EP.4 ความมุ่งมั่นของสเตรนจ์ (1)
EP.4 ความมุ่งมั่นของสเตรนจ์ (1)
[มุมมองบุคคลที่ 3]
สตีเฟนวิ่งไปในหิมะโดยจับตาดูเพื่อนที่บินได้ของเขา เขาเห็นชีเบิร์ดบินวนอยู่เหนือใจกลางเมือง
เมื่อสตีเฟนมาถึง เขาพบว่าแอสต้ามีบาดแผลเต็มตัวและยูโนะกำลังร้องไห้ ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาเหลือบมองแอสต้าด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ใบหน้าของสตีเฟนกลับบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเมื่อเขาเห็นชายที่ถือสร้อยคอของยูโนะ
สตีเฟนทำท่ามือแล้วเรียกโล่ออกมาไว้ข้างหน้ากำปั้น เขาขว้างโล่ไปข้างหน้า ก่อนจะกระโดดตามไป จากนั้นก็เสกโล่อีกอันขึ้นมากลางอากาศ โดยใช้โล่เหล่านั้นเป็นแท่นเหยียบ เขาพุ่งเข้าหาชายคนนั้นพร้อมจะต่อสู้
ชายคนนั้นมองสตีเฟนด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าสตีเฟนทุบมือทั้ง 2 ข้างเข้าด้วยกันก่อนจะชูหมัดกลับ โดยแต่ละมือมีโล่ป้องกันอยู่ ชายคนนั้นไม่มีเวลาตอบโต้ก่อนที่สตีเฟนจะฟาดหน้าเขาด้วยโล่อันนึง นั่นทำให้เขากระเด็นถอยหลังไป
อย่างไรก็ตาม สตีเฟนได้ประเมินการกระโดดของเขาผิดพลาด และล้มลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะ จากนั้นก็กลิ้งไปมาขณะที่เขาตกลงมาจากที่สูงซึ่งสูงเกินกว่าคนในวัยเดียวกัน
ชายผู้เซถอยหลังไปจับริมฝีปากที่เลือดออกของตนและมองดูด้วยความตกใจ
“เอาล่ะ เอาล่ะ ชั้นจะปล่อยเด็กๆไว้ นี่มันมีอะไรเกิดขึ้นกับหมู่บ้านนี้กันละเนี่ย” เขาอุทานก่อนจะหันหลังวิ่งหนี
สตีเฟนลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะประกบมือเข้าด้วยกันแล้วดึงออกจากกันเพื่อสร้างแส้เวทย์มนต์ ก่อนที่เขาจะฟาดแส้ออกไปพันรอบขาของชายคนนั้น และกระชากอย่างแรง ทำให้ชายคนนั้นล้มหน้าลงในหิมะจนจมูกหัก
“อ๊าา!!!” ชายคนนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“ลืมอะไรไปหรือเปล่า” สตีเฟนถามขณะเดินเข้าไปหาเขาโดยที่มืออยู่ในกระเป๋า
“นี่! เอาคืนไป! อย่ามายุ่งกับชั้น!” ชายคนนั้นตะโกนและโยนจี้ไปให้สตีเฟน ซึ่งรับไว้ได้อย่างง่ายดายด้วยมือเดียว
สตีเฟนเฝ้าดูชายคนนั้นลุกขึ้นและวิ่งออกไป จากนั้นเขาก็หันไปหายูโนะซึ่งกำลังคุกเข่าอยู่ข้างๆแอสต้าซึ่งนอนหงายและหายใจแรง
“แอสต้า นายโอเคไหม” ยูโนะถามด้วยความกังวล
“เวทมนตร์คือทุกสิ่งในโลกนี้ใช่ไหม” แอสต้าพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ถ้าอย่างนั้น ชั้นจะกลายเป็นใครสักคน แม้ว่าชั้นจะเป็นเด็กกำพร้าที่น่าสงสารที่ยังไม่สามารถใช้เวทมนตร์ใดๆได้เลยก็ตาม” เขากล่าวต่อพร้อมลุกขึ้นยืนช้าๆ “ชั้นจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าแม้แต่คนอย่างพวกเราก็สามารถทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมได้!” แอสต้ายิ้มอย่างสดใส แม้ว่าใบหน้าของเขาจะบอบช้ำก็ตาม “ชั้นจะกลายเป็นจักรพรรดิเวทย์มนต์!”
ยูโนะมองแอสต้าด้วยความตะลึง “ชั้นก็จะทำเหมือนกัน!” เขากล่าว “ชั้นก็จะเป็นจักรพรรดิเวทย์มนต์เหมือนกัน!”
“จริงเหรอ ?” แอสต้าพูดพลางเช็ดเลือดกำเดาไหล “งั้น... นั่นก็ทำให้นายเป็นคู่แข่งของชั้น”
ทั้งคู่หันไปหาสตีเฟนที่ยกคิ้วขึ้น
“แล้วนายละ ?” แอสต้าถาม
“แล้วนายล่ะ อะไร ?” สตีเฟนตอบ
“นายจะไม่ประกาศว่านายตั้งใจที่จะเป็นจักรพรรดิเวทย์มนต์ด้วยเหรอ ?” ยูโนะถามพร้อมเอียงหัวด้วยความสับสน
“ไม่หรอก มีการแข่งขันมากพอสำหรับตำแหน่งนั้นแล้ว ถ้าชั้นลงแข่ง มันจะไม่ยุติธรรมสำหรับพวกนายทั้งคู่”
“เฮ้!” ทั้ง 2 ตะโกนพร้อมกัน
“ชั้นจะเป็นคนอื่นไปเลย” สตีเฟนพูดพร้อมกับสวมสร้อยคอกลับเข้าไปที่คอของยูโนะอีกครั้ง
ทั้งคู่จ้องมองสตีเฟนด้วยความสับสน แต่เขากลับยิ้มเยาะ "ชั้นจะเป็นจอมเวทย์สูงสุด"
“ชื่อนั่นมันไม่มีอยู่จริงด้วยซ้ำ” ยูโนะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"ใช่แล้ว นายเพิ่งสร้างมันขึ้นมา" แอสต้าพูดพร้อมกับส่ายหัว
"แต่มันก็ยังฟังดูเท่อยู่ดีใช่ไหมล่ะ"
แอสต้าและยูโนะพยักหน้าเห็นด้วย เพราะมันฟังดูเท่จริงๆ ทั้งคู่สบตากันแล้วยิ้มเยาะ
"ชั้นเดาว่านั่นคงหมายถึงว่ามันจะเป็นการแข่งขันเพื่อดูว่าใครจะได้ตำแหน่งไปก่อน!" แอสต้าพูดพร้อมกับยื่นหมัดทั้ง 2 ไปทางสตีเฟนและยูโนะ
สตีเฟนหัวเราะเยาะด้วยความขบขัน และยูโนะก็ยิ้มขณะที่ทั้ง 2 ชกหมัดเข้าหากัน ที่เหนือหัวพวกเขาชีเบิร์ดเฝ้าดูอย่างเงียบๆพลางกระพือปีก
จากนั้นสตีเฟนก็โอบไหล่พวกเขาไว้ “ตอนนี้ กลับบ้านกันเถอะ หลวงพ่อออร์ซีเป็นห่วงพวกนาย 2 คนมาก ส่วนแอสต้า นายต้องพาซิสเตอร์ลิลลี่ไปตรวจอาการบาดเจ็บ” เขากล่าวขณะยีผมพวกเขาขณะเดินกลับ
...
วันถัดไป...
สตีเฟนสังเกตเห็นว่าไม่พบแอสต้าและยูโนะเลย ในที่สุดเขาก็เห็นซิสเตอร์ลิลลี่กำลังทำความสะอาดรอบๆโบสถ์
“แอสต้ากับยูโนะอยู่ไหนครับ” สตีเฟนถาม
“พวกเขาพูดถึงเรื่องการฝึกเพื่อเป็นจักรพรรดิเวทย์มนต์” ซิสเตอร์ลิลลี่ตอบพร้อมรอยยิ้มและยีผม “ชั้นคิดว่าเธอจะทำแบบเดียวกันใช่ไหม”
“การฝึกเหรอ ? ใช่ แต่จักรพรรดิเวทย์มนต์เหรอ ? ไม่หรอก ผมมีแผนอื่น... เอาล่ะ ไว้คราวหน้านะ ซิสเตอร์ลิลลี่!” สตีเฟนพูดขณะที่เขากำลังมุ่งหน้าไปยังจุดฝึกประจำของเขา
เขาพบชีเบิร์ดเกาะอยู่บนกิ่งไม้และรออยู่ “พร้อมสำหรับคาถาที่เหลือเชื่อที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นหรือยัง มันจะช่วยในการฝึกฝนของชั้น”
เมื่อเห็นความอยากรู้ของชีเบิร์ด สตีเฟนก็ยิ้มเยาะ “ดูนี่สิ… มาดูกันว่าชั้นจำมันได้ถูกต้องหรือเปล่า” เขาพึมพำ
เขาหลับตาและทำท่าทางมือที่ซับซ้อน หมุนกำปั้นและกดนิ้วชี้และนิ้วกลางเข้าหากัน “ด้วย image of Ikonn (ภาพของไอคอน) ข้าขอเรียกเจ้า ข้าของเรียกตัวข้า” เขาพูดกระซิบ มืออีก 2 คู่ปรากฏขึ้นด้านหลังสตีเฟน โดยแต่ละคู่ทำท่าทางที่แตกต่างกัน ก่อนที่ร่างจำลองของสตีเฟนจากมือทั้ง 2 คู่จะปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของเขา
สตีเฟนกำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้น “สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเพียงภาพลวงตา แต่ชั้นสามารถใช้มันเพื่อฝึกฝนตัวเองในการต่อสู้ได้... ตัวอย่างเช่น-”
ร่างโคลนของเขาเรียกแส้เอลดริชออกมาและโจมตีเขา สตีเฟนเรียกโล่ 2 อันออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันแตกสลายไปภายใต้การโจมตีของแส้แต่ยังคงปกป้องเขาไว้ได้
สตีเฟนหายใจเข้าด้วยความภาคภูมิใจและยิ้มกว้าง “เธอไม่ต้องพูดอะไรเลย ชั้นเห็นมันในดวงตาของเธอ- เธอคิดว่าชั้นฉลาด ชั้นก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ด้วยสิ่งนี้ ฉันสามารถฝึกทั้งคาถาภาพลวงตาและทักษะการต่อสู้ของฉันได้ ทำให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้นเพื่อการต่อสู้”
เขาปรบข้อมือทั้ง 2 เข้าด้วยกันก่อนเรียกโล่ 2 อันออกมาด้านหน้ากำปั้นของเขา
ด้วยเหตุนี้ สตีเฟนจึงเริ่มฝึกฝนทั้งศิลปะลึกลับและศิลปะการต่อสู้ แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้กับตนเองก็ตาม
...
เวลาผ่านไปหลายเดือน และประสิทธิภาพของสตีเฟนในการจัดการกับสิ่งเหนือธรรมชาติก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เขาฝึกฝนคาถา "ภาพแห่งไอคอน" เขาก็ค่อยๆเรียนรู้ที่จะเพิ่มจำนวนตัวตนลวงตาที่เขาสามารถสร้างได้ หลังจากผ่านไปสิบเดือน สตีเฟนก็สามารถเรียกร่างปลอมออกมาได้มากถึง 12 ร่าง เมื่อเขาอายุได้ 7 ขวบ เขาก็สามารถเรียกร่างปลอมออกมาได้โดยไม่ต้องร่ายมนตร์ใดๆเลย
เมื่อความเชี่ยวชาญในคาถานี้ได้รับการยืนยันแล้ว สตีเฟนจึงตัดสินใจที่จะท่องคาถาบทต่อไปที่เขาจำได้จากหนังสือคาถาโบราณ
เขายอมสละเวลาการฝึกซ้อมตามปกติให้กับแอสต้าซึ่งต้องการพื้นที่มากกว่าเขา สตีเฟนไม่รังเกียจที่จะฝึกซ้อมใกล้กับบ้านของชีเบิร์ด เพลิดเพลินกับบรรยากาศอันเงียบสงบขณะนั่งอยู่ที่ปากกะโหลกปีศาจ
เมื่อคุ้นเคยกับคาถา "ภาพของไอคอนน์" แล้ว สตีเฟนก็พร้อมที่จะลองท้าทายครั้งต่อไป เขาประกบมือเหมือนกำลังอุ้มนกตัวเล็ก จากนั้นก็ปล่อยนิ้วออกด้านนอก เลียนแบบการเคลื่อนไหวของอีกาที่กำลังบิน เขาใช้ 2 นิ้วชี้ไปข้างหน้า ปิดตา และพึมพำอย่างตั้งใจว่า "Corvus excubitor, oculos tuos dona mihi!"
อีกาตัวนึงพุ่งออกมาจากเงาของเขา แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นควันดำ สตีเฟนชักลิ้นด้วยความหงุดหงิด
นกชีเบิร์ดซึ่งเกาะอยู่บนรังใกล้ๆเอียงหัวด้วยความสับสน สตีเฟนถอนหายใจและลูบหลังศีรษะของเขาอย่างเก้ๆกังๆ
“มันควรจะเรียกอีกาผีออกมาเพื่อบินไปยังสถานที่ห่างไกลและส่งข้อมูลกลับมาหาชั้น มันสามารถตรวจจับศัตรูที่ซ่อนอยู่หรือกับดักเวทมนตร์ได้ด้วย แต่อย่างที่เธอเห็น มันยากกว่าที่คิด” สตีเฟนอธิบายด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
'ฉันจำได้ว่าเคยอ่านเกี่ยวกับคาถานี้และคิดว่ามันจะมีประโยชน์มาก นั่นเป็นเหตุผลนึงที่ชั้นท่องคาถานี้ขึ้นมา' สตีเฟนคิดในใจขณะสางผมของตัวเอง ผมสีขาวของเขานั้นดูโดดเด่น แต่ไม่ใช่เพราะเขาอายุมากนะ แต่เพียงเพราะเขาเกิดมาพร้อมกับมัน
โปรดติดตามตอนต่อไป.
_______________