EP.8 ชื่อเล่นใหม่
EP.8 ชื่อเล่นใหม่
[มุมมองบุคคลที่ 3]
“เฮ้ นายคิดว่าถ้าชั้นเรียกหนังสือออกมา หนังสือก็คงจะปรากฏขึ้นสำหรับชั้นด้วยเหมือนกันใช่ไหม” ซีเครถามด้วยความอยากรู้
สตีเฟนยักไหล่ “ชั้นไม่รู้ แต่มันก็คุ้มที่จะลองดู”
“เอ่อ… หนังสือเกี่ยวกับการปิดผนึกเวทมนตร์!” ซีเครอุทานพร้อมกับยกมือขึ้น
...
"ฟุ่ด..." สตีเฟนปิดปากเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในขณะที่ซีเครยืนนิ่งโดยเหยียดแขนออกไป
เมื่อได้ยินสตีเฟนหัวเราะ ซีเครก็หน้าแดงและลดแขนลง
"ดูเหมือนว่าจะมีแต่เจ้าของห้องสมุดเท่านั้นที่สามารถสั่งงานห้องสมุดได้ แม้ว่าคนอื่นจะได้รับสิทธิ์พิเศษในการเข้าถึงก็ตาม" ซีเครพึมพำขณะจดบันทึก
“หนังสือเวทมนตร์ผนึกสำหรับเพื่อนของชั้น...” สตีเฟนตะโกนออกมา จากนั้นก็หันไปหาเธอ “เธอเชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์ผนึกเหรอ” เขาถามด้วยความประหลาดใจและสนใจเล็กน้อย ซีเครพยักหน้ายืนยัน
เมื่อสตีเฟนหันกลับไปมองหนังสือที่ปรากฏขึ้นมา เขาก็หัวเราะ หนังสือที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเขียนว่า : เวทมนตร์ปิดผนึกสำหรับคนโง่
ซีเครหันไปหาสตีเฟนด้วยสีหน้าเรียบเฉยตามปกติของเธอ “เฮ้ ชั้นไม่คิดว่าห้องสมุดแห่งนี้จะชอบชั้นสักเท่าไหร่...”
“ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น” สตีเฟนยิ้มเยาะขณะที่เขาเปิดหนังสือและศึกษาหน้าแรก
ซีเครหยิบหนังสือที่อยู่ตรงหน้าเธอขึ้นมา เพราะอย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเปิดมันออกเธอกลับหยุดชะงัก เพราะมันถูกเขียนด้วยภาษาอื่นโดยสิ้นเชิง
“คุณห้องสมุด… ชั้นทำอะไรผิดถึงได้โดนรังแกแบบนี้” ซีเครพึมพำกับตัวเองเกี่ยวกับห้องสมุด
“ไม่ใช่ความผิดของห้องสมุด” สตีเฟนกล่าวในขณะที่ยังคงอ่านหนังสือของเขา
ซีเครมองสตีเฟนด้วยความสับสน สงสัยว่าเขาหมายถึงอะไร
“บทเรียนแรกในศาสตร์ลึกลับนั้นไม่ได้เกี่ยวกับเวทมนตร์เลยแม้แต่น้อย มันเกี่ยวกับการเรียนรู้ภาษาอื่นๆ… ซึ่งก็สมเหตุสมผลสำหรับชั้นมากทีเดียว เวทย์มนต์ของชั้นต้องอาศัยการร่ายมนตร์ และเวทย์เหล่านี้ก็มีอยู่หลายคาถาที่อยู่ในภาษาอื่น ดังนั้นพวกเราต้องเอาชนะอุปสรรคด้านภาษาให้ได้”
“ถึงแม้ว่าชั้นจะเห็นด้วยกับสิ่งที่นายพูด แต่ชั้นยังคงคิดว่าห้องสมุดแห่งนี้ไม่ชอบชั้นด้วยเหตุผลบางอย่าง…” ซีเครพูดพลางส่ายหัว เพราะเธอยังคงไม่เชื่อ
“ส่งหนังสือที่ดีที่สุดเกี่ยวกับบทเรียนภาษามาให้ชั้นหน่อย” สตีเฟนสั่ง ไม่นานหลังจากนั้น หนังสือเล่มใหญ่ชื่อ Language Arts and Studies (ศิลปะภาษาและการศึกษา) ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
“กรีมัวร์ของนายสะดวกมาก ชั้นอิจฉานิดหน่อยนะ” ซีเครพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
สตีเฟนชูนิ้วขึ้นและพลิกหนังสือแต่ละหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นประมาณ 1 นาที เขาก็ส่งหนังสือคืนให้เธอ "นี่"
ซีเครดูสับสนเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็จำได้ “ใช่ นายมีความจำภาพถ่าย”
สตีเฟนพยักหน้า “แม้ว่าชั้นจะจำทุกหน้าได้แล้วแต่ชั้นก็ยังไม่เข้าใจข้อมูลทั้งหมด ชั้นยังต้องศึกษาข้อมูลต่อไป แต่ด้วยวิธีนี้ พวกเราจะสามารถศึกษาร่วมกันได้”
ซีเครยิ้มในขณะที่เธอเลื่อนนิ้วไปตามหนังสือ เธอเดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วดึงเก้าอี้ออกมา "พวกเราจะเริ่มกันเลยไหม"
สตีเฟนหัวเราะเยาะด้วยความขบขัน “ชั้นเดาว่าพวกเราคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”
ทั้งซีเครและสตีเฟนนั่งลงและเริ่มอ่านหนังสือ สตีเฟนเอนหลังโดยหลับตา ขณะที่ซีเครอ่านแต่ละหน้าของหนังสือและแกว่งเท้าอย่างมีความสุขเพราะที่ในที่สุดเธอก็ได้อ่านหนังสือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 500 ปี
เนื่องจากสตีเฟนมีสติปัญญาสูง เขาจึงสามารถเรียนรู้เนื้อหาได้เร็วกว่าซีเครเกือบ 3 เท่า แม้ว่าจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง แต่ซีเครใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมง
เมื่อสตีเฟนพูดจบเขาก็ลุกขึ้นและเริ่มเดินไปรอบๆห้องสมุด “ชั้นควรเรียนรู้ข้อนี้ก่อนสิ่งอื่นใด...”
“ส่งหนังสือเกี่ยวกับการฉายภาพทางจิตมาให้ชั้น” สตีเฟนสั่ง เมื่อหนังสือมาถึงมือเขา เขาก็เริ่มอ่านไปพลางพร้อมเดินไปมา
“ชั้นรู้สึกว่าเรื่องนี้จะเรียนรู้ได้ง่ายกว่า เพราะชั้นรู้แล้วว่าความรู้สึกเป็นอย่างไรด้วย 2 เหตุผล…” สตีเฟนพึมพำขณะอ่านต่อ
“ตอนนี้พวกเราอยู่ในร่างจิตวิญญาณภายในกรีมัวร์ของชั้น ซึ่งเป็นเหตุว่าทำไมพวกเราจึงอยู่ที่นี่ได้เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้นก่อนที่จะกลับเข้าสู่ร่างกายของพวกเรา และไม่ต้องพูดถึงคาถาการกลับชาติมาเกิดที่ทำให้ชั้น... ดังนั้นชั้นน่าจะเรียนรู้สิ่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว มันจะช่วยให้ชั้นได้เปรียบในการเรียนรู้”
สตีเฟนใช้เวลา 24 ชั่วโมงที่มีทั้งหมดไปกับการเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเนื่องจากความสามารถทางจิตใจของเขา ในขณะเดียวกัน ซีเครก็เพลิดเพลินไปกับการอ่านหนังสือและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างสบายๆ
เมื่อเวลา 24 ชั่วโมงที่พวกเขาอยู่ในห้องสมุดใกล้จะหมดลง ซีเครจึงหันไปหาสตีเฟน “ชั้นอยากให้นายตั้งชื่อเล่นใหม่ให้ชั้นหน่อย…”
“ห๊ะ ?” สตีเฟนยกคิ้วขึ้น
“ชั้นเกลียดชื่อเล่นที่คุณตั้งให้ชั้น ชั้นไม่เคยแสดงความรู้สึกออกมาได้มาก่อน แต่ตอนนี้ชั้นแสดงมันออกมาได้แล้ว ให้ชื่อเล่นใหม่กับชั้นอีกสักชื่อเถอะ เพราะชั้นเกลียดมัน”
“มีอะไรกับชีเบิร์ดเหรอ ชื่อเล่นน่ารักดีนะ”
“นายตั้งชื่อชั้นแบบนั้นเพราะนายรู้ว่าชั้นเป็นเด็กผู้หญิงและเป็นนก... อย่างที่ชั้นบอก ชั้นเกลียดมัน”
“ชื่อเล่นใหม่เหรอ…” สตีเฟนลูบคางอย่างครุ่นคิด “ชั้นเดาว่ามันคงสมเหตุสมผล เพราะตอนนี้เธอไม่ได้เป็นนกแล้ว มาดูกัน…”
สตีเฟนมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้ซีเครเริ่มรู้สึกเขินอาย เขาเอียงศีรษะด้วยความสับสน
“อะไร” เธอถามเมื่อสังเกตเห็นท่าทางของเขา
“รู้ไหมว่านี่เป็นครั้งแรกที่ชั้นเห็นเธอชัดเจน เพราะชั้นมัวแต่วอกแวกกับห้องสมุดและอ่านหนังสือจนไม่ทันสังเกต… แต่คุณน่ารักดีนะ”
“ห๊ะ- นี่นายกำลังพูดเรื่องอะไร !?” ซีเครพูดติดขัดเพราะตกใจกับคำพูดของสตีเฟน
เธอรีบตั้งสติได้และจ้องมองเขาอย่างดุร้าย “นายช่วยโฟกัสกับชื่อเล่นใหม่ของชั้นทีได้ไหม ?”
สตีเฟนยิ้มให้กับการจ้องมองของเธอและเริ่มครุ่นคิดอีกครั้ง "อืม เนื่องจากวันนี้พวกเราเรียนภาษาต่างๆมากมาย พวกเรามาเลือกชื่อจากภาษาเหล่านั้นกันดีกว่า... และเนื่องจากเธอมีสีดำเป็นส่วนใหญ่... นัวร์"
"ไม่…"
"คุโระ ?"
“ไม่ มันฟังดูเหมือนชื่อสุนัขมากกว่า”
"นิโกร ละ ?"
"ตอนนี้นายยังพยายามอยู่มั้ย ?"
“ขอโทษ” สตีเฟนหัวเราะเบาๆก่อนจะดีดนิ้ว “ชั้นรู้แล้ว! เนโร มันเป็นภาษาอิตาลี และแปลว่าดำและแข็งแกร่ง”
“เนโร เหรอ… ชั้นค่อนข้างชอบอันนั้นนะ” ซีเครพูดด้วยรอยยิ้ม ขณะที่ทั้ง 2 ถูกพาตัวออกไปและถูกส่งกลับไปยังร่างกายของตนเอง
...
เมื่อกลับออกมาด้านนอกของกรีมัวร์ ดวงตาของสตีเฟนและเนโรก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อพวกเขากลับเข้าสู่ร่างกาย สตีเฟนปิดกรีมัวร์ของเขาและถอนหายใจ "พูดถึงประสบการณ์นอกร่างกาย ชั้นพูดถูกไหม... เนโร ?"
เนโรยิ้มเยาะขณะที่เธอส่งเสียงเจื้อยแจ้วและพยักหน้าเล็กๆของเธอเพื่อยืนยัน “ตอนนี้ไปกันเถอะ-” คำพูดของสตีเฟนถูกตัดขาด
"สตีเฟนนนนนนนนน!!" เสียงตื่นเต้นของแอสต้าดังก้องในขณะที่เขาวิ่งขึ้นไปโดยถือหนังสือสีดำไว้สูงเหนือหัวของเขา
"ในที่สุดชั้นก็เจอนายแล้ว! ชั้นรู้ว่านายน่าจะอยู่ที่นี่! ดูสิ! ดูสิ! มันคือกรีมัวร์ของชั้นเอง!!"
สตีเฟนตกตะลึงทั้งจากการตะโกนของแอสต้าและการที่กรีมัวร์ของเขาถูกยัดเข้าที่หน้าของเขา
“ว้าว! นายทำได้จริงๆนะ ขอแสดงความยินดีด้วย แอสต้า!” สตีเฟนอุทานด้วยความดีใจจริงๆ
เขาเอามือโอบไหล่ของแอสต้าและยีผมของแอสต้า “ดูสิ นายแสดงเวทมนตร์ได้สักที! บอกแล้วความอดทนเป็นคุณธรรม และผู้ที่รอคอยจะได้รับรางวัล”
อัสต้าลูบหลังศีรษะของเขาและยิ้มอย่างเขินอาย "อิอิอิ..."
“แล้วเวทมนตร์ของนายคืออะไร ชั้นคิดว่าถ้านายต้องรอนานขนาดนี้เพื่อจะได้มัน มันคงจะต้องน่าทึ่งมากแน่ๆ” สตีเฟนสงสัย
“ชั้นเห็นยูโนะและผู้ชายคนนึงกำลังต่อสู้กัน และเมื่อชั้นกระโดดลงไป ก็มีสิ่งนี้ปรากฏขึ้น!” แอสต้าก้าวถอยหลัง และตำราเวทมนตร์ของเขาก็ลอยขึ้นช้าๆ มันเผยให้เห็นดาบบัสเตอร์ขนาดใหญ่
สตีเฟนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับดาบเล่มนั้น เขาคงจะตกใจมากกว่านี้หากไม่ได้เพิ่งมาจากห้องสมุดเวทมนตร์ของเขา
“โอเค… เจ๋งดี” สตีเฟนกล่าวด้วยความประทับใจอย่างชัดเจน
"เจ๋ง !?"
"แล้วมันทำอะไรได้ ?"
“ชั้นคิดว่ามันสามารถตัดผ่านเวทย์มนตร์ได้!” แอสต้าอุทานพร้อมกับฟันดาบขึ้นลงอย่างตื่นเต้น
“ในโลกที่เวทมนตร์คือทุกสิ่งทุกอย่าง มันดูจะมีพลังมากเกินไปหรือเปล่า” สตีเฟนถาม
แอสต้ายิ้มกว้างและชูนิ้วโป้งให้เขา "แน่นอน! ชั้นตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นว่าสิ่งนี้สามารถทำอะไรได้อีก!"
โปรดติดตามตอนต่อไป.
_______________