ตอนที่แล้วบทที่ 491 ไม่เคยถอยหนี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 493 หุ่นยนต์ดาวเทียม

บทที่ 492 กลยุทธ์สุดท้าย


【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】

【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】

【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】

บทที่ 492 กลยุทธ์สุดท้าย

“อาจารย์ยิป!”

สตีฟที่ยืนอยู่ด้านหลังกำแพงทรายแข็งแกร่ง ซึ่งก่อตัวจากกระแสลมพายุสีเหลืองทอง มือยังคงถือโล่ ใบหน้าผ่อนคลายลง จากนั้นก็พูดอย่างโล่งอกออกมา

การปรากฏตัวของยิปมันนับว่าจังหวะดีเหลือเกิน แท้จริงแล้ว เอฟเฟกต์อลังการราวฉากจบเรื่องแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไรอันต้องการวางแผนไว้

เพราะมักจะมีเพียงสถานการณ์ประทับใจแบบนี้เท่านั้น ที่จะได้รับคะแนนชื่อเสียงอย่างล้นเหลือ

เปลวเพลิงจาก【คาร์ซ】ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวันดับ ถึงแม้แต่ฮิวแมนทอร์ช ผู้ครอบครองพลังนั้น ก็ยังไม่สามารถใช้พลังได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่หยุดพัก

ดังนั้น หลังจากเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ราวสามนาที โทนี่และผู้ที่อยู่ด้านหลังกำแพงทรายจึงรู้สึกว่า ความร้อนแผดเผาจนเกือบดูดความชื้นในร่างกายไปหมดนั้นเริ่มอ่อนลง และอีกราวหนึ่งนาทีต่อมา เปลวเพลิงจาก【สุดยอดสิ่งมีชีวิต】ก็ดับลงในที่สุด

ถึงแม้เปลวเพลิงจะดับลงแล้ว แต่ความเสียหายยังคงอยู่

บนกำแพงทรายที่ยิปมันสร้างขึ้น มีชั้นทรายหนา ๆ ที่ถูกความร้อนเผาไหม้จนกลายเป็นสารคล้ายแก้วหลากสี

“แล้วเจ้าเป็นใคร?”

คาร์ซไม่สนใจเหล่าอเวนเจอร์สที่กำลังตั้งรับอยู่หลังโล่ทราย เขาหันไปมองชายหนุ่มรูปร่างสง่างามอีกคนหนึ่งที่สวมชุดจีน ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาราวเทพเจ้ากรีกแสดงสีหน้าสงสัย

“เผิงไหล ยิปมัน”

ด้วยพลังทรายที่ไหลลื่นราวสายน้ำ ยิปมันพุ่งตัวขึ้นตึกสูง ยกมือทั้งสองข้างขึ้นทำท่าหยงชุนอันเป็นเอกลักษณ์ รับคำถามจาก【สุดยอดสิ่งมีชีวิต】ด้วยสีหน้าสงบ

“เผิงไหล?!”

ได้ยินชื่อที่ยิปมันเอ่ย คาร์ซขมวดคิ้วเล็กน้อย “ข้าเคยได้ข้อมูลเกี่ยวกับเผิงไหลจากสมองพวกในฐานทัพไฮดร้า แต่พวกมันก็รู้จักเผิงไหลน้อยมาก ข้อมูลที่ได้น้อยกว่าที่เหล่าอเวนเจอร์สมีเสียอีก”

คาร์ซควบคุมเกราะกลับคืนรูปทรงเดิม จ้องยิปมันอย่างจับตา พูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจปนดีใจ “เดิมทีข้าวางแผนจะตามหาเบาะแสเผิงไหลหลังจากควบรวมเหล่าอเวนเจอร์สและผู้ทรงพลังเหนือธรรมชาติในนิวยอร์กแล้ว แต่ไม่คิดว่าเจ้าจะมาปรากฏตัวต่อหน้าข้าเอง”

พูดไปพร้อมกับนั้น สายตาของคาร์ซกวาดมองทะเลทรายสีเหลืองที่โอบล้อมยิปมันไว้ เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าทรายพวกนี้จะเป็นพลังของเจ้าสินะ ไม่ใช่…” พูดได้เพียงแค่นั้น คิ้วที่เลิกขึ้นของคาร์ซก็ขมวดเข้าหากันทันที เขามองมายังยิปมันตรงหน้า “ไม่ใช่… ไม่ใช่แค่เพียงแค่นั้น ดูเหมือนว่าภายในร่างกายของเจ้ายังซ่อนความลับบางอย่างอยู่ ข้ารู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน มันอยู่ภายในตัวเจ้า พลังนี้ แม้แต่สำหรับข้าในฐานะ【สุดยอดสิ่งมีชีวิต】ยังถือว่าหายากยิ่ง มันไกลเกินกว่าที่มนุษย์อย่างเจ้าจะควบคุมได้ บอกมาสิ เจ้าควบคุมพลังนี้ได้อย่างไร”

“คุณรู้สึกถึง【ชูคาคุ】ในร่างกายของผมงั้นเหรอ?”

ยิปมันขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำบรรยายของคาร์ซ

“【ชูคาคุ】? นั่นสินะ ชื่อของพลังภายในตัวเจ้า” ด้วยความสามารถในการได้ยินที่เหนือชั้น เอาเถอะ ที่จริงแล้ว แม้จะไม่ได้ยิน คาร์ซก็รู้ทุกอย่างอยู่แล้ว

มองมายิปมันที่สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย 【คาร์ซ】กระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนรูปปั้นเทพเจ้ากรีกราวกับไม่ใช่คน แสดงออกถึงความตื่นเต้นปนโลภมากล้นเหลือ “พลังแบบนี้มันน่าเสียดายเหลือเกินที่จะอยู่ในตัวมนุษย์อย่างเจ้า มีเพียงข้าเท่านั้น 【สุดยอดสิ่งมีชีวิต】【คาร์ซ】ที่คู่ควร ไม่ใช่เจ้า…ที่สมควรจะครอบครองพลังนี้…”

ทันทีที่【คาร์ซ】พูดจบ กล้ามเนื้อทั่วร่างกายของมันพองโตขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับถูกเป่าลม ต่อมาผิวหนังก็เต็มไปด้วยเส้นลายหยาบกร้านเหมือนหิน ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาเหมือนรูปปั้นเทพเจ้ากรีกก็ยาวออก ดวงตาเบี่ยงออกไปด้านข้าง ม่านตาเปลี่ยนเป็นรูปร่างยาวรีเหมือนดวงตาของสัตว์ป่า ฟันในปากงอกยาวขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเขี้ยวแหลมคม

ปัง——

ตึกสูงใต้ร่างกายของ【คาร์ซ】รับน้ำหนักมหาศาลหลังจากการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไม่ไหว จึงแตกร้าวเป็นรอยเหมือนใยแมงมุม 【สุดยอดสิ่งมีชีวิต】เหยียบอยู่บนรอยแตกเหล่านั้น เงยหน้าขึ้นส่งเสียงคำรามดังสนั่นหวั่นไหว

“เดิมทีฉันคิดว่าโครงกระดูกที่ฟื้นคืนชีพนั้น เป็นช่วงเวลาที่ฉันได้ใกล้ชิดกับไดโนเสาร์มากที่สุดในชีวิตแล้ว”

อีกด้านหนึ่งของตึกสูง โทนี่และพวกเขามองดู【คาร์ซ】ที่เปลี่ยนแปลงรูปร่างกลายเป็นสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาสูงสี่ถึงห้าชั้นในเวลาไม่กี่วินาที ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

【สุดยอดสิ่งมีชีวิต】ครอบครองพลังของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกและเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น แน่นอนว่ารวมถึงผู้ครอบครองโลกในยุคจูราสสิคก่อนที่มนุษย์จะเข้ายึดครองโลกด้วย——ไดโนเสาร์

คาร์ซหมุนหัวขนาดมหึมาและน่าสะพรึงกลัวลงมาเหลือบมองขาหน้าเล็ก ๆ ของตัวเอง เพียงคิดเท่านั้น ขาหน้าสั้น ๆ ก็เริ่มพองตัวขึ้นในพริบตา กลายเป็นปีกเนื้อมหึมาเหมือนปีกของไดโนเสาร์บินได้

มันกระพือปีกเนื้อขนาดมหึมาที่น่าหวาดเสียว สร้างกระแสลมแรงปะทะเข้าใส่ คาร์ซใช้ดวงตาสีส้มจ้องมองเหล่าอเวนเจอร์ส มันอ้าปากเผยให้เห็นฟันแหลมคมเรียงรายแน่น คำรามเสียงดังสนั่นหวั่นไหว “ไหน ๆ พวกเจ้าก็ไม่ยอมให้ข้ากินง่าย ๆ งั้นก็ต้องใช้ความรุนแรงจัดการพวกเจ้าทีเดียวให้หมด!”

