ตอนที่แล้วตอนที่ 83 ผู้ใดลบหลู่สำนักชิงหยุน ข้าจักสังหาร!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 85 กลับสู่สำนัก อสูรร้ายจักรพรรดิทมิฬ

ตอนที่ 84 บรรพชนปรากฏกายอีกคราในโลกหล้า


ตอนที่ 84 บรรพชนปรากฏกายอีกคราในโลกหล้า

ในขณะนี้

ภายในหอชิงหยุน เมื่อคำพูดของเฟิงชิงหยางจบลง

เขากวาดสายตามองเหล่าผู้อาวุโสด้านล่างเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจในใจ

ถึงเวลาแล้วที่จะให้ บรรพชนขอบเขตมหาจักรพรรดิออกโรง

ในเมื่อจะเล่น ก็ต้องเล่นให้ยิ่งใหญ่

เป็นมังกร เจ้าจงขดตัว เป็นพยัคฆ์ เจ้าจงหมอบ!

ไม่สิ! ต้องเป็น แม้เป็นจักรพรรดิ เจ้าก็ต้องถอยให้ข้า!

ส่งบรรพชนออกโรงบดขยี้แดนศักดิ์สิทธิ์โดยตรง

นี่คือขั้นตอนสุดท้ายที่ สำนักชิงหยุนจะใช้เพื่อประกาศศักดาในภาคตะวันออก

ให้โลกหล้าประจักษ์ว่า การล่วงเกินสำนักชิงหยุน จะมีจุดจบเช่นไร!

พลังจิตสำนึกอันแข็งแกร่งของเขาแผ่กระจายออกไป

เพียงชั่วพริบตา บนท้องฟ้าภายนอกหอ

รอยแยกขนาดมหึมาปรากฏขึ้นกลางอากาศ

แรงกดดันอันมหาศาลพลันพวยพุ่งออกมาราวกับน้ำหลาก

เสียงดังกึกก้องไปทั่ว

บูม...

เสียงดังกึกก้องเพียงครั้งเดียว

บรรพชนหลี่ชิงหยุน ฉีกกระชากมิติ ปรากฏกายขึ้น

จากมุมมองของผู้คนภายนอก มิติพลันแตกสลาย กาลเวลาราวกับเลือนหาย สายฝนแห่งแสงสาดกระจาย

ความว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุดพลันระเบิดออก เผยให้เห็นเงาร่างเลือนรางที่ยืนอยู่ ณ สุดขอบแห่งอวกาศ

เขาก้าวเดินไปข้างหน้า ผลักดันดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาราให้หมุนเคลื่อนพา พร้อมนำพาความวุ่นวายของห้วงมิติ ย่ำผ่านแม่น้ำแห่งกาลเวลาเข้ามา

จากจุดไกลโพ้นจนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ความน่าสะพรึงกลัวไร้ขอบเขตแผ่ปกคลุมไปทั่ว

เมื่อได้รับข่าวจากหอบรรพชน หลี่ชิงหยุนก็ปลดปล่อยพลังอย่างเต็มที่

เพียงพริบตาเขาปรากฏตัวขึ้นด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ

บารมีแห่งมหาจักรพรรดิพุ่งทะลักออกมาปกคลุมไปทั่วภาคตะวันออก

การปรากฏตัวของเขาเรียกเสียงฮือฮาจากทุกทิศ

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!

เหล่าผู้บ่มเพาะในภาคตะวันออกต่างเงยหน้ามองร่างอันน่าสะพรึงกลัวนั้นด้วยความตื่นตระหนก

ไม่เคยคิดว่าในภาคตะวันออกจะมีผู้แข็งแกร่งเช่นนี้!

ดูเหมือนข้าจะนิ่งนอนใจไม่ได้แล้ว!

ข้าเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งขอบเขตสร้างวิญญาณ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องลงมือเพื่อแย่งชิงทรัพยากร!

ซื่ว!

น่ากลัวเกินไป!

“ทิศนั้นคือทิศใด? หรือว่าเป็นบรรพชนของขุมอำนาจใดที่ตื่นขึ้นจากการหลับใหล?”

ผู้คนต่างคาดเดากันไปต่างๆนานา

ภาคตะวันออกในช่วงนี้ช่างวุ่นวายยิ่งนัก ราวกับกำลังจะเกิด มหาศึกสะท้านโลก

ศึกครั้งนี้มีความหมายยิ่งใหญ่

ระเบียบและโครงสร้างของภาคตะวันออกกำลังจะถูกทำลายและสร้างขึ้นใหม่

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อผู้แข็งแกร่งลึกลับปรากฏกาย ผลแพ้ชนะของศึกครั้งนี้ยิ่งยากที่จะคาดเดา

ในขณะเดียวกัน

หลังจากเดินทางตลอดครึ่งวัน สือฮ่าวและพรรคพวกก็เดินทางเข้าสู่เขตแดนแคว้นหลิงโจว

ด้วยการมี เย่ชุยเสวี่ย ผู้บ่มเพาะขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ คอยนำทาง

พวกเขาสามารถเหินฟ้าข้ามระยะทางอันยาวไกลได้อย่างรวดเร็ว

ในเวลานั้น พวกเขาต่างถูกดึงดูดสายตาไปยังร่างอันน่าสะพรึงกลัวบนท้องฟ้า

“นี่… นี่คือผู้แข็งแกร่งระดับใดกัน!”

เย่ชุยเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้า มองร่างนั้นด้วยความตกตะลึง

พลังขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ของเขา ภายใต้แรงกดดันมหาศาลนี้ แทบจะไร้ความหมาย

หรือจะกล่าวได้ว่า แม้ทั้งตระกูลซูจะรวมกำลังก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของบุคคลผู้นี้ได้แม้แต่หนึ่งกระบวนท่า!

หากแม้แต่ บรรพชนตระกูลซูมาปรากฏตัว ก็อาจถูกบดขยี้จนสิ้นด้วยเพียงฝ่ามือเดียว!

ร่างนั้นช่างน่ากลัวเกินบรรยาย ดุจดั่งสิ่งมีชีวิตที่ดำรงอยู่มาตั้งแต่โบราณกาล

จักรพรรดิทมิฬ เองก็ตะลึงจนตาค้าง

“จักรพรรดิผู้นี้มิได้รู้สึกผิดพลาดไปใช่หรือไม่!”

“นี่มัน… บารมีมหาจักรพรรดิ!”

“เหตุใดภาคตะวันออกจึงมี มหาจักรพรรดิปรากฏตัวได้?”

แปลกนัก!

หลังจากยุคกลางขาดช่วง ดินแดนภาคตะวันออกไม่ใช่ว่าถูกโจมตีจนแตกเป็นเสี่ยงๆแล้วหรือ?

เหตุใดถึงยังมีผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นได้

หรือว่า… มหาจักรพรรดิในยุคโบราณจะกลับคืนสู่โลกอีกครั้ง!

ดินแดนภาคตะวันออก…ไม่ธรรมดาจริงๆ!

ไม่แปลกใจเลยที่มหาจักรพรรดินีซุยเซียนจะพลัดหลงมาถึงที่นี่!

“บรรพชน! นั่นคือบรรพชนของสำนักชิงหยุนของเรา!”

สือฮ่าวเงยหน้ามองฟ้าแล้วกล่าวด้วยความตื่นเต้น

บรรพชนไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ แม้กระทั่งการปรากฏตัวก็ยังยิ่งใหญ่เกินใคร!

เมื่อคิดถึงในอดีต… เอ่อ แค่เดือนกว่าๆที่แล้ว ตอนที่สำนักยังแทบไม่มีผู้คน

ข้ายังเคยนั่งเล่นหมากกับบรรพชนอยู่เลย!

“โอ้ สหายน้อยสือฮ่าว เจ้าหมายความว่ายอดฝีมือผู้นี้คือ บรรพชนของสำนักชิงหยุนของเจ้าหรือ?”

เย่ชุยเสวี่ยรู้สึกสะท้านในใจ แม้จะเคยคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ก็ได้คำยืนยันชัดเจนแล้ว

เมื่อมองทั่วทั้งแคว้นหลิงโจว สำนักที่สามารถมีผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ย่อมมีเพียงสำนักลึกลับอย่างสำนักชิงหยุนเท่านั้น

สิ่งที่สือฮ่าวและพรรคพวกเล่ามา ทั้งหมดล้วนเป็นความจริง

สำนักชิงหยุน เต็มไปด้วยยอดฝีมือที่แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน

ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาจะไม่เห็นแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย!

“บรรพชนก็คือบรรพชนจริงๆ!”

“แม้แต่การปรากฏตัวยังน่าตะลึงถึงเพียงนี้!”

“ไม่รู้ว่าเมื่อไรข้าหลินไป๋จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งเช่นนั้นได้บ้าง”

หลินไป๋พูดพลางคาบต้นหญ้าไว้ในปาก พร้อมแบกกระบี่บัวมรกตไว้บนหลัง

ในใจเขาเริ่มจินตนาการขึ้นมา

สักวันหนึ่ง เมื่อข้าเชี่ยวชาญวิถีกระบี่ แม้เพียงต้นหญ้าก็สามารถฟันดวงจันทร์และดวงดาวได้!

จากนั้นเขาเอาต้นหญ้าในปากปาออกไปด้วยแรงบันดาลใจ

แต่ต้นหญ้ากลับลอยไปเพียงสองเมตรครึ่งก่อนจะตกลงพื้น

“ใช่แล้ว ท่านเย่ นั่นคือบรรพชนของสำนักชิงหยุนของเรา”

“ไปกันเถอะ ศิษย์น้อง เรามุ่งมั่นบ่มเพาะพลังกันต่อไป”

“ในอนาคต เราต้องเป็นผู้แข็งแกร่งเช่นบรรพชนให้ได้”

สือฮ่าวพูดพลางเดินไปตบบ่าศิษย์น้องหลินไป๋

ด้วยพรสวรรค์ของพวกเขา หากตั้งใจบ่มเพาะ วันหนึ่งข้างหน้าอนาคตย่อมสดใสเป็นแน่

ศิษย์น้องฮวาชิงหยูค่อยๆหลุดออกจากอาการตกตะลึง

นางไม่คาดคิดเลยว่า บรรพชนของสำนักจะทรงพลังถึงเพียงนี้

ช่างพลิกโฉมความเข้าใจของนางโดยสิ้นเชิง

และพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้กลับให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด นางเคยสัมผัสได้จากท่านผู้อาวุโสคนหนึ่ง

ท่านอาจารย์เรียกผู้อาวุโสคนนั้นว่า มหาจักรพรรดินีซุยเซียน หรือว่า…บรรพชน เองก็เป็นยอดฝีมือขอบเขตมหาจักรพรรดิ เช่นกัน?

นี่มัน บารมีมหาจักรพรรดิ!

ฮวาชิงหยูเข้าร่วมสำนักหลังจากสือฮ่าวและหลินไป๋ จึงรู้เพียงว่าสำนักมีบรรพชนผู้แข็งแกร่ง

แต่นางไม่เคยพบมาก่อน และไม่เคยรู้ว่าบรรพชนมีพลังอยู่ในระดับใด

วันนี้นางได้เปิดหูเปิดตาอย่างแท้จริง

อีกด้านหนึ่ง ซูเหยาเหยายืนมองด้วยความตกตะลึง ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

พลังอันมหาศาลนี้ นางไม่เคยสัมผัสได้แม้แต่จากบรรพชนตระกูลซูของตัวเอง

การได้เป็นศิษย์ในของสำนักชิงหยุน…จะยากเย็นถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

แต่เดิมนางมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม

แต่ตอนนี้กลับถูกความยิ่งใหญ่ของสำนักชิงหยุนทำให้สั่นสะท้านจนสิ้น!

จากนั้น สือฮ่าว หลินไป๋ ฮวาชิงหยู และซูเหยาเหยาเดินทางต่อไป

เมื่อบรรพชนปรากฏตัวแล้ว เห็นได้ชัดว่าสำนักกำลังจะเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง

พวกเขาจำเป็นต้องรีบเดินทางกลับให้เร็วที่สุด

ในขณะนี้

สำนักชิงหยุน

ภายในหอชิงหยุน

หลังจากบรรพชนหลี่ชิงหยุนแสดงพลังอันน่าเกรงขามแล้ว เขาก็ก้าวเข้าสู่หอ

มู่ซุยเซียนหรี่ตาลง พลันตอบสนองเป็นคนแรก

นางนึกย้อนถึงวันที่นางเข้าสู่สำนัก เสียงที่ดังก้องในจิตสำนึกของนาง รวมถึงพลังจิตสำนึกอันแข็งแกร่งที่ขัดจังหวะนางในตอนนั้น

ตอนนี้ดูเหมือนว่าทั้งหมดจะเป็นฝีมือของบรรพชน

ในครั้งก่อนที่นางเห็นเขาในการประชุมผู้อาวุโส นางกลับไม่สามารถสัมผัสถึงพลังใดๆของเขาได้เลย

ดูเหมือนว่าบรรพชนจะทรงพลังยิ่งกว่าชีวิตก่อนของนางเสียอีก

ในชาติก่อน นางคือ มหาจักรพรรดินีซุยเซียน ผู้โด่งดังไปทั่วโลก และเป็นที่เกรงขามของทุกภูมิภาค

นางเป็นยอดฝีมือขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นกลาง ซึ่งในระดับมหาจักรพรรดิ นับว่าเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่สุด

แต่ในตอนนี้ นางสัมผัสได้ว่าบรรพชนหลี่ชิงหยุนได้ก้าวล้ำเกินกว่าที่นางเคยเป็นในชาติก่อน!

ต้องรู้ว่า ขอบเขตมหาจักรพรรดินั้นมีอายุยืนยาวมาก

เพียงการปิดด่านครั้งหนึ่ง อาจกินเวลานับพันปี

นั่งมองความเปลี่ยนแปลงของโลกหล้า ท้องทะเลกลายเป็นทุ่งหม่อน

แต่การจะยกระดับขึ้นอีกขั้นนั้นยากเย็นเกินบรรยาย

แม้เวลานับหมื่นปี ก็อาจไม่มีความก้าวหน้าใดๆ

ดังนั้น ระดับพลังของบรรพชนหลี่ชิงหยุน ในขอบเขตมหาจักรพรรดิ คงเป็นสิ่งที่ลึกล้ำเกินหยั่งถึง!

บรรพชนหลี่ชิงหยุน เดินมาถึงด้านหน้าสุดของหอ

“ท่านเจ้าสำนัก ไม่ทราบว่าเรียกหาข้ามีเรื่องอันใดสำคัญหรือ?”

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เขาต้องลงมือแล้ว

นับตั้งแต่ครั้งก่อนที่เขาบีบยอดฝีมือระดับกึ่งปราชญ์ จนระเบิด เขาก็ใช้ชีวิตแบบปล่อยตัวเรื่อยมา

พลังมหาศาลในร่างไม่เคยได้ปลดปล่อยอย่างแท้จริง

เหอะ ชื่อเสียงมหาจักรพรรดิชิงหยุนของเขา กำลังจะกลับมาสะท้านห้าภูมิภาคอีกครั้ง!

“บรรพชน ครั้งนี้คงต้องรบกวนท่านแล้ว

แดนศักดิ์สิทธิ์เล็กๆกล้าท้าทายสำนักชิงหยุนของเรา จัดการพวกมันให้ราบเรียบเสียเถิด”

เฟิงชิงหยางเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สีหน้าไม่แปรเปลี่ยนแม้แต่น้อย

ราวกับการบดขยี้แดนศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ไม่คู่ควรแก่การใส่ใจ

หากคำพูดเช่นนี้ล่วงรู้ไปถึงผู้คนในภาคตะวันออก พวกเขาคงอยากหาเต้าหู้มาโขกหัวตัวเองจนตาย

พี่ใหญ่ นั่นมันแดนศักดิ์สิทธิ์นะ!

แดนศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งแห่งภาคตะวันออก ที่ครองความยิ่งใหญ่มาหลายพันปี เจ้าจะใจเย็นเกินไปแล้ว!

ไม่เห็นหรือว่าตอนนี้ทั้งภาคตะวันออกกำลังปั่นป่วนเพราะการเผชิญหน้าระหว่างพวกเจ้าอยู่

แต่ก็อย่างว่า โลกของผู้แข็งแกร่งนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เราจะเข้าใจได้

ความไร้เทียมทาน…ช่างเป็นความโดดเดี่ยวเสียจริง!

“ท่านเจ้าสำนักวางใจได้ แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ต่างอะไรจากสัตว์เลื้อยคลานเช่นนั้น ไม่มีค่าให้กล่าวถึง

ข้าจะบดขยี้พวกมันให้กลายเป็นผุยผงในทันที!”

ผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์หลี่ชิงซวน ที่นั่งอยู่ด้านล่างถึงกับตัวสั่นเล็กน้อย

แดนศักดิ์สิทธิ์ในสายตาของบรรพชนกลายเป็นเพียงสัตว์เลื้อยคลาน?

จู่ๆ เขารู้สึกเหมือนโดนพาดพิง

ยังดีที่แดนศักดิ์สิทธิ์หยู้ตานของพวกเราเข้าร่วมกับสำนักชิงหยุนแต่เนิ่นๆ มิฉะนั้น ก็คงไม่ต่างอะไรกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเซิ่งที่กำลังจะถึงจุดจบ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด