ตอนที่แล้วบทที่ 153: คืนสงบสุข​ก่อนการสอบกลางภาค​!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 155: รถไฟที่เต็มไปด้วยคนรู้จัก

บทที่ 154: การสอบกลางภาค​เริ่มต้น​ขึ้น​!


บทที่ 154: การสอบกลางภาค​เริ่มต้น​ขึ้น​!

“เซียว​หยู​ ขอบคุณนะที่ซื้อของมาฝากพี่เยอะแยะเลย”

“พี่ครับ ต่อไปนี้พี่จะต้องได้ใช้เครื่องสำอางดีๆ อยู่บ้านหลังใหญ่ๆ แถมมีสาวใช้ชุดกระต่ายมาช่วยพี่ด้วย!”

เซียว​รั่ว​เ​ส​วี่ย​ทำหน้าตึงทันที​ “เจ้าเด็กบ้า นายจะจ้างสาวใช้ชุดกระต่ายมาทำไม?”

“อย่าคิดมากสิพี่ ผมหวังดีกับพี่จริงๆ นะ” เซียวซิงหยูเกาหัวอย่างเขินๆ

“เหอะๆ ฉันว่านายหวังดีกับตัวเองมากกว่า!”

เย่ซือ​เ​หมิง​นั่งอยู่ข้างๆ ใช้มือถือปากกาและสมุดบันทึก

บนปกสมุดบันทึกเขียนว่า “บันทึกของเหมิงเหมิง”

[วันหยุดสุดสัปดาห์ หิมะตก กลางคืน วันนี้หนูรู้ความลับของพี่ชายแล้ว พี่ชายชอบสาวใช้ชุดกระต่าย…บางครั้งพี่ชายนอนละเมอบนโซฟา บอกว่าชอบราชินีใส่ชุดหนัง ถือแส้…พี่ชายชอบผู้หญิงหลายแบบจัง เป็นผู้ชายที่รักทุกคน!]

ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อเซียวซิงหยูกลายเป็นวีรบุรุษของประเทศเเละเป็นผู้มีอำนาจล้นฟ้า

บันทึกเล็กๆน้อยๆที่บันทึกเรื่องราวอันน่าอับอายนี้ หากถูกเปิดเผยออกไป ก็เพียงพอที่จะทำให้ชื่อเสียงของเซียวซิงหยูพังทลายลงได้ทันที​

“เอาล่ะเซียว​หยู​ น้ำในห้องน้ำเตรียมไว้ให้แล้ว ไปอาบน้ำได้เลย”

“ครับพี่!”

เมื่อเซียวซิงหยูถอดเสื้อ เซียว​รั่ว​เ​ส​วี่ย​ก็สังเกตเห็นบางอย่าง

“เซียว​หยู​”

“ครับ?”

“ผ้าพันคอผืนนี้พี่ไม่เคยเห็นมาก่อน น้องเพิ่งซื้อมาเหรอ?”

“เปล่าครับ”

เซียว​รั่ว​เ​ส​วี่ย​โน้มตัวเข้าไปดมกลิ่นที่ผ้าพันคอ

“กลิ่นหอมอ่อนๆ…นี่มันผ้าพันคอผู้หญิงนี่”

เซียวซิงหยูไม่ได้ปิดบังอะไรพี่สาว เขาจึงตอบอย่าง​รวดเร็ว​

“เพื่อนสนิทผมให้มาน่ะครับ เธอชื่อมู่หรงซินซิน เป็นลูกสาวของท่านนายพลมู่หรงจิน”

เย่ซือ​เ​หมิง​เคี้ยวช็อกโกแลตอยู่ในปาก แต่ก็ยังพูดแทรกขึ้นมาได้

“พี่สาวมู่หรงเหรอ? หนูรู้จักๆ เธอมีผมยาวสีขาว สวยเหมือนพี่สาวซวงหนิงของหนูเลย!”

ใครๆก็รู้ว่าการที่ผู้หญิงให้ผ้าพันคอผู้ชาย หมายถึงความรู้สึกที่เกินกว่าเพื่อน

เซียว​รั่ว​เ​ส​วี่ย​ก็เป็นผู้หญิง เธอจึงพอจะเดาอะไรได้

“เซียว​หยู น้องชอบผู้หญิงคนนั้นรึเปล่า?”

“ชอบสิครับ ซินซินเป็นคนใจดี ถึงจะพูดน้อย แต่ก็ดีกับผมมาก…เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด​ของผมเลย!” เซียวซิงหยูดูเหมือนจะเป็นคนเจ้าชู้ แต่บางครั้งก็ดูซื่อบื้อมาก

เขาไม่รู้ตัวเลยว่าความรู้สึกที่มู่หรงซินซินมีเเต่เขานั้นไปถึงขั้นไหนแล้ว ตอนนี้เขายังคิดว่ามู่หรงซินซินเป็นแค่เพื่อนอยู่เลย

สรุปคือ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังคลุมเครือ ยังขาดอีกแค่นิดเดียวก็จะชัดเจนมากกว่านี้​

เซียว​รั่ว​เ​ส​วี่ย​ยิ้มอย่างเอ็นดู ดวงตาสวยเริ่มเปร่งประกายด้วยความยินดี

“เด็กนี่โตจนถึงวัยที่จะมีแฟนแล้วสินะ”

หลังจากพูดคุย​กัน​อีกสักพัก…ทั้งสามก็เเยกย้าย​กันเข้านอน

…….

รุ่งเช้า​

“เซียว​หยู​ ตื่นได้แล้ว~”

“น้องขี้เซา ตื่นได้แล้ว วันนี้วันสอบกลางภาคนะ!”

เซียวซิงหยูที่กำลังนอนหลับฝันดีอยู่ ก็ได้ถูกมือคู่หนึ่งดึงให้ตื่นขึ้น​มา

เมื่อลืมตาขึ้นมาได้ เขาก็เห็นเซียว​รั่ว​เ​ส​วี่ย​ที่กำลังพยายามปลุกเขาอยู่

“พี่ครับ อรุณสวัสดิ์~”

“อรุนสวัสดิ์อะไรกัน ตื่นสายขนาดนี้แล้ว ลืมเเล้วรึไงว่าวันนี้วันอะไร?”

เมื่อเซียวซิงหยูหันไปมองนาฬิกาปลุกข้างเตียง ทันใดนั้น​เขาก็รีบกระโดดลงจากเตียงทันที

“แย่แล้ว! สายแล้ว!”

ขบวน​รถไฟ​หมายเลข​ 13 จากเมืองหลงอิ๋นไปยังเมืองหวงหยาน จะออกเดินทางในอีก 20 นาที

“เซียว​หยู​ ใจเย็นๆก่อน!”

“พี่ครับ ผมอาจจะไปสอบไม่ทัน จะไม่ให้ผมใจร้อนได้ยังไง!”

“พี่รู้ แต่ถึงจะรีบแค่ไหน ก็ใส่กางเกงก่อนเถอะ” เซียว​รั่ว​เ​ส​วี่ย​หน้าแดงก่ำ ก้มหน้ายื่นกางเกงในให้เซียวซิงหยู

เซียวซิงหยูมองลงไปที่ตัวเอง ทันใดนั้น​เขาก็ถึงกับพูดไม่ออก

เพราะเขามีนิสัยนอนแก้ผ้า ตอนกลางคืนเขาจึงไม่ได้สวมกางเกงใน…เมื่อกี้เพราะตกใจ เซียวซิงหยูจึงลืมเรื่องนี้ไปเลย

หลังจากใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เซียวซิงหยูก็รีบวิ่งไปที่ประตูห้อง

เย่ซือ​เ​หมิง​นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร มือถือปาท่องโก๋ไว้

“พี่ชายสู้ๆ เหมิงเหมิงขอให้พี่สอบได้ที่หนึ่งนะ!”

เซียว​รั่ว​เ​ส​วี่ย​วิ่งตามมา “เซียว​หยู​ น้องยังไม่ได้กินข้าวเลยนะ!”

“พี่ครับ ผมไม่ทันแล้ว!”

“งั้นเอานี่ไปกินระหว่างทาง”

เซียวซิงหยูรับปาท่องโก๋จากเซียว​รั่ว​เ​ส​วี่ย​ แล้วรีบวิ่งออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว​

“พี่ครับ พี่กับเหมิงเหมิงอยู่บ้านดีๆนะ…​ผมจะรีบไปรีบกลับ!”

ทันทีที่พูดจบ เซียวซิงหยูก็ขี่หมาป่าปีศาจ​แห่ง​นรก​ออกไปทันที​

เซียว​รั่ว​เ​ส​วี่ย​ยืนอยู่ที่ระเบียง มองน้องชายที่หายลับไปในหิมะ ทันใดนั้น​ภาพเหตุการณ์ในห้องนอนเมื่อกี้ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง

“เด็กคนนี้ โตเป็นหนุ่มแล้วจริงๆ”

ถ้าหากนำคำพูดของเซียว​รั่ว​เ​ส​วี่ย​ไปใส่ไว้ในข้อสอบวิชาภาษาไทย, บทความนี้จะมีความหมายแฝงดังนี้

[คำว่า “โต” ที่ผู้เขียนกล่าวถึง มีสองความหมาย]

[หนึ่ง คือ โตทางความคิด]

[สอง คือ โตทางร่างกาย]

……

ณ สถานีรถไฟหลงอิ๋น

ที่ชานชาลารอรถ

รถไฟหุ้มเกราะขบวนยาวจอดอยู่ที่ชานชาลาหมายเลข 13

นี่คือขบวน​รถไฟ​หมายเลข​ 13

บนตัวถังรถไฟขบวน​นี้มีรอยกรงเล็บของอสูรเต็มไปหมด รวมถึงคราบเลือดที่ยังล้างไม่ออก

ภายในรถไฟเต็มไปด้วยเสบียงอาหาร น้ำดื่ม เสื้อผ้า รวมถึงยาบำรุงและอาหารเสริมพลังงานสำหรับสัตว์​อสูร

ที่ประตูรถไฟ

นักเรียนชั้นปีที่ 1 ห้อง 3 ของวิทยาลัยชิงหลงต่างกำลังยืนรออย่างพร้อมเพรียง เเละบนใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่าง​มาก

“ทุกคนทำใจให้เย็นไว้​นะ…เเล้วพวกเธอจะทำคะแนน​ได้ดี” เฉินฉีเหนียนเอ่ยปลอบใจ

“อาจารย์เฉิน เหลือเวลาอีกแค่สองนาทีแล้ว เเต่เซียวซิงหยูยังไม่มาเลยครับ”

“ทั้งห้องขาดแค่เขาคนเดียว…หมอนั่นคงตื่นสายแน่ๆ”

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น เสียงหอนของหมาป่าก็ดังมาแต่ไกล

เด็กหนุ่มขี่หมาป่ายักษ์วิ่งฝ่าหิมะมา พร้อมปากที่ยังคาบปาท่องโก๋ครึ่งชิ้น​อยู่​

“ซิงหยู​!” อู๋เซิงโหย่วตะโกนอย่างตื่นเต้น

“ทุกคนดูสิ เซียว​ซิง​หยู​ของข้าฉันแล้ว!” ซ่งหู่ร้องตาม

ทันใดนั้น​เอง​ หมาป่าปีศาจ​แห่ง​นรก​ก็เบรกอย่างกะทันหัน

เซียวซิงหยูบนหลังจึงล้มลงไปกองกับพื้นอย่างน่าอนาถ…เเถมปาท่องโก๋​ยังหลุดออกจาก​ปากอีกด้วย

“ซิงหยู การปรากฏตัวของนายนี่มัน… ฮ่าๆๆ”

“พวกนายอย่ามัวแต่ยืนดูสิ มาช่วยฉันหน่อย! โอ๊ย! หลังของฉัน…”

ณ เวลานี้…เพื่อนๆรีบช่วยกันไปพยุงเซียวซิงหยูขึ้น

เซียวซิงหยูยืนขึ้นเเล้วจ้องไปที่หมาป่าปีศาจ​แห่ง​นรก​

“เบรกกะทันหันเเบบนี้​ จงใจเเย่งปาท่องโก๋​ของฉัน​ใช่​ใหม?...รอสอบเสร็จก่อนเถอะ ไว้ฉันจะจัดการแกทีหลัง!”

หมาป่าปีศาจ​แห่ง​นรก​ทำเป็นไม่ได้ยิน, ปากของมันคาบปาท่องโก๋ครึ่งชิ้นเเล้วกินอย่างเอร็ดอร่อย

…..

“เด็กๆ ขึ้นรถได้แล้ว” เฉินฉีเหนียนเร่ง

เสียงเครื่องยนต์​ของรถไฟดังขึ้น นั่นหมายความว่าเหลือเวลาอีกแค่นาทีเดียวก่อนรถไฟจะออกตัว

นักเรียนทุกคนโบกมือลาเฉินฉีเหนียน แล้วทยอยขึ้นรถไฟ

“เซียวซิงหยู!” เฉินฉีเหนียนเอ่ยเรียก

เซียวซิงหยูเป็นคนสุดท้ายที่ขึ้นรถไฟ เขากำลังยืนอยู่ตรงทางเชื่อมระหว่างตู้

“อย่าลืมที่สัญญากับฉันไว้นะ ถ้าได้คะแนนระดับ S…ฉันถึงจะทำตามสัญญา”

“อาจารย์เฉิน ผมจะไม่ทำให้อาจารย์​ผิดหวัง​ครับ!”

“ดีมาก…เเต่ใดๆก็เเล้วเเต่ ขอให้นายกลับมาอย่างปลอดภัยนะ”

เซียวซิง​หยู​ยกยิ้มและพยักหน้า

เสียงเครื่องยนต์​ของรถไฟดังขึ้นอีกครั้ง ทันใดนั้น​รถไฟก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา ฝ่าหิมะที่พัดมาจากทิศตะวันตก

เฉินฉีเหนียนยืนอยู่ที่ชานชาลา มองรถไฟที่ค่อยๆหายลับไปจากสายตาของเขา​

“แค่สอบกลางภาคเอง ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ”

เฉินฉี่เหนียนปลอบใจตัวเอง กอดให้แน่น แล้วเดินออกจากสถานีรถไฟ หายลับเข้าไปในฝูงชน

……………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด