บทที่ 13 เจ้าไม่ควรเป็นผู้อ่อนแอ
บทที่ 13 เจ้าไม่ควรเป็นผู้อ่อนแอ
ราชวงศ์ฉิน
ณ หุบเขาสูงชันแห่งหนึ่ง
ยามนี้ กองทัพแคว้นฉินได้ขวางทางคนสองคน คนหนึ่งเป็นผู้ใหญ่ อีกคนหนึ่งยังเด็ก
“เทียนหมิง เจ้ากลัวหรือไม่?”
เทพกระบี่ ไก้เนี่ย ก้มหน้ามองเด็กหนุ่มอายุราวสิบเอ็ดสิบสองปี เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ไม่กลัว!” จิงเทียนหมิงส่ายหน้าอย่างไม่ลังเล
“ท่านลุงไก้ ทหารพวกนั้นดูเหมือนจะกลัวท่านมาก?”
“พวกเขาไม่ได้กลัวข้า พวกเขากลัวผลลัพธ์ที่ตามมาจากการขวางทางข้า”
“เทียนหมิง เจ้าจงจดจำแววตาของพวกเขาไว้ให้ดี อย่าได้ลืมเลือนไปตลอดชีวิต”
“นี่คือแววตาของผู้อ่อนแอ เจ้าไม่ควรเป็นผู้อ่อนแอ”
ไก้เนี่ยสีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงทุ้มต่ำ
“ท่านลุงไก้ ข้าอยากเป็นผู้แข็งแกร่ง ข้าอยากให้ชื่อของข้าปรากฏบนบัญชีมังกรซ่อนกายบนฟากฟ้า!”
เทียนหมิงแววตามุ่งมั่น
“สักวันหนึ่ง ข้าจะแข็งแกร่งเช่นเดียวกับท่านลุง”
“ดี เทียนหมิง ข้าหวังว่าในอนาคตเจ้าจะแซงหน้าข้า”
แม้ในยามคับขัน ไก้เนี่ยก็ไม่เคยลืมที่จะสั่งสอนบทเรียนชีวิตแก่เทียนหมิง
“ไก้เนี่ย เจ้าบังอาจทรยศต่อฝ่าบาท ข้าจะจับตัวเจ้าไปให้ฝ่าบาทลงโทษ!”
แม่ทัพที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตะโกนด้วยความโกรธ
และบนที่สูงไม่ไกลออกไป ก็มีคนกลุ่มหนึ่งจับตาดูอยู่เงียบๆ
การต่อสู้ระหว่างเทพกระบี่แห่งแคว้นฉิน ไก้เนี่ย กับกองทหารม้าที่แข็งแกร่งที่สุดของแคว้นฉิน กำลังจะอุบัติขึ้น
และในเวลานั้นเอง
บัญชีรายชื่อบนท้องนภาก็เปล่งแสงเจิดจ้าอีกครั้ง
ตัวอักษรใหม่ปรากฏขึ้นทีละบรรทัด
【บัญชีมังกรซ่อนกาย อันดับที่ 23!】
【จิงเทียนหมิง】
【สถานะ: บุตรชายของจิงเคอ ศิษย์ของเทพกระบี่ไก้เนี่ย!】
【ระดับ: ปราณปฐพีขั้นสูงสุด】
【วิชา: วิชากำหนดลมหายใจกุยกู่, เพลงกระบี่กุยกู่, เพลงกระบี่ร้อยก้าว】
【รางวัล: ยาเม็ดวิเศษระดับกลาง: ยาเม็ดเร่งรุด สามารถเพิ่มพรสวรรค์ด้านความเร็ว เรียนรู้วิชาตัวเบาได้เร็วขึ้น】
……
พระราชวังเสียนหยาง
เมื่ออิ๋งเจิ้งเห็นชื่อที่ปรากฏบนบัญชีรายชื่อ ดวงตาก็ลุกโชนไปด้วยเพลิงโทสะ
จิงเทียนหมิง
บุตรชายของจิงเคอ
แถมยังเป็นศิษย์ของไก้เนี่ย
ดี ไก้เนี่ย เจ้าบังอาจทรยศข้า
เพื่อเด็กเพียงคนเดียว ความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์และขุนนางที่มีมานานปี ถูกลืมเลือนไปแล้วหรือ?
"จ้าวเกา ไก้เนี่ยอยู่ที่ใด? นำตัวเขามาให้ข้าโดยเร็ว ข้าอยากจะถามเขาว่าเหตุใดเขาจึงทรยศข้า?"
"ฝ่าบาท ไม่นานหลังจากที่บัญชีทองคำปรากฏ ไก้เนี่ยก็ออกจากพระราชวังไปอย่างเงียบๆ และหนีออกจากเมืองเสียนหยางพร้อมกับเด็กแปลกหน้าคนหนึ่ง พวกเราส่งคนตามจับหลายครั้ง แต่พวกเขาก็หนีรอดไปได้ทุกครั้ง"
“เด็กคนนั้นคือจิงเทียนหมิง?”
“พ่ะย่ะค่ะ เขาควรจะตายไปในกองเพลิงครั้งนั้น แต่ไก้เนี่ยกลับแอบช่วยชีวิตเขาไว้ และคอยสั่งสอนมาตลอดหลายปี”
“หึ คาดว่าเมื่อบัญชีทองคำปรากฏ ไก้เนี่ยรู้ตัวว่าไม่อาจปิดบังได้อีก จึงทรยศข้า ช่างน่าชังนัก!”
เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ อิ๋งเจิ้งก็เผยแววสังหาร
นี่คือความโกรธที่ถูกทรยศ
"จ้าวเกา ส่งคนไปเพิ่ม จับตัวไก้เนี่ยกลับมายังเสียนหยาง และเด็กคนนั้นด้วย!"
“ฝ่าบาท ไก้เนี่ยเป็นยอดฝีมือขั้นราชันย์ขั้นสูงสุดการจับกุมธรรมดาอาจไม่เป็นผล”
สีหน้าของจ้าวเกาดูอึดอัด
"เช่นนั้นก็ส่งกองทัพไปสามพัน หากสามพันไม่พอ ก็สามหมื่น สามหมื่นไม่พอ ก็สามแสน!"
“ต่อหน้ากองทหารม้าเหล็กแห่งแคว้นฉิน ยอดฝีมือที่เรียกกันว่าราชันย์ ล้วนต้องก้มหัวลงเป็นข้ารับใช้”
อิ๋งเจิ้งองอาจผึ่งผาย แววตาหยิ่งทะนง
ในสายตาของเขา ยอดฝีมือในยุทธภพ ต่อหน้าแคว้นฉิน ล้วนไม่ค่าควรกล่าวถึง
อย่าว่าแต่ราชันย์
ต่อให้เป็นเซียนปฐพี ก็ต้องสยบ
……
สถานที่ลับแห่งหนึ่ง
ที่ตั้งขององค์กรหลิวซา
เว่ยจวงมองดูบัญชีรายชื่อบนท้องฟ้า มุมปากยกยิ้มเย้ยหยัน
“ไก้เนี่ย เจ้านี่ช่างน่าขันนัก เพื่อเด็กคนเดียว ถึงกับทรยศอิ๋งเจิ้ง?”
“ดูท่าความจงรักภักดีที่เจ้าพูดถึง ช่างไร้ค่ายิ่งนัก!”
เว่ยจวงมองว่าไก้เนี่ยคือศัตรูคู่แค้น แม้จะชื่นชมในเพลงกระบี่ แต่กลับไม่เห็นด้วยกับความเป็นคนของไก้เนี่ย
“เว่ยจวง ข้าคิดว่าเด็กคนนั้นก็ควรให้ความสำคัญ”
“อายุน้อยเพียงนี้ กลับติดอันดับมังกรซ่อนกาย ภายภาคหน้าเติบโตขึ้นจะต้องน่ากลัวมาก”
ร่างอันงดงามเย้ายวน ค่อยๆ เดินออกมา
นางคือองค์หญิงหงเหลียน อดีตองค์หญิงแห่งแคว้นหาน
“แล้วอย่างไร อิ๋งเจิ้งจะปล่อยให้เขาเติบโต?”
“อีกอย่าง องค์หญิงหงเหลียน ท่านไม่ประจำอยู่ที่หนานเย่ว์ มาที่นี่ทำไม?”
เว่ยจวงไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้เห็นด้วย
“เว่ยจวง ไม่ได้พบกันหลายปี เจ้ายังคงเย็นชาเช่นเดิม”
“แต่ครั้งนี้ ข้ามาเพราะมีเรื่องสำคัญจริงๆ”
“พี่จื่อหนี่ว์ให้ข้ามาบอกเจ้าว่า บัญชีทองคำปรากฏ เก้าแคว้นกำลังจะปั่นป่วน เจ้าต้องระวังตัว”
“พวกเราพี่น้องตามหาคนชั่วคนนั้นไปทั่วเก้าแคว้นหลายปี กลับพบแผนการลับมากมาย”
“เกี่ยวข้องกับเซียนปฐพีหลายคน”
“แม้แต่ตงหวงไท่อีแห่งสำนักอิมเอี๋ยง ในสายตาคนเหล่านั้น ยังไม่นับเป็นอะไร”
เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ หงเหลียนก็อดไม่ได้ที่จะระมัดระวัง
“หงเหลียน ฝากขอบคุณจื่อหนี่ว์ด้วย” เว่ยจวงสีหน้าอ่อนโยนลง
“เรื่องวุ่นวายในเก้าแคว้น พวกเจ้าอย่าได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว”
“ในความวุ่นวาย ย่อมมีทั้งวิกฤตและโอกาส”
“หากไม่อาจเป็นเซียนปฐพี ตายอย่างยิ่งใหญ่ ก็นับว่าไม่เลว!”
หงเหลียนเหลือบมอง โยนหนังสือเล่มหนึ่งออกมา
"ข้ารู้ว่าท่านจะต้องพูดเช่นนี้ นี่ให้ท่าน!"
"นี่คือสิ่งที่คนชั่วคนนั้นทิ้งไว้ให้พวกเราพี่น้อง ตอนนี้ข้าให้ท่าน"
"จำไว้ หลังจากอ่านจบแล้วก็ทำลายมันทิ้งซะ!"
"แคว้นหานก็ล่มสลายไปแล้ว พี่ชายก็จากไปแล้ว ท่านคือสหายเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ พวกเราไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับท่าน!"
เว่ยจวงไม่ถือสา เปิดหนังสืออ่าน
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถอนหายใจออกมา:
"คนผู้นั้นช่างลำเอียงกับพวกเจ้าเสียจริง มอบสิ่งล้ำค่าเช่นนี้ให้โดยไม่คิด น่าเสียดายที่เขาเจ้าชู้หลายใจไปหน่อย"
"แต่ก็คิดว่าพวกเจ้าคงจะยินดีกระมัง!"
หงเหลียนยิ้มอย่างมีเลศนัย:
"หึ คนชั่วคนนั้นคอยหลบหน้าพวกเรามาตลอด ครั้งนี้เมื่อบัญชีทองคำปรากฏ ข้าจะดูซิว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่ที่ใดได้อีก!"
"เอาล่ะ ข้ากำลังจะกลับไปยังหนานเยวี่ยแล้ว เว่ยจวง ท่านมีอะไรจะฝากบอกพี่จื่อหนี่ว์หรือไม่?"
……
“ท่านลุงไก้ ข้าติดอันดับมังกรซ่อนกาย ท่านเห็นหรือไม่? ข้าคืออัจฉริยะที่แท้จริง!”
จิงเทียนหมิงมองดูบัญชีทองคำ ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น
แม้แต่ไก้เนี่ย ก็ยังตกตะลึง
พรสวรรค์ของเทียนหมิง แม้แต่เขาก็ยังประเมินต่ำไป
ตอนนี้เขาอายุเพียงสิบสองปี ก็เหนือกว่าคนรุ่นเดียวกันมากแล้ว
ภายภาคหน้าจะไล่ตามเขาทัน ไม่ต้องสงสัยเลย
หรือแม้แต่เป็นเซียนปฐพี ก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ไก้เนี่ยก็ยิ่งให้ความสำคัญกับเทียนหมิงมากขึ้น
เขาจะต้องปกป้องให้ดี ไม่ให้ตายก่อนวัยอันควร
—-------------------------------
ตอนนี้มาจากละคร เรื่อง ตํานานรักราชวงศ์ฉิน ครับ
ทั้งนี้ต้องบอกว่า คนเจ้าชู้นั้น คือพระเอกนี้แหละ มันเล่นไป จีบนางเอกนิยายเรื่องอื่นไปทั่วเลย