กรอบ… กรอบ…

หลังจากแปลงร่างเป็นไดโนเสาร์แล้ว น้ำหนักมหาศาลของคาร์ซ อาคารสูงหลังนี้รับไม่ไหวอย่างแน่นอน เพราะตอนสร้างอาคาร ก็ไม่เคยคิดว่าจะมีไดโนเสาร์มาปรากฏตัวบนนี้สักหน่อย

“กำแพงทราย!”

เห็นรอยร้าวปรากฏเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณที่เหล่าอเวนเจอร์สยืนอยู่ ยิปมันตะโกนเสียงต่ำ ทันใดนั้น ทรายจำนวนมหาศาลพุ่งจากข้างเท้าเขาเข้าไปในรอยร้าว กลายเป็นกำแพงป้องกันแข็งแกร่ง เชื่อมรอยแตกเหล่านั้นเข้าด้วยกันอีกครั้ง

“รีบออกไปจากตึกนี้ ทรายของผมคงไม่ไหวนานนักหรอก”

ถึงแม้จะใช้ทรายช่วยพยุงอาคารไว้ได้ แต่ยิปมันรู้ดีว่าวิธีนี้คงอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้น ขณะที่ควบคุมทรายไหลเข้าไปในรอยรัวยึดอาคารที่กำลังจะถล่มอยู่ ยิปมันก็ตะโกนบอกเหล่าอเวนเจอร์สข้าง ๆ

“กัปตัน!”

สถานการณ์ตอนนี้ ไม่ใช่เวลาลังเล

ฟอลคอนก้มมองรอยร้าวที่ขยายกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ใต้ฝ่าเท้า แล้วหันไปมองสตีฟที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะกระพือปีกโลหะด้านหลัง พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

ต่อจากนั้น โทนี่ก็ควบคุม【ผู้ทำลายล้างแปซิฟิสต้า】สร้างคลื่นกระแทกจากฝ่ามือ ค่อย ๆ ลอยตัวขึ้นไป

โชคดีที่เหล่าอเวนเจอร์สและสไปเดอร์แมนน้อยต่างก็มีวิธีการบินหรือเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่ว ฉะนั้น เมื่อเผชิญกับวิกฤตตึกถล่ม พวกเขาก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัวหลบหนีสถานการณ์อันเลวร้ายได้สำเร็จ

ตูม! ตูม! ตูม!

ขณะที่ธอร์ อเวนเจอร์คนสุดท้าย กำลังแกว่งโยเนียร์ออกห่างจากตัวตึก

เสียงตูมสนั่นหวั่นไหวก้องกังวาน ท่ามกลางสายตาของเหล่าอเวนเจอร์ส ตึกสูงระฟ้าตรงกลางก็พังครืนลงมา 【สุดยอดสิ่งมีชีวิต】ที่แปลงร่างเป็นไดโนเสาร์ก็ตกลงมาด้วย น้ำหนักมหาศาลหลังการแปลงร่างกลายเป็นภาระของ【คาร์ซ】 แรงโน้มถ่วงมหาศาลทำให้มันไม่มีโอกาสต่อสู้ แม้ปีกเนื้อที่แปลงร่างมาจากขาหน้าจะพยายามกระพืออย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงเฉื่อยได้

“ฮิลด์ ดูเหมือนว่าทางรัฐบาลนิวยอร์กจะต้องใช้เวลาคุยกับคุณอีกสักพักใหญ่แล้วล่ะ”

ด้วยความห่วงใยในความปลอดภัย นาตาชาจึงไม่ได้ขึ้นไปร่วมกับกัปตันอเมริกาและคนอื่น ๆ เธอมองเห็นตึกสูงพังถล่มกลายเป็นซากปรักหักพังในพริบตา ฝุ่นควันและเศษดินกระจายตลบอบอวลจนมองอะไรแทบไม่เห็น นาตาชาจึงรีบหลบเศษหินและเศษวัสดุต่าง ๆ ที่กระจัดกระจายไปทั่ว พลางรายงานสถานการณ์ให้เจ้าหน้าที่ฮิลล์ภายในตึกอเวนเจอร์ส

“ที่จริงแล้ว ไม่ใช่แค่ทางการนิวยอร์กหรอกค่ะ แต่ทางรัฐบาลกลางก็โทรมาเหมือนกัน ประธานาธิบดีที่ทำเนียบขาวเป็นห่วงสถานการณ์มาก ท่านกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบเทพีเสรีภาพซ้ำอีก……”

เจ้าหน้าที่ฮิลล์ภายในตึกอเวนเจอร์สตอบกลับด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า

ถึงแม้เธอจะรู้ว่ายากที่จะขอให้อเวนเจอร์สที่กำลังสู้กันอย่างดุเดือดลดความรุนแรงลง แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็มากเกินไปจริง ๆ

“งั้นช่วยบอกท่านประธานาธิบดีด้วยนะคะ ว่าอเวนเจอร์สพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วที่จะไม่ให้นิวยอร์กเสียหายหนักกว่านี้”

ความเสียหายที่เกิดขึ้นแม้จะมหาศาล แต่ประชาชนนิวยอร์กเสียชีวิตน้อยกว่าตอนสู้กับมนุษย์ต่างดาวครั้งก่อนมาก เพราะตั้งแต่ที่อเวนเจอร์สเข้าร่วมการต่อสู้ ก็มีการจัดเตรียมกำลังเสริมอเวนเจอร์สไว้คอยอพยพประชาชนในบริเวณใกล้เคียงแล้ว

ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลอันทรงพลังของอัลตรอน การอพยพประชาชนจึงรวดเร็วและเป็นระเบียบมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

“หวิดไปแล้ว! เกือบจะถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังเหมือนกับ【สุดยอดสิ่งมีชีวิต】นั่นแล้ว”

ฟอลคอนควบคุมปีกโลหะด้านหลัง ค่อย ๆ ลงจอดพร้อมกับกัปตันอเมริกาที่อยู่ในอ้อมแขน สายตาจับจ้องอาคารสูงที่กลายเป็นซากปรักหักพังตรงหน้า ใจยังคงสั่นสะท้านจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา

“พวกคุณคิดว่า【สุดยอดสิ่งมีชีวิต】จะถูกฝังตายอยู่ใต้ซากปรักหักพังนั้นจริง ๆ ไหม?”

ฟอลคอนมองกองซากปรักหักพังและเศษหินก้อนใหญ่ที่กองทับถมกัน ความสงสัยผุดขึ้นมาในใจ จึงเอ่ยถามออกไป

“ฉันไม่คิดว่าแค่ตึกถล่มลงมาจะกำจัด【สุดยอดสิ่งมีชีวิต】ได้หรอก”

โทนี่ควบคุมชุดเกราะเหล็ก【ผู้ทำลายล้างแปซิฟิสต้า】ลงจอดข้าง ๆ ฟอลคอนและกัปตันอเมริกา หันไปมองกองซากปรักหักพังขนาดมหึมาตรงหน้า ใบหน้าแสดงออกถึงความรู้สึกที่ซับซ้อน

เพราะจริง ๆ แล้ว เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ตึกหลังนี้เป็นของสตาร์ค

แต่ยังไม่ทันได้ครอบครองนานเท่าไหร่ มันก็กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว

และเขาก็ได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยตาตัวเอง

“อัลตรอน”

ถึงใจจะรู้สึกแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่โทนี่ก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

ทันทีที่เขาออกคำสั่ง อัลตรอนที่ยืนอยู่ด้านหลังก็เริ่มสแกนซากปรักหักพังตรงหน้าทันที

อัลตรอนหมุนหัวไปมา แสงอินฟราเรดในดวงตาของมันทะลุผ่านซากปรักหักพังมากมาย ไม่นานก็พบเป้าหมาย “คุณสตาร์ค อย่างที่คุณคาดไว้ 【สุดยอดสิ่งมีชีวิต】ไม่ได้……”

ภายในเวลาแค่ไม่กี่วินาที อัลตรอนใช้ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลอันทรงพลังยืนยันสถานการณ์ ดวงตาของมันเปล่งแสงสีฟ้าอ่อน พร้อมรายงานผลการสแกน

ตูม——

ในวินาทีต่อมา เสียงคำรามดังสนั่น 【คาร์ซ】ในร่างไดโนเสาร์โผล่พรวดออกมาจากซากปรักหักพัง

การตกกระแทกก่อนหน้านี้ทำลาย【คาร์ซ】พอสมควร ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล แขนขาหลายส่วนบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว

ถึงอย่างนั้น 【สุดยอดสิ่งมีชีวิต】ก็ไม่สนใจบาดแผลเหล่านั้น มันก้าวขาที่บิดเบี้ยวไปข้างหน้า เดินโซเซไปทีละก้าว ไม่กี่ก้าวต่อมา บาดแผลและกระดูกที่หักงอหายเป็นปกติด้วยพลังการรักษาตัวเองอันมหาศาล

“ดูท่าพวกเจ้าจะผิดหวังแล้วล่ะนะ เหล่าอเวนเจอร์”

“แค่ซากปรักหักพัง มันทำอะไรข้าได้ไม่มากหรอก”

“งั้นก็เริ่มล่ากันเถอะ”

【คาร์ซ】หมุนดวงตาสีส้มมองไปที่เหล่าอเวนเจอร์ มันเผยเขี้ยวแหลมคมออกมา เตรียมโจมตีด้วยหางทรงพลัง

“คุกทราย!”

แต่แล้ว เสียงทุ้มนุ่มลึกทรงพลังของยิปมันก็ดังขึ้นอีกครั้ง ในจังหวะนั้นเอง

ทรายสีเหลืองปริมาณมหาศาลพุ่งทะยานออกมาจากซากปรักหักพัง ดุจคลื่นยักษ์ซัดสาดกลืนกินร่างกายมหึมาของคาร์ซที่แปลงร่างเป็นไดโนเสาร์ไปแล้ว

กรร——

พลังมหาศาลของคุกทรายทำให้คาร์ซเคลื่อนไหวลำบากยิ่งนัก มันดิ้นทุรนทุราย ภายใต้แรงกดดันมหาศาล ทรายที่ห่อหุ้มร่างกายมันเริ่มแตกร้าว เห็นดังนั้น ยิปมันจึงขมวดคิ้ว ควบคุมทรายให้ไหลบ่าเข้าใส่สิ่งมีชีวิตระดับสูงตรงหน้ามากขึ้น

“คิดว่าแค่ทรายพวกนี้จะขังข้า ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตระดับสูงไว้ได้งั้นเหรอ?”

หลังจากดิ้นรนอยู่สักพัก และพบว่าไม่สามารถหลุดพ้นจากคุกทรายได้ คาร์ซจึงบิดหัว ในพริบตาเดียว หัวขนาดมหึมาของไดโนเสาร์ก็กลับกลายเป็นใบหน้าหล่อเหลาแบบกรีก มันก้มมองยิปมัน ร่างกายค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นของเหลว “ไม่มีประโยชน์หรอก หลังจากดูดกลืนพลังของเหล่าผู้เหนือธรรมชาติแล้ว ข้าก็ไม่มีจุดอ่อนใด ๆ อีกแล้ว”

“คุกทราย! คุกทราย! คุกทราย!”

เห็นว่าร่างของคาร์ซกำลังจะหลุดพ้นจากคุกทราย ยิปมันขมวดคิ้วอีกครั้ง ควบคุมเม็ดทรายสร้างคุกทรายเพิ่มอีกสามชั้น เพื่อขังร่างกายของสิ่งมีชีวิตระดับสูงไว้อย่างแน่นหนา

แม้สร้างกับดักทราย “คุกทราย” ไปแล้วถึงสามชั้น ยิปมันก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะขัง【คาร์ซ】ไว้ได้ด้วยวิธีนี้

“กัปตันครับ ต่อไปนี้ผมขอให้เหล่าอเวนเจอร์สช่วยหาเวลาให้ผมหน่อยครับ”

ยิปมันครุ่นคิดพลางควบคุมทรายให้ไหลเข้าไปเติมเต็มกับดักทรายที่ขัง【คาร์ซ】อยู่ไม่หยุด สีหน้าของเขาสับสน มองไปทางสตีฟแล้วพูดว่า

“ไว้ใจเราได้เลย”

แม้ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของยิปมัน แต่กัปตันอเมริกา สตีฟ ก็พยักหน้าตอบตกลงทันที

เห็นความแน่วแน่ของสตีฟ ยิปมันก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย สายตาของเขาปัดไปทั่วซากปรักหักพังของตึก ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่เตาไมโครเวฟเก่า ๆ ที่เหลือรอดจากการถล่มอย่างเหลือเชื่อ

“ดูท่าจะต้องใช้ท่าไม้ตายแล้วล่ะ”

ยิปมันพึมพำเบา ๆ แล้วแยกทรายออกมาหนึ่งเส้น ใช้มันหยิบเตาไมโครเวฟที่ตกลงไปในซากปรักหักพังขึ้นมา สีหน้าสับสน พูดด้วยน้ำเสียงซาบซึ้งว่า “ไม่คิดเลยนะ ผู้เฒ่าเต่า ผมจะต้องใช้ท่าที่ท่านเคยใช้ด้วยวิธีแบบนี้”

(จบตอน)

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด