ตอนที่แล้วตอนที่ 82 ปั่นป่วนทั่วภาคตะวันออก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 84 บรรพชนปรากฏกายอีกคราในโลกหล้า

ตอนที่ 83 ผู้ใดลบหลู่สำนักชิงหยุน ข้าจักสังหาร!


ตอนที่ 83 ผู้ใดลบหลู่สำนักชิงหยุน ข้าจักสังหาร!

ในขณะนี้

ข่าวนี้ก็ได้แพร่สะพัดมายังแคว้นหลิงโจว

“ว่าอย่างไรนะ? แดนศักดิ์สิทธิ์กล้าประกาศว่าจะเหยียบย่ำ สำนักชิงหยุนให้พินาศ?”

“ช่างกล้าหาญนัก! ข้าคิดว่าใครจะกล้าทำกัน สำนักไอ่คุน ของข้าขอเป็นสำนักแรกที่ไม่ยอมรับ!”

“พอเถอะพี่น้อง เรื่องนี้เป็นการชิงอำนาจระหว่างขุมอำนาจใหญ่เจ้าสำนักเล็กๆระดับสามอย่างเจ้าจะยุ่งอะไรด้วย?”

“เจ้ากล้าดูถูก สำนักไอ่คุน ของข้าหรือ? รอดูเถิด ข้าจะส่งคนไปโจมตีสำนักเจ้าตอนนี้เลย!”

ส่วนทางด้านแคว้นซวนโจว ในแดนศักดิ์สิทธิ์หยู้ตานก็ประกาศจุดยืนเช่นกัน

ตัดขาดการส่งมอบโอสถทั้งหมดให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเซิ่ง

พร้อมทั้งเรียกร้องให้เหล่าปรมาจารย์หลอมโอสถในภาคตะวันออก หากใครกล้าหลอมโอสถให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเซิ่ง จะถูกยึดถอนฐานะปรมาจารย์หลอมโอสถแห่งภาคตะวันออกทันที

ยิ่งไปกว่านั้น โอสถที่กำลังปรุงให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเซิ่ง ในตอนนี้พวกเขายึดเอามาใช้เองทั้งหมด!

….

สำนักชิงหยุน ณ หอชิงหยุน

เฟิงชิงหยางนั่งอยู่บนบัลลังก์สูงสุด

ดวงตาของเขาเปล่งประกายม่วงเจิดจ้าอย่างน่าอัศจรรย์ ผมยาวสลวยดุจสายน้ำตก

ใบหน้าคมคายที่มีคิ้วดาบและดวงตาเหมือนดาราไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

แม้เขาจะไม่ได้เผยพลังหรืออำนาจใดออกมา แต่แรงกดดันของผู้สูงศักดิ์ที่แผ่ออกมากลับทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าสบสายตา

“ถึงขอบเขตปราชญ์ขั้นปลายแล้วสินะ

ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก สมแล้วที่เป็นกายาเทพเอกะจักรวาล ความเร็วในการบ่มเพาะเช่นนี้ หากข้านับเป็นที่สอง ผู้ใดกล้าประกาศตัวเป็นที่หนึ่ง?”

ในเวลาเพียงไม่กี่วันจากการบ่มเพาะอย่างตั้งใจของเขา ระดับพลังบ่มเพาะของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

จากขอบเขตปราชญ์ขั้นต้น สู่ ขั้นปลาย ในระยะเวลาอันสั้น

ต้องรู้ว่ากระบวนการดูดซับ แหล่งพลังศักดิ์สิทธิ์ นั้นช้าอย่างยิ่ง

หากเป็นยอดฝีมือทั่วไปในขอบเขตปราชญ์ แม้แต่การยกระดับเพียงขั้นเดียว ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก

【“ติ๊ง! แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเซิ่ง ลบหลู่สำนักชิงหยุน และลบหลู่นายท่าน เช่นนี้ยังจะทนได้หรือ? ศักดิ์ศรีของสำนักเทพอันดับหนึ่งของมหาจักรวาลในอนาคตจะไปอยู่ที่ใด?”】

【“โปรดให้นายท่านส่งยอดฝีมือออกไปกวาดล้างพวกมันโดยเร็ว ขอแจ้งให้ทราบว่า หากทำลายพวกมันได้สำเร็จ ภารกิจชื่อกระฉ่อนแดนตะวันออกจะเสร็จสิ้น พร้อมรับรางวัลมหาศาล”】

“ฮึ คำนี้แหละที่ข้ารอคอย”

เมื่อหนึ่งวันก่อน ผู้อาวุโสมู่ซุยเซียนได้มารายงานว่าไพ่ตายที่นางทิ้งไว้ให้สือฮ่าวพวกเขาถูกใช้งานไปแล้ว

และ แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเซิ่งยังกล้าท้าทายพวกเขา

เช่นนี้ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่

“ข้ารอคำตอบจากระบบ ส่วนพวกมันรออะไรอยู่? หรือรอความตายกัน?”

“เปิดแผงส่วนตัว”

เจ้าสำนัก: เฟิงชิงหยาง

•ขอบเขต: ปราชญ์ขั้นปลาย

•ศิษย์:

•หลินไป๋

•สือฮ่าว

•ฮวาชิงหยู

•ร่างกาย: กายาเทพเอกะจักรวาล

ผู้แข็งแกร่งประจำสำนัก

•บรรพชนหลี่ชิงหยุน: ขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุด

•ผู้อาวุโสคุ้มกันหวังเสวียน: ขอบเขตปราชญ์ขั้นสูงสุด

•ผู้อาวุโสสายนอก:

•เย่ไป๋

•มู่เทียน

•มู่เฟิง (ทั้งหมดอยู่ในขอบเขตปราชญ์ขั้นสูงสุด)

•ผู้คุ้มกัน 5 คน: ขอบเขตเบิกฟ้าขั้นสูงสุด

ผู้อาวุโสสายใน

•มู่ซุยเซียน: ขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด

•หลัวเฉิน: ขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้น

•ผู้อาวุโสคุมกฎหลัวอู่เต้า: ขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้น

•ผู้อาวุโสหอคัมภีร์เนี่ยห่ายหลง: ขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้น

•ผู้อาวุโสหอโอสถโม่เวิ้น: ขอบเขตมหาปราชญ์ขั้นสูงสุด

ผู้อาวุโสพิทักษ์

•หลงเสีย: ขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด

•อสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่: ขอบเขตปราชญ์ (ระดับเก้า)

จำนวนศิษย์ในสำนัก

•ศิษย์สายนอก: 600 คน

•ศิษย์รับใช้: 1,400 คน

สำนัก

•ชื่อ: สำนักชิงหยุน

•ระดับ: ระดับ 1 (15,000/10,000)

(พร้อมอัปเกรด)

ดี! ตอนนี้ในที่สุด สำนักระดับสองก็กำลังจะอัปเกรดได้เสียที

ช่วงที่ผ่านมาเขาบ่มเพาะพลังอย่างตั้งใจ เพราะระบบแอบบอกเขาว่า หากนายท่านแข็งแกร่งขึ้น บุคคลที่ถูกอัญเชิญมาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นตาม

(ผู้ที่ถูกอัญเชิญมา นอกจากจะแข็งแกร่งด้วยการบ่มเพาะเองแล้ว เมื่อเฟิงชิงหยางทะลวงระดับ พวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นตามๆกัน)

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับของยอดฝีมือที่ถูกเรียกมาด้วย

น่าจะบอกกันให้เร็วกว่านี้

เฟิงชิงหยางเปิดดู ร้านค้าแต้มชื่อเสียง อีกครั้ง

แต้มชื่อเสียงพุ่งขึ้นจาก 500,000 เป็น 700,000 แล้ว

ดี ดี! ใกล้บรรลุเป้าหมายเล็กๆเข้าไปทุกที

เพื่อให้ได้ยอดฝีมือขอบเขตมหาจักรพรรดิมาเป็นผู้ติดตาม เขาต้องพยายามมากกว่านี้

ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมสรรพ เหลือแค่บดขยี้แดนศักดิ์สิทธิ์ให้สิ้นซากเท่านั้น

ในขณะเดียวกัน

ภายในสำนักชิงหยุน

เหล่าศิษย์ต่างฮึกเหิมเต็มเปี่ยม

“ใครกล้ามาอวดดีต่อสำนักชิงหยุนของเรา?”

“ข้าศิษย์แห่งพรรคระเบิดฟ้าของสำนักชิงหยุนขอเป็นคนแรกที่ไม่ยอมรับ!”

“เหอะ อะไรคือแดนศักดิ์สิทธิ์ ขี้หมานั่น? ในอดีตชาติข้าเป่าลมทีเดียวก็ฆ่ามันหมดได้ทั้งแผ่นดิน แม้ในชาตินี้ ขอแค่ให้ข้าอีกไม่กี่สิบปี ก็เหยียบพวกมันจนแหลกได้เหมือนกัน!”

ฉินหานคิดเงียบๆในใจ

เขารู้สึกผูกพันกับสำนักชิงหยุนเป็นอย่างมาก

การได้เข้าร่วมสำนักเช่นนี้ นับเป็นเกียรติอันใหญ่หลวงของชีวิต!

อีกด้านหนึ่ง

“ท่านอาจารย์ ท่านเคยได้ยินเกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์นี้หรือไม่?”

“ข้าพอจะรู้มาบ้าง แต่แดนศักดิ์สิทธิ์ เช่นนี้ไม่ควรค่าแก่ความกังวล”

ในชาติก่อนเขาไม่เคยใส่ใจดินแดนเหล่านี้เลย ในฐานะผู้อาวุโสแห่งสำนักโอสถ แดนศักดิ์สิทธิ์ในภาคตะวันออกยังไม่คู่ควรต่อสายตา

ไม่ใช่ว่าเขาเพียงตบทีเดียวจะฆ่าล้างได้ แต่หากเพียงปล่อยข่าวในภาคกลาง จะมีคนจำนวนมากพร้อมกระโจนเข้ามาทำงานแทนเขา

ผู้พูดคือ ตานชิง และศิษย์ของเขา หนิงเหยียน

ตั้งแต่ แดนศักดิ์สิทธิ์หยู้ตาน เข้าร่วมกับสำนักชิงหยุน ภาระงานของเขาก็ลดลงมาก

เพราะต่อให้เขาอยากเร่งสร้างผลงาน ก็ไม่มีโอกาสแข่งขันเลย

เหล่าปรมาจารย์หลอมโอสถของแดนศักดิ์สิทธิ์หยู้ตานต่างคลั่งไคล้การหลอมโอสถอย่างน่ากลัว

แต่หากพูดถึงความเร็วในการหลอมโอสถ เขาที่ใช้มือหลอมโอสถมานับพันปี ย่อมไม่เคยสูญเสียความชำนาญแม้แต่น้อย

ในสถานที่แห่งหนึ่ง เสียงโหมประณามดังขึ้นกึกก้อง

ข้อที่หนึ่งของกฎสำนักชิงหยุน: ผู้ใดล่วงเกินสำนัก แม้อยู่ไกลเพียงใดต้องถูกสังหาร!

ในขณะนี้

หอชิงหยุน

เหล่าผู้อาวุโสชุมนุมกัน

พลังอันมหาศาลปกคลุมไปทั่วทั้งหอ

แต่ละคนล้วนไม่ธรรมดา หากนำไปตั้งตัวในภาคตะวันออก ย่อมสามารถสะเทือนไปทั้งแผ่นดินด้วยการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย

บริเวณชั้นนอกสุดมี ผู้อาวุโสสายนอกและผู้อาวุโสฝ่ายคุ้มกัน ซึ่งล้วนเป็นยอดฝีมือขอบเขตปราชญ์ขั้นสูงสุดทั้งสี่นั่งอยู่

ถึงแม้จะทรงพลังในสายตาของคนทั่วไป แต่ก็ยังไม่ถือว่าอยู่ในระดับสูงของสำนักชิงหยุน

ถัดเข้ามาคือ ห้าผู้ทรงพลังขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ ผู้อาวุโสสายในมู่ซุยเซียน, หลัวเฉิน, ผู้อาวุโสคุมกฎหลัวอู่เต้า, ผู้อาวุโสหอคำภีร์เนี่ยห่ายหลง และผู้อาวุโสพิทักษ์หลงเสีย

นอกจากนี้ยังมี ผู้อาวุโสหอโอสถโม่เวิ้น, ผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์หลี่ชิงซวน นั่งอยู่เคียงข้างพวกเขา

รวมทั้งหมดสิบเอ็ดยอดฝีมือ ผู้เป็นกระดูกสันหลังของสำนักชิงหยุน

แม้แต่ละคนจะเปี่ยมไปด้วยพลังและบารมี แต่สายตาของพวกเขากลับจ้องมองด้วยความเคารพไปยัง ท่านเจ้าสำนักที่ประทับอยู่บนบัลลังก์สูงสุด

ในใจของพวกเขา ท่านเจ้าสำนักคือบุคคลที่ทั้งลึกลับและทรงพลังที่สุด

ผู้ควบคุมชะตากรรมของสำนักทั้งหมด ผู้ครอบครองสมบัติเซียน และเป็นผู้ที่เฝ้ามองทั่วทั้งแผ่นดินจากเบื้องบน

ความสำเร็จในวันนี้ของพวกเขา ล้วนเป็นเพราะการสนับสนุนจากเจ้าสำนักทั้งสิ้น

เฟิงชิงหยางนั่งอยู่บนบัลลังก์หลัก มองลงมายังเหล่าผู้อาวุโสด้านล่าง

ความภาคภูมิใจอันลึกซึ้งพลันเกิดขึ้นในใจ

หลังจากพากเพียรมากว่าหนึ่งเดือน ความก้าวหน้าของสำนักชิงหยุน ทุกคนล้วนได้เห็นด้วยตาตนเอง

เหล่าปราชญ์เป็นผู้อาวุโส เหล่าอัจฉริยะปีศาจเป็นศิษย์

สายตรง

มีบรรพชนขอบเขตมหาจักรพรรดิหนุนหลัง รวมทั้งตัวเขาเองซึ่งเป็นผู้มีระบบช่วยเหลือ

มองไปทั่วทั้งห้าภูมิภาค มีผู้ใดกล้าดูแคลนได้อีก?

บัดนี้ถึงเวลาเข้าสู่โลกภายนอกอย่างแท้จริงแล้ว

ให้เหล่าตัวตลกทั้งหลายได้ประจักษ์ว่า การลบหลู่เกียรติแห่งชิงหยุน จะมีจุดจบเช่นใด!

เสียงอันทรงอำนาจของเฟิงชิงหยางดังกึกก้องไปทั่ว

"ผู้ใดลบหลู่ชิงหยุน สังหาร!"

"สังหาร! สังหาร!"

เหล่าผู้อาวุโสลุกขึ้นยืนพร้อมกัน เปล่งเสียงสนับสนุน

เสียงอันกึกก้องสะท้อนก้องไปทั่วเทือกเขาชิงหยุน

แม้แต่ผู้บ่มเพาะที่กำลังขะมักเขม้นสร้างเมืองชิงหยุน ก็ยังตกใจ

นี่จะมีเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ใดเกิดขึ้นอีกหรือ?!

เหล่าศิษย์แห่งสำนักชิงหยุนต่างฮึกเหิมเต็มที่ พลังใจพุ่งทะยานถึงขีดสุด

ท่านเจ้าสำนักได้ตัดสินใจเปิดศึกกับแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด