ตอนที่แล้วบทที่ 9 อวิ๋นหลัวติดอันดับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11 เซี่ยเสี่ยวฟงงุนงง

บทที่ 10 ปฏิกิริยาของแต่ละแคว้น


เมืองเสียนหยาง แคว้นฉิน พระราชวัง

“ปัง!”

“เหลวไหล สิ้นดี นี่ก็แคว้นหมิงอีกแล้ว คนของแคว้นฉินข้าหายไปไหนหมด?”

อิ๋งเจิ้งโกรธเกรี้ยว

สู้แม้แต่องค์หญิงแห่งราชวงศ์แคว้นหมิงไม่ได้ ยังกล้ามาคุยโวต่อหน้าเขา

ที่สำคัญที่สุด

หากไม่มีคนของต้าฉินติดอันดับเป็นเวลานาน เมื่อสวรรค์ประทานยาอายุวัฒนะ เขาจะไม่พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดายหรือ?

แต่ว่า

เพื่อยาอายุวัฒนะ เขาไม่รังเกียจที่จะใช้วิธีการพิเศษบางอย่าง

……

พระราชวังแคว้นสุย

หยางกว่างเห็นชื่อบนบัญชีรายชื่อ ก็หัวเราะออกมาดังๆ

“เป็นแคว้นหมิง ขอเพียงไม่ใช่แคว้นถังของหลี่ซื่อหมินก็พอ!”

“ไม่คิดเลยว่า องค์หญิงแห่งแคว้นหมิงจะโดดเด่นเพียงนี้ ด้อยกว่าองค์หญิงของข้าเพียงนิดเดียว”

“น่าเสียดาย ที่ถูกหลี่ซื่อหมินชิงตัวไป”

เมื่อคิดว่าแก้วตาดวงใจตกไปอยู่ในมือของผู้ที่ตนเกลียดชังที่สุด สุราของหยางกว่างก็หมดรสชาติ การขับร้องและการร่ายรำก็ไร้ความหมาย

“อวี่เหวินฮั่วจี๋ คนที่ไปแคว้นถังเพื่อช่วยเหลือองค์หญิงมีข่าวคราวหรือไม่?”

“ฝ่าบาท พระราชวังแคว้นถังมีหยวนเทียนกังผู้บัญชาการหน่วยปู้เหลียงคอยคุ้มกัน คนของเราเข้าไปได้ยาก หากเข้าใกล้พระราชวัง ก็จะถูกคนของปู้เหลียงจับกุมในทันที”

"มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งกว่าหยวนเทียนกังเท่านั้น ที่จะมีโอกาส"

“หลี่ซื่อหมิน เจ้ามันเจ้าเล่ห์นัก คงจะป้องกันเรื่องนี้ไว้แล้ว”

“เอาเถอะ ติดตามต่อไป!”

……

ท้องพระโรงไท่จี๋ แคว้นถัง

ยามนี้ หลี่ซื่อหมินนั่งอยู่บนบัลลังก์ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

“ท่านราชครู ท่านคิดว่าเหตุใดแคว้นถังเราถึงไม่มีคนติดอันดับมังกรซ่อนกาย?”

“แคว้นสุยที่อ่อนแอยังมีคนติดอันดับหลายคน ข้าไม่ยินยอมจริงๆ”

“หากสวรรค์ประทานสมบัติที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแคว้น พวกเราจะไม่เสียโอกาสหรือ?”

เบื้องล่าง หยวนเทียนกังประสานมือ เอ่ยออกมาเสียงดังว่า

“ฝ่าบาท แคว้นถังเราเพิ่งสถาปนาขึ้นได้ไม่นาน สงครามก่อนหน้านี้ทำให้จอมยุทธ์บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก หากเทียบจำนวน ย่อมสู้แคว้นอื่นไม่ได้”

“แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าแคว้นถังอ่อนแอ ตรงกันข้าม กลับแข็งแกร่งยิ่งนัก”

“ห่างไกลจากแคว้นซ่งที่อ่อนแอ และแคว้นสุยที่ใกล้ล่มสลาย”

“เพียงฝ่าบาททรงฟื้นฟูบ้านเมือง แคว้นถังจะต้องยิ่งใหญ่เหนือทุกแคว้นอย่างแน่นอน หรือแม้แต่รวมเก้าแคว้นเป็นหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยาก”

คำพูดของหยวนเทียนกัง ทำให้หลี่ซื่อหมินฮึกเหิม

รวมเก้าแคว้น

ช่างเป็นเป้าหมายที่เย้ายวนใจยิ่งนัก

หลี่ซื่อหมินมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น แววตาเปล่งประกาย

ต่อให้ไม่มีรางวัลจากสวรรค์!

เพียงพึ่งพาตนเอง ก็สามารถทำให้แคว้นถังแข็งแกร่งขึ้นได้

จากนั้น

เขาก็มองดูบัญชีรายชื่อกลางอากาศ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนแต่ก่อน กลับดูสงบนิ่ง

มีหรือไม่มีก็ไม่สำคัญ

……

ราชวงศ์ซ่งใต้

"ฉินฮุ่ย เจ้าจงส่งคนไปเชิญตัวก๊วยเจ๋งเข้าวังโดยเร็ว ข้าอยากพบเขา"

“รอไม่ได้แล้ว หากถูกแคว้นอื่นชิงตัวไป จะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของแคว้นซ่งเรา”

“ฝ่าบาท เขาเป็นเพียงปราณปฐพีขั้นปลาย และยังเป็นอันดับสุดท้าย พวกเราไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญมากนัก จะทำให้แคว้นอื่นหัวเราะเยาะ!?”

"รอจนกว่าจะเป็นจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ จอมยุทธ์ขั้นราชันย์ค่อยเรียกตัวมาก็ยังไม่สาย"

ฉินฮุ่ยไม่พอใจ พยายามเกลี้ยกล่อมให้ฮ่องเต้เจ้าโก้วล้มเลิกความคิดนี้

“ยิ่งไปกว่านั้น กระหม่อมเพิ่งได้รับข่าวมา”

“ก๊วยเจ๋งผู้นี้ ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์อันดีกับเผ่าต่างชาติแห่งแคว้นหยวน”

“เติบโตมาในค่ายของข่านผู้ยิ่งใหญ่แห่งแคว้นหยวนเจงกิสข่าน อย่าได้ไว้ใจเขา!”

“หากเขาเป็นสายลับที่เจงกิสข่านส่งมาแฝงตัวในแคว้นซ่งเรา จะทำอย่างไร?”

ฉินฮุ่ยที่เป็นตัวแทนของขุนนางฝ่ายบุ๋น ย่อมไม่มีทางให้ก๊วยเจ๋งมาทำลายผลประโยชน์ของพวกเขา

“อะไรนะ? เรื่องนี้เป็นจริง? เช่นนั้นก็สังหารเขาทิ้งซะ ข้าไม่ได้ คนอื่นก็อย่าหวังจะได้”

“ฉินฮุ่ย เรื่องนี้เจ้าจัดการ”

เมื่อได้ยินว่าก๊วยเจ๋งสนิทสนมกับเจงกิสข่าน เจ้าโก้วก็โกรธจัด

มั่นใจว่าก๊วยเจ๋งยอมจำนนต่อแคว้นหยวนแล้ว

ตอนนี้มาแคว้นซ่ง ต้องมีจุดประสงค์แอบแฝง

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็มองดูบัญชีรายชื่อกลางอากาศ รู้สึกขัดหูขัดตายิ่งนัก

“ฝ่าบาท โปรดระงับโทสะ ก๊วยเจ๋งสังหารไม่ได้”

“หากเขาเป็นคนของเจงกิสข่านจริง หากสังหารเขา เจงกิสข่านจะมีข้ออ้างในการรุกรานแคว้นซ่งเรา”

“แคว้นจินที่อยู่ติดกันอาจฉวยโอกาส แคว้นซ่งเราจะตกอยู่ในอันตราย!”

ฉินฮุ่ยเป็นพวกยอมจำนน ย่อมไม่มีทางสร้างความขุ่นเคืองให้กับแคว้นหยวน

ฆ่าก็ไม่ได้ ปล่อยก็ไม่ได้

วิธีที่ดีที่สุด คือการจำกัดก๊วยเจ๋งไว้ในยุทธภพ

เช่นนี้ทุกคนจึงจะวางใจ

“ท่านเสนาบดีกล่าวได้ถูกต้อง เช่นนั้น นับแต่นี้ไป ก๊วยเจ๋งอยู่ในความดูแลของเจ้า”

“ข้าไม่อยากได้ยินข่าวคราวใดๆ เกี่ยวกับเขาอีก”

เบื้องล่าง ฉินฮุ่ยเผยรอยยิ้ม

ขณะเดียวกัน ก็มองเจ้าโก้วด้วยสายตาดูแคลน

ช่างไร้ความสามารถ ไร้ประโยชน์

แต่ก็ดีแล้ว

หากมีความสามารถมากเกินไป พวกขุนนางอย่างพวกเขาจะไม่มีอะไรทำ

……

ราชวงศ์ซ่งเหนือ

ห้องทรงพระอักษร

ฮ่องเต้เจ้าจี๋ กำลังฝึกเขียนอักษรอย่างตั้งอกตั้งใจ

ส่วนบัญชีมังกรซ่อนกายกลางอากาศ เขาเพียงเหลือบมอง แล้วก็หมดความสนใจ

ไม่ว่าซ่งเหนือจะมีคนติดอันดับหรือไม่ เขาก็ไม่ใส่ใจ

คนเถื่อนที่วันๆ เอาแต่ต่อสู้กัน ช่างน่าเบื่อ

สู้ภาพวาดอักษรงดงาม ก็ไม่ได้ ทำให้เขามีความสุขมากกว่า

มุมหนึ่งของพระราชวัง

สถานที่ตั้งของหอคัมภีร์

ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐาน มองดูบัญชีรายชื่อ แล้วก็มองไปยังเจ้าจี๋ที่กำลังจดจ่ออยู่กับภาพวาดอักษร ส่ายหน้าอย่างผิดหวัง

โดยไม่สนใจอีกต่อไป

……

ราชวงศ์แคว้นฮั่น

ฮ่องเต้หลิวหง มัวเมาอยู่กับสุรานารี ทุกวันเสพสุขจนร่างกายทรุดโทรม

จะมีแก่ใจสนใจบัญชีมังกรซ่อนกายได้อย่างไร!

ภายในแคว้นฮั่นเอง ก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย

อำนาจถูกแบ่งแยกโดยตระกูลใหญ่และเจ้าเมืองต่างๆ

ส่วนฮ่องเต้หลิวหง กลับไม่รับรู้

หรือต่อให้รู้

ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้

ในราชสำนัก ราชวงศ์กำลังดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย

ส่วนในยุทธภพ

ยิ่งวุ่นวาย ทุกวันมีคนตายมากมาย

พื้นที่ถูกแบ่งสันปันส่วนโดยขุมกำลังชั้นยอด

แม้แต่ทางการก็ยังควบคุมไม่ได้

ราชสำนักและยุทธภพแยกจากกันโดยสิ้นเชิง

ฝ่ายหนึ่งก็ควบคุมอีกฝ่ายไม่ได้

หากจะพูดถึงความรุนแรง แคว้นฮั่นนับว่าเลวร้ายที่สุดในบรรดาแคว้นทั้งหมด

—--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฮ่องเต้หลิวหง มันอยู่ช่วงก่อนเข้ายุคสามก็ก คือบ้านเมืองกลียุค มีกังฉิน มีกบฎ ฮ่องเต้หลงสุรานารี ราวๆนี้ครับ ถ้าใครเคยอ่านนิยายจีนเกาๆ จะอินเรื่องนี้มากครับ แปลผิดพลาาดตรงไหนแจ้งด้วย ตัวละครมันเยอะ พวกท่าชื่อวิชา อาวุธ มันเยอะจนงง บางที ก็แปลแบบ มั่วๆไปบ้าง 55+

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด