ตอนที่ 30 เพลงโปรโมทซีรีส์กำลังภายใน
คืนนั้นเอง หลินจือไป๋ก็ได้รับข่าวดีจากเจียงเฉิงทางโทรศัพท์ว่า “เก้าอี้มนุษย์” ผ่านการพิจารณาตีพิมพ์เรียบร้อยแล้ว
“เรื่องนี้จะถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร ‘จื๋อเจี้ยนสือ’ ของน่าเซินบุ๊คเฮ้าส์ในวันที่ 1 เดือนหน้า”
“เข้าใจแล้ว”
หลินจือไป๋ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร เขาแค่เตือนหลิวอี๋ที่กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารเย็นว่าอย่าลืมช่วยซื้อ “จื๋อเจี้ยนสือ” ให้เขาสักเล่มในต้นเดือนหน้า
“อีกอย่างสตูดิโอ คุนเผิง ของเราได้จดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว”
เจียงเฉิงกล่าว “ตามข้อกำหนดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เราจำเป็นต้องมีสถานที่ทำงานด้วย”
“งั้นก็เช่าพื้นที่สำนักงานเถอะ”
หลินจือไป๋ตอบ “คุณเลือกสถานที่ได้ตามสะดวก แต่ไม่ต้องอยู่ไกลจากที่พักของผมเกินไป ค่าเช่าสถานที่เดี๋ยวมาเบิกกับผมได้”
“เข้าใจแล้วครับ”
หลังจากวางสาย หลินจือไป๋กำลังจะขึ้นไปชั้นบน แต่แล้วกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น
เมื่อหลินจือไป๋เปิดประตู ก็พบใบหน้าเรียบเนียนสวยงามของพี่สาว หลินซี ยืนอยู่ข้างนอก “หวัดดีจ้ะ น้องชายที่รัก”
หลินจือไป๋ยิ้มออกมาเช่นกัน
เมื่อหลินซีเข้ามาในบ้าน เธอก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ ก่อนจะพูดชมว่า “ที่นี่ดูดีมากเลยนะ เหมาะกับการซ่อนใครสักคนไว้จริง ๆ”
หลังจากพูดเสร็จ หลินซีก็นั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก “ครั้งนี้พี่มาหานายเพราะมีเรื่องงานอยากจะคุยด้วย”
หลินจือไป๋ถามว่า “เรื่องอะไรครับ?”
หลินซียิ้ม “ยังจำที่พี่เคยบอกเรื่องงานแต่งเพลงที่สั่งทำพิเศษได้ไหม?”
“มีงานเข้ามาแล้วเหรอ?”
หลินจือไป๋รู้สึกสนใจขึ้นมา
หลินซีพยักหน้า “เป็นงานชิ้นเล็ก ๆ ที่แผนกเพลงหมายเลข 13 เพิ่งได้รับมาวันนี้ เป็นเพลงโปรโมทซีรีส์กำลังภายในเรื่องหนึ่งในแนวโบราณ หลายคนในแผนกสนใจงานนี้ ค่าตอบแทนรวมคือเจ็ดล้านหยวน แน่นอนว่าเป็นก่อนหักส่วนแบ่ง พี่คิดว่านายเองก็น่าจะลองดู แต่ว่าฝ่ายลูกค้ากำหนดเวลาไว้ค่อนข้างกระชั้นชิด พวกเขาต้องการเพลงนี้ภายในเดือนหน้า”
“งานเจ็ดล้านหยวน?”
หลินจือไป๋ถามว่า “แล้วการแบ่งส่วนแบ่งจะเป็นยังไง?”
หลินซีครุ่นคิด “ทุกงานแต่งเพลงที่สั่งทำพิเศษต้องเซ็นสัญญาแยกกัน พี่จะพยายามช่วยนายต่อรองให้ได้ส่วนแบ่ง 20% ซึ่งหมายความว่าถ้านายทำสำเร็จ นายจะได้ประมาณ 1.4 ล้านหยวน”
“แค่หนึ่งล้านกว่าหยวนเองเหรอ?”
หลินจือไป๋อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่
“ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายจะทำสำเร็จหรือเปล่า แถมยังมาบ่นอีก” หลินซีหัวเราะ “สาเหตุที่พี่แบ่งงานให้ได้แค่นี้เพราะอันดับผลงานของแผนกเราไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตอนนี้จึงได้แค่งานระดับนี้มา และต้องบอกเลยว่าค่าตอบแทนสำหรับงานนี้ไม่ได้ถือว่าน้อย เพราะงานสั่งทำพิเศษเป็นรายได้เสริม ไม่กระทบกับรายได้จากการดาวน์โหลดของนาย”
“อืม”
หลินจือไป๋พยักหน้า
ข้อดีของงานแต่งเพลงสั่งทำพิเศษคือสามารถทำเงินได้สองทาง
ทางแรกคือได้เงินจากฝ่ายลูกค้า ส่วนอีกทางคือเงินจากการดาวน์โหลดเพลง ถ้าซีรีส์โด่งดังขึ้นมาก็จะส่งผลให้เพลงได้รับความนิยมตามไปด้วย และบางครั้งเพลงที่อาจจะมีคุณภาพปานกลางก็สามารถดังได้เพราะกระแสของซีรีส์
แต่การทำเพลงสั่งทำพิเศษก็มีข้อเสีย
เพราะเป็นงานที่มีโจทย์กำหนดเอาไว้ชัดเจน
นักแต่งเพลงต้องสร้างสรรค์ผลงานตามโจทย์ที่กำหนดไว้ ไม่มีอิสระในการสร้างสรรค์มากนัก
แต่สำหรับหลินจือไป๋ นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
ตอนนั้นหลินซีก็กล่าวเสริม “อีกข้อดีของงานแต่งเพลงสั่งทำพิเศษคือ ถ้านายทำสำเร็จในครั้งนี้ ครั้งต่อไปนายอาจจะได้ส่วนแบ่งที่สูงขึ้นไปอีก แต่จะได้เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับระดับของงานนั้น ๆ และคงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่”
“อย่างนี้นี่เอง”
แม้ว่าหลินจือไป๋จะยังรู้สึกว่ามันไม่ค่อยคุ้ม แต่เขาก็รู้ว่านี่เป็นเรื่องปกติในวงการ มันยากที่จะต่อสู้กับพลังของทุนเว้นแต่ว่าจะมีระบบช่วยเหลือ…
“อีกอย่าง”
หลินซีอธิบายให้ฟังว่า “เหตุผลที่ฝ่ายลูกค้าเลือกเฉินฮวาก็เพราะเห็นช่องทางการโปรโมทเพลงของเฉินฮวาด้วย นักแต่งเพลงอาจเขียนเพลงได้ แต่มันไม่ได้รวมการโปรโมท ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในราคางานสั่งทำพิเศษแล้ว”
“อืม”
หลินจือไป๋พยักหน้า เป็นการขูดเลือดขูดเนื้ออย่างมีเหตุผล
หลินซีพูดเป็นนัยว่า “มีนักแต่งเพลงหลายคนที่ใช้ชื่อปลอมรับงานนอก รวมถึงนักแต่งเพลงบางคนในแผนกเราด้วย…”
รับงานนอก?
หลินจือไป๋คิดในใจ
ดูเหมือนจะเป็นช่องทางทำเงินที่ไม่เลว?
หลินซีจ้องมองน้องชาย “นักแต่งเพลงในวงการส่วนใหญ่เคยรับงานนอกมาแล้ว เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ และเป็นเหมือนกฎในวงการ”
“แล้วต้องทำยังไงบ้าง?”
หลินจือไป๋อธิบาย “พี่อย่าเข้าใจผิดนะ ผมแค่สงสัยเฉย ๆ”
หลินซีเบ้ปาก “ก็แค่ใช้ชื่อปลอมที่ไม่มีใครรู้จักแล้วแอบเขียนเพลงให้บริษัทอื่น โดยใช้ชื่อเสียงจากชื่อหลักของนายเพื่อรับส่วนแบ่งที่สูงกว่า! โดยทั่วไปยิ่งนักแต่งเพลงมีชื่อเสียงมาก ชื่อปลอมก็ยิ่งมีมาก โดยเฉพาะพวกนักแต่งเพลงระดับใหญ่ ๆ มักจะมีชื่อปลอมติดตัวอยู่หลายชื่อ”
หลินซีหยุดคิดสักครู่ ก่อนจะกล่าวต่อด้วยสีหน้าติดตลกว่า “ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มเรื่องนี้ให้ฮิตกันไปทั่ว”
“แค่เปลี่ยนชื่อก็พอแล้วเหรอ?” หลินจือไป๋ถามด้วยความสนใจ
“ก็ควรเปลี่ยนบัญชีธนาคารเป็นชื่อของคนอื่นด้วย” หลินซีแนะนำอย่างเป็นกันเอง
“พี่”
หลินจือไป๋พูดอย่างจริงจัง “ผมแค่สงสัยเท่านั้นเอง”
หลินซีหัวเราะคิกคัก “ใครบอกว่าไม่ใช่ล่ะ?”
พี่น้องทั้งสองสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาพร้อมกัน
“น้องชายที่แสนซื่อของพี่นี่นะ”
หลินซีตบไหล่น้องชายเบา ๆ “งานนอกไม่ได้มีใครก็รับได้หรอกนะ ถ้านายมีคุณสมบัติเพียงพอ เดี๋ยวก็จะมีคนติดต่อมาเอง ถ้าไม่มีใครติดต่อมาก็แปลว่าประวัติการทำงานของนายยังไม่สวยพอ ยังไงกลับมาที่เรื่องงานสั่งทำพิเศษดีกว่า นายสนใจไหม?”
หลินจือไป๋กำลังจะตอบว่าจะขอคิดดูก่อน
เพราะการแต่งเพลงสั่งทำพิเศษใช้คะแนนชื่อเสียงมากกว่าการสุ่มเพลง
แต่แล้วระบบก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับข้อความว่า
“ยินดีด้วยโฮสต์ได้ทำภารกิจใหม่”
【ชื่อภารกิจ: งานสั่งทำพิเศษ】
【เนื้อหาภารกิจ: ในฐานะนักแต่งเพลงที่ยอดเยี่ยม คุณไม่เพียงต้องครองอันดับในชาร์ตประจำฤดูกาลได้ แต่ยังต้องมีความสามารถในการทำโจทย์ตามหัวข้อที่กำหนดได้อีกด้วย กรุณารับงานสั่งทำพิเศษนี้เพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเองในการทำโจทย์ตามหัวข้อ!】
หลินจือไป๋: “……”
มีโอกาสรับแต้มทักษะแล้วจะปล่อยให้หลุดมือได้ยังไง?
หลินจือไป๋จึงตอบตกลงภารกิจทันที “พี่บอกรายละเอียดให้ผมฟังหน่อย”
หลินซีพยักหน้า “อันดับแรกนายต้องรู้ว่าข้อกำหนดของงานสั่งทำพิเศษเป็นยังไง ในแผนกของเราข้อกำหนดจะถูกเปิดเผยต่อทุกคน ซึ่งหมายความว่านักแต่งเพลงทุกคนในแผนกเพลงหมายเลข 13 ของเฉินฮวาสามารถรับงานนี้ได้ ใครก็ตามที่แต่งเพลงแล้วฝ่ายลูกค้าชอบก็จะได้รับงานนี้ไป ดังนั้นประสิทธิภาพและคุณภาพจึงสำคัญมาก”
จากนั้น
หลินซีก็เริ่มเล่าถึงเนื้อหาของซีรีส์กำลังภายในเรื่องนั้น “เรื่องเกิดขึ้นในช่วงปลายยุครณรัฐ เมื่อจิงเคอลอบสังหารจิ๋นซีฮ่องเต้ไม่สำเร็จ จักรพรรดิผู้ก่อตั้งราชวงศ์ฉินจึงโกรธมาก สั่งให้นายกรัฐมนตรีสืบสวนหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับจิงเคอ และกำจัดให้หมดสิ้น จึงทำให้เกิดความวุ่นวายในยุทธภพ…”
ยุครณรัฐปลาย?
พื้นหลังเป็นแนวกำลังภายใน?
ขณะที่หลินซีเล่าเรื่อง หลินจือไป๋ก็เริ่มคิดตาม
ซีรีส์เรื่องนี้ต้องการเพลงโปรโมท และเขามีทางเลือกอยู่มากมายทีเดียว?