บทที่ 1200: ยุคสมัยของหนุ่มสาว
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 1200: ยุคสมัยของหนุ่มสาว
สิบกว่าปีก่อน ไม่มีใครคิดว่าซาโบ้จะยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่แค่ลูฟี่กับเอส แม้แต่ดาดันก็ร้องไห้โฮออกมา
ถึงแม้จะบอกว่าตัวเองเกลียดเด็กพวกนี้ ไม่อยากให้พวกเขาอยู่ใกล้ๆ แต่ในฐานะแม่บุญธรรม ดาดันก็ยังเป็นห่วงพวกเขาอยู่ดี ความทุ่มเทของดาดัน หัวหน้าโจรภูเขาคนนี้ เกินกว่าจะเป็นแค่ผู้ปกครองตามชื่อของพี่น้องสามคนนี้ไปมากแล้ว
ไม่มีใครคาดคิดว่า ซาโบ้ในตอนนั้นจะได้รับการช่วยเหลือจากดราก้อนที่กลับมาบ้านพอดี แถมยังฝึกฝนเขาจนกลายเป็นระดับสูงของกองทัพปฏิวัติ
ตามหลักแล้ว เสียงอึกทึกจากฝั่งผู้ชมไม่น่าจะดึงดูดความสนใจของนักสู้บนเวทีได้ แต่ซาโบ้ไม่เหมือนคนอื่น เขามองเห็นลูฟี่และเอสตั้งนานแล้ว ที่ไม่ลงไปหาพวกเขาเป็นการส่วนตัว ก็เพราะอยากจะเซอร์ไพรส์
เห็นสีหน้าตกตะลึงของเอสและลูฟี่ เขาก็รู้ว่าตัวเองบรรลุเป้าหมายแล้ว
"พวกนายนี่ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ"
ซาโบ้พึมพำพลางมองไปทางนั้น แรงระเบิดทิ้งไว้เพียงรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเขา และกระตุ้นสมองจนทำให้เขาสูญเสียความทรงจำไปบางส่วน นอกจากนั้นร่างกายก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
และเมื่อเวลาผ่านไป บวกกับข่าวสารบางอย่างที่กระตุ้นความทรงจำ เขาก็ค่อยๆนึกถึงเรื่องราวในอดีตได้ พอเห็นลูฟี่โดนเฮราครอสเทศนา เขาก็นึกถึงวันเวลาเก่าๆ ขึ้นมา
"ไว้เคลียร์เรื่องตรงนี้เสร็จแล้ว ค่อยไปคุยกับพวกเขาละกัน"
คิดได้ดังนั้น ซาโบ้ก็ยกมือขวาขึ้นคว้าหอกที่พุ่งเข้ามา แกซเพิ่งจะประกาศเริ่มการแข่งขันในโซน H ก็มีคนทนไม่ไหวแล้ว แถมซาโบ้ยังสัมผัสได้ถึงสายตาอาฆาตอันแรงกล้า
เป้าหมายของผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่คือผลปีศาจ แต่คนๆนี้ไม่เหมือนคนอื่น เขาแค่อยากจะฆ่าซาโบ้เท่านั้น
"เราเคยเจอกันที่ไหนรึเปล่า? ฉันจำไม่ได้ว่าทำอะไรไม่ดีไว้กับนายนะ"
"จำไม่ได้?! เรื่องแบบนั้นพวกแกยังลืมได้อีกเหรอ? พวกแกโค่นล้มประเทศของฉัน! ฐานะขุนนางของฉัน ทาสของฉัน ทุกอย่างของฉันหายไปเพราะพวกแก!
แกยังกล้าพูดแบบไม่สะทกสะท้านว่าลืมอีกเหรอ? ไอ้พวกกองทัพปฏิวัตินี่ ตายไปให้หมดซะ!"
กองทัพปฏิวัติที่นำโดยดราก้อนก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเริ่มดำเนินการบางอย่าง ปัจจุบันได้โค่นล้มรัฐบาลของหลายประเทศไปแล้ว
ในมุมมองของกองทัพปฏิวัติ พวกเขากำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่สำหรับราชวงศ์และขุนนาง กองทัพปฏิวัติคือปีศาจร้าย คือพวกนอกกฎหมาย น่ารังเกียจยิ่งกว่าโจรสลัด
โจรสลัดส่วนใหญ่ก็แค่ปล้นทรัพย์สิน แม้จะมีคนถูกปล้นบ้าง แต่ราชวงศ์ก็ไม่ได้เป็นอะไร
แต่กองทัพปฏิวัติไม่เหมือนกัน เมื่อก้าวเดินของดราก้อนขยายวงกว้างขึ้น พวกกองทัพปฏิวัตินี่แหละที่กำลังขุดรากถอนโคนพวกเขา
"ท่านเซอร์วิริลจากอาณาจักรทาทาโกเป็นคนแรกที่เริ่มโจมตี! ว่ากันว่าเขามาแข่งเพื่อให้ได้พลังในการกอบกู้ประเทศ แต่ดูเหมือนความปรารถนาของเขาจะสลายไปแล้ว!"
กาซมองเห็นซาโบ้บีบหอกของอีกฝ่ายจนแหลกด้วยมือเดียว จากนั้นก็หมุนแขน ท่อน้ำในมืออีกข้างก็ฟาดเข้าที่หัวของอีกฝ่าย ทำให้สลบคาที่
ข้อมูลในมือของกาซค่อนข้างสมบูรณ์ นอกจากข้อมูลบางส่วนที่ล้าสมัยไปบ้างเนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา ส่วนอื่นๆถือว่าครบถ้วน ต้องขอบคุณใบประกาศจับของกองทัพเรือ
ใบประกาศจับไม่ได้ระบุแค่เงินรางวัลกับชื่อเท่านั้น ปกติแล้วจะมีข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวกับบุคคลนั้นๆด้วย เช่น ความสามารถ สังกัด แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีใครพูดถึง
แต่ข้อมูลแบบนี้สำคัญมากสำหรับผู้บรรยายอย่างกาซ เว้นแต่จะเป็นเรดฟิลด์ที่ถูกขังมาหลายสิบปี หายสาบสูญไปนานแล้ว เป็นบุคคลในยุคเก่า ไม่งั้นเขาก็ต้องหาข้อมูลมาบ้าง จะได้ไม่ต้องพูดไม่ออก
ยุคนี้ใครที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มใหญ่ๆได้ ก็ต้องเก่งกาจในการต่อสู้ทั้งนั้น เอ่อ ยกเว้นบากี้
สำหรับซาโบ้แล้ว สนามแข่งนี้ไม่มีคู่ต่อสู้ที่ยากลำบากอะไร ส่วนใหญ่ใช้ท่อน้ำฟาดทีเดียวก็สลบ ส่วนยามาโตะ...
คนนี้เก่งจริง แต่ซาโบ้ไม่ได้คิดจะยุ่งเกี่ยวกับเธอตั้งแต่แรก เป้าหมายของเขาคือโควต้าที่เหลือ เขาไม่จำเป็นต้องเก่งกว่ายามาโตะ แค่อดทนให้ได้นานกว่าคนอื่นก็พอ
"ลองทายดูไหมว่าคุณหนูจะจบการต่อสู้ในกี่นาที?"
"ไม่รู้สิ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของคุณหนู ถ้าอยากสู้ สักครึ่งชั่วโมงก็ไม่ใช่ปัญหา ถ้าไม่อยากเสียเวลา 1 นาที?"
"ฉันว่า 30 วินาทีก็พอ อาจจะเร็วกว่านั้นด้วยซ้ำ"
สปีดกับเพื่อนอีกสองคนที่จบการต่อสู้ไปแล้ว เริ่มคาดเดาเวลาที่ยามาโตะจะใช้ในการต่อสู้ และเริ่มถกเถียงกันว่ายามาโตะจะใช้วิธีไหนจบการแข่งขัน แถมยังพนันกันเล็กๆน้อยๆด้วย ใครชนะไม่ต้องทำความสะอาดดาดฟ้าเรือเป็นเวลาหนึ่งเดือน
ยามาโตะไม่ได้ปล่อยให้พวกเธอต้องลุ้นนาน เห็นการต่อสู้บนเวทีที่เหมือนเด็กๆเล่นกัน เธอก็เลือกวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุด
"รีบๆ จัดการให้เรียบร้อยดีกว่า รอบชิงน่าจะสนุกกว่านี้เยอะ"
ที่เธอออกมาข้างนอกก็เพื่อหลบภัย เป้าหมายแรกเริ่มไม่ได้มาแข่งขัน ถึงอยากจะฆ่าเวลา ก็คงไม่ใช้วิธีต่อสู้แบบไร้สาระแบบนี้
ตั้งแต่ขึ้นเวทีมา เธอก็ไม่ได้คิดจะหยิบอาวุธออกมาเลย
"ผู้หญิงคนนั้นมีค่าหัวตั้ง 2,900 ล้านเบรี?"
"ไม่รู้สิ ฉันดูไม่ออกเลย ลองดูไหม? ถ้าล้มเธอได้ พวกเราก็จะโด่งดังไปเลย"
เนื่องจากยามาโตะไม่ขยับเขยื้อน คนบางคนที่ไม่เคยเห็นโลกกว้างก็เริ่มคิดแผนการ แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะลงมือ บรรยากาศน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ซ่านไปทั่วทั้งเวทีโดยมี ยามาโตะเป็นศูนย์กลาง
น้ำทะเลโดยรอบดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากพลังนี้ เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นมา ทำให้ผิวน้ำที่ไม่สงบอยู่แล้วยิ่งปั่นป่วนมากขึ้นไปอีก
อากาศราวกับข้นเหนียวขึ้นมาทันที ทุกคนที่อยู่ในสนามต่างรู้สึกหายใจไม่ออก และทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น
วู้ม!
คลื่นเสียงความถี่ต่ำแผ่ออกไป เวลาราวกับหยุดนิ่งในชั่วขณะ เสียงดังโครมครามดังขึ้นต่อเนื่องบนเวที เหล่านักสู้ที่เพิ่งต่อสู้กันเมื่อครู่ ต่างก็หมดแรงจับอาวุธ
พวกเขาตาเหลือก แล้วล้มลงบนเวที
หากพูดถึงการกำจัดลิ่วล้อ พลังฮาคิราชันย์คือวิธีที่ง่ายที่สุด ภายใต้พลังฮาคิราชันย์ของยามาโตะ มีเพียงไม่กี่คนที่ยังยืนหยัดอยู่ได้ในสนามแข่งโซน H
"เอ๋ ทำไมยังมีคนยืนอยู่ตั้งสองคน? ดูเหมือนจะพลาดไปหน่อยนะ"
นับดูแล้ว พบว่ารวมตัวเองด้วย ยังมีคนที่ยืนอยู่บนเวที 3 คน ยามาโตะรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ในเมื่อยังจัดการกับมังกรทั้งสองไม่ได้ ผลประโยชน์ที่เห็นได้ชัดที่สุดที่มิติมังกรมอบให้เธอ ก็คือการเติบโตของพลังฮาคิราชันย์
พลังฮาคิราชันย์เป็นพลังหายาก มีเพียงหนึ่งในล้านคน ถึงแม้ว่าตามเวอร์ชั่นอัพเดท จำนวนผู้ใช้ฮาคิราชันย์จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่มันก็ยังคงเป็นพลังที่หายากอยู่ดี
คนที่ปลุกพลังฮาคิราชันย์ได้ ล้วนแต่เป็นผู้แข็งแกร่ง แม้จะแก่ชรา พวกเขาก็เคยเป็นผู้นำในยุคสมัยหนึ่ง หรือสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองมาแล้ว
แต่ถึงจะรวมคนพวกนี้ทั้งหมด ก็มีไม่กี่คนที่เทียบพลังฮาคิราชันย์กับยามาโตะในตอนนี้ได้
ตูม!
เสียงดังสนั่น ฮัจรูดินที่อยู่บนเวทีก็ทรุดตัวลง สนามแข่งโซน H ถูกเขาทุบจนเป็นหลุมขนาดใหญ่ เหงื่อเม็ดโตเท่าลูกบาสเก็ตบอลไหลลงมาจากหน้าผากของเขาไม่หยุด เขาอ้าปากหายใจอย่างตะกละตะกลาม
เขานี่แหละ นอกจากซาโบ้แล้ว ก็เป็นอีกคนที่ยังยืนหยัดอยู่ได้ภายใต้พลังฮาคิราชันย์ของยามาโตะ เมื่อครู่เขาราวกับเห็นเฟนรีร์กำลังคำรามใส่ตัวเอง เขี้ยวแหลมคมอยู่ห่างจากลำคอของเขาเพียงนิดเดียว
แค่ขยับเขี้ยวนิดเดียว เขี้ยวของเทพเจ้าหมาป่าก็สามารถปลิดชีพเขาได้ จนกระทั่งพลังฮาคิราชันย์สลายไป เขาก็เป็นอิสระจากความกลัวนั้น
จิตใจที่แข็งแกร่งเป็นวิธีรับมือกับพลังฮาคิราชันย์ เผ่ายักษ์มีวิธีฝึกฝนจิตใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการอดอาหารในเทศกาลฤดูหนาว หรือการทดสอบในชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นการฝึกฝนทั้งร่างกายและจิตใจ
ถึงอย่างนั้น ฮัจรูดินก็เกือบจะทนไม่ไหว
ยามาโตะปล่อยพลังฮาคิราชันย์แบบไม่เลือกหน้า ทุกคนในสนามแข่งได้รับผลกระทบทั้งหมด รวมถึงทหารรับจ้างลูกน้องของเธอด้วย แต่กลับทำให้ฮัจรูดินรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น
สำหรับเผ่ายักษ์ที่รักการต่อสู้ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าการมีหัวหน้าที่แข็งแกร่ง
"สุดยอดไปเลยนะครับ คุณยามาโตะ"
"อ้อ นายก็ไม่เลวนะ ฉันนึกว่านายจะทนไม่ไหวซะอีก เพราะนายดูไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไหร่"
"…"
คำโกหกไม่ได้ทำร้ายใคร ความจริงต่างหากที่เป็นดั่งมีดคม เมื่อเผชิญกับความตรงไปตรงมาแบบสุดๆของยามาโตะ ฮัจรูดินรู้สึกเหมือนโดนทำร้ายยิ่งกว่า
ส่วนซาโบ้ที่อยู่อีกฝั่งก็จัดหมวกของตัวเอง เรื่องราวไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคาดไว้ ยักษ์คนนี้เป็นพวกเดียวกับยามาโตะ
ถ้ายามาโตะเป็นเหมือนเรด ใช้ความชอบส่วนตัวตัดสินว่าใครจะเป็นคนที่สองที่ได้ผ่านเข้ารอบ เขาก็แย่แน่ ในขณะที่ซาโบ้กำลังเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก ฝั่งผู้ชมที่เพิ่งจะหายตกใจก็เริ่มส่งเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง
เห็นนักสู้ที่อยู่ๆก็ตาเหลือกสลบไป และปลาไหลไฟฟ้าที่ลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ พวกเขาก็รู้ตัวว่าเมื่อครู่เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
"เกิดอะไรขึ้น? ผู้เข้าแข่งขัน 196 คนในโซน H ตอนนี้เหลือแค่ 3 คน!"
ไม่ใช่แค่พวกเขา แม้แต่กาซก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะนอกจากสนามแข่งและปลาไหลไฟฟ้าในน้ำ พลังฮาคิราชันย์ของยามาโตะไม่ได้ส่งผลกระทบถึงพวกเขาเลย
ปัจจุบันการควบคุมพลังฮาคิราชันย์ของเธออยู่ในระดับเชี่ยวชาญ สำหรับฮาคิราชันย์แล้ว การโจมตีแบบไม่เลือกหน้าไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากคือการควบคุมระยะและแยกแยะมิตรศัตรู
ยิ่งฮาคิราชันย์แข็งแกร่ง การควบคุมก็ยิ่งละเอียดอ่อน ระยะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
นี่จึงทำให้คนข้างนอกไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น พลังฮาคิราชันย์เป็นสิ่งที่ไกลตัวสำหรับพวกเขา บางคนทั้งชีวิตก็ไม่เคยเห็นฮาคิราชันย์เลยสักครั้ง
ในเมื่อฮาคิราชันย์ของยามาโตะไม่ได้ส่งผลกระทบถึงพวกเขา พวกเขาก็เลยคิดว่ายามาโตะไม่ได้ทำอะไร อยู่ๆคนอื่นก็ล้มลงไป เหมือนแกล้งแพ้
แต่คนธรรมดาและผู้บรรยายดูไม่ออก ก็ยังมีคนที่ดูออกอยู่
"ฮาคิราชันย์ของคุณหนูแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว"
"ใช่ แต่แบบนี้ใครชนะล่ะ? ดูเหมือนจะไม่ตรงกับที่เราทายกันไว้เลย"
"ฉันชนะนะ อย่างน้อยฉันก็ทายวิธีถูก แค่เวลามันเกินไปหน่อย คุณหนูเล่นจบเร็วเกินไป"
มิเซอก้าเป็นผู้ชนะการเดิมพัน ด้วยวิธีที่ใกล้เคียงกับคำตอบมากที่สุด แต่สปีดกับโซริแทรฺไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ถ้าขาดมิเซก้าไป งานบนดาดฟ้าก็จะเพิ่มเป็นสองเท่า
พวกเธอไม่มีหางที่เป็นเหมือนปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ที่สามารถฉีดล้างดาดฟ้าได้ตามใจชอบ
พวกเธอเป็นพวกเดียวกัน แถมยังเป็นคนสนิท ยิ่งคุณหนูแข็งแกร่ง พวกเธอก็ยิ่งดีใจ แต่คนนอกไม่คิดแบบนั้น
"พี่คาตาคุริ"
"ฉันเห็นแล้ว ฮาคิราชันย์ของเธอแข็งแกร่งกว่าฉัน แถมยังแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนอีก เธอทำได้ยังไงกันนะ?"
คาตาคุริกับยามาโตะไม่เคยต่อสู้กัน แต่ก็เคยเจอกันหลายครั้ง คาตาคุริเคยเห็นระดับฮาคิราชันย์ของยามาโตะมาก่อน จึงรู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผล
เพราะฮาคิราชันย์เป็นสิ่งที่ฝึกฝนได้แค่การควบคุม ไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ มันจะเปลี่ยนแปลงไปตามการเติบโตของจิตวิญญาณเท่านั้น
หลายคนในตอนที่ปลุกพลังได้ ก็หมายถึงขีดจำกัด เพราะตอนที่ปลุกพลังฮาคิราชันย์ได้ มักจะเป็นช่วงที่จิตวิญญาณแข็งแกร่งที่สุด
จิตวิญญาณของเด็กๆไม่จำเป็นต้องอ่อนแอกว่าผู้ใหญ่ ไม่เกรงกลัว ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ แต่ด้วยปัจจัยนี้ กลับทำให้เด็กบางคนมีจิตใจที่สูงส่งกว่า
"น่าสนใจ น่าสนใจ ช่างเป็นหนุ่มสาวที่น่าทึ่งจริงๆ ท้องทะเลนี้ยังคงมีวีรบุรุษเกิดขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง เจ้าที่มีจิตใจเช่นนี้ จะมีพลังแข็งแกร่งแค่ไหนกันนะ?"
เรดฟิลด์ก็ถูกพลังฮาคินี้ดึงดูดความสนใจเช่นกัน เขายังรู้สึกถึงบางสิ่งที่แตกต่าง ฮาคิสังเกตขั้นสูงที่มีมาแต่กำเนิดทำให้ประสาทสัมผัสของเขารุนแรงมาก ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในระยะที่ฮาคิราชันย์ส่งผลกระทบ แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่แตกต่าง
ฮาคิราชันย์ของบางคนมีพลังพิเศษ สามารถทำสิ่งพิเศษบางอย่างได้ เช่น ฮาคิสังเกตสังหารของแชงคูส ปิดกั้นฮาคิสังเกตของศัตรูโดยตรง ทำให้ตัวเองอยู่ในจุดที่ไม่สามารถถูกคาดเดาได้
ส่วนฮาคิราชันย์ของยามาโตะ เรดฟิลด์สัมผัสได้ถึงพลังข่มขวัญชนิดพิเศษ พลังที่ทดสอบจิตใจ สามารถดึงเอาความกลัวที่ซ่อนอยู่ในใจคนออกมา
"แพตตี้หลังจบการแข่งขัน อย่าออกไปไหนไกลจากฉัน แขกบนเกาะนี้เยอะขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์บนเกาะซับซ้อนกว่าที่ฉันคิด"
เรดฟิลด์เอามือออกจากหัวของเล่นที่สลบไป แค่สัมผัสใกล้ๆ พลังอ่านใจของเขาก็เห็นแค่สารบัญ แต่พอสัมผัสแบบนี้ เขาก็อ่านความทรงจำโดยละเอียดได้
จากความทรงจำของเล่น เรดฟิลด์ค้นพบสิ่งผิดปกติบางอย่าง
ส่วนบนเวที การแข่งขันในโซน H ก็จบลง
ยามาโตะไม่ได้ช่วยฮัจรูดินให้ผ่านเข้ารอบ ฮัจรูดินที่ยึดมั่นในเกียรติของเผ่ายักษ์ ก็ไม่ได้คิดจะใช้วิธีลัด ฮาคิราชันย์ของยามาโตะจัดการพวกตัวประกอบไปแล้ว ส่วนซาโบ้ที่เหลืออยู่ คือคู่ต่อสู้ที่ฮัจรูดินคิดว่าน่าจะสู้ด้วยได้
แต่รูปร่างที่ใหญ่โตของเขากลับไม่ได้เปรียบ ซาโบ้ใช้จังหวะที่เขาเหวี่ยงหมัด ปีนขึ้นมาตามแขนของเขา ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้ท่อน้ำ แต่ยกมือขวาขึ้น
นิ้วชี้กับนิ้วกลางชิดกัน นิ้วนางกับนิ้วก้อยแนบกัน ซาโบ้ทำท่าทางแปลกๆ
"หมัดกรงเล็บมังกร ลมหายใจมังกร!"
ซาโบ้ใช้นิ้วจิกที่หมวกของฮัจรูดิน จากนั้นก็ปล่อยพลังมหาศาลออกมา ร่างของฮัจรูดินจึงล้มลง การแข่งขันในโซน H จบลง ส่วนแผนการของโดฟลามิงโก ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_