ตอนที่แล้วตอนที่ 70 แดนศักดิ์สิทธิ์ยอมสวามิภักดิ์ ชื่อเสียงสะท้านทั่วแคว้นซวนโจว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 72 แดนลับเซิ่งเสวียน ข้าคือจักรพรรดิทมิฬ

ตอนที่ 71 ปรมาจารย์หลอมโอสถแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เดินทางสู่ชิงหยุน


ตอนที่ 71 ปรมาจารย์หลอมโอสถแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เดินทางสู่ชิงหยุน

อีกสองวันครึ่งถัดมา

สำนักชิงหยุน หอเจ้าสำนัก

เฟิงชิงหยางกำลังตั้งใจเริ่มต้นการบ่มเพาะประจำวัน

ในเมื่อบรรลุถึงขอบเขตปราชญ์แล้ว จะปล่อยให้ตนเองเฉื่อยชาไปกว่านี้มิได้

เขาเป็นถึงเจ้าสำนักของสำนักอันยิ่งใหญ่

แม้จะไม่ต้องเป็นแบบอย่างเลิศล้ำ แต่ยังไงก็ต้องแสดงความพยายามให้สมฐานะบ้าง

เหล่าผู้เยาว์อัจฉริยะจากภาคกลางทั้งหลาย ตอนนี้คงเข้าสู่ขอบเขตแปรวิญญาณกันหมดแล้ว ส่วนพวกยอดอัจฉริยะคงไม่แคล้วบรรลุถึงขอบเขตสร้างวิญญาณ

แต่ดูเขาสิ ยังอยู่แค่ขอบเขตปราชญ์เท่านั้น…

ขอบเขตการบ่มเพาะนั้นแบ่งออกเป็น

หลอมรวม

ก่อตั้งรากฐาน

แก่นทองคำ

วิญญาณแรกกำเนิด

แปรวิญญาณ

สร้างวิญญาณ

ผู้ไร้มลทิน

เบิกฟ้า

ปราชญ์

ปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์

มหาปราชญ์

ราชันปราชญ์

จักรพรรดิ

มหาจักรพรรดิ

(ถึงผู้เขียนไม่ค่อยเน้นย้ำ แต่ผู้แปลจะเน้นย้ำขอบเขตบ่มเพาะตลอดจนกว่าจะจำได้)

ในขณะที่เฟิงชิงหยางกำลังจะหลับตาเริ่มต้นการบ่มเพาะ

[“ติ๊ง! นายท่านมีข้อมูลล่าสุดที่ต้องอัปเดต”]

เจ้าสำนัก: เฟิงชิงหยาง

•ขอบเขต: ปราชญ์ขั้นต้น

•ศิษย์:

•หลินไป๋

•สือฮ่าว

•ฮวาชิงหยู

•ร่างกาย: กายาเทพเอกะจักรวาล

ผู้อาวุโสสายใน

•มู่ซุยเซียน: ขอบเขตปราชญ์

•หลัวเฉิน: กึ่งปราชญ์

•ผู้อาวุโสคุมกฎ หลัวอู่เต้า: ขอบเขตปราชญ์ขั้นสูงสุด

•ผู้อาวุโสหอคัมภีร์ เนี่ยห่ายหลง: ขอบเขตปราชญ์ขั้นสูงสุด

•ผู้อาวุโสฝ่ายหลอมโอสถ โม่เวิ้น: ขอบเขตมหาปราชญ์ขั้นสูงสุด

ผู้อาวุโสพิทักษ์

•หลงเสีย: ขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด

อสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้ช่วยงาน

•อสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่: ขอบเขตปราชญ์ (ระดับเก้า)

สำนัก

•ชื่อ: สำนักชิงหยุน

•ระดับ: ระดับหนึ่ง (9995/10000)

“แต้มสำนัก 9995?”

“เจ้ามาล้อข้าหรืออย่างไร ระบบ!”

บ้าจริง! ครั้งหน้าคงไม่อัปเป็น 9999 แล้วมาหยอกกันอีกหรอกใช่ไหม? เจ้าจะมาเล่นตลกแบบลดราคากันทำไม!

เฟิงชิงหยางมองปราดเดียวก็เห็นว่า แต้มสำนักเพิ่มขึ้นจาก 9500 มาเป็น 9995

นี่ถ้าจะอัปเกรดเป็นสำนักระดับสอง คงต้องรอกันถึงปีวอกแน่แท้!

เฟิงชิงหยางเปิดดูหมวดแต้มชื่อเสียง

พบว่าแต้มชื่อเสียงเพิ่มขึ้นถึงห้าแสนเต็มๆ

การเพิ่มขึ้นของแต้มชื่อเสียงถือว่ารวดเร็วและรุนแรงนัก

นั่นก็ใช่ ตอนนี้ชื่อเสียงของสำนักชิงหยุนได้แพร่สะพัดไปทั่วทุกแคว้น

ในสิบสามแคว้นแห่งภาคตะวันออก กว่าครึ่งถูกอำนาจของสำนักชิงหยุนกดข่ม

แม้แต่แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า สำนักชิงหยุนก็ทำให้สามแห่งก้มหัว และอีกหนึ่งแห่งยอมสวามิภักดิ์

ส่วนแห่งสุดท้าย…

วันไหนไม่สบอารมณ์ ก็คงไม่ไว้หน้ากันเช่นกัน

“แต้มชื่อเสียงเท่านี้ ถ้าสะสมอีกหน่อย คงพอแลกผู้แข็งแกร่ง

ขอบเขตมหาจักรพรรดิได้แล้ว”

เฟิงชิงหยางคิดคำนวณในใจ

ผู้แข็งแกร่งขอบเขตมหาจักรพรรดิ ยิ่งมีมากยิ่งดี เพราะในตระกูลมหาจักรพรรดิที่แข็งแกร่ง ตระกูลโบราณ หรือสายตระกูลแห่งยุคปฐมกาลในภาคกลาง คาดว่าย่อมต้องมีมหาจักรพรรดิประจำการอยู่

เพียงแต่บุคคลเหล่านั้นอาจไม่ย่างกรายออกจากโลกภายนอก

แน่นอน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาของเขาเองเท่านั้น

ด้วยเวลาที่เขามายังโลกแห่งนี้เพียงหนึ่งเดือนครึ่ง ยังไม่อาจเข้าใจในดินแดนนอกเหนือจากภาคตะวันออกได้อย่างถ่องแท้

ในขณะนี้

ที่ตีนเขาของสำนักชิงหยุน

หลี่เยียนจือกำลังรอใครบางคนอยู่

นางเงยหน้ามองไปยังที่ไกลเป็นระยะ

“มาแล้ว!”

เพียงเห็นเรือรบขนาดมหึมาลำหนึ่งแล่นมาจากที่ไกล ก่อนจะหยุดลงที่ตีนเขาสำนักชิงหยุน

หลี่เยียนจือได้ส่งข้อความแจ้งเตือนล่วงหน้าไว้แล้วว่า บริเวณนี้เป็นเขตห้ามบิน

หากไม่ได้บอกล่วงหน้า

เกรงว่าเรือรบของแดนศักดิ์สิทธิ์อาจถูกผู้แข็งแกร่งในสำนัก ใช้เพียงฝ่ามือเดียวบดขยี้จนแหลกเป็นชิ้นๆ

และหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริง คงเหมือนมังกรพิโรธน้ำท่วมศาลเจ้าตนเอง

บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นผู้มีพรสวรรค์ในการหลอมโอสถเพื่อสำนัก

เหล่าปรมาจารย์หลอมโอสถจากแดนศักดิ์สิทธิ์ทยอยลงจากเรือรบ โดยมี หลี่ชิงซวน ผู้เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้นำ

เขาเป็นถึงปราชญ์โอสถ-ปรมาจารย์หลอมโอสถระดับเก้า และเดินทางมายังสำนักหลักด้วยตนเอง เพราะทางแดนศักดิ์สิทธิ์มีปรมาจารย์ระดับบรรพชนประจำการอยู่เพียงพอ

ในใจเขาก็อยากมาเห็นความยิ่งใหญ่ของสำนักหลักด้วยตาตนเอง ว่าจะทรงอำนาจสมคำร่ำลือจากหลี่เยียนจือหรือไม่

ทันทีที่กลุ่มคนลงจากเรือรบ ก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่ทำให้จิตใจปลอดโปร่ง และพลังวิญญาณบริสุทธิ์ที่ปะทะเข้ามา

ราวกับสำนักชิงหยุนแห่งนี้ เป็นแดนเซียนอันศักดิ์สิทธิ์โดยแท้จริง

“สวรรค์! ที่นี่พลังวิญญาณช่างเข้มข้นนัก!”

“ไม่คาดคิดเลยว่าในดินแดนหลิงโจวจะมีสถานที่อันยอดเยี่ยมเช่นนี้ สมแล้วที่เป็นสถานที่ที่สำนักหลักปักหลักอยู่ พลังวิญญาณที่นี่เข้มข้นกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราหลายเท่า”

“หากได้หลอมโอสถที่นี่ ข้าคงเพิ่มโอกาสสำเร็จในการหลอมโอสถได้อีกสามส่วน”

ปรมาจารย์หลอมโอสถระดับห้าจากแดนศักดิ์สิทธิ์เอ่ยขึ้นด้วยความตกตะลึง เขาคือปรมาจารย์หลอมโอสถระดับห้า หากการหลอมโอสถแต่ละครั้งสามารถเพิ่มโอกาสสำเร็จได้ถึงสามส่วน การก้าวหน้าบนเส้นทางโอสถของเขาย่อมพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว

“หากปรมาจารย์ของสำนักชิงหยุนมาเร็วกว่านี้ก็คงดีไม่น้อย…”

ครั้งนี้แดนศักดิ์สิทธิ์หยู้ตานได้ส่งปรมาจารย์หลอมโอสถมาจำนวนมาก โดยเฉพาะปรมาจารย์ระดับสี่ขึ้นไปที่ถูกเรียกรวมตัวทั้งหมด

ปรมาจารย์หลอมโอสถระดับสี่ จำนวน 30 คน

ระดับห้า จำนวน 20 คน

ระดับหก จำนวน 15 คน

ระดับเจ็ด จำนวน 10 คน

ระดับแปด จำนวน 3 คน

ส่วน ระดับเก้าหรือปราชญ์โอสถ คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์และอาวุโสใหญ่ รวมกัน 2 คน

นี่คือต้นทุนและรากฐานที่แท้จริงของแดนศักดิ์สิทธิ์

ควรทราบว่า วิถีโอสถนั้นมิใช่เรื่องง่ายดายแต่อย่างใด

เพราะไม่เพียงแต่ต้องพึ่งพาขอบเขตการบ่มเพาะเท่านั้น การหลอมโอสถในระดับสูงยังต้องอาศัยพลังจิตวิญญาณที่สอดคล้องกับระดับโอสถที่หลอม ซึ่งหมายถึงพลังวิญญาณโดยตรง

ยิ่งพลังจิตแข็งแกร่ง พลังวิญญาณก็ยิ่งทรงพลัง

ทั้งนี้ยังต้องขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ด้านการหลอมโอสถของแต่ละคนด้วย

หากไร้พรสวรรค์ แม้ใช้ชีวิตจนถึงบั้นปลาย ก็อาจไม่อาจก้าวข้ามระดับปรมาจารย์หลอมโอสถขั้นสองได้ และอาจต้องติดอยู่ในขั้นหนึ่งหรือระดับที่ไม่เป็นที่ยอมรับไปตลอดชีวิต

สามารถกล่าวได้ว่า เส้นทางของโอสถนั้นต้องพึ่งทั้งการฝึกตนและพรสวรรค์ควบคู่กัน

ปัจจุบันแดนศักดิ์สิทธิ์ยังเหลือเพียงเหล่าผู้อาวุโส ศิษย์ และผู้แข็งแกร่งบางส่วนที่ยังประจำการอยู่

ขณะที่ทุกคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์หยู้ตานทยอยลงจากเรือรบ

และเมื่อมองเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เดินนำหน้ามา

“ท่านพ่อ!”

หลี่เยียนจือร้องเรียกเสียงดังจากระยะไกล

“เยียนเอ๋อร์!”

หลี่ชิงซวนเห็นบุตรสาวของตนอยู่ไม่ไกลนัก

เขารีบเร่งก้าวเข้าไปหาทันที

เหล่าปรมาจารย์หลอมโอสถแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์หยู้ตานต่างเดินตามเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างเป็นระเบียบ

“ท่านผู้อาวุโส ผู้คนเหล่านี้คือเหล่าปรมาจารย์หลอมโอสถแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์หยู้ตาน

พวกเราปฏิบัติตามคำสั่งของท่านเจ้าสำนัก เดินทางมายังสำนักชิงหยุน

หลี่เยียนจือหันไปกล่าวกับผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างกาย

“อืม เบื้องบนได้สั่งการไว้แล้ว

พวกท่านขึ้นเขาไปได้เลย”

ผู้คุ้มกันที่เฝ้าประตูได้รับคำสั่งจากผู้อาวุโสแล้วว่า เหล่าปรมาจารย์หลอมโอสถแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์หยู้ตานจะเดินทางมาถึงในวันนี้

หน้าที่ของเขาคือเปิดทางให้พวกเขาเดินทางขึ้นไปโดยไม่ขัดขวาง

ไม่นานนัก

สำนักชิงหยุน

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์หลี่ชิงซวนพร้อมด้วยเหล่าปรมาจารย์หลอมโอสถแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดินตามหลี่เยียนจือเข้าสู่ภายในสำนัก

ทันทีที่ก้าวเข้าสู่เขตสำนัก ราวกับพวกเขาได้เข้าสู่โลกอีกใบ

แดนเซียน!

พลังวิญญาณที่เข้มข้นและลึกล้ำถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง!

ก่อนหน้านี้ พวกเขาเพิ่งถูกตะลึงไปกับบันไดสวรรค์มายาที่ทอดยาวสู่ชั้นเมฆ

ไม่คาดคิดว่าเบื้องหลังประตูของสำนักนี้ จะมีความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่มากมายยิ่งกว่านั้น

พลังวิญญาณที่นี่เข้มข้นขึ้นอีกหลายสิบเท่า จนกลายเป็นละอองสายฝนโปรยปราย

หอและอาคารที่ตั้งเรียงราย งดงามราวภาพวาด แผ่นป้ายชื่อประดับหอถูกจารึกด้วยอักขระที่เปี่ยมด้วยร่องรอยแห่งมหาวิถี

ทุกฉากที่ปรากฏภายในสำนักชิงหยุน สร้างความตื่นตะลึงและตรึงลึกในใจของพวกเขา

ราวกับทำลายขอบเขตความเข้าใจเดิมๆที่พวกเขาเคยมี

ถึงแม้พวกเขาจะมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ และไม่ได้เป็นคนที่ขาดประสบการณ์หรือไร้ความรู้ แต่สิ่งที่พบเจอในวันนี้กลับเหนือกว่าทุกสิ่งที่พวกเขาเคยเห็นมา

ในเวลานี้ พวกเขาก็เหมือนกับชาวบ้านที่หลงเข้าไปในสวนสวรรค์ หรูหราจนตะลึงลาน

สำนักหลักแห่งนี้ช่างเกินกว่าที่ใครจะคาดคิดได้จริงๆ

ไม่แปลกใจเลยที่สำนักแห่งนี้จะมีผู้แข็งแกร่งมากมายเช่นนั้น!

พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรำพึงออกมาในใจ

“ท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ตัดสินใจได้เฉียบแหลมนัก!”

หากได้หลอมโอสถในสถานที่เช่นนี้ ต่อให้ต้องทำงานหนักแค่ไหน พวกเขาก็ยินดีนับหมื่นครั้ง

หลี่เยียนจือที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นปรมาจารย์หลอมโอสถจากแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ซึ่งเมื่อครั้งอยู่ที่นั่นต่างเต็มไปด้วยความหยิ่งทะนง บัดนี้กลับตกตะลึงจนแทบจะตั้งคำถามกับชีวิตตัวเอง

นางแทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่

เมื่อครั้งแรกที่นางมาเยือนสำนักหลักแห่งนี้ ตัวนางเองก็เช่นกัน ตื่นตะลึงจนเหมือนถูกเปิดโลกใบใหม่

“ที่เยียนเอ๋อร์พูดไว้ ไม่ผิดเลยจริงๆ!”

“นี่แหละคืออำนาจแห่งบารมี เมื่อทำตามกระแสแห่งความยิ่งใหญ่ สำนักชิงหยุนย่อมทะยานสู่ฟ้าไร้ขอบเขต”

หลี่ชิงซวนรำพึงในใจด้วยความซาบซึ้ง

“ไปเถิด ท่านพ่อ ข้าจะพาท่านและทุกคนไปยังหอโอสถ ผู้อาวุโสกำลังรออยู่ที่นั่น”

หลี่เยียนจือกล่าวพร้อมนำทางไปยังสถานที่อันทรงเกียรติอีกแห่งในสำนักชิงหยุน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด