ตอนที่แล้วบทที่ 38 ไม่ตื่นเต้นเลยเหรอ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40 พวกคุณว่าเราจะหาอาชีพเสริมกันดีไหม?

บทที่ 39 ทำไมไม่ไปเป็นนายทุน เสียของจริง ๆ


บทที่ 39 ทำไมไม่ไปเป็นนายทุน เสียของจริง ๆ

ในปีหน้าทางเขตจะอนุมัติเงินอุดหนุนให้คุณประมาณ 8 หลัก

แถมสิ่งที่เฉินจิ่วซือพูดมาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเที่ยวบิน เรื่องการขนส่ง อีกฝ่ายก็ตอบตกลงมาทั้งหมด

8 หลักเลยนะ!

ได้ฟรีๆ เลย

เมื่อออกจากร้านอาหาร เซี่ยงหมิงหลางก็ยังรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังลอยอยู่

"นี่ๆ ผู้ใหญ่บ้าน คุณไม่ตื่นเต้นเลยเหรอ"

เซี่ยงหมิงหลางที่ตื่นเต้นนั้นได้สังเกตเห็นสีหน้าของเฉินจิ่วซือที่อยู่ข้างๆ จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป..

“ตื่นเต้นสิครับ”

เฉินจิ่วซือพยักหน้าและทำสีหน้าจริงจัง

“......” เซี่ยงหมิงหลางไม่รู้จะพูดอะไร

มองยังไงก็ดูเหมือนเขาจะไม่ตื่นเต้นเลยชัดๆ

เขาถึงกับสงสัยว่าตัวเองมีปัญหาอะไรในสมองรึเปล่า ถึงได้ไม่เหมือนคนอื่น

จนกระทั่งกลับมาถึงหมู่บ้านหยุนซีเกาะจงซาน จนกระทั่งได้เจอกับเจ้าหน้าที่ของหมู่บ้านหยุนซีและหยุนเฟิง เซี่ยงหมิงหลางถึงได้แน่ใจว่าคนที่ผิดปกติไม่ใช่เขา แต่เป็นเฉินจิ่วซือต่างหาก

เงินอุดหนุนหลายสิบล้าน แถมยังมีการสนับสนุนอีกมากมาย คนปกติจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไงกัน?!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนบนเกาะอันห่างไกลอย่างพวกเขา

ถ้าไม่ติดว่ามันไม่เหมาะสม พวกเขาก็อยากที่จะจัดงานเลี้ยงฉลองกันสามวันสามคืนไปแล้ว

แน่นอนว่า

ถ้าได้เงินแล้ว ค่อยทำแบบนั้นก็ได้

ตอนนี้เอาไว้ก่อนดีกว่า!

เงินมีที่ที่สำคัญต้องใช้ เงินอุดหนุนเองก็ต้องใช้ให้เหมาะสม

ในความมึนงงนี้ เจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านแต่ละคนก็เริ่มที่จะมองเฉินจิ่วซือด้วยสายตาที่ร้อนแรงขึ้นมา

ด้านเซี่ยงหมิงหลางก็ยิ่งรู้สึกดีใจกับการตัดสินใจของตัวเองมากยิ่งขึ้นไปอีก

ถ้ามีคนที่มีวิสัยทัศน์และแผนการที่ยิ่งใหญ่แบบนี้พาพวกเขาไปด้วย ก็คงจะยากที่จะไม่ประสบความสำเร็จ

แต่ต้องบอกเลยว่า การทำงานของรองนายอำเภอเจิ้งก็รวดเร็วมากเช่นกัน

ในขณะที่เอกสารการรวมหมู่บ้านเสร็จเรียบร้อย นโยบายต่างๆ ก็เข้ามาแล้ว

นอกจากเงินอุดหนุนที่ต้องรอหลังจากวันปีใหม่ หรือก็คือเป็นเวลาประมาณอีกหนึ่งเดือน นโยบายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็ถูกจัดการเรียบร้อยไปตามกระบวนการแล้ว

ด้วยความช่วยเหลือจากนโยบายเหล่านี้ ความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ในหมู่บ้านหยุนซีก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว..

.. กลางเดือนธันวาคม

เฉินจิ่วซือได้เดินตรวจตราตามพื้นที่ต่างๆ ตามกิจวัตรปกติ

ทันใดนั้น ก็มีคนวิ่งเข้ามาหาเขา

"ผู้ใหญ่บ้าน เขาวงกตถ้ำเสร็จแล้วครับ!"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาตื่นเต้นในทันที

ดวงตาของเฉินจิ่วซือเป็นประกาย "150 กิโลเมตร เสร็จทั้งหมดแล้วเหรอ"

ถึงแม้ว่าโครงการนี้จะเป็นโครงการที่ง่ายที่สุดในสามโครงการของสวนภูเขาไฟ และมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อรู้ว่ามันเสร็จแล้วจริงๆ เฉินจิ่วซือก็ยังรู้สึกแปลกใจ

นั่นมัน 150 กิโลเมตรเลยนะ!

150,000 เมตร!

การวิ่งมาราธอน ก็ยังแค่ 40 กว่ากิโลเมตรเท่านั้นเอง

มันเกือบจะเท่ากับระยะทางของการวิ่งมาราธอนสี่รอบ!

พวกเขาต้องติดตั้งไฟจำนวนมาก ปรับปรุงพื้นผิว กำจัดหินที่อาจจะหล่นลงมา สร้างรั้วกั้น สิ่งอำนวยความสะดวกในการดับเพลิง ถังขยะ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

แถมยังต้องสร้างร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ห้องน้ำ และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ตามจุดต่างๆ

ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะเป็นแบบง่ายๆ แต่เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ 150 กิโลเมตรแล้ว มันก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย

ถึงจะขับรถก็ต้องใช้เวลาสักพัก

แต่กลับสามารถทำให้เสร็จได้เร็วขนาดนี้

"ใช่ครับ เสร็จหมดแล้ว เสร็จทั้งหมดแล้วครับ"

อีกฝ่ายยิ้มแย้ม "บรรพบุรุษของพวกเราได้ปรับปรุงพื้นที่ส่วนใหญ่ไว้แล้วในยุคสงคราม มันแค่ไม่เคยมีใครเข้าไปทำความสะอาดเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราแค่ปัดฝุ่นนิดหน่อย จากนั้นก็กำจัดอันตราย เท่านั้นมันก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว"

"ที่สำคัญคือมันมีรางรถไฟที่บรรพบุรุษของพวกเราสร้างไว้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแบบเก่า แล้วก็ไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่มันก็ช่วยแบ่งเบาภาระของพวกเราได้เยอะเลย"

"สรุปก็คือ ตอนนี้พวกเราได้ทำตามแบบแปลนจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ยังคงรางรถไฟไว้ตามที่คุณบอกเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว"

ถ้าให้พูดตรงๆ เลยก็คือ ถ้าถ้ำนี้มีเพียงแค่เส้นทางเดียว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ 150 กิโลเมตร ก็ไม่สามารถที่จะทำให้เสร็จได้ในเวลาอันสั้นขนาดนี้

แต่ถ้ำนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น ถ้ำที่ยาวที่สุดก็มีระยะแค่ประมาณ 32 กิโลเมตร แถมตรงกลางก็ยังมีพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับถ้ำอื่นๆ อีกหลายสิบแห่ง พวกเขาสามารถที่จะใช้ทางลัดเพื่อเข้าและออกทางถ้ำอื่นๆ ได้ตลอดเวลา

โครงสร้างของเขาวงกตถ้ำนี้ทำช่วยประหยัดเวลาไปได้มากเลยทีเดียว

ด้วยถ้ำที่ตัดกันไปมา ประกอบกับทางออก 72 แห่ง การเดินทางไปยังที่ต่างๆ ก็ไม่ไกลเท่าตัวเลข 150 กิโลเมตรที่ได้ยิน

แถมยังมีเครื่องมือที่ถูกทิ้งไว้อีก ทำให้ทุกอย่างดูง่ายขึ้นไปอีก

รางรถไฟขนาดเล็กที่คล้ายกับรางรถไฟในเหมืองแร่ในละครโทรทัศน์ ซึ่งบรรพบุรุษของพวกเขาทิ้งไว้เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ก็สามารถอำนวยความสะดวกในการขนส่งของต่างๆ ได้

เพียงแค่ใช้มอเตอร์ขนาดเล็กและการปรับปรุงอย่างง่ายๆ ก็สามารถที่จะขับเคลื่อนตู้สินค้าขนาดเล็กให้เดินหน้าเองได้แล้ว

"งั้นผมขอไปดูหน่อยก็แล้วกัน"

เฉินจิ่วซือไม่พูดอะไรมาก เขารีบสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขนาดเล็กแล้วมุ่งหน้าไปยังถ้ำวูหลงที่อยู่ใกล้ที่สุด

นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับสวนภูเขาไฟ เกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของหมู่บ้านหยุนซี เฉินจิ่วซือก็ต้องให้ความสำคัญกับมัน

และเมื่อไปถึง เขาก็เห็นกลุ่มคนกำลังรอเขาอยู่ที่หน้าประตู

ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าตื่นเต้น

"ผู้ใหญ่บ้านมาแล้ว!"

จ้าวหงเย่วิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น "ในตอนแรกที่คุณบอกว่าจะพัฒนาถ้ำนี้ ผมยังไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้ผมยอมแล้ว ผมยอมคุณเลยจริงๆ!"

"พอได้เปิดไฟส่องไปที่หินภูเขาไฟและหินงอกหินย้อยพวกนั้น มันสวยมากๆ!"

"รูปร่างมันแปลกตามาก มันสวยจนละสายตาไม่ได้เลย"

"ถ้าพวกเราตั้งชื่อให้หินพวกนี้อีก อย่างเช่น ม่านน้ำตกหยก หุบเขามังกร หอคอยหยก แสงจันทร์ที่ส่องประกาย เมฆที่ไล่ตามดวงอาทิตย์ ความฝันกลับสู่สระหยก เซียนตกปลา เทพธิดาดีดพิณ มังกรน้อยถวายไข่มุก กระต่ายหยกตำยา แล้วก็เพิ่มเซียนชี้ทางอีกอัน มันก็คงจะสมบูรณ์แบบเลย ถ้าหินแต่ละก้อนมีเรื่องราวของตัวเองด้วยก็คงจะดี"

"ใช่แล้ว พวกของแกะสลักแปลกๆ ของลุงชีก็สามารถที่จะเอามาใส่ๆ ไปได้ แล้วก็เรียกที่พวกนี้ว่าจุดเช็คอิน"

"แบบนั้นมันก็สมบูรณ์แบบมากทีเดียว"

"ฮ่าๆๆๆ ผมสามารถที่จะจินตนาการถึงวันที่มันดังได้เลย"

"โอ้ๆ แล้วก็ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมคุณถึงเรียกที่นี่ว่าเขาวงกต เมื่อก่อนผมยังไม่เข้าใจ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว แค่เราเดินมั่วๆ ก็สามารถออกมาข้างนอกได้แล้ว แต่การที่จะเดินให้ครบทุกซอกมันยากมากเลย"

"ถ้าจะให้ผมพูด ผมว่าพวกเราควรที่จะเอาแผนที่ออกไปให้หมด แล้วเตรียมจุดเช็คอินไว้เยอะๆ ถ้าใครเก็บตราประทับของจุดเช็คอินได้ครบ พวกเราก็ให้รางวัลเช่นเงินหลักพันพัน หรือหมื่นหยวนอะไรแบบนี้ ฮ่าๆๆ ผมสามารถที่จะจินตนาการถึงความสับสนของคนพวกนั้นได้เลย"

"ถ้าอยากจะเดินให้ครบทุกที่ก็ต้องมีสี่ถึงห้าวันได้!"

"ค่ากินค่าอยู่ก็ต้องเสียเงิน"

"สนุกด้วย แถมยังเพิ่มช่องทางการทำเงินได้ด้วย"

เฉินจิ่วซือมองไปที่จ้าวหงเย่ที่ร่ายแผนการยาวเหยียดด้วยความตะลึง

เมื่อก่อนที่ให้หมอนี่เป็นผู้ใหญ่บ้านนี่ถือว่าเสียของจริงๆ

ควรจะให้เขาไปเป็นนายทุนมากกว่าถ้าจะมีแผนหาเงินได้แบบนี้

เดิมทีในแบบของเขาวงกตถ้ำนี้ไม่ได้มีพื้นที่สำหรับการใช้จ่าย เฉินจิ่วซือเป็นคนเพิ่มร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ตู้ขายของอัตโนมัติ ร้านขายของที่ระลึก และอื่นๆ เข้าไป เพื่อให้คนที่เข้าไปเที่ยวได้ซื้อของและใช้จ่าย

แต่เดิมเขาคิดว่าตัวเองโหดพอแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าจ้าวหงเย่จะคิดวิธีแบบนี้ได้

จุดเด่นที่ใหญ่ที่สุดของเขาวงกตถ้ำแห่งนี้คือทางออกจำนวนมาก เดินๆ ไปก็ออกมาได้แล้ว แค่ไม่รู้ว่าตัวเองออกมาจากตรงไหน แล้วไม่รู้ว่าตัวเองเดินไปนานแค่ไหนหรือไกลแค่ไหน

เห็นได้ชัดว่าการที่จะเดินให้ครบทุกพื้นที่นั้นยากมาก

ถ้าไม่ระวัง ก็จะออกมาเสียก่อน

แต่จ้าวหงเย่กลับอยากจะให้คนที่มาเที่ยวหาจุดเช็คอินให้ครบ

ความยากนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย

ถึงแม้ว่าจะหาจุดเช็คอินได้ครบทั้งหมด แต่นี่มัน 150 กิโลเมตรเลยนะ คนปกติแค่เดินก็ต้องใช้เวลาสามสี่วันแล้ว

ถ้าทำแบบนี้จริงๆ มันจะต้องทำให้พวกนักท่องเที่ยวที่มีใจอยากจะเอาชนะ มีความอยากที่จะไปถึงจุดเช็คอินต่างๆ ให้ครบซึ่งพวกเขาอาจจะต้องปักหลักอยู่ที่นี่เป็นเวลาประมาณหนึ่งเลยก็ได้

เมื่อเฉินจิ่วซือคิดไปคิดมา เขาก็รู้สึกว่าแผนการนี้ใช้ได้ทีเดียว

มันทำกำไรได้แน่นอน!

บางทีอาจจะดึงดูดคนให้เข้ามามากขึ้นด้วย จะมีคนที่ไม่เชื่อว่าตัวเองทำไม่ได้แล้วต้องมาลองด้วยตัวเองอย่างแน่นอน

**

**

ฝากผลงาน

เกมสิ้นโลก ซื้อทั้งโลกจากสถานีรถไฟใต้ดิน

[ระบบเกมเศรษฐี + เอาชีวิตรอด + สร้างฐาน + วันสิ้นโลก]

ถ้าใครชอบแนววันสิ้นโลก สร้างฐาน เอาชีวิตรอดจากคน และภัยพิบัติที่มาเป็นระลอก มีการต่อสู้โดยใช้อาวุธปืนระเบิดหรืออาวุธสงคราม และติดกลิ่นอายลึกลับเรื่องที่มาที่ไปของโลกแห่งภัยพิบัตินี้ รวมถึงยังมีเรื่องราวของอำนาจลึกลับเหนือธรรมชาติบางอย่างที่รอให้ตัวเอกรับมือและไขข้อสงสัย ก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องด้วยนะค้าบบ

5 3 โหวต
Article Rating
3 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด