ตอนที่ 943 สังเกตเห็น?

แผนของ เย่เฉิน ที่จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเครือโรงแรมฮิลตัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ปนั้น ตอนนี้ได้ผลลัพธ์แล้ว

เมื่อสองวันก่อน เย่เฉิน ได้โทรศัพท์ให้คนช่วยค้นหาผู้ที่ถือหุ้นของเครือโรงแรมฮิลตัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป เพื่อดูว่ามีใครยินดีจะขายหุ้นในมือหรือไม่ ซึ่งเขายินดีจะซื้อในราคาสูง

แน่นอนว่าถ้าต้องการซื้อหุ้นจำนวนมาก คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก…

แต่ปัจจุบัน เย่เฉิน ถือหุ้นอยู่แล้ว 47% และเขาต้องการเพียงอีก 4% ก็จะสามารถกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเครือโรงแรมฮิลตัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ปได้สำเร็จ

แม้ว่าหุ้นจำนวนมากจะหาซื้อยาก แต่หุ้นเพียง 4% นั้นไม่น่าจะเป็นปัญหา

ผลปรากฏว่า หลังจากค้นหาได้สักพัก พวกเขาก็พบเป้าหมายที่เหมาะสม – เบลิส ฮิลตัน

เบลิส ฮิลตัน เป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลฮิลตัน เธอเป็นหญิงสาววัยยี่สิบกว่าปี แต่เธอเป็นเพียงสมาชิกสายรอง ไม่ได้เป็นทายาทสายตรงของตระกูล ดังนั้นเธอจึงไม่มีความภักดีต่อครอบครัวฮิลตันมากนัก

ที่สำคัญคือ เบลิส ฮิลตัน ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยอย่างมาก เธอใช้เงินอย่างสิ้นเปลือง และตอนนี้เงินในมือของเธอเริ่มไม่พอใช้จ่าย อีกทั้งยังใกล้จะเป็นหนี้แล้ว

ปัจจุบัน เบลิส ฮิลตัน ถือหุ้น 5% ของเครือโรงแรมฮิลตัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป เธอจึงถือเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุด

ตราบใดที่ซื้อหุ้น 5% ในมือของเธอได้ เย่เฉิน ก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเครือโรงแรมฮิลตัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ปทันที

หลังจากที่คนของ เย่เฉิน ติดต่อกับ เบลิส ฮิลตัน เธอไม่ได้คิดจะตกลงในทันที แต่ก็ยินดีที่จะพูดคุย

ในไม่ช้า ภายใต้การจัดการของคนของ เย่เฉิน ทั้งสองฝ่ายจึงได้พูดคุยกัน

“ฉันคือ เบลิส ฮิลตัน”

หลังจากโทรศัพท์ถูกต่อสาย เบลิส ฮิลตัน ทักทายด้วยท่าทีเย็นชา :

“ได้ยินมาว่า คุณเย่ ต้องการซื้อหุ้น 5% ในมือของฉัน?”

“ผมเสนอซื้อในราคา 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ”

เย่เฉิน พยักหน้า

ตามมูลค่าตลาดของเครือโรงแรมฮิลตัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป ในตอนนี้ หุ้น 5% ในมือของ เบลิส ฮิลตัน มีมูลค่าประมาณ 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ? คุณเย่ ฉันเป็นสมาชิกของตระกูลฮิลตัน และฉันมีความรู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้งต่อครอบครัวฮิลตัน ฉันไม่สามารถทรยศครอบครัว และขายหุ้นในมือเพียงเพราะเงิน 1,800 ล้านดอลลาร์ได้”

เบลิส ฮิลตัน กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังราวกับว่าเธอภักดีต่อครอบครัวฮิลตันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

“2,000 ล้านดอลลาร์...”

เย่เฉิน ไม่ได้สนใจคำพูดที่ดูจริงจังของ เบลิส ฮิลตัน แต่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“คุณเย่ ถ้าฉันขายหุ้น 5% ในมือ ฉันจะกลายเป็นคนทรยศของตระกูลฮิลตัน พวกเขาจะไม่ปล่อยฉันไปง่ายๆ”

“ฉันต้องพิจารณาอีกที แต่ถึงแม้ฉันจะตกลง ฉันก็ต้องการให้ คุณเย่ มาหาฉันเซ็นสัญญาด้วยตัวเอง ฉันไม่สะดวกเดินทางไปจีน”

เบลิส ฮิลตัน พูดต่อ

“2,500 ล้านดอลลาร์...”

เย่เฉิน ตอบอย่างเยือกเย็น

“โอเค! โอเค!”

เมื่อได้ยิน เย่เฉิน เสนอราคา 2,500 ล้านดอลลาร์ เบลิส ฮิลตัน รีบตกลงในทันที ราวกับกลัวว่า เย่เฉิน จะเปลี่ยนใจ

ในความเป็นจริง ตอนที่ เย่เฉิน เสนอราคา 2,000 ล้านดอลลาร์ เธอก็เริ่มลังเลแล้ว และเมื่อเสนอราคาเพิ่มเป็น 2,500 ล้านดอลลาร์ เธอยิ่งไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

“คุณเย่ ฉันจะจองตั๋วเครื่องบินเดี๋ยวนี้ พยายามไปถึงจีนคืนนี้ หรือไม่ก็พรุ่งนี้เช้า เพื่อพบกับ คุณเย่”

ตอนนี้ เบลิส ฮิลตัน ไม่เพียงแต่ไม่เรียกร้องให้ เย่เฉิน เดินทางมาหาเธอในต่างประเทศ แต่กลับแสดงความกระตือรือร้นที่จะเดินทางมาหา เย่เฉิน ที่จีนด้วยตนเอง

“ตกลง”

เย่เฉิน พยักหน้าตอบรับ ด้วยเงินเพียง 2,500 ล้านดอลลาร์ เขาก็ได้หุ้น 5% ของเครือโรงแรมฮิลตัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ปมาอยู่ในครอบครอง..

จริงอย่างที่ว่า ปัญหาที่แก้ไขได้ด้วยเงิน มักจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่…

เช้าวันรุ่งขึ้น เบลิส ฮิลตัน เดินทางมาถึงเซี่ยงไฮ้ และได้พบกับ เย่เฉิน

ทั้งสองฝ่ายเซ็นสัญญา และปิดการซื้อขายได้สำเร็จ

จนถึงตอนนี้ เย่เฉิน ถือหุ้นของเครือโรงแรมฮิลตัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป เป็นสัดส่วน 52% และกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท

ในขณะเดียวกัน ขณะที่ เย่เฉิน กำลังเซ็นสัญญากับ เบลิส ฮิลตัน ทางตระกูลฮิลตันก็กำลังจัดประชุมสำคัญขึ้น

เรดมอนด์ ฮิลตัน เป็นผู้ดำเนินการประชุมในครั้งนี้

ก่อนหน้านี้ ตระกูลฮิลตัน เกิดความขัดแย้งภายใน เรดมอนด์ ฮิลตัน ต้องแข่งขันกับ เอริค ฮิลตัน เพื่อชิงตำแหน่งประธานคนใหม่

สุดท้าย ด้วยความรอบคอบ และเจ้าเล่ห์ เรดมอนด์ ฮิลตัน จึงเป็นฝ่ายชนะ และกลายเป็นหัวหน้าตระกูลฮิลตัน

แต่ในระหว่างที่เขากำลังวางแผนบริหารโรงแรมฮิลตัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป อย่างทะเยอทะยาน เขาก็ได้พบความจริงที่น่าตกใจว่า เย่เฉิน ได้เข้าซื้อหุ้นของโรงแรมฮิลตัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป ไปมากถึง 47% ในช่วงที่ผ่านมา…

เรื่องนี้ทำให้ เรดมอนด์ ฮิลตัน ตกใจอย่างมาก หากเขาไม่ทันระวังตัว และปล่อยให้ เย่เฉิน เดินหน้าต่อไป เมื่อ เย่เฉิน ถือหุ้นได้ถึง 51% ตระกูลฮิลตันจะต้องพินาศ

ตำแหน่งประธานของเขาก็จะกลายเป็นของ เย่เฉิน

คิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เรดมอนด์ ฮิลตัน ก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นเท่านั้น

เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เรดมอนด์ ฮิลตัน จึงเรียกประชุมครั้งนี้ขึ้น โดยเชิญสมาชิกสำคัญของตระกูลฮิลตัน และผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ เข้าร่วมทั้งหมด

เป้าหมายของ เรดมอนด์ ฮิลตัน คือการใช้โอกาสนี้กดดัน และกำจัด เย่เฉิน ออกไปให้ได้ โดยดีที่สุดคือการทำให้ เย่เฉิน ไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวใดๆ กับกิจการของ ฮิลตัน อีกต่อไป

“ทุกคนมาครบหรือยัง?”

เรดมอนด์ ฮิลตัน ถาม

“ยกเว้น เบลิส เธอยังไม่มา ที่เหลือมากันครบแล้วครับ”

ลูกน้องรายงาน

“แล้ว เบลิส อยู่ไหน?”

“ตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดครับ ดูเหมือนว่าเธอจะเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว”

เรดมอนด์ ฮิลตัน ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เขาไม่เคยใส่ใจ เบลิส ฮิลตัน เลย เพราะเธอเป็นลูกหลานสายรองที่เอาแต่ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย เดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ

“ช่างเธอเถอะ แม้ว่าเธอจะไม่ใช่สมาชิกสายหลัก แต่เธอก็เป็นคนในตระกูลฮิลตัน ยังไงเธอก็ต้องสนับสนุนการตัดสินใจของฉันอยู่ดี”

“รอให้เรื่องทั้งหมดเรียบร้อย แล้วค่อยโทรหาเธอเพื่อขอคะแนนเสียง”

พูดจบ เรดมอนด์ ฮิลตัน ก็เดินขึ้นไปยืนที่ด้านหน้า และเริ่มกล่าวปลุกระดมอย่างกระตือรือร้นกับทุกคนที่มาร่วมประชุม

ไม่นาน ทุกคนก็ถูกโน้มน้าว และเห็นด้วยกับแนวคิดของเขาอย่างเป็นเอกฉันท์ ทุกคนตกลงที่จะช่วย เรดมอนด์ ฮิลตัน กดดัน และกำจัด เย่เฉิน ออกไป!

เมื่อแผนการของตัวเองเดินหน้าได้อย่างราบรื่น เรดมอนด์ ฮิลตัน ยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ

เขาเชื่อมั่นว่า เย่เฉิน ที่พยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมยึดครอง ฮิลตัน กรุ๊ป นั้นยังอ่อนหัดเกินไป

แผนการของ เย่เฉิน ถูกเขาจับได้อย่างง่ายดาย ความสามารถ และสติปัญญาของ เย่เฉิน ..ยังเทียบเขาไม่ได้เลย

‘คิดจะล้มฉัน และยึด ฮิลตัน กรุ๊ป หรือ? ฮึๆ เย่เฉิน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฝันกลางวันชัดๆ!’

หลังจากทุกคนในที่ประชุมเห็นตรงกันแล้ว การประชุมครั้งสำคัญก็กำลังจะเริ่มขึ้น

เมื่อคิดได้ดังนั้น เรดมอนด์ ฮิลตัน ก็เตรียมลงมือจัดการเรื่องอย่างจริงจัง เขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาตัดสินใจโทรหา เย่เฉิน ผ่านวิดีโอคอล

การต่อสู้ที่แท้จริงกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!!!