ตอนที่ 951 เราเสนอราคาต่ำหน่อย แค่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐก็พอ
“ได้ครับ”
เย่เฉิน พยักหน้า เขาเห็นด้วยว่าสิ่งที่ มอยเซส พูดนั้นสำคัญมากจริงๆ
นอกจากนี้ เย่เฉิน เองก็อยากสัมผัสลูกเสือ และลูกสิงโตด้วยตัวเอง สัตว์ตระกูลแมวขนาดใหญ่เหล่านี้ แม้พอโตขึ้นจะดุร้าย แต่ตอนยังเล็กพวกมันน่ารักมาก
“ฮิฮิ.. จะได้ลูบเจ้าลูกเสือน้อยซะที…”
ซู หลิงเอ๋อร์ ที่อยู่ข้างๆ ตื่นเต้นมาก สำหรับคนธรรมดา นี่เป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย
ขณะพูดคุยกับ มอยเซส มอยเซส ได้เล่าให้ฟังถึงสถานการณ์ในครอบครัวของเขา และบอกว่าพี่น้องของเขามีจำนวน ‘นิดหน่อย’
“มีเท่าไหร่?”
เย่เฉิน ถามขึ้นมาลอยๆ
ทันใดนั้นเอง มอยเซส ก็ตอบบางสิ่งที่ทำให้ เย่เฉิน ถึงกับอึ้งไป
“เอ่อ... ถ้ารวมลูกนอกสมรสด้วย น่าจะประมาณสามสิบกว่าคนได้ครับ”
สามสิบกว่าคน?!!
ซู หนิงซวง และซู หลิงเอ๋อร์ ที่อยู่ข้างๆ อ้าปากค้างด้วยความตกใจ พวกเธอคิดว่าการมีพี่น้องห้า หรือหกคนก็น่าจะเยอะแล้ว แต่พ่อของ มอยเซส มีลูกชายถึงสามสิบกว่าคน และนี่..ยังไม่รวมลูกสาวอีก
“พ่อผมแต่งงานกับภรรยาอย่างเป็นทางการทั้งหมดสี่คนครับ…”
มอยเซส อธิบายเพิ่มเติม ในประเทศของเขา การมีภรรยาสี่คนถือว่าได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
หลังจากฟังเรื่องราวนี้ เย่เฉิน ก็เริ่มเข้าใจว่าทำไม มอยเซส ถึงได้พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาขนาดนี้ เพราะเขากำลังเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันระหว่างพี่น้องในอนาคตนั่นเอง
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ทั้งสามคนก็แยกทางกับ มอยเซส และในช่วงบ่ายของวันนั้น พวกเขากลับมายังเมืองเซี่ยงไฮ้
เมื่อมาถึงสนามบิน เย่เฉิน และซู หนิงซวง ลงจากเครื่องบินส่วนตัว เย่เฉิน ได้จัดให้เครื่องบินของเขาพา ซู หลิงเอ๋อร์ กลับไปยังเมืองเจียงโจว พร้อมบอกให้กัปตันเครื่องส่งเบอร์ติดต่อให้ ซู หลิงเอ๋อร์ เพื่อให้เธอโทรหาได้ทุกเมื่อที่ต้องการเดินทาง เครื่องบินจะไปรับเธอทันที
แบบนี้จะสะดวกมากขึ้น ประหยัดเวลา และเธอเองก็ไม่จำเป็นต้องคอยดูตารางบิน หรือวางแผนเวลาให้ยุ่งยาก
อย่างไร เย่เฉิน ก็มีเครื่องบินส่วนตัวอยู่หลายลำ…
ในวันจันทร์หลังเลิกเรียน เย่เฉิน ไปที่บริษัทเครื่องประดับของตัวเอง ซึ่งตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายจิวเวลรี่ของ Prada Group
วันนี้ เหยียน อวี้ตาน ได้เชิญ เย่เฉิน มาเป็นการพิเศษ
“ท่านประธานคะ เพื่อนชาวต่างชาติของฉันบอกว่าช่วงนี้ในวงการรจิวเวลรี่มีข่าวใหญ่มากค่ะ”
เมื่อเจอ เย่เฉิน เหยียน อวี้ตาน ก็รีบอธิบายถึงสาเหตุที่เธอเชิญเขามา
“ข่าวใหญ่?”
เย่เฉิน ถามพลางนั่งลง
“ไม่นานมานี้ ในเหมืองเพชรสีชมพูแห่งหนึ่งในแอฟริกา มีการค้นพบเพชรสีชมพูน้ำหนักประมาณ 260 กะรัตค่ะ”
เหยียน อวี้ตาน กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ก่อนหน้านี้ เพชรสีชมพูที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ ‘The Lulo Rose’ ซึ่งถูกเรียกว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในรอบ 300 ปี และมีน้ำหนักแค่ 170 กะรัต แต่เพชรสีชมพูที่เพิ่งค้นพบใหม่นี้มีหนักมากกว่าถึง 90 กะรัตค่ะ”
“ถ้าพูดแบบนี้ มันก็ใหญ่จริงๆ”
เย่เฉิน พยักหน้าเห็นด้วย
“หลังจากเพชรเม็ดนี้ถูกขุดพบ ก็มีบริษัทใหญ่ๆ จำนวนมากสนใจทันที แต่ที่น่าเสียดายคือ เมื่อไม่นานมานี้ เพชรเม็ดนี้กลับหายไปอย่างลึกลับ…”
เหยียน อวี้ตาน ถอนหายใจ
“หลายบริษัทในวงการจิวเวลรี่ได้เสนอรางวัล บางบริษัทเสนอเงิน 8 ล้านเหรียญสหรัฐ บางบริษัทเสนอ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ที่เสนอรางวัลสูงสุดคือบริษัท Bulgari ซึ่งตั้งรางวัลไว้สูงถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ!!!”
“ท่านประธาน เราควรจะลองร่วมแข่งขันด้วยไหมคะ?”
“ถ้าเราสามารถได้เพชรเม็ดนี้มา มันจะช่วยให้ Prada ได้รับความสนใจมากมาย และถ้าเราเอาเพชรเม็ดนี้ไปสร้างเป็นเครื่องประดับระดับโลก ชื่อเสียงของ Prada ก็จะโด่งดังไปทั่วอย่างแน่นอน และส่งผลให้มีอิทธิพลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยคะ!!!”
เหยียน อวี้ตาน เสนอความคิดเห็น
“เอาสิ”
เย่เฉิน ตอบตกลง ถ้ามันเป็นประโยชน์ต่อบริษัทขนาดนี้ เขาย่อมยินดีที่จะทำ
“แต่ผมยังไม่เคยเห็นเพชรเม็ดนี้เลย ไม่รู้ว่าคุณภาพมันเป็นยังไง งั้นเราจะเสนอราคาต่ำหน่อยละกัน แค่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐก็พอ”
เย่เฉิน พูดด้วยท่าทีสบายๆ
100 ล้านเหรียญ?!
เหยียน อวี้ตาน ถึงกับตกใจกับคำพูดของ เย่เฉิน
“ท่านประธานค่ะ...ที่คุณพูดว่า… 100 ล้านนี่คือดอลลาร์สหรัฐใช่ไหมคะ…?”
เธอถึงกับกลืนน้ำลายด้วยความประหม่า และถามด้วยเสียงสั่นๆ
“ใช่”
เย่เฉิน พยักหน้า
เสนอรางวัล 100 ล้านเหรียญสหรัฐ?!
นี่เรียกว่า ‘ให้ต่ำหน่อย’ งั้นเหรอ?!
เหยียน อวี้ตาน ถึงกับตกตะลึงหนักมาก เพราะข้อเสนอของท่านประธานนั้นสูงกว่าของ Bulgari ถึงสามเท่าเลยทีเดียว นี่มันใจป้ำสุดๆ
“คุณไปจัดการเถอะ”
เย่เฉิน พูดขึ้น เขาคิดว่า เหยียน อวี้ตาน มีเรื่องใหญ่อะไรมาบอก ที่แท้ก็แค่เรื่องเล็กๆ แบบนี้
“อีกอย่างถ้ามีเรื่องเล็กๆ แบบนี้อีก ครั้งหน้าคุณตัดสินใจเองได้เลยนะ”
เหยียน อวี้ตาน เป็นคนที่ไว้ใจได้ เย่เฉิน จึงไม่จำเป็นต้องมายุ่งกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้อีก หลังจากพูดคุยกับเธออีกสองสามประโยค เย่เฉิน ก็จากไป
คืนนั้นตอนเที่ยงคืน เย่เฉิน ยังคงเฝ้าอยู่หน้าจอโทรศัพท์มือถือเหมือนทุกคืน เวลาเพียงหนึ่งนาทีผ่านไป เขาก็รีบกดเข้าไปในร้านค้าในเกมทันที
ในเสี้ยววินาที เย่เฉิน ก็สังเกตเห็นว่ามีการ์ดพิเศษที่เขาเฝ้ารอมานานปรากฏขึ้นในร้านค้า
[เพิ่มความสามารถต้านทานโรค 5% (หมายเหตุ : การ์ดเพิ่มค่านี้สามารถใช้กับผู้เล่น หรือมอบให้ผู้อื่นได้) ราคา 100 หยวน]
นี่มันคือการ์ดเพิ่มภูมิต้านทานโรคที่ เย่เฉิน ต้องการมานาน ในที่สุดมันก็กลับมาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ในร้านค้าเกมเคยขายการ์ดนี้แค่ครั้งเดียว และเย่เฉิน ก็ซื้อไปให้คุณย่าของเขาที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงได้ใช้
วันนี้.. ในที่สุดการ์ดใบนี้ก็กลับมาอีกครั้ง
ผู้เฒ่าในครอบครัวเขาหลายคนสุขภาพไม่ค่อยดี และเย่เฉิน ก็กังวลอยู่เสมอ ถ้าได้การ์ดใบนี้มาช่วยพวกเขา สุขภาพของทุกคนจะดีขึ้นมากแน่นอน
ส่วนตัวเขาเองที่สุขภาพแข็งแรงดีอยู่แล้ว จึงไม่รีบร้อนใช้
[ซื้อ]
เย่เฉิน รีบกดซื้อทันที
[ติ๊ง!]
[ซื้อการ์ดเพิ่มความสามารถต้านทานโรค 5% สำเร็จ]
หลังจากซื้อสำเร็จ เย่เฉิน ก็เลื่อนหาสินค้ารายการต่อไปในร้านค้า
[เพิ่มความสามารถต้านทานโรค 5% (หมายเหตุ : การ์ดเพิ่มค่านี้สามารถใช้กับผู้เล่น หรือมอบให้ผู้อื่นได้) ราคา 100 หยวน]
ไม่ทันไร เขาก็เจอการ์ดใบที่สอง ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีสุดๆ
นี่มันเหมือนเป็นของขวัญเซอร์ไพรส์เลยทีเดียว!
ถ้ามีใบที่สอง แล้วใบที่สามล่ะ?
เย่เฉิน เลื่อนหาต่อไปด้วยความหวัง และในที่สุดเขาก็พบการ์ดใบที่สาม เกมนี้ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ!!!
สุดท้าย เย่เฉิน ตรวจดูทั้งร้านค้า พบว่ามีแค่สามใบนี้เท่านั้น
แต่ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ก่อนหน้านี้เขาเคยใช้การ์ดใบแรกกับคุณย่าไปแล้ว ส่วนอีกสามใบที่เหลือ ก็พอเหมาะสำหรับคุณปู่, คุณตา และคุณยาย ครบคนพอดี
เย่เฉิน ซื้อการ์ดเพิ่มภูมิต้านทานโรคอีกสองใบที่เหลือทันทีตามลำดับ
หลังจากซื้อเสร็จ เย่เฉิน ไม่ได้ใช้สิทธิ์การซื้อที่เหลือ แต่เลือกที่จะใช้การ์ดที่เพิ่งซื้อมา เพื่อให้คุณปู่, คุณตา และคุณยาย ได้รับประโยชน์โดยเร็วที่สุด สุขภาพของพวกท่านก็จะยิ่งปลอดภัย และแข็งแรงขึ้น
เขาเปิดเข้าไปในกระเป๋าในเกม กดเลือกการ์ด [เพิ่มความสามารถต้านทานโรค] ใบแรก แล้วใส่ชื่อของคุณปู่ของเขาลงไป
[ติ๊ง!]
[ค่าความต้านทานโรคของ คุณปู่ ของผู้เล่น +5% สำเร็จ]
การ์ดใบแรกถูกใช้งานสำเร็จ
ต่อมา เย่เฉิน กดเลือกการ์ด [เพิ่มความสามารถต้านทานโรค] ใบที่สอง และสาม เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานโรคให้กับ คุณตา และคุณยาย ตามลำดับ
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย เย่เฉิน ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
หลังจากนั้น เขาก็กลับเข้าไปในร้านค้าอีกครั้ง เพราะเมื่อก่อนหน้านี้ที่เขากำลังหาการ์ดเพิ่มภูมิต้านทานโรค เขาเหลือบไปเห็นสินค้าดีๆ รายการหนึ่งในร้านค้าเกม!!!