเศษซากที่ปลิวว่อน ร่องรอยเลือดก็กระเซ็นออกมาในที่สุด
ยักษ์หินล้มลงพร้อมกับเสียงดังสนั่น มันกระแทกเข้ากับพื้นอย่างแรง
ในเวลาเดียวกัน หลังจากขว้างเสาหินไปแล้ว ฟู่เฉียนก็กระโดดออกไปผ่านรูขนาดใหญ่ในกำแพง
ดูเหมือนว่ามันจะสัมผัสได้ถึงอันตราย
แม้ว่าขาข้างหนึ่งจะหักไปแล้ว แต่ยักษ์หินก็ยังไม่ได้สูญเสียพลังต่อสู้ทั้งหมด พร้อมกับส่งเสียงคำราม มันคว้ารถแล้วขว้างไปที่เสาหินอีกต้นอย่างแรง
เสาแตกออกเป็นหลายชิ้นในทันที และรถหรูก็พังยับเยิน
เอ้ะ ดูคุ้นๆ นะ!
เมื่อมองใกล้ๆ ดูเหมือนนั่นจะเป็นรถของนายน้อยเย่
รถคันนั้นต้องประสบชะตากรรมที่ยากลำบากซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ใช่ว่าคราวก่อนมันก็ถูกสาวน้อยคนนั้นทำลายลงไปด้วยหรอ?
ในขณะนี้ ก้อนหินบนพื้นดินก็ดูเหมือนกับมีชีวิตขึ้นมา พวกมันรวมตัวกันอย่างรวดเร็วที่ขาของยักษ์หิน
ขาใหม่ที่มีรูปร่างประหลาดก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และยักษ์หินก็ฟื้นคืนความสามารถในการเคลื่อนไหวได้ มันดิ้นรนที่จะยืนขึ้นและวิ่งไปที่ทะเลสาบ
แกคิดว่าจะหนีออกไปได้หรอ?
ฟู่เฉียนที่ตามมาเตะเสาหินอีกต้นหนึ่งใกล้ๆ และเล็งไปที่อีกฝ่ายอย่างแม่นยำ
ปัง!
ฉากที่ปรากฎนั้นโหดร้ายมาก
ยักษ์หินถูกหอก(เสาบ้าน)ที่บินข้ามฟากฟาดเข้ากลางหลังอย่างจัง และภายใต้แรงกระแทกอันรุนแรง มันก็ล้มหัวกระแทกลงพื้นโดยทันที และสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไปโดยสิ้นเชิง
เสียงหินแตกดังก้อง และแผ่นหินก็หลุดออกจากยักษ์หิน เผยให้เห็นชายเปลือยกายที่สวมชุดชั้นในเพียงตัวเดียว
ชายเปลือยกายนอนกองอยู่บนพื้น ดูเหมือนจะหมดสติ
บอดี้การ์ดที่อยู่ใกล้ที่สุดล้อมรอบเขาไว้ทันที
ฟู่เฉียนไม่ได้เข้าร่วมในความโกลาหล และยังวางเสาหินอีกต้นที่เขาถืออยู่ลงด้วย
สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่ามันจะไม่ง่ายอย่างนั้น
ชั่วพริบตาต่อมา ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นจากพื้น และกลุ่มบอดี้การ์ดที่ล้อมรอบชายเปลือยกายก็ล้มลงทีละคน โดยกุมหัวของพวกเขาไว้
มีเพียงคนเดียวที่ยังยืนอยู่และช่วยพยุงชายเปลือยกายที่หมดสติให้ลุกขึ้นยืนและกระโดดลงไปในน้ำ
อย่างที่คาดไว้ มีผู้สมรู้ร่วมคิดอยู่คนหนึ่ง ซึ่งรวมอยู่ท่ามกลางบอดี้การ์ดด้วย
“นายเป็นใครกันแน่ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ในที่สุด เหวินซิ่วเซียนและกลุ่มของเขาก็ตามทันในที่สุด
ด้วยการเป็นคนที่ได้สัมผัสประสบการณ์แบบใกล้ชิด ในตอนนี้ เขาจึงคนข้างกระวนกระวายขณะถามฟู่เฉียน
ฟู่เฉียนเหลือบมองไปที่ชายวัยกลางคนแซ่จี้ที่อยู่ข้างหลังเขา ซึ่งกำลังปกป้องเหวินหลี่ นายน้อยเย่ และคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหลังเขา
เขาฉลาดพอที่จะรู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่จะร่วมมือกันเพื่อหลีกเลี่ยงกลยุทธ์การเบี่ยงเบนความสนใจใดๆ ก็ตาม
นอกจากเรื่องหน้าซีดแล้ว คุณหนูเหวินก็ดูเหมือนจะสบายดี
การเตะเมื่อกี้อาจดูโหดร้าย แต่เมื่อพิจารณาจากสภาพร่างกายของคุณหนูเหวินแล้ว ฟู่เฉียนก็ถือว่าควบคุมแรงเตะแล้ว
การเตะเธอตายโดยไม่ได้ตั้งใจจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน อย่างเลวร้ายที่สุด มันก็อาจจะทำให้กระดูกเธอหักสักเล็กน้อย
“นี่คือทัศนคติของคุณที่มีต่อผู้ชายที่ช่วยชีวิตลูกสาวของคุณไว้หรอ?”
ฟู่เฉียนตอบคำถามของเหวินซิ่วเซียนโดยยกมือขึ้นปิดปากอีกฝ่าย และยืนโดยเอามืออีกข้างไว้ข้างหลัง
เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้ และการแสดงออกของเหวินซิ่วเซียนก็เปลี่ยนไปหลายครั้งก่อนที่เขาจะถอนหายใจและแสดงความขอบคุณอย่างเป็นทางการ
“ไม่จำเป็นต้องมีมารยาท ผมแค่ทำตามคำขอก็เท่านั้น มีคนบางคนที่ไม่อยากให้เธอตาย” ฟู่เฉียนพูดพร้อมกับหัวเราะยาวๆ โดยแสดงท่าทีเหมือนกับเป็นผู้มีจิตใจสูงส่ง
ทำตามคำขอก็เท่านั้นหรอ
คิ้วของเหวินซิ่วเซียนขยับ และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัยและความประหลาดใจ
“ฉันขอถามได้ไหมว่าคนนั้นเป็นใคร”
นั่นไง!
ฟู่เฉียนชี้ไปที่กัปตันกู่
เป็นเขา!
“ผมคือสมาชิกชั้นยอดของทีมกัปตันกู่”
…
“ลุงเหวิน เราไม่ทราบภูมิหลังของชายคนนี้ เราไม่สามารถไว้ใจเขาได้”
ไม่เพียงแต่เหวินซิ่วเซียนจะตกตะลึงเท่านั้น แต่คุณชายเย่เองก็ยังอดไม่ได้ที่จะออกมายืนกราน
“เมื่อกี้คนร้ายก็ล้มลงกับพื้นแล้ว แต่เขาก็ปล่อยมันไป พวกเขาอาจร่วมมือกันแสดงละครก็ได้”
“สวรรค์หวงแหนชีวิต ฉันเพียงแค่ไม่อยากฆ่าคนโดยไม่จำเป็น” ฟู่เฉียนกล่าวอย่างเย็นชาราวกับปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางโลก
ในความเป็นจริง เขาก็แค่ขี้เกียจตามไป
เมื่อมีนักฆ่าอยู่รอบๆ ตัว คนอย่างเขาซึ่งเป็นบุคคลที่มีจิตใจสูงส่งก็นับว่ามีค่ามาก และยังดูน่าเชื่อใจมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นหากเขาฆ่าคนร้ายจริงๆ เหวินซิ่วเซียน จิ้งจอกเฒ่าก็อาจจะเกิดความสงสัยในตัวเขาเอาก็ได้
“ฉันเชื่อเขา” เสียงอ่อนแอแทรกขึ้นมาทันใด ในขณะที่เหวินลี่ เด็กสาวผู้มีพรสวรรค์พูดขึ้นเป็นครั้งแรก...