ตอนที่แล้วตอนที่ 94 พ่อเป็นแมวตัวใหญ่ของหมางกั่ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 96 ด้านที่อ่อนแอ

ตอนที่ 95 ไม่ให้พ่อกินเด็ดขาด


ภาพยนตร์จบลง พ่อลูกจับมือกันเดินออกจากโรงภาพยนตร์ แล้วก็เดินผ่านโปสเตอร์อีกครั้ง“พ่อค่ะ เราถ่ายรูปด้วยกันหน่อยนะค่ะ” เด็กน้อยชี้ไปที่โปสเตอร์แมวอ้วน

“ได้เลย” หลินอวี้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

“พ่อค่ะ หนูอยากถ่ายรูปท่าเดียวกับพวกเขา” เด็กน้อยทำท่าทาง

ในโปสเตอร์ เด็กหญิงกำลังยืนอยู่บนตัวแมวอ้วนกลมๆ

“ได้เลย พ่ออุ้มลูกถ่ายรูป” หลินอวี้อุ้มเด็กน้อยขึ้น แล้วก็เอนหลังลง

คู่รักหนุ่มสาวที่นั่งข้างๆหลินอวี้ช่วยถ่ายรูป พวกเขารู้จักเลือกมุมกล้อง ดูเหมือนว่าเด็กน้อยกำลังยืนอยู่บนตัวพ่อ

ท่าทางค่อนข้างยาก หลินอวี้ทำได้ไม่นาน พอถ่ายรูปเสร็จ หลินอวี้ก็วางเด็กน้อยลง ขอบคุณคู่รักหนุ่มสาว แล้วก็รับโทรศัพท์คืน

เด็กน้อยซูมรูป ซูม แล้วก็ซูมอีก แล้วก็เปรียบเทียบกับโปสเตอร์ หัวเราะคิกคัก

หลินอวี้ลูบหัวเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน

เด็กน้อยเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน หลินอวี้จำฉากที่เจอหมางกั่วน้อยครั้งแรกได้ ตอนนั้นเขาเพิ่งมาถึงโลกนี้ ถึงแม้ว่าจะมีใบหน้าแบบนี้ แต่ก็ไม่คุ้นเคยกับทุกสิ่งทุกอย่าง

สิ่งเดียวที่คุ้นเคยก็คือความรักที่มีต่อเด็กน้อย

แต่เด็กน้อยกลับเข้าใจเรื่องต่างๆได้ดีจนน่าสงสาร

เพื่อพ่อ เธอจึงพนันกับเพื่อนๆ เด็กๆในห้องเรียนมี 28 คน แต่บอกว่าซื้อทาร์ตไข่ 27 ชิ้น บอกว่าตัวเองไม่กิน

เพื่อประหยัดเงินซื้อพายแค่ชิ้นเดียว เด็กน้อยอดทนต่อความอยากอาหาร แต่เด็กๆวัยเดียวกัน ยังร้องไห้ขอพ่อแม่ซื้อขนมอยู่เลย

เด็กน้อยแทบจะไม่ขออะไรจากเขาเลย ถึงแม้ว่าจะอยากกิน อยากเล่น อยากให้พ่ออยู่ด้วย แต่ก็ไม่พูด เก็บทุกอย่างไว้ในใจ

แต่เด็กน้อยอายุไม่ถึงหกขวบ การแสดงจึงไม่สมบูรณ์แบบ หลินอวี้ก็รู้ทันทุกครั้ง

เขาอยากจะทำให้เด็กน้อยมีความสุข ซื้อขนมให้ ซื้อของเล่นให้ ใช้เวลาอยู่กับเด็กน้อยให้มากขึ้น

ก่อนหน้านี้ หลินอวี้ไม่คิดจะแต่งงาน ไม่คิดจะมีลูก ทุกครั้งที่เห็นลูกของคนอื่น ร้องไห้ขอซื้อขนม ซื้อของเล่น หลินอวี้ก็กลัวเด็กๆ

จนกระทั่งหมางกั่วน้อยมา เขาถึงรู้ว่าลูกของคนอื่นเป็นลูกของคนอื่น ลูกของตัวเองต่างหากที่เป็นนางฟ้าตัวน้อย

หลินอวี้หยุดเดิน บีบแก้มเด็กน้อย แล้วก็ลูบหัวอย่างอ่อนโยน

หมางกั่วน้อยกอดพ่อทันที “พ่อค่ะ อย่าทิ้งหมางกั่วไปไหนนะค่ะ”

ประโยคที่พูดขึ้นมาอย่างกะทันหันทำให้หลินอวี้งง หลินอวี้กำลังเปรียบเทียบเด็กน้อยที่ร่าเริงน่ารักในตอนนี้กับเด็กน้อยที่เข้าใจเรื่องต่างๆได้ดีเมื่อไม่กี่เดือนก่อน

“ยังไงเหรอค่ะ?” หลินอวี้ถามอย่างอ่อนโยน

หลินอวี้ไม่รู้ว่า ขณะที่เขาสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของนิสัยลูก หมางกั่วน้อยที่อ่อนไหวก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของพ่อในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

เธอพบว่าพ่อไม่เหมือนแต่ก่อนที่มักไม่กลับบ้านบ่อยๆ ทิ้งเธอไว้คนเดียวในบ้าน หรือไม่เหมือนแต่ก่อนที่เหนื่อยแล้วจะโกรธทำให้เธอตกใจจนสั่นกลัวไม่กล้าพูดอะไร และไม่เหมือนแต่ก่อนที่ชีวิตลำบาก ขาดอาหาร ขาดเสื้อผ้า ยังโดนคุณยายเจ้าของบ้านด่าด้วย

ตอนนี้พ่ออารมณ์ดี เล่นกับเธออย่างอ่อนโยนทุกวัน มารับเธอเลิกเรียนทุกวัน ไม่เคยไม่มีเวลาให้เธอ และตอนนี้พ่อก็มีเงินเยอะ อยากได้อะไร พ่อก็ซื้อให้ และพ่อก็ซื้อบ้านหลังใหญ่ บ้านหลังใหญ่มาก พ่อบอกว่าจะไม่ถูกทวงค่าเช่าอีกแล้ว เพราะบ้านหลังนี้เป็นของพวกเรา

ถึงแม้ว่าจะปล่อยเช่า ก็เป็นพวกเราที่ทวงค่าเช่าจากคนอื่น

หมางกั่วน้อยบอกพ่อว่าการทวงค่าเช่าจากคนอื่นไม่ดี เพราะในใจของเธอ ยายเจ้าของบ้านดูดุร้าย ทุกครั้งที่มาบ้านก็ตะโกนด่าพ่อ ขู่ว่าจะไล่พวกเธอออกไป

ดังนั้นในใจของหมางกั่วน้อย การทวงค่าเช่าจึงไม่ดี

แต่เป็นเพียงความคิดเล็กๆน้อยๆของเขา ในหัวของเธอ พวกเธอจะไม่ย้ายออกจากบ้านหลังใหญ่ นั่นคือบ้านของพวกเธอ ไม่ปล่อยเช่าให้คนอื่น

เด็กน้อยไม่อยากเสียพ่อและชีวิตแบบนี้

จึงกลัว กลัวว่าสักวันหนึ่งพ่อจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

กลัวว่าพ่อในตอนนี้จะเป็นเหมือนในภาพยนตร์แอนิเมชั่น เป็นภาพลวงตาของโลกแห่งเวทมนตร์ พอตื่นขึ้นมา ก็จะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม

หลินอวี้ไม่รู้ว่าชีวิตธรรมดาๆในสายตาของเขา เป็นสิ่งที่เด็กน้อยไม่กล้าฝันถึง

เด็กน้อยกอดพ่อแน่น “พ่อค่ะ หนูชอบพ่อแบบนี้มากเลยคะ”

หลินอวี้ก้มลงมองเด็กน้อยที่กอดเขา ดวงตาใสๆเต็มไปด้วยน้ำตา

หลินอวี้ลูบหัวหมางกั่วน้อยอย่างอ่อนโยน “พ่อก็รักลูก พ่อจะไม่ทิ้งลูกไปไหนหรอก พ่อจะอยู่กับหมางกั่วตลอดไป”

“จริงๆเหรอค่ะ?” เด็กน้อยกระพริบตา

หลินอวี้เช็ดน้ำตาที่มุมตาเด็กน้อย “แน่นอน ไม่เชื่อเราเกี่ยวก้อยกันนะ”

เด็กน้อยพยักหน้าอย่างว่าง่าย ยื่นนิ้วออกมา “เกี่ยวก้อยกัน แล้วก็สาบานว่าจะไม่เปลี่ยนใจ ถ้าเปลี่ยนใจก็เป็นหมา”

หลินอวี้ก็ยื่นนิ้วออกมา พูดคำสาบานเหมือนกับเด็กน้อย

“พ่อค่ะ หลังจากดูหนังเสร็จ หนูยิ่งรู้สึกว่าพ่อเหมือนโทโทโร่เลยคะ” เด็กน้อยถือไอศกรีม อารมณ์ที่ไม่ดีหายไปแล้ว

ไม่มีอะไรที่ไอศกรีมแก้ไม่ได้ ถ้ามี ก็ใช้สองแท่ง

“ทำไมเหรอค่ะ?” หลินอวี้สงสัย

“เพราะพ่อรักหมางกั่วเหมือนกับโทโทโร่รักน้องเสี่ยวเหมย และพ่อก็ลึกลับเหมือนกับโทโทโร่ มักจะสร้างความประหลาดใจให้หมางกั่ว” เด็กน้อยเลียไอศกรีม วิเคราะห์ความคล้ายคลึงกันระหว่างพ่อกับโทโทโร่

หลินอวี้รู้สึกว่าเด็กน้อยพูดถูก “งั้นพ่อก็จะเป็นโทโทโร่ของหมางกั่วตลอดไปนะค่ะ”

“พ่อค่ะ ให้พ่อกิน หนูกินไม่ไหวแล้วคะ” เด็กน้อยยกไอศกรีมที่กินไปครึ่งหนึ่งให้หลินอวี้

หลินอวี้เคยกินข้าวเหลือของเด็กน้อย แต่ไอศกรีมนี้ ดูไม่น่ากิน เด็กน้อยเลียจนเละ

“พ่อไม่กิน หนูเลียจนเละแล้ว” หลินอวี้หันหน้าหนี ไม่อยากมอง

เด็กน้อยชอบแกล้ง พ่อไม่กิน เธอก็ยิ่งอยากให้กิน “ไม่เอา พ่อต้องกิน”

“ไม่กิน”

“พ่อไม่ชอบหมางกั่วเหรอค่ะ?” เด็กน้อยทำปากยื่น ทำเป็นไม่พอใจ

หลินอวี้ขมวดคิ้ว “พ่อไม่ได้ไม่ชอบหมางกั่วหรอก”

"นั่นคืออะไร?" เจ้าตัวน้อยยกไอศกรีมที่ใกล้จะละลายขึ้นมาอีกครั้งตรงหน้าพ่อ

หลินอวี้มองไอศกรีมที่เสียรูปทรงแล้ว “ดูไม่น่ากินเลย”

เด็กน้อยยังคงทำปากยื่น

หลินอวี้ไม่ได้ไม่ชอบเด็กน้อย น้ำลายของลูกก็หวาน จะไม่ชอบได้อย่างไร แต่ไอศกรีมละลายมาก จึงลังเล

แต่เขาไม่อยากให้เด็กน้อยเสียใจ

ไม่อยากให้เด็กน้อยคิดว่าเขาไม่ชอบ

หลินอวี้เอาหน้าเข้าไปใกล้ อ้าปาก

พอหลินอวี้จะกัดไอศกรีม เด็กน้อยก็หลบ เอาไอศกรีมออกไป ทำหน้าทะเล้น

“เชอะ หมางกั่วไม่ให้พ่อกินหรอก”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด