บทที่ 155 ช่วยโลกหรือช่วยคนๆ เดียว (ฟรี)
บทที่ 155 ช่วยโลกหรือช่วยคนๆ เดียว
“ตอนนี้มาคุยกันเรื่องแมลงเต่าโกลาหลก่อนเถอะ” เย่เส้ากั๋วพูด
เขาหยิบผลึกสีฟ้าที่หายไปมุมหนึ่งออกมาอีกครั้ง
พลังที่วุ่นวายทำให้เย่เหรินขมวดคิ้ว
“ลี่เฮ้าส์เพิ่งจะตรวจสอบแล้วว่าตอนนี้ร่างกายของจางเหอตงกลับมาเป็นปกติ ดังนั้นสิ่งนี้คือต้นเหตุที่ทำให้จางเหอตง...”
เย่เส้ากั๋วมองผลึกสีฟ้าและวิเคราะห์อย่างช้าๆ
“ตอนนี้พวกเรามีคำถาม ว่าใช้วิธีไหนถึงจะทำให้ผลึกนี้รวมเข้ากับร่างกายของจางเหอตงได้ โดยที่พวกเราไม่รู้ตัว?”
เย่เหรินมองผลึกสีฟ้า
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง
จากนั้นเขาก็พูดว่า
“ในเมื่อคิดไม่ออก ก็ไม่ต้องคิด”
เย่เส้ากั๋วได้ยินเย่เหรินพูดแบบนั้น เขาก็มองเย่เหริน “หมายความว่ายังไง?”
เย่เหรินถาม
“ทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากจางเหอตงอยู่ที่ไหน? พวกเขาน่าจะมีผลึกสีฟ้านั่นอยู่บนร่างกาย”
เย่เส้ากั๋วได้ยินคำพูดของเย่เหริน เขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
“นายอยากให้ทหารเหล่านี้กลับมาเป็นปกติรึเปล่า?? แต่ถ้าหากหลังจากที่ทหารทุกคนกลับมาเป็นปกติแล้ว พวกเราก็ยังไม่สามารถหาวิธีได้ล่ะ?”
“ทำไมพวกเราต้องศึกษาวิธีนี้ด้วย?” เย่เหรินถามกลับ
จากนั้นเขาก็พูดต่อ
“เป้าหมายของศัตรูคือการทำให้ทหารสับสน ดังนั้นพวกเราก็แค่ทำลายเป้าหมายของพวกเขาก็พอแล้ว”
เย่เส้ากั๋วมองเย่เหริน
“นายตั้งใจจะทำแบบนี้ เพื่อให้ศัตรูรู้ตัวงั้นเหรอ?”
เย่เหรินพยักหน้า “ตอนนี้ศัตรูซ่อนตัว และพวกเราก็ซ่อนตัว”
“ในเมื่อกองทัพพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็หาไม่เจอ ก็สู้ทำลายแผนการของพวกเขาไปเลยก็สิ้นเรื่อง”
“หากเป็นแบบนี้ก็คงจะมีคนโผล่มาเอง”
“ตราบใดที่มีคนลงมือ ก็ต้องมีร่องรอย...”
เย่เส้ากั๋วมองเย่เหริน ดวงตาของเขาเป็นประกาย
“ถึงเวลานั้น คนที่จะมาหานายก็คือ...”
เย่เหรินพยักหน้า เห็นด้วยกับการคาดเดาของเย่เส้ากั๋ว
“แบบนี้นายจะตกอยู่ในอันตราย...” เย่เส้ากั๋วพูด
เย่เหรินทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะทำให้ตัวเองกลายเป็นเป้าหมาย
“ถ้าหากพวกเราไม่ทำแบบนี้ นักรบของราชอาณาจักรมังกรจะไม่ตกอยู่ในอันตรายมากกว่านี้เหรอครับ?”
เย่เหรินมองเย่เส้ากั๋วก่อนจะยิ้มอย่างจนใจ
“ถ้าหากผมไม่เจอจางเหอตง ผมก็คงจะไม่ขอแบบนี้หรอกครับ...”
เย่เส้ากั๋วเห็นรอยยิ้มของเย่เหริน เขาก็ยิ้มออกมา
ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะเข้าใจกันในช่วงเวลาสั้นๆ...
“ทำตามที่นายต้องการเถอะ พรุ่งนี้พวกเราจะเริ่มรักษาทหารพวกนั้น ฉันจะช่วยนายเอง”
“ครับ ถ้าหากไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน” เย่เหรินพยักหน้า
“ไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะให้หลี่ว่านเฉิงไปหานาย เขาจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของนาย” เย่เส้ากั๋วพยักหน้า
เย่เหรินได้ยินเย่เส้ากั๋วพูดแบบนั้น
เขาก็มองไปที่ผนังด้านในของถ้ำก่อนจะจากไป
หลังจากที่เย่เหรินจากไป
เย่เส้ากั๋วก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า
“ออกมาได้แล้ว ไม่ต้องหลบ...”
บริเวณที่เย่เหรินมองก่อนหน้านี้เริ่มสั่นเล็กน้อย
ชายร่างกำยำที่ปกคลุมไปด้วยหินเดินลงมาจากผนังด้านในของถ้ำ
ค่อยๆ แปลงร่างเป็นมนุษย์
เขาคือหลี่ว่านเฉิง
ตอนนี้หลี่ว่านเฉิงไม่ได้เขินอาย แต่เขากลับยิ้มออกมา
“หัวหน้า ท่านนี่มันสุดยอดจริงๆ ผมหลบซ่อนตัวอย่างมิดชิดขนาดนี้ ท่านยังหาผมเจออีก!!!”
เย่เส้ากั๋วมองไปยังทิศทางที่เย่เหรินจากไป “ไม่ใช่แค่ฉันหรอก...”
หลี่ว่านเฉิงได้ยินคำพูดของเย่เส้ากั๋ว เขาก็ตกตะลึง จากนั้นเขาก็โบกมือ
“เป็นไปไม่ได้!!! เด็กคนนั้นจะไปรู้อะไร?!”
เย่เส้ากั๋วไม่ได้สนใจเรื่องนี้
แต่เขามองหลี่ว่านเฉิง
“นายก็เห็นแล้วนิว่าเย่เหรินเป็นยังไง?”
หลี่ว่านเฉิงได้ยินเย่เส้ากั๋วถาม สีหน้าของเขาก็เริ่มจริงจังขึ้น
“ความสามารถ กลยุทธ์ ความคิด และศักยภาพล้วนอยู่ในระดับแนวหน้า คนๆ นี้ต้องอยู่ในกองทัพ การให้เขาไปที่อื่นถือเป็นการสูญเสียของพวกเรา...”
เย่เส้ากั๋วพยักหน้า จากนั้นเขาก็พูดอย่างจริงจัง
“หลี่ว่านเฉิง จงฟังคำสั่ง!!”
หลี่ว่านเฉิงเห็นท่าทางจริงจังของเย่เส้ากั๋ว
เขาก็เก็บรอยยิ้มขี้เล่นของเขากลับไปและทำความเคารพ
“ฉันมีคำสั่งเดียว ปกป้องเย่เหรินให้ดี ถ้าหากเขาเป็นอะไรไป นายก็ไม่ต้องกลับมา!!”
“รับทราบ! ใครก็ตามที่อยากจะทำร้ายเย่เหริน ต้องข้ามศพของผมไปก่อน!!”
“ดีมาก” เย่เส้ากั๋วพยักหน้าอย่างพอใจ
หลี่ว่านเฉิงถามต่อ
“แต่หัวหน้า ท่านจะให้เย่เหรินตรวจสอบเรื่องนี้จริงๆ เหรอครับ?”
“อย่างที่ท่านก็รู้ พวกเรายังหาอะไรไม่เจอเลย หนูที่ซ่อนตัวอยู่ลึกขนาดนั้น มันคงไม่ใช่เรื่องง่าย...”
เย่เส้ากั๋วสงบนิ่ง
“ถ้าหาไม่เจอ ก็หาไม่เจอ...”
“แต่...” หลี่ว่านเฉิงตกตะลึง
เขามองเย่เส้ากั๋ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน
เย่เส้ากั๋วมองหลี่ว่านเฉิงก่อนจะยิ้มออกมาอย่างลึกลับ
“เย่เหรินจะต้องไปอาละวาด และเขาจะต้องไปเจอกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ...”
“มันคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เย่เหรินจะได้รู้ความลับของกองทัพ...ตราบใดที่เขารู้มากพอ...”
หลี่ว่านเฉิงเหมือนกับว่าคิดอะไรบางอย่างออก
เขารู้สึกตัว
“ที่แท้ท่านนายพลเย่ต้องการให้เย่เหริน...”
“ปัง!!”
มีบางอย่างฟาดเข้าที่หน้าผากของหลี่ว่านเฉิง
“เจ้าพวกคนหนุ่มสาว ระวังคำพูดด้วย!!!”
หลี่ว่านเฉิงเอามือปิดหน้าผากด้วยความเจ็บปวด เขามองเย่เส้ากั๋วอย่างไม่พอใจ
นี่ท่านไม่เข้าใจเหรอครับ?!
แต่เขาก็ยังคงพูดเยินยอ
“หัวหน้า ท่านนี่มันสุดยอดจริงๆ! ผมไม่เคยเห็นใครเก่งเรื่องการลักพาตัวเท่ากับท่านมาก่อน!!”
“หืม???”
“ผมไม่เคยเห็นใครเก่งเรื่องการชักชวนคนเท่ากับท่านมาก่อน!!!”
เย่เส้ากั๋วมองหลี่ว่านเฉิง
“นายคิดว่าเรื่องพวกนี้จะหยุดเย่เหรินได้จริงๆ เหรอ?”
“แต่หัวหน้า...”
“นี่เป็นแค่ข้ออ้างและบันไดที่ฉันเตรียมไว้ให้เย่เหริน มันมีไว้ก็เพื่อไม่ให้ไป๋ซูและคนอื่นๆ สงสัย”
เย่เส้ากั๋วมองไปยังทิศทางที่เย่เหรินจากไป ทันใดนั้นเขาก็ถาม
“หลี่ว่านเฉิง ระหว่างช่วยคนทั้งโลก กับช่วยคนๆ เดียวทั้งชีวิต นายจะเลือกอะไร?”
หลี่ว่านเฉิงตกตะลึง เขาไม่รู้ว่าเย่เส้ากั๋วกำลังเล่นอะไรอยู่
เขาไม่รู้จะตอบยังไง
เย่เส้ากั๋วไม่ได้รอคำตอบของหลี่ว่านเฉิง
แต่เขากลับคิดถึงสิ่งที่ไป๋ซูเคยบอกกับเขา
ไป๋ซูเล่าสิ่งที่เย่เหรินเคยถามให้เขาฟัง
“เด็กผู้หญิงพวกนั้นอยู่ที่ไหน? นักเรียนที่ถูกทอดทิ้งพวกนั้นอยู่ที่ไหน? พวกเขายังมีชีวิตอยู่รึเปล่า??”
“ความเจ็บปวดและชีวิตของพวกเขาสามารถอธิบายออกมาง่ายๆ งั้นเหรอ?”
เย่เส้ากั๋วคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมา
ร่างกายของเย่เหรินกำลังเปล่งประกาย
แสงนั้นส่องไปยังสถานที่ที่ไม่มีใครมองเห็น...
คนสุดท้ายที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ชื่อหวังจื้อเผิง...