EP.6 กรีมมัวร์ของสเตรนจ์
EP.6 กรีมมัวร์ของสเตรนจ์
[มุมมองบุคคลที่ 3]
“ซิสเตอร์ลิลลี่ โปรดแต่งงานกับผมเถอะ!!!” แอสต้าตะโกนพร้อมกับคุกเข่าข้างนึงและถือดอกไม้ดอกเดียวไว้ในมือ
ทันใดนั้น แส้ประหลาด 2 อันก็ปรากฏขึ้น ก่อนจะพันรอบร่างของแอสต้าทั้งหมด รวมถึงปากของเขาด้วย และมันก็เริ่มลากเขาออกไป เขาส่งเสียงดิ้นรนอย่างเงียบๆขณะที่ถูกดึงกลับไป
“ผมต้องขอโทษเรื่องเขาด้วยนะครับ ซิสเตอร์ ลิลลี่” สตีเฟนผู้ถือแส้ประหลาดถอนหายใจ “ผมคิดว่าผมสอนเขาได้ดีแล้วแท้ๆ”
ซิสเตอร์ลิลลี่ยิ้มและส่ายหัว “เช้านี้ไม่มีความสงบเลยเมื่อมีแอสต้าอยู่แถวนั้นแน่”
“เห็นมั้ย แอสต้า ? เธอเรียกนายว่าน่ารำคาญ” สตีเฟนล้อเลียนพร้อมกับส่ายหัวให้แอสต้าที่ยังคงดิ้นอยู่
“นั่น...ไม่ใช่แบบนั้นเลย!” ซิสเตอร์ลิลลี่พูดติดขัดอย่างเก้ๆกังๆในขณะที่ทุกคนในบริเวณนั้นต่างยุ่งอยู่กับงานบ้านของตนเอง
ยูโนะใช้เวทมนตร์ลมของเขาในการทำให้ผ้าแห้งในขณะที่สตีเฟนปล่อยแส้ประหลาดของเขาและเรียกเลื่อยประหลาดมาตัดท่อนไม้ให้เป็นกองเรียบร้อย
"พวกพี่ทั้ง 3 คนอายุเท่ากัน แต่ความแตกต่างระหว่างพวกพี่นี่มันเหมือนกลางวันกับกลางคืนเลย" เด็กที่อายุน้อยกว่าคนนึงบ่นพึมพำขณะหันไปมองแอสต้า
“สตีเฟนและยูโนะคือความภาคภูมิใจของหมู่บ้านเล็กๆของพวกเรา!” บาทหลวงออร์ซีประกาศอย่างมีความสุข
เด็ก 2-3 คนมุงอยู่รอบๆสตีเฟนและยูโนะ “เขากับยูโนะอาจจะได้ทำงานร่วมกับจักรพรรดิเวทย์มนต์สักวันนึงก็ได้!” พวกเขาอุทาน ตาเบิกกว้างด้วยความชื่นชม
สตีเฟนกระพริบตาให้พวกเขา “รู้ไหม บางทีพวกคุณควรขอลายเซ็นซะแต่ตอนนี้นะ เพราะสักวันนึงพวกคุณอาจจะขายมันได้เป็นเงินก้อนโตเลยก็ได้!” เขาพูดหยอกล้อทำให้พวกเขาหัวเราะคิกคัก
ในขณะเดียวกัน แอสต้านอนอยู่บนพื้น วิญญาณของเขาเหมือนล่องลอยออกมาจากร่างด้วยความพ่ายแพ้
“เอาล่ะ เอาล่ะ แอสต้า” ซิสเตอร์ลิลลี่พูดอย่างอ่อนโยนพร้อมตบไหล่เขา “ใกล้ถึงเวลาพิธีที่เธอจะได้รับกรีมัวร์แล้ว ใครจะรู้ล่ะ ในที่สุดเธอก็อาจจะใช้เวทมนตร์ได้ก็ได้!”
“คุณพูดถูก ซิสเตอร์ลิลลี่...” แอสต้าพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า “เมื่อผมได้รับกรีมัวร์ผมก็จะกลายเป็นจักรพรรดิเวทย์มนต์ในที่สุด! และแล้ว... ผมก็จะแต่งงานกับคุณ!”
ซิสเตอร์ลิลลี่ ยิ้มแม้ว่าท่าทางของเธอจะยังคงดูเก้ๆกังๆก็ตาม
“เอาล่ะ! ผมจะฝึกจนกว่าพิธีจะเริ่ม!” จู่ๆแอสต้าก็ตะโกนขึ้นและวิ่งออกไปด้วยความมุ่งมั่นอีกครั้ง
“ทำไมเขาถึงตะโกนมากขนาดนี้” เด็กคนนึงบ่น
“เพื่อให้ได้ยิน…” สตีเฟนตอบ
เด็กๆหันมาหาเขาด้วยความสับสน “หมายความว่าอย่างไร” 1 ในพวกเขาถาม
“เขาตะโกนเพื่อให้คนได้ยิน คนอื่นมักดูถูกเขาเพราะเขาเป็นเด็กกำพร้าและเพราะเขาใช้เวทมนตร์ไม่ได้ มันเลยเป็นเหมือนกับหารโดนตี 2 หน้า เขาเลยรู้สึกว่าต้องตะโกนเพื่อให้คนสนใจ”
“จริงเหรอ” บาทหลวงออร์ซีถามด้วยความประหลาดใจ
สตีเฟนส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ “ว่าแต่หลวงพ่อ ทำไมคุณไม่สังเกตเห็นล่ะ”
หลังจากเสร็จสิ้นงานพิธีแล้ว สตีเฟนก็ตัดสินใจว่าถึงเวลาเตรียมการพิธีแล้ว
ในห้องน้ำ สตีเฟนจ้องมองภาพสะท้อนของตัวเองที่ถอดเสื้อออก ร่างกายของเขามีกล้ามเนื้อและกระชับ มีรอยแผลเป็นจากการฝึกซ้อมอย่างหนักร่วมกับแอสต้าและยูโนะ ผมของเขาหวีเรียบไปด้านหลังจนถึงคอ มีกระจุกผมสีขาวสองกระจุกอยู่รอบใบหน้า น้ำหยดลงมาจากผมของเขาขณะที่เขาลูบผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงิน
ด้วยเสียงนกหวีดที่แหลมสูง ชีเบิร์ดซึ่งเป็นสัตว์คุ้นเคยก็บินมาเกาะหัวของเขา ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงพิธีที่จัดขึ้นในอาคารสูงตระหง่านคล้ายห้องสมุด สตีเฟนมองเห็นแอสต้าและยูโนะยืนอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ขณะที่สมาชิกโบสถ์คนอื่นๆ มองดูด้วยความกังวล
"ยินดีต้อนรับเด็กๆ!" ผู้ประกาศตะโกนออกมา แต่สตีเฟนกลับพบว่าตัวเองเหม่อลอยออกไป รอคอยกรีมัวร์ของเขาอย่างกระตือรือร้น
"ตอนนี้ สำหรับกรีมัวร์!"
หนังสือเริ่มลอยอยู่ในอากาศ ล้อมรอบด้วยรัศมีของเวทมนตร์ ก่อนที่พวกมันมุ่งตรงไปยังเจ้าของที่ถูกกำหนดไว้ ฝูงชนต่างตะลึงเมื่อกรีมัวร์ที่ที่เรืองแสงเจิดจ้าลอยเข้าหายูโนะ โดยปกของหนังสือนั้นมีรูปโคลเวอร์ 4 แฉกแวววาว
"กรีมัวร์โคลเวอร์ 4 แฉก !?"
"คนธรรมดาเนี่ยนะ !?"
“เขาจะเป็นคนที่ถูกกำหนดให้เป็นจักรพรรดิเวทย์มนต์หรือเปล่านะ !?”
"อย่างน้อยเขาก็น่ารักนิดหน่อย"
ก่อนที่ฝูงชนจะพึมพำต่อไป เสียงที่ดังเหมือนกระจกแตกก็ดังก้องไปทั่วห้อง ทุกสายตาหันไปที่สตีเฟน ซึ่งพื้นที่ตรงหน้าของเขาแตกร้าวและแหลกสลาย ก่อนที่ไม่นานจะมีกรีมัวร์ขนาดใหญ่เท่าหนังสือเรียนปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ โดยหน้ากระดาษหนาๆของกรีมัวร์นั้นได้เต้นระรัวด้วยพลังงานสีส้ม พื้นที่รอบๆของกรีมัวร์ได้รับการฟื้นฟูเมื่อหนังสือได้ปรากฏออกมาอย่างสมบูรณ์ ปกของมันเป็นสีม่วงเข้มประดับด้วยไฮไลท์สีแดง
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนพูดไม่ออกคือสิ่งอื่นเลย
“นั่นโคลเวอร์ 6 แฉกเหรอ ?” มีคนกระซิบ
เกิดความโกลาหลวุ่นวาย
“ชั้นคิดว่าจะมีกลีบมากที่สุด 4 กลีบ! แต่ถ้ามี 6 กลีบก็ต้องมีกลีบ 5 กลีบด้วย!”
“แล้วเขาไม่ใช่คนธรรมดาด้วยเหรอ !?”
“เกิดอะไรขึ้น ?”
“เขาเป็นใคร ? และทำไมเขาถึงมีกรีมัวร์นั่นด้วย !?”
สตีเฟนหงุดหงิดกับความสนใจของคนอื่น เขาจึงดีดลิ้นแล้วหยิบกรีมัวร์ขึ้นมา และทำท่ามืออย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น เขาก็สลายไปเป็นฝูงนกที่กระจัดกระจายไปทั่วห้อง
ไม่กี่วินาทีต่อมา นกก็รวมตัวกันเป็นร่างของสตีเฟนในป่าที่เขาไปฝึกบ่อยๆ
สตีเฟนนั่งไขว่ห้างและศึกษากรีมัวร์ของเขา โดยปกของหนังสือนั้นเป็นสีม่วงและสีแดง และมันมีรูปโคลเวอร์ 6 แฉกสีทอง แต่ตรงกลางนั้นมีสัญลักษณ์ที่คล้ายกับอักษรอียิปต์โบราณรูปดวงตา
ขณะที่เขาตรวจสอบมัน ชีเบิร์ดก็บินลงบนไหล่ของเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอยากรู้
“ชั้นกังวลที่จะเปิดสิ่งนี้” สตีเฟนบ่นพึมพำและมองไปที่เธอ เธอเอาหน้าถูกับใบหน้าของเขาโดยให้การสนับสนุนอย่างเงียบๆ
สตีเฟนสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเปิดกรีมัวร์ ทันทีที่เขาเปิดก็มีภาพสัญลักษณ์สีส้มเรืองแสงปรากฏขึ้น มันเปลี่ยนแปลงไปมาต่อหน้าต่อตาของเขา ทั้งสตีเฟนและชีเบิร์ดต่างรู้สึกง่วงนอนเมื่อจ้องมองภาพสัญลักษณ์อันน่าหลงใหลเหล่านี้
...
เมื่อสตีเฟนลืมตาขึ้น เขาก็ไม่ได้อยู่ในป่าอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้เขากำลังจะยืนอยู่ในห้องสมุดขนาดใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยชั้นหนังสือมากมายนับไม่ถ้วน
“ชั้นอยู่ที่ไหนเนี่ย” เขาบ่นด้วยความหวาดกลัว
“เอ่อ… สตีเฟน…” เสียงหนึ่งร้องออกมา
สตีเฟนตกใจจนกระโดดถอยหลังและเสกโล่ประหลาดขึ้นมาในมือเพื่อเตรียมป้องกันตัวเอง ตรงหน้าเขาคือหญิงสาวสูงประมาณไหล่ สวมชุดเดรสสั้นสีดำ ผมสั้นสีดำมีเขาปีศาจงอกออกมาจากหัว
“เธอเป็นใครกันแน่ เธอเป็นผู้ดูแลห้องสมุดแห่งนี้เหรอ” สตีเฟนถามด้วยความระมัดระวัง
หญิงสาวจ้องกลับด้วยดวงตาที่จริงจัง
“ดวงตาที่ไร้จิตวิญญาณและตัดสินผู้อื่นนั่น... ชีเบิร์ด ? นั่นคือเธอจริงๆ เหรอ” สตีเฟนถามพร้อมเอียงศีรษะด้วยความสับสน
“Secre (ซีเคร) ชั้นชื่อ ซีเคร” เธอตอบพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ที่มุมริมฝีปาก
โปรดติดตามตอนต่อไป.
_______________