(อ่านฟรีชั่วคราว) บทที่ 1318 ระเบิดการบำเพ็ญเพียรครั้งใหญ่

หลังจากสนทนากับเฉินเซี่ยจบ เหวินผิงเปิดรายการสิ่งปลูกสร้าง และเพิ่มการสร้างเขตหอพักพร้อมทั้งวางแผนสร้างสิ่งปลูกสร้างพื้นฐานอีกชุดหนึ่ง เช่น อาคารบำเพ็ญเพียรที่มีสนามแรงโน้มถ่วงเป็นต้น

สิ่งเหล่านี้ในตอนนี้แทบไม่เป็นการสิ้นเปลืองอะไรนัก เพราะหลายอย่างไม่ต้องใช้แม้แต่ค่าชื่อเสียง ใช้เพียงหินวิญญาณเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุด เหวินผิงยังตั้งใจจะอัปเกรดศาลาทิงอี่เพื่อเพิ่มพลังให้อัศวินปีศาจของเขา ปัจจุบันอัศวินปีศาจยังค่อนข้างอ่อนแอ แม้จะพอเพียงสำหรับการปกป้องเมืองชางอู๋ แต่ยังไม่สามารถรับมือกับปัญหาอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่

เมื่อพลังเพิ่มขึ้น อัศวินปีศาจเหล่านี้จะสามารถรับหน้าที่เพิ่มเติมได้ เช่น การลาดตระเวนศาลาจื่อฉี เพื่อสร้างความมั่นใจในความมั่นคงของศาลาจื่อฉีและความปลอดภัยของสมาชิกภายใน แม้ตอนนี้จะไม่มีใครกล้าก่อความวุ่นวายในศาลาจื่อฉี แต่การเตรียมพร้อมย่อมดีกว่าการปล่อยให้เกิดปัญหาโดยไม่มีการวางแผน

ทันใดนั้น

ข้อความระบบปรากฏขึ้นมา

【ภารกิจหลักสำเร็จ!】

【เป้าหมายภารกิจ: ทำลายหอปกฟ้าหรือครอบครองหอปกฟ้า – สำเร็จ!】

【ได้รับรางวัล: ค่าชื่อเสียงห้าแสน พร้อมทั้งปลดล็อกระเบิดการบำเพ็ญเพียรครั้งใหญ่ของสำนัก (ระยะเวลา 1 ปี)】

【ต้องการเปิดใช้งานระเบิดการบำเพ็ญเพียรครั้งใหญ่ของสำนักหรือไม่?】

【หลังจากเปิดใช้งานระเบิดการบำเพ็ญเพียรครั้งใหญ่ของสำนัก สมาชิกอย่างเป็นทางการทั้งหมดจะได้รับผลดังนี้: ความเข้าใจเพิ่มขึ้นสิบเท่า พรสวรรค์เพิ่มขึ้นสิบเท่า ความเร็วในการบำเพ็ญเพียรเพิ่มขึ้นสามสิบเท่า และสำหรับผู้อาวุโสขึ้นไปจะได้รับผลที่เพิ่มเป็นสองเท่า แม้จะอยู่นอกสำนักผลก็ยังคงมีอยู่】

“เสร็จแล้วหรือ?” เหวินผิงประหลาดใจเล็กน้อย “หอปกฟ้ายังอยู่ไม่ใช่หรือ?”

เดิมทีเขาคิดว่าการทำลายหอปกฟ้าคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสำเร็จ

ระบบอธิบาย [โฮสต์ได้ทำลายเสาหลักทั้งหมดของหอปกฟ้าแล้ว อีกทั้งอาณาจักรเกิ้นและหอจิ้นจือก็ทำลายกำลังใจของผู้คนไปครึ่งหนึ่ง ผลลัพธ์จึงถือว่าสำเร็จแล้ว]

“เจ้าช่างใจกว้างยิ่งนัก”

นี่สิ ถึงจะเรียกว่าระบบที่ดี ไม่เช่นนั้นกว่าหอปกฟ้าจะล่มสลายโดยสมบูรณ์ คงต้องรอไปอีกหลายปี ซึ่งในเวลานั้นเขาอาจไม่จำเป็นต้องใช้ค่าชื่อเสียงห้าแสนนี้แล้ว

แต่ในตอนนี้ เขาจำเป็นต้องใช้มันอย่างมาก!

ค่าชื่อเสียงห้าแสนนี้จะช่วยให้ยอดสะสมของเขาทะลุหนึ่งล้าน และเพิ่มเป็นหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นกว่า ซึ่งเพียงพอสำหรับการสร้างหอปิดฟ้าได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ แม้ตอนนี้จะมีหอทมิฬอยู่แล้ว แต่เหวินผิงยังตัดสินใจสร้างหอปิดฟ้า

“ยังไม่รับรางวัลในตอนนี้” เหวินผิงกล่าวพลางเปิดรายการสิ่งปลูกสร้างในระบบ

【หอปิดฟ้า】

【ระดับ: อาคารลับระดับโลกา】

【ราคาก่อสร้าง: ค่าชื่อเสียงหนึ่งล้าน】

【คุณสมบัติ: มีฟังก์ชันเดี่ยว แต่สามารถป้องกันการสอดแนมระยะไกลทุกรูปแบบ】

【หมายเหตุ: เมื่อเข้าใกล้ช่องเขาเฉาเทียนในระยะหนึ่งแสนลี้ หอปิดฟ้าจะสูญเสียประสิทธิภาพ】

“สร้างเลย!”

เหวินผิงไม่ลังเลที่จะตัดสินใจ ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นย่อมคุ้มค่า

【หอปิดฟ้ากำลังดำเนินการสร้าง...】

【เวลาที่เหลือ: 200 ชั่วโมง】

เมื่อเห็นตัวเลขนับถอยหลัง เหวินผิงก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก ก่อนจะหันกลับมาเพื่อรับระเบิดการบำเพ็ญเพียรครั้งใหญ่ของสำนัก

“รับรางวัล!”

ทันทีที่สิ้นคำ เหวินผิงก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในร่างกาย การเปลี่ยนแปลงแม้จะละเอียดอ่อน แต่ด้วยพลังจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งของเขาก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน ความเข้าใจเพิ่มขึ้นถึงยี่สิบเท่า พรสวรรค์เพิ่มขึ้นยี่สิบเท่า และความเร็วในการบำเพ็ญเพียรก็เพิ่มขึ้นถึงหกสิบเท่า ซึ่งเพียงแค่บำเพ็ญเพียรวันเดียวก็เทียบเท่าคนธรรมดาที่ใช้เวลาสองถึงสามเดือนแล้ว

ลองคิดดูว่าหากเป็นเวลาหนึ่งปี...

ไม่อยากจะจินตนาการเลย!

ถ้าไปบำเพ็ญเพียรในมิติที่ห้าอีก...

【โปรดทราบ: การได้รับบัฟระเบิดการบำเพ็ญเพียรครั้งใหญ่ของสำนัก จะไม่สามารถซ้อนทับกับผลกระทบของบัฟอื่นได้】

“ข้ายังไม่ได้ใช้ช่องโหว่เลย เจ้าก็แก้ไขแล้วหรือ?” เหวินผิงบ่น “ควรรอให้ข้าลองก่อน แล้วค่อยแก้ไขสิ”

ระบบตอบกลับทันที [กฎเป็นเช่นนี้]

“ข้ายังไม่ค่อยเชื่อเลย” เหวินผิงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย เพราะหากสามารถใช้ในมิติที่ห้าได้จริง เขาคงสามารถยกระดับเคล็ดวิชาลมปราณประจำสายระดับสวรรค์ไปสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน และในหนึ่งปี เขาอาจสามารถยกระดับเคล็ดวิชาลมปราณประจำสายถึงสิบวิชา ไม่มีใครในระดับเดียวกันจะสามารถต่อกรได้ เพราะแม้แต่บางคนอาจใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่สามารถยกระดับเคล็ดวิชาลมปราณประจำสายระดับสวรรค์ให้ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงได้

ในเวลาเดียวกัน มังกรไม้ที่กำลังบำเพ็ญเพียรอยู่ในป่าใกล้สำนักรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายอย่างฉับพลัน เขารู้สึกว่าประสิทธิภาพในการดูดซับพลังงานไม้เพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า

“เกิดอะไรขึ้น?”

มังกรไม้รีบลุกขึ้น ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยไม่มีที่มาทำให้เขารู้สึกประหลาดใจและวิตก หลังจากครู่หนึ่ง เขารีบมุ่งหน้าไปยังบริเวณใกล้ห้องโถงหลัก และเห็นว่ามีศิษย์สำนักจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ เขากำลังจะลงไปสอบถามหลงเยว่และจื่อหรัน แต่แล้วก็ได้ยินเสียงศิษย์คนหนึ่งกล่าวด้วยความตื่นเต้น

“ข้าเคยติดอยู่ในขั้นสูงของเคล็ดวิชาลมปราณประจำสายระดับปฐพีมานานหลายปี ตั้งใจว่าจะสะสมแต้มคะแนนภารกิจของสำนักให้เพียงพอเพื่อไปบำเพ็ญเพียรในมิติที่ห้า แต่เมื่อครู่ระหว่างที่บำเพ็ญเพียร ข้ากลับสามารถทะลุผ่านขั้นนั้นได้ในทันที!”

ศิษย์ใหม่ที่อยู่ในขั้นเจิ้นเยว่กล่าวด้วยความตื่นเต้น

ศิษย์คนอื่น ๆ ก็เริ่มเล่าประสบการณ์ของตนเอง มีประมาณสามในสิบที่สามารถยกระดับเคล็ดวิชา กายาวิญญาณ และฐานขอบเขตได้

มังกรไม้ยืนนิ่งด้วยความงุนงง

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?”

ในขณะเดียวกัน หยุนเลี่ยวและคนอื่น ๆ ที่กำลังต่อสู้อยู่นอกสำนักก็พบกับการเปลี่ยนแปลงคล้ายกัน หลายคนสามารถทะลุผ่านเคล็ดวิชาลมปราณประจำสายหรือฐานขอบเขตได้ในทันที

จอมมารดาบเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบชัดเจนที่สุด หลังจากเขาสังหารผู้บำเพ็ญเพียรขั้นกลางของระดับสวรรค์ไร้ขอบเขตได้ ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า จนเขาเองยังตกใจ

เขายังคิดไม่ตกกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนกระทั่งได้รับการติดต่อจากเฉินเซี่ย หลังจากพูดคุยกัน ทั้งสองพบว่าทุกคนในสำนักล้วนประสบกับสิ่งเดียวกัน จึงรีบสอบถามคนอื่น ๆ ในสำนัก และได้คำตอบที่ไม่คาดคิด

“นี่คือการยกระดับของสำนักทั้งหมด เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านเจ้าสำนักได้ใช้วิธีการบางอย่าง?” จอมมารดาบคิดถึงเจ้าสำนักเป็นคนแรก เพราะก่อนหน้านี้ สำนักอมตะเพิ่งปรับปรุงอาณาจักรเกิ้นและสร้างค่ายกลขนาดใหญ่เพื่อปกป้องอาณาจักรเกิ้น

หากไม่ใช่สำนักอมตะแล้วจะเป็นใครได้?

เมื่อคิดได้ดังนี้ จอมมารดาบก็รู้สึกยินดีอย่างมาก

ในเวลาเดียวกัน เหวินผิงอยู่ที่ศาลาทิงอี่ กำลังดูดซับพลังงานไม้ พร้อมกับสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนในกายาวิญญาณของตน

ทันใดนั้น หินส่งเสียงเกิดการเคลื่อนไหว

“ท่านเจ้าสำนัก ท่านกำลังยุ่งอยู่หรือไม่?”

“เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ?” เหวินผิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงแฝงความสงสัยเล็กน้อยผ่านหินส่งเสียงที่เชื่อมกับหลงเค่อ

หลงเค่อรีบเหลือบมองเฉินเซี่ยที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยความกระตือรือร้น ก่อนถามในสิ่งที่ทั้งสองคนต่างสงสัย

“ท่านเจ้าสำนัก การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของพวกเรานั้น เกิดจากสิ่งที่ท่านทำใช่หรือไม่?”

“เจ้าพูดถึงอะไร ข้าไม่เข้าใจ” เหวินผิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงแฝงความงุนงงและสงสัย “ทำไม งานที่หอจิ้นจือไม่ยุ่งหรือ? ถ้าไม่ยุ่ง ก็กลับมาช่วยหลงเยว่จัดการงานของสำนักแทน พวกเจ้าสลับตำแหน่งกันเถิด”

“ยุ่ง! ยุ่งมาก! ท่านเจ้าสำนัก ลาก่อน!” หลงเค่อตัดการติดต่อกับหินส่งเสียงอย่างรวดเร็ว

เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น หลงเค่อกับเฉินเซี่ยต่างมองหน้ากันด้วยความงุนงง แม้ว่าเจ้าสำนักจะไม่ยอมรับ แต่ทั้งสองคนก็มั่นใจว่านี่เป็นผลจากท่านเจ้าสำนักแน่นอน! ถ้าไม่ใช่เจ้าสำนัก แล้วจะเป็นใครที่ใจดีขนาดนี้?

ต่อมา เหวินผิงได้รับข้อความส่งเสียงจากอีกหลายคน ล้วนแต่ถามถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตนเองเช่นกัน

เหวินผิงตอบกลับไปเพียงว่า “ข้าไม่เข้าใจ” หรือ “ข้าไม่รู้” ด้วยเหตุผลที่เขาไม่อยากเปิดเผยความจริง เพราะเกรงว่าจะสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็น

การเพิ่มพลังขึ้นหลายสิบเท่านั้นเป็นสิ่งล่อตาล่อใจอย่างมาก แม้แต่ผู้บรรลุฐานขอบเขตหยวนหยางก็คงอดใจไม่ได้

คนส่วนใหญ่ไม่กล้ารบกวนเหวินผิงโดยตรง จึงหันไปสอบถามกันเอง แต่เมื่อได้คำตอบที่เหมือนกัน กลับยิ่งมั่นใจว่าต้องมาจากเจ้าสำนักแน่นอน ถึงกระนั้น เมื่อเจ้าสำนักไม่ยอมรับ ทุกคนก็รู้ดีพอที่จะไม่ถามหรือเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก

ในขณะเดียวกัน เหวินผิงหลังจากตอบกลับทุกข้อความเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินทางเข้าสู่หุบเขาฟาหยวน ซึ่งเป็นเขตต้องห้ามสุดท้าย เพื่อเตรียมบำเพ็ญเพียรเคล็ดกระบี่เจ็ดบัวเขียวในกระบวนท่าที่ห้า

หากสำเร็จ พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกขั้นอย่างมหาศาล เมื่อถึงเวลาที่หอปิดฟ้าสร้างเสร็จ เขาจะสามารถสร้างอาคารผลิตพลังหยวนหยางได้ และฐานขอบเขตหยวนหยางก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